ความคิดเห็นที่ 1 ขอตามไปเที่ยวด้วยคนค่ะ จากคุณ : luckyfarm6662 เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 13:17:14

ความคิดเห็นที่ 2 ไปด้วยคนค่ะ                 ที่บ้านคลั่งรถไฟมาก  โดยเฉพาะเจ้า Thomas . จากคุณ : กบจูเนียร์ เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 13:21:55

ความคิดเห็นที่ 3 น่าไปครับ  ไปเที่ยวด้วยครับ จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 13:22:51

ความคิดเห็นที่ 4 ก่อนอื่นขอลากแผนที่ตามระเบียบ(ปฏิบัติ)ของกระผม เพื่อความโปร่งใสของการท่องเที่ยวครับ อนึ่งการเดินทางครั้งนี้ เผอิญไปตรงกับช่วงวันหยุดยาวสิ้นปีเก่าพอดี ทั้งรถและผู้คนก็เลยมาก กว่าปกติ  แต่เนื่องจากไฟท์บังคับในเรื่องวันหยุด ที่ดันมีแค่ 2 วัน เพราะวันอาทิตย์กลับมีงาน (งานเข้า) เลยต้องรีบกลับมาให้ทันทำงานในวันที่ 2 มกราคม 2554ให้ได้ ผลคือ ผมต้องเลือกเส้นทางที่หลีกเลี่ยงรถติด เพื่อรักษาสุขภาพรถและคนขับให้กระปรี้กระเปร่าเสมอ ไม่เคร่งเครียดไปกับการเดินทางมากนัก เพราะต้องเจอความลำบากในการเข้าถึงอุโมงค์ทั้ง 3 แห่ง แน่นอน จากแผนที่ข้างล่าง ผมลากเส้นทางจาก บ้านย่านบางบอน ยันอุโมงค์ห้วยแม่ลาน จุดสุดยอด..เอ๊ย..จุดไกลสุดของการเดินทางในทริปนี้กันเลย  ผมใช้เส้นทางสี ชมพู ครับ คือ เริ่มจาก บางบอนตอนบ่ายสอง ตีรถย้อนออกไปทาง จ.สมุทรสาคร หักกลับมา ทาง อ.กระทุ่มแบน ผ่านศาลายา ทะลุ อ.บางเลน ตัดมาออก จ.สุพรรณบุรี โดยผ่าน ตลาดน้ำ ตลาดเก่า ทั้ง 5 แห่งไปโดยไม่รู้ตัว....(ฮา จริงๆ ที่มาผ่าน ตลาดบางหลวง โดยบังเอิญ) ทีแรกก็หักหัวรถเข้า อ.บางปลาม้าตามที่เคยทำมาเมื่อต้นปีที่แล้ว กลับพบ ขบวนรถติดเต็มถนน เลยกลับรถ วิ่งอ้อมด้านหลัง จ.สุพรรณบุรี ไปออกโน้นเลย ที่ อ.เดิมบางนางบวช พลบค่ำพอดี   พบว่าทำสำเร็จครับ รถน้อยมากจริงๆ ผมใช้เส้นทางปกติ ผ่าน จ.ชัยนาท  จ.นครสวรรค์ แล้วