|
ร
ะนอง เป็นจังหวัดแรกของภาคใต้ที่ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลอันดามัน หรือมหาสมุทรอินเดีย
อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ เป็นระยะทางประมาณ 568 กิโลเมตร ระนองเป็นจังหวัดเล็กๆ
ที่มีชื่อเสียง มีพื้นที่เพียง 3,298 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 2,141,250
ไร่ มีคอคอดกระ หรือกิ่วกระ ซึ่งเป็นส่วนที่แคบที่สุดของแหลมมลายู สภาพภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขาและป่าไม้
จังหวัดระนองมีรูปร่างเรียวยาวและแคบ โดยมีส่วนที่ยาวที่สุด ยาวประมาณ
169 กิโลเมตร และส่วนที่กว้างที่สุด 44 กิโลเมตร สำหรับส่วนที่แคบที่สุดของจังหวัดอยู่ในท้องที่อำเภอกระบุรี
มีความกว้างเพียง 9 กิโลเมตร เท่านั้น
ทิศเหนือ
ติดต่อกับอำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร และ ประเทศสหภาพพม่า
ทิศใต้
ติดต่อกับอำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุ ราษฎร์ธานี และอำเภอคุระบุรี
จังหวัดพังงา
ทิศตะวันออก
ติดต่อกับอำเภอเมือง อำเภอสวี และ อำเภอพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร
ทิศตะวันตก
ติดต่อกับอำเภอเกาะสอง เขตทวาย ประเทศสหภาพพม่าและมหาสมุทรอินเดีย
ระยะทางจากอำเภอเมืองไปอำเภอต่างๆ
อำเภอเมือง-อำเภอกระบุรี
57 กิโลเมตร
อำเภอเมือง-อำเภอละอุ่น
43 กิโลเมตร
อำเภอเมือง-อำเภอกะเปอร์
52 กิโลเมตร
อำเภอเมือง-กิ่งอำเภอสุขสำราญ
85 กิโลเมตร
การคมนาคมภายในจังหวัด
(เวลาเดินรถ 06.00-18.00 น.)
รถสองแถว วิ่งบริการภายในเขตเทศบาลเมือง มี 3 สายคือ สายที่ 1
วิ่งระหว่างตลาดท่าเมือง-ตลาดสด-สภอ.เมืองระนองและธนาคารกรุงไทย สายที่
2 วิ่งรอบเมือง-บ่อน้ำร้อน-โรงแรมจันทร์สมธารา-ถนนเรืองราษฎร์ สายที่
3 วิ่งระหว่างโรงกลวง-ตลาดพม่า-ตลาดสด-ตลาดแขก-ถนนรัตนโกสินทร์ และสะพานปลา
(ท่าเทียบเรือไปวิกตอเรียพอยท์)
รถมอเตอร์ไซด์รับจ้าง วิ่งบริการภายในเขตเทศบาลเมือง ค่าโดยสารตั้งแต่
5-10 บาท การคมนาคมจากจังหวัดระนองไปยังจังหวัดใกล้เคียง
รถประจำทาง สถานีจอดรถ หน้าที่ทำการไปรษณีย์โทรเลขระนอง ถนนเรืองราษฎร์
ระนอง-ชุมพร 122 กิโลเมตร ระนอง-ตะกั่วป่า 174 กิโลเมตร ระนอง-หลังสวน-สุราษฎร์ธานี
223 กิโลเมตร ระนอง-ภูเก็ต ระยะทาง 300 กิโลเมตร ติดต่อสอบถามรายละเอียดเวลาและค่าโดยสารได้ที่
บ.ข.ส. จังหวัดระนอง ถนนเพชรเกษม โทร. (077) 811548
รถแท็กซี่ สถานที่จอดรถอยู่ใกล้ที่ทำการไปรษณีย์โทรเลขจังหวัดระนอง
ถนนเรืองราษฎร์ ระนอง-สุราษฎร์ธานี 223 กิโลเมตร ระนอง-ชุมพร 122 กิโลเมตร
ระนอง-นครศรีธรรมราช 356 กิโลเมตร ระนอง-ตรัง 455 กิโลเมตร ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่
คิวรถแท็กซี่ จังหวัดระนอง โทร. (077) 811219
 |
รถยนต์ส่วนบุคคล
จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางสายธนบุรี-ปากท่อ
ระยะทาง 90 กิโลเมตร แยกซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม)
ผ่านเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ถึงสี่แยกปฐมพร (ชุมพร) เลี้ยวขวาไปจนถึงจังหวัดระนอง
รวมระยะทาง 568 กิโลเมตร |
 |
รถโดยสารประจำทาง
- รถโดยสารธรรมดา
บริษัท ขนส่ง จำกัด ถนนบรมราชชนนี มีรถธรรมดาและปรับอากาศออกจากสถานีทุกวันๆ
ละ 7 เที่ยว ตั้งแต่เวลา 08.40-21.45 น. รายละเอียดติดต่อ โทร. 434-5557-8
สถานีขนส่งจังหวัดระนอง โทร. (077) 811548 บริษัท โชคอนันต์ทัวร์
(โทร. 435-7429, 435-5027-9 สำนักงานระนอง โทร. 077-811337) และบริษัท
มิตรทัวร์ (โทร. 281-6939, 281-6949 สำนักงานระนอง โทร. 077-811150)
|
 |
รถไฟ
จากกรุงเทพฯ ไม่มีรถไฟไประนองโดยตรง
นักท่องเที่ยวที่ประสงค์จะเดินทางโดยรถไฟ สามารถลงรถไฟที่สถานีที่ใกล้ที่สุดคือ
สถานีรถไฟชุมพร แล้วต่อรถโดยสารหรือแท็กซี่จากชุมพรไประนอง ระยะทาง
117 กิโลเมตร รายละเอียดติดต่อ หน่วยบริการเดินทาง การรถไฟแห่งประเทศไทย
โทร. 223-7010, 223-7020 |
 |
เครื่องบิน
จากท่าอากาศยานกรุงเทพฯ
ไปลงที่สุราษฎร์ธานี แล้วต่อรถโดยสารหรือแท็กซี่จากสุราษฎร์ธานีไประนอง
ระยะทาง 219 กิโลเมตร สอบถามรายละเอียดและสำรองที่นั่งได้ที่ บริษัท
การบินไทย ถนนหลานหลวง โทร. 280-0060, 628-2000 หรือ การบินไทย สุราษฎร์ธานี
โทร. (077) 272610, 273710, 273355 หรือบริษัทตัวแทนที่ระนอง โทร.
(077) 811511 บริษัท บางกอกแอร์เวยส์ บริการเที่ยวบินเส้นทางกรุงเทพฯ-ระนอง
สัปดาห์ละ 5 วัน ในวันจันทร์ พุธ ศุกร์ เสาร์และอาทิตย์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ
1 ชั่วโมง 20 นาที และมีเที่ยวบินระนอง-ภูเก็ต บริการทุกวันจันทร์
ศุกร์และอาทิตย์ สำรองที่นั่งและสอบถามรายละเอียดที่ โทร. 229-3456-63
สำนักงานระนอง โทร. (077) 835096-7 |
สถานที่น่าสนใจ
ในเขตอำเภอเมือง
สุสานเจ้าเมืองระนอง ตั้งอยู่ด้านขวามือของทางหลวงหมายเลข
4004 ริมถนนเรืองราษฎร์ตัดกับถนนราษฎรพาณิชย์ และถนนกิจผดุง (ระนอง-ปากน้ำ)
ห่างจากเขตเทศบาลเมืองประมาณ 1 กิโลเมตร สุสานเจ้าเมืองระนองเป็นที่ฝังศพของพระยาดำรงสุจริตมหิศรภักดี
(คอซู้เจียง) เจ้าเมืองระนองคนแรก บริเวณสุสานซึ่งเป็นที่ดินที่ได้รับพระราชทานจากรัชกาลที่
5 ตั้งอยู่เชิงเนินเขาขนาดเล็ก หันหน้าไปทางทิศใต้ บริเวณลานกว้างหน้าสุสานปูศิลาขึ้นไปจนถึงสุสาน
ด้านข้างทั้งสองเป็นที่ตั้งตุ๊กตาหินโบราณซึ่งนำมาจาก ประเทศจีนในสมัยที่เจ้าเมืองระนองยังมีชีวิตอยู่
ถัดมาเป็นเสาหินแกรนิต 2 เสา ด้านหน้าสุสานบริเวณ ริมถนนมีป้ายหินแกรนิตจารึกประวัติความเป็นมาและคำสรรเสริญเกียรติคุณของพระยาดำรงสุจริตมหิศรภักดี
(คอซู้เจียง)
บ่อน้ำร้อน-สวนรุกขชาติรักษะวาริน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดระนอง
อยู่ห่างจากศาลากลางจังหวัดไปทางทิศตะวันออก ประมาณ 2 กิโลเมตร บ่อน้ำร้อนหรือพุน้ำร้อนอยู่คู่วัฒนธรรมการท่องเที่ยวของเมืองระนองมานับร้อยปี
ใน พ.ศ. 2433 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) เสด็จประพาสเมืองระนอง
ได้พระราชทานชื่อถนนที่จะไปยังบ่อน้ำร้อนว่า ถนนชลระอุ บ่อน้ำร้อนที่เกิดขึ้นตามธรรมชาตินี้มีอยู่
3 บ่อคือ บ่อพ่อ บ่อแม่ และบ่อลูก ทั้ง 3 บ่อ มีอุณหภูมิสูงประมาณ 65
องศาเซลเซียส สามารถใช้ดื่มและอาบได้ มีประโยชน์ต่อร่างกายในแง่การบำบัดรักษาสุขภาพ
นอกจากนี้ยังถือเป็นน้ำบริสุทธิ์ จึงเป็นแหล่งหนึ่งที่นำไปผ่านพิธีพุทธาภิเษก
ทำน้ำศักดิ์สิทธิ์เพื่อใช้เป็นน้ำพระพุทธมนต์ในคราวพระราชพิธีฉลองพระชนมพรรษาครบ
5 รอบ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในบริเวณรอบๆ บ่อน้ำร้อนได้จัดเป็นสวนสาธารณะ
รักษะวาริน มีศาลาที่พักและห้องอาบน้ำร้อนไว้บริการด้วย วัดตโปทารามที่อยู่ใกล้เคียงก็มีห้องอาบน้ำเช่นเดียวกัน
วัดหาดส้มแป้น ตั้งอยู่หมู่ 3 ตำบลหาดส้มแป้น ห่างจากเขตเทศบาลเมืองระนองไปตามทางหลวงหมายเลข
4005 (ถนนชลระอุ) เป็นระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร มีหาดทรายริมคลองเกิดจากการทำเหมืองแร่
แล้วปล่อยทรายและหินบนภูเขาลงมาตามลำธาร สิ่งที่น่าสนใจในบริเวณวัดคือ
ปลาพลวง ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก เนื่องจากปลาพลวงนี้เป็นปลาที่รับประทานแล้วเมา
จึงไม่มีผู้ใดจับปลาชนิดนี้ ทำให้สามารถขยายพันธุ์เป็นจำนวนมากนับเป็นพันๆ
ตัว และในบริเวณวัดจะมีศาลาริมน้ำสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะให้อาหารปลาเหล่านี้
และวัดหาดส้มแป้นยังเป็นที่ตั้งของศาลาที่ประดิษฐานรูปเหมือน หลวงพ่อคล้าย
ซึ่งเป็นพระภิกษุที่ประชาชนในภาคใต้ให้ความเคารพนับถือมาก ท่านได้มรณะภาพที่วัดหาดส้มแป้นนี้
จากวัดหาดส้มแป้นมีถนนลูกรัง เลี้ยวซ้ายไปยังขุมเหมืองเก่า ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นแอ่งน้ำสีเขียว
ชาวบ้านเรียกว่า สระมรกต จากสระมรกตหากแล่นรถตรงไปเรื่อยๆ จะเห็นเหมืองดินขาวเรียงรายอยู่เป็นระยะ
วัดสุวรรณคีรี (วัดหน้าเมือง) อยู่ในเขตเทศบาลเมืองระนอง
ไปตามถนนหมายเลข 4004 (สายระนอง-ปากน้ำ) เป็นวัดเก่าแก่อายุร้อยกว่าปี
ในวัดมีเจดีย์ศิลปะพม่าสูง 10 เมตร มีอายุกว่า 70 ปี สร้างโดยชาวพม่าในพระอุโบสถมีพระพุทธรูปยืนทรงเครื่องลวดลายงดงามมาก
และมีหอระฆังลายแมว
น้ำตกปุญญบาล เดิมชื่อน้ำตกเส็ดตะกวด ตั้งอยู่หมู่ที่ 1 ตำบลบางนอน
ริมทางหลวงหมายเลข 4 (ระนอง-กระบุรี) ห่างจากเมืองระนองประมาณ 15 กิโลเมตร
บริเวณ กม.ที่ 588-589 น้ำตกปุญญบาลเป็นน้ำตกขนาดเล็ก มีหลายชั้น ชั้นที่มองเห็นจากริมถนนเป็นชั้นสุดท้าย
มีความสูงประมาณ 15 เมตร บริเวณใกล้น้ำตกมีศาลาที่พัก ร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม
และร้านจำหน่ายของที่ระลึก
น้ำตกโตนเพชร ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 4 ตำบลราชกรูด ห่างจากเขตเทศบาลเมืองระนองประมาณ
29 กิโลเมตร (ระนอง-พังงา) ตรง กม.ที่ 641 เลี้ยวซ้ายไปตามถนนลูกรังที่มีป้ายบอกทางเข้าค่ายลูกเสือระนองอีกราว
2 กิโลเมตร จากนั้นเดินเท้าขึ้นเขาสูงชันอีกประมาณ 1 กิโลเมตร ก็จะถึงบริเวณน้ำตกโตนเพชร
ซึ่งเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มีทั้งหมด 11 ชั้น แต่ละชั้นสายน้ำมีลักษณะลดหลั่นลงมาผ่านแนวชะง่อนหิน
มีรูปทรงที่สวยงามมาก น้ำไหลตลอดทั้งปี โดยต้นน้ำเกิดจากเทือกเขาพ่อตาโชงโดง
ซึ่งเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดระนอง ส่วนสภาพป่าข้างเคียงเป็นป่าดิบชื้น
อนึ่งเพื่อความสะดวกสำหรับการเข้าชมน้ำตกโตนเพชร ควรติดต่อผู้ใหญ่บ้านหมู่
4 บ้านห้วยน้ำใส ตำบลราชกรูด ให้เป็นผู้นำทางสู่น้ำตก
น้ำตกหงาว ตั้งอยู่ที่ตำบลหงาว ห่างจากภูเขาหญ้าราว 1 กิโลเมตร
มีทางแยกซ้ายมือเข้าไปอีกประมาณ 3 กิโลเมตร แต่เดิมบริเวณน้ำตกหงาวเป็นเขตวนอุทยาน
ปัจจุบันจัดรวมอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติคลองเพรา ซึ่งที่ทำการอุทยานฯ
ก็ตั้งอยู่ที่บริเวณน้ำตกหงาวนี้เอง น้ำตกหงาวเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ไหลลงมาจากสันเขาที่สูงชัน
จึงสามารถมองเห็นได้ในระยะไกล สัตว์ที่น่าสนใจที่พบได้ในบริเวณน้ำตกหงาวได้แก่
ปูเจ้าฟ้า ซึ่งเป็นปูน้ำจืดชนิดใหม่ของโลก โดยศาสตราจารย์ไพบูลย์ นัยเนตร
ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ดำเนินการตรวจสอบร่วมกับผู้เชี่ยวชาญระดับโลก
พบว่าปูชนิดนี้ไม่เคยปรากฏในอนุกรมวิธานของสัตว์จำพวก กั้ง กุ้ง และปู
มาก่อน ทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจึงขอพระราชทานพระราชานุญาตอัญเชิญพระนามาภิไธยของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา
สยามบรมราชกุมารีมาเป็นส่วนหนึ่งในชื่อวิทยาศาสตร์ของปูที่พบใหม่ว่าปูเจ้าฟ้า
(Phricotelphusa Sirindhorn Naiyanetr) ลักษณะเด่นของปูเจ้าฟ้า คือ ลำตัวและก้ามเป็นสีขาว
ขาเดินทั้งสี่คู่ เบ้าตาทั้ง 2 ข้าง และบริเวณปากเป็นสีม่วงดำ อาศัยอยู่ตามใต้ซอกหินหรือใต้ใบไม้บริเวณ
2 ข้างทางลำธารเล็กๆ ที่ไหลจากน้ำตก โดยเฉพาะในฤดูฝน
ศูนย์วิจัยป่าชายเลนหงาว อยู่ห่างจากตัวเมืองระนองประมาณ
15 กม. ป่าชายเลนหงาวเป็นแหล่งเกิดและเติบโตของสัตว์ทะเลนานาชนิด ก่อนที่จะแข็งแรงและอาศัยหากินในทะเล
ที่ศูนย์วิจัยป่าชายเลนหงาวได้จัดเจ้าหน้าที่ไว้นำชมธรรมชาติ ทั้งพรรณไม้ป่าและสัตว์ป่า
การทัศนศึกษาในเขตป่าชายเลนนี้ จะต้องจดหมายถึงหัวหน้าศูนย์วิจัยป่าชายเลนหงาว
หมู่ที่ 4 บ้านล่าง ตำบลหงาว อำเภอเมือง จังหวัดระนอง 85000 โดยจดหมายล่วงหน้าอย่างน้อย
3 อาทิตย์ เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้เตรียมนำทางและบรรยายให้ความรู้
ภูเขาหญ้าหรือเขาหัวล้าน หรือเขาผี อยู่ในเขต ต.หงาว จากเขตเทศบาลเมืองไปตามทางหลวงหมายเลข
4 (ระนอง-พังงา) ประมาณ 11-12 กิโลเมตร เขาหัวล้านหรือเขาผีนี้ เป็นภูเขาที่ไม่มีไม้ใหญ่ขึ้น
พืชพรรณที่ปรากฏส่วนใหญ่ในฤดูฝนคือ หญ้าสีเขียวซึ่งขึ้นปกคลุมแนวเขาที่ทอดตัวจากทิศเหนือสู่ทิศใต้
บางครั้งจึงเรียกกันว่า ภูเขาหญ้า ในช่วงฤดูร้อนหญ้าจะตาย ภูเขาจึงแลดูเป็นสีน้ำตาล
ที่ราบเชิงเขามีทางเดินเท้าสำหรับนักท่องเที่ยวขึ้นสู่บนสันเขาเพื่อชมทิวทัศน์โดยรอบ
หาดชาญดำริ อยู่ห่างจากเขตเทศบาลเมืองระนองไปตามทางหลวงหมายเลข
4004 (ระนอง-ปากน้ำ) เป็นระยะทางประมาณ 9 กิโลเมตร หรือห่างจากสุสานเจ้าเมืองระนอง
8 กิโลเมตร ก่อนถึงหาดชาญดำริราว 200 เมตร จะเป็นเนินเขาสูง สามารถชมทิวทัศน์ของชุมชนปากน้ำ
ระนอง และเกาะสองหรือวิคตอเรียพอยท์ของฝั่งพม่า ตลอดจนเกาะแก่งอื่นๆ
ที่ตั้งอยู่บริเวณปากน้ำกระบุรีและยังเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวสามารถชมพระอาทิตย์ตกได้อย่างดี
ปัจจุบันหาดชาญดำริเป็นที่ตั้งของ จันทร์สมธารารีสอร์ท โดยมีท่าเทียบเรือสำหรับเรือท่องเที่ยวซึ่งบริการนำเที่ยวไปยังเกาะแก่งต่างๆ
ของระนองในทะเลอันดามันด้วย
วิคตอเรียพอยท์ หรือเกาะสอง เป็นดินแดนในฝั่งสหภาพพม่า ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับประเทศไทย
โดยมีแม่น้ำกระบุรีกั้นขวางตรงตัวจังหวัดระนองพอดี นักท่องเที่ยวที่ต้องการไปชมหรือซื้อสินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึก
เช่น พลอย เครื่องหวาย เครื่องเขินพม่า เครื่องประดับทำจากเปลือกหอยและงาช้าง
ฯลฯ สามารถเช่าเรือหางยาวจากท่าสะพานปลาในอัตราลำละ 200-300 บาท ใช้เวลาข้ามฟากประมาณ
15 นาที อนุญาตให้ข้ามไปเที่ยวได้เฉพาะคนไทยเท่านั้น แต่ต้องทำบัตรผ่านแดนก่อน
โดยติดต่อด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดระนอง ถนนสะพานปลา โทร. (077) 821216
หรือจะเดินทางไปกับทัวร์ของโรงแรมจันทร์สมธาราก็ได้
เกาะพยาม ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 1 ตำบลเกาะพยาม อำเภอเมือง
ห่างจากปากน้ำระนองประมาณ 33 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางจากท่าเรือ 1-2
ชั่วโมง เกาะพยามเป็นแหล่งปลูกมะม่วงหิมพานต์ หรือกาหยู ที่มีชื่อเสียงมากของจังหวัด
มีชายหาดขาวสะอาดทอดตัวเป็นแนวยาวไปตามตัวเกาะหลายแห่ง นอกจากนี้ยังมีหมู่บ้านชาวเลตั้งอยู่หลายสิบหลังคาเรือน
การเดินทางจากปากน้ำระนอง ท่าเรือสะพานปลา สามารถเช่าเหมาเรือในอัตราประมาณ
1,000 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง หรือติดต่อเหมาเรือเร็วของเกาะพยามรีสอร์ท
อัตราค่าเช่าเรือ (ไป-กลับ) ลำเล็ก 2,000 บาท ลำใหญ่ 4,000 บาท ติดต่อล่วงหน้าได้ที่
โทร. (077) 812297, (01) 323-0436 หรือติดต่อบริการนำเที่ยวเป็นหมู่คณะของโรงแรมจันทร์สมธารา
สำนักงานกรุงเทพฯ โทร. 448-6096 ระนอง โทร. (077) 821511 นอกจากนี้ ในบริเวณใกล้เคียงกับเกาะพยามยังมีเกาะอีกหลายแห่ง
ซึ่งเป็นแหล่งตกปลา เช่น เกาะสินไห เกาะช้าง ฯลฯ นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อเช่าเหมาเรือจากปากน้ำระนอง
ท่าเรือสะพานปลาได้เช่นเดียวกัน
สถานที่น่าสนใจ ในเขตอำเภอกระบุรี
ศิลาสลักพระปรมาภิไธย เป็นสถานที่สำคัญด่านแรกของจังหวัดระนอง
ตามเส้นทางจากกรุงเทพฯ ตั้งอยู่ในเขตตำบลปากจั่น (ตรงข้ามโรงเรียนบ้าน
จปร.) ประมาณกิโลเมตรที่ 525 ซึ่งเป็นเขตแดนระหว่างจังหวัดระนอง และจังหวัดชุมพร
ห่างจากตัวเมืองระนอง 86 กิโลเมตร อนุสาวรีย์แห่งนี้เป็นที่ตั้งของ หินสลักพระปรมาภิไธย
จปร. ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่ได้ทรงจารึกไว้
ครั้งที่พระองค์ทรงเสด็จประพาส โดยขบวนช้างและม้าจากจังหวัดชุมพร มาประทับแรมคืนที่พลับพลาดอนวังทู้หมู่ที่
1 ตำบลปากจั่น เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2433 และหินสลักพระปรมาภิไธยย่อ
จปร. และ สก. ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพล อดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ
รวมทั้งพระนามาภิไธยย่อ สธ. ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ซึ่งได้ทรงจารึกไว้ครั้งที่เสด็จประพาสจากชุมพรโดยรถยนต์มาทรงเยี่ยมประชาชน
เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2502
คอคอดกระ หรือ กิ่วกระ อยู่ในเขตบ้านทับหลี ตำบลละมุ
ประมาณกิโลเมตรที่ 545 ของทางหลวงหมายเลข 4 ห่างจากเขตเทศบาลเมือง 66
กิโลเมตร บริเวณนี้เป็นส่วนที่แคบที่สุดของแหลมมลายู โดยมีระยะจากฝั่งทะเลทางตะวันตกจรดตะวันออก
กว้างเพียง 44 กิโลเมตร มีแผ่นป้ายคอนกรีตขนาดใหญ่จำลองแผนที่แสดงจุดที่ตั้งของคอคอดกระ
ซึ่งเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมถ่ายรูปเป็นที่ระลึกมากแห่งหนึ่งของจังหวัดระนอง
และใกล้ๆ แผ่นป้ายคอนกรีตดังกล่าว ยังสามารถชมทิวทัศน์ของแม่น้ำกระบุรี
ซึ่งแบ่งพรมแดนไทย-พม่า ได้อย่างชัดเจน
ถ้ำพระขยางค์ เดิมชื่อถ้ำขาหยั่ง อยู่ในเทือกเขาเขตตำบลลำเลียง
ห่างจากที่ว่าการอำเภอกระบุรีไปทางใต้ 18 กิโลเมตร โดยมีทางแยกซ้ายจากถนนเพชรเกษม
(ระนอง-ชุมพร) ที่ กม. 563-564 เข้าไป 1 กิโลเมตร ถ้ำพระขยางค์เป็นถ้ำขนาดเล็ก
ซึ่งมีตำนานเก่าแก่ที่เกี่ยวกับการสร้างเมืองกระบุรี จากปากถ้ำเข้าไปประมาณ
40 เมตร มีบันไดขึ้นสู่ด้านบน สามารถทะลุออกภายนอกซึ่งเป็นบริเวณที่เชื่อกันว่า
มีการนำเอาสมุนไพรที่หายากมาปลูกไว้ การเที่ยวชมควรเตรียมเทียนไข หรือไฟฉายพกติดตัวไปด้วย
บรรยากาศภายในถ้ำค่อนข้างอับชื้น ส่วนหนึ่งอาจมีผลมาจากมูลของค้างคาว
ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก อนึ่ง ในช่วงเทศกาลตรุษจีนของทุกปีจะมีการจัดเทศกาลงานปิดทองพระบริเวณถ้ำพระขยางค์
เป็นเวลา 3-7 วัน เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์
และเข้าชมความสวยงามของถ้ำตลอดจนสมุนไพรต่างๆ ที่อยู่บนเขา
น้ำตกชุมแสง หรือน้ำตกสายรุ้ง อยู่ที่บ้านปากจั่น ตำบลปากจั่น
ห่างจากเขตเทศบาลเมืองระนองและตัวอำเภอกระบุรีไปตามทางหลวงหมายเลข 4
(ทางไปจังหวัดชุมพร) เป็นระยะทาง 80 และ 16 กิโลเมตร ตามลำดับ บริเวณหลักกิโลเมตรที่
529-530 (ด้านตรงข้ามกับทางเข้าสู่นิคมสร้างตนเองบ้านปากจั่น) จะมีทางแยกซ้ายมือเป็นถนนลูกรังเข้าไปอีก
3 กิโลเมตร ก็จะถึงบริเวณน้ำตกชุมแสง ซึ่งมีน้ำไหลเฉพาะในฤดูฝน น้ำจะไหลกระแทกกับโขดหินแล้วกระจายออกเป็นสายดูคล้ายสายรุ้ง
จึงทำให้ชาวบ้านมักจะเรียกน้ำตกแห่งนี้ว่า น้ำตกสายรุ้ง
น้ำตกบกกราย ตั้งอยู่หมู่ที่ 8 ตำบลน้ำจืด ห่างจากตัวจังหวัดไปตามทางหลวงหมายเลข
4 (ระนอง-ชุมพร) ประมาณ 54 กิโลเมตร ที่หลักกิโลเมตรที่ 556-557 จะมีป้ายชี้ทางไปน้ำตกบกกราย
ตามถนนลูกรังปนหินคลุกด้านซ้ายมืออีกราว 13 กิโลเมตร สภาพถนนไม่สามารถใช้ได้ตลอดทั้งปีโดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน
รถที่ใช้ควรมีสภาพดี และจากบริเวณสุดทางของถนนต้องเดินเท้าต่อ ผ่านพื้นที่ทำไร่และป่าชื้นอีกเป็นระยะทางประมาณ
200 เมตร ก็จะถึงบริเวณน้ำตก น้ำตกบกกรายเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มีน้ำไหลตลอดปี
น้ำตกสุวรรณศิริ อยู่ห่างจากตัวอำเภอไปทางตอนใต้ประมาณ 24
กิโลเมตร มีทางแยกเข้าทางด้านซ้ายประมาณ 3 กิโลเมตร และต้องเดินเท้าอีกประมาณ
6 กิโลเมตร
สถานที่น่าสนใจ ในเขตอำเภอกะเปอร์
น้ำตกเขาพระนารายณ์ ตั้งอยู่เขตตำบลกะเปอร์ ห่างจากที่ว่าการอำเภอกะเปอร์ประมาณ
3 กิโลเมตร มีทางแยกผ่านป่ากะเปอร์เข้าไปอีก 2 กิโลเมตร เป็นน้ำตกที่สวยงาม
บริเวณโดยรอบเป็นป่าไม้บรรยากาศร่มรื่น
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองนาคา จากอำเภอกะเปอร์ ไปตามทางหลวงหมายเลข
4 (ทางไปพังงา) ประมาณ 25 กิโลเมตร ถึงหลักกิโลเมตรที่ 685-686 เลี้ยวซ้ายตามป้ายอีก
200 เมตร ถึงที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองนาคา พื้นที่ป่าอุดมสมบูรณ์และมีน้ำตกสวยงามคือ
น้ำตกพันเมตร เนื่องจากมิได้เปิดให้ท่องเที่ยวอิสระเหมือนอุทยานแห่งชาติ
การทัศนศึกษาจะต้องทำจดหมายขออนุญาตเข้าพักแรมในพื้นที่ ถึงผู้อำนวยการกองอนุรักษ์สัตว์ป่า
กรมป่าไม้ บางเขน กรุงเทพฯ 10900 และได้รับจดหมายตอบอนุมัติ จากนั้นนำจดหมายแสดงต่อเจ้าหน้าที่ประจำที่ป่าคลองนาคา
ใช้เวลาเตรียมการอย่างน้อย 1 เดือน
อุทยานแห่งชาติแหลมสน ได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ
เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2526 มีเนื้อที่ทั้งหมด 315 ตารางกิโลเมตร หรือ
196,875 ไร่ ประกอบด้วยพื้นที่ริมทะเลตั้งแต่ ต.ราชกรูด อ.เมือง ลงไปทางใต้
ผ่าน ต.ม่วงกลาง ต.กะเปอร์ ต.บางหัน ต. นาคา อ.กะเปอร์ จังหวัดระนอง
เลยไปถึง ต.คุระ อ.คุระบุรี จังหวัดพังงา และครอบคลุมถึงเกาะต่างๆ ในทะเลอันดามันคือ
เกาะค้างคาว หมู่เกาะกำ สำหรับที่ทำการอุทยานตั้งอยู่ที่หาดบางเบน หมู่ที่
4 ต.ม่วงกลาง ห่างจากจังหวัดระนองไปตามทางหลวงหมายเลข 4 (ระนอง-พังงา)
เป็นระยะทางประมาณ 45 กิโลเมตร (หรือห่างจาก อ.กะเปอร์ เพียง 6 กิโลเมตรเท่านั้น)
บริเวณกิโลเมตรที่ 657 จะมีทางแยกขวามือเป็นทางลูกรังอีกยาว 10 กิโลเมตร
อุทยานแห่งชาติแหลมสนมีสภาพภูมิอากาศแบ่งเป็นสองฤดูกาลคือ ฤดูฝนซึ่งมีฝนตกชุกระหว่างเดือนพฤษภาคม-พฤศจิกายน
และฤดูร้อนระหว่างเดือนธันวาคม-เมษายน
สถานที่น่าสนใจภายในอุทยานฯ ได้แก่
หาดบางเบน เป็นหาดทรายยาวและกว้างใหญ่
มีทรายละเอียด ร่มรื่นด้วยป่าสนธรรมชาติ บริเวณชายหาดจะมองเห็นเกาะแก่งในทะเลได้อย่างสวยงามชายหาดบางเบนนี้เป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยานฯ
หาดแหลมสน อยู่ถัดจากหาดบางเบนประมาณ
4 กิโลเมตร มีหาดทรายขาวสะอาด และเป็นที่อยู่ของนกนานาชนิด เหมาะสำหรับไปตั้งแค้มป์ดูนก
หาดประพาส หรือหาดหินทุ่ง
ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 ตำบลกำพวน จากเขตเทศบาลเมืองระนองไปตามทางหลวงหมายเลข
4 (ระนอง-พังงา) ประมาณ 90 กิโลเมตร หรือจากอำเภอกะเปอร์ราว 30 กิโลเมตร
ถึงหลักกิโลเมตรที่ 702 แล้วแยกขวาไปตามถนนลูกรังอีกราว 3 กิโลเมตร ก็จะถึงบริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานริมหาดประพาส
หาดประพาสเป็นชายหาดใหญ่ มีทิวสนร่มรื่นเช่นเดียวกับหาดบางเบน
เกาะค้างคาว
เป็นเกาะที่มีหาดทรายขาวละเอียด ด้านเหนือของเกาะเป็นหาดหินงาม มีหินทรงกลมมนเรียงรายอยู่เต็มหาดไปหมด
จากหาดบางเบนนั่งเรือไปเกาะค้างคาวใช้เวลาประมาณ 40 นาที
เกาะกำตก หรือเกาะอ่าวเขาควาย
มีอ่าวที่โค้งเกือบเป็นรูปกลม เป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ
ซึ่งเป็นหน่วยย่อยที่ดูแลและอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว จากเกาะค้างคาวนั่งเรือไปเกาะกำตกใช้เวลาประมาณ
20 นาที
เกาะกำใหญ่ เป็นเกาะที่สวยงาม
มีหาดทรายขาวบริสุทธิ์อยู่เกือบรอบเกาะ อยู่ห่างจากหาดบางเบน โดยนั่งเรือออกไปประมาณ
1 ชั่วโมง 30 นาที
เกาะกำนุ้ย อยู่ใกล้กับเกาะกำใหญ่
มีหาดทรายเพียงด้านเดียว ประกอบด้วยเกาะบริวารอีกหลายเกาะ อุทยานแห่งชาติแหลมสน
มีบ้านพักและร้านอาหารบริการสำหรับนักท่องเที่ยว รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ โทร. 579-7223, 579-5734 หรือที่ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแหลมสน
หาดบางเบน ตำบลม่วงกลาง อำเภอกะเปอร์ จังหวัดระนอง 851290
สถานที่น่าสนใจ ในเขตอำเภอละอุ่น
เขาฝาชี ตั้งอยู่ในเขตตำบลบางแก้ว บนทางหลวงหมายเลข
4 ประมาณกิโลเมตรที่ 580 มีทางแยกขวามือ เป็นทางราดยางเข้าไปประมาณ 3
กิโลเมตร มีป้ายปากทางเขียนว่า ศูนย์โทรคมนาคมเขาฝาชี เป็นภูเขาที่มีลักษณะคล้ายกับฝาชี
สูงจากระดับน้ำทะเล 259 เมตร บนยอดเขาเป็นสถานที่ชมทิวทัศน์สวยงาม พระอาทิตย์อัสดง
สามารถมองเห็นแม่น้ำกระบุรีไหลบรรจบกับแม่น้ำละอุ่น เกาะแก่งต่างๆ เป็นภาพที่สวยงามสดใสมีชีวิตชีวา
ในบริเวณใกล้เคียงยังเป็นที่ตั้งฐานทัพญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่
2 โดยมีหลักฐานสำคัญคือ ซากเรือรบ อุโมงค์ใต้ดิน แนวทางรถไฟ
ซากเรือรบญี่ปุ่น เลยทางเข้าเขาฝาชีมาอีกประมาณ 2 กิโลเมตร
ด้านซ้ายมือบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำ ละอุ่นในยามน้ำลดจะเห็นซากเรือรบเก่าสมัยสงครามโลกครั้งที่
2 ซึ่งญี่ปุ่นได้ใช้พื้นที่ในตำบลปากจั่น อำเภอกระบุรี เป็นท่าเรือเพื่อส่งกำลังบำรุงไปยังประเทศพม่าในระหว่างสงคราม
เกาะนพเกตุ อยู่ห่างจากฝั่งปากคลองละอุ่น โดยนั่งเรือประมาณ
20 นาที เป็นแหล่งหอยนางรมและหอย แมลงภู่ยักษ์ ขนาด 6-8 นิ้ว ปัจจุบันเป็นเกาะสัมปทาน
ถ้าต้องการเข้าชมต้องติดต่อกับคุณยงยุทธ นพเกตุ (077) 821560
ถ้ำหนัดได หรือถ้ำค้างคาว ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่เขาหนัดได
หมู่ที่ 5 บ้านปากแพรก ตำบลละอุ่นเหนือ อยู่ริมถนนสายปากแพรก-ในวง ประมาณกิโลเมตรที่
20 ระยะทางจากตัวอำเภอ 20 กิโลเมตร สถานที่ตั้งของถ้ำอยู่ห่างจากถนนดังกล่าว
100 เมตร สภาพภายในถ้ำมีความสวยงามและสลับซับซ้อนแบ่งได้เป็น 2 ชั้น
ชั้นบนเป็นถ้ำหินย้อย และสามารถเดินชมภายในถ้ำไปสู่อีกด้านหนึ่งของถ้ำได้
ชั้นล่างเป็นถ้ำน้ำลอด ซึ่งสามารถเดินชมภายในถ้ำได้
งานปิดทองพระถ้ำพระขยางค์ จัดขึ้นในช่วงเทศกาลตรุษจีน (ประมาณเดือนกุมภาพันธ์)
ของทุกปี ประมาณ 3-7 วัน โดยใช้บริเวณถ้ำพระขยางค์เป็นสถานที่จัดงาน
เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และเข้าชมความสวยงามของถ้ำ
ตลอดจนพันธุ์ไม้และว่านต่างๆ ที่หายาก ซึ่งเชื่อกันว่ามีผู้นำมาปลูกไว้บนเขาโดยช่วงกลางคืนจะมีมหรสพต่างๆ
งานกาหยู กำหนดจัดประมาณเดือนมีนาคมของทุกปี เป็นช่วงที่มีกาหยู
หรือมะม่วงหิมพานต์กำลังสุกเต็มต้น และเป็นฤดูที่ชาวบ้านกำลังเก็บเมล็ดกาหยู
ในภาคราชการจัดให้มีการออกร้านจัดนิทรรศการ เพื่อประกวดพืชผล ทางการเกษตร
เช่น ประกวดเมล็ดกาหยู กล้วยน้ำว้า กล้วยเล็บมือนาง และการจำหน่ายสินค้าทางการเกษตร
ตลอดจนจัดประกวดผลผลิตทางการเกษตร และอาหารทะเลแห้ง เช่น กะปิ ปลาเค็ม
ฯลฯ รวมทั้งมีงานมหรสพ และการแสดงต่างๆ
งานเสด็จพระแข่งเรือ (อำเภอกระบุรี) เริ่มจัดครั้งแรกในปี
พ.ศ. 2450 แต่ได้หยุดจัดเป็นการชั่วคราวในช่วงปี พ.ศ. 2501-2522 และเริ่มจัดขึ้นใหม่อีกครั้งในปี
2523 เรื่อยมาจนกระทั่งถึงปัจจุบัน ระยะเวลาการจัดงาน 3 วัน คือตั้งแต่วันแรม
1 ค่ำ เดือน 11 ถึงวันแรม 3 ค่ำ เดือน 11 กิจกรรมในงานที่สำคัญ คือ การแข่งขันเรือพระน้ำ
โดยจะมีการนำเรือมาตกแต่งให้สวยงาม และอัญเชิญพระพุทธรูปประดิษฐานในเรือ
แล้วแห่ไปตามลำน้ำกระบุรี โดยผ่านบริเวณย่านชุมชน มีการประกวดร้องเพลงเรือ
การแข่งเรือ ซึ่งจะเป็นการจัดร่วมระหว่างชาวไทย และชาวพม่า (ทั้งหมดจัดบริเวณแม่น้ำกระบุรี
ช่วงคอคอดกระ) และบริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอกระบุรีก็จะจัดให้มีงานมหรสพ
ตลอดจนการแสดงต่างๆ ด้วย
งานดอกบัวตองริมทะเลอันดามัน งานนี้จัดขึ้นในช่วงเดือนธันวาคม
ท่านจะได้สัมผัสกับ ทุ่งบัวตองของภาคใต้ที่จังหวัดระนอง ในบริเวณจันทร์สมธารารีสอร์ท
หาดชาญดำริ ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมือง 9 กิโลเมตร ภายในงานจะมีการแข่งขันเรือพายระหว่างไทย-พม่า
และการแสดงต่างๆ มากมาย
มุกและสิ่งประดิษฐ์จากเปลือกหอยทะเล หาซื้อได้ที่ร้านจำหน่ายของที่ระลึกบริเวณใกล้น้ำตกปุญญบาล
โรงแรมจันทร์สมธารา ร้านค้าที่ปากน้ำระนอง ร้านค้าบริเวณตลาดสด
เม็ดมะม่วงหิมพานต์ พันธุ์เม็ดมะม่วงหิมพานต์ที่มีชื่อเสียงคือพันธุ์ที่มาจากเกาะพยาม
สามารถหาซื้อได้ทั่วไปตามร้านค้าในเขตเทศบาลเมืองระนอง โดยเฉพาะที่บริเวณถนนเรืองราษฎร์
และถนนท่าเมือง นอกจากนี้ก็ยังมีสินค้าพื้นเมืองซึ่งสามารถซื้อเป็นของฝากกลับบ้านคือ
อาหารทะเลแห้ง เช่น กะปิ ปลาเค็ม และกุ้งแห้ง ฯลฯ
จันทร์สมธาราทัวร์ โทร.
821511
ธนัตต์วรรณพาเลซ โทร.
822809
มิตรทัวร์ โทร.
811150
วัฒนาระนอง โทร.
811993-5
ศูนย์รวมรถเช่า โทร.
811840
ตัวอย่างรายการนำเที่ยวจังหวัดระนอง
รายการที่ 1 ครึ่งวันเช้าหรือบ่าย
ชมโรงงานกาหยู สะพานปลา นมัสการเจ้าแม่กวนอิม
- ศาลหลักเมือง ชมเมือง
- เดินทางออกจากโรงแรมสู่โรงงานกาหยู(โรงงานแปรรูปเม็ดมะม่วงหิมพานต์)
ชมกรรมวิธีการผลิตสินค้าที่ระลึกประจำจังหวัด เที่ยวชมความคึกคักของย่าน
สะพานปลา แหล่งทำรายได้สู่จังหวัดเป็นอันดับหนึ่งในปัจจุบัน
- นมัสการเจ้าแม่กวนอิมองค์ที่สวยงามของจังหวัด
ที่สมาคมพงไล้จับอิดเชียวเกาะ
- นมัสการศาลหลักเมืองสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองระนอง
- ชมตลาดและย่านการค้าที่ยังคงความสวยงามของตึกแบบโบราณและเลือกซื้อสินค้าพื้นเมือง
รายการที่ 2 ครึ่งวันบ่าย เที่ยวคอคอดกระ
น้ำตกปุญญบาล สุสานเจ้าเมือง หาดชาญดำริ
- ออกจากโรงแรมมุ่งสู่คอคอดกระ
ส่วนที่แคบที่สุดของแหลมมลายู อีกทั้งเป็นจุดเชื่อมต่อของชายแดนไทย-พม่า
- เที่ยวชมน้ำตกปุญญบาลธารน้ำตกสวยงามริมถนนเพชรเกษม
- จากนั้นเดินทางไปคารวะสุสานเจ้าเมืองระนอง
บุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ของระนอง ชมทัศนียภาพงดงาม แวดล้อมด้วยเนินเขาและตุ๊กตาหินโบราณจากประเทศจีน
- มุ่งสู่หาดชาญดำริ จุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดซึ่งสามารถเห็นบริเวณแหลมวิคตอเรียของพม่า
รายการที่ 3 ครึ่งวันเช้าเที่ยววิคตอเรียพอยท์
โดยบริการนำเที่ยวของจันทร์สมธารา
รายการที่ 4 ครึ่งวันเช้าหรือบ่าย
เที่ยวบ่อน้ำร้อน น้ำตก
รายการที่ 5 ครึ่งวันบ่าย เที่ยวอุทยานแห่งชาติแหลมสน
เพลิดเพลินกับทิวสนร่มรื่น และสนุกสนานกับการเล่นน้ำทะเล
ศาลากลางจังหวัด
โทร. 811123
สถานีตำรวจระนอง
โทร. 821681, 811173, 811273
โรงพยาบาลระนอง
โทร. 811574, 812630-3
สถานีขนส่งจังหวัดระนอง
โทร. 811548
ตรวจคนเข้าเมืองระนอง
โทร. 821216
ที่ทำการไปรษณีย์โทรเลขระนอง
โทร. 811185, 812240
ประมงจังหวัด
โทร. 811590
แขวงการทางระนอง
โทร. 811072
สำนักงานจังหวัดระนอง
โทร. (077) 811123
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
สำนักงานภาคใต้ เขต 5 5 ถนนตลาดใหม่ บ้านดอน อ.เมือง
จ.สุราษฎร์ธานี 84000 โทรศัพท์ (077) 281828, 288818-9 โทรสาร
(076) 213582, 282828 (พื้นที่ความรับผิดชอบ : สุราษฎร์ธานี
ชุมพร ระนอง)
|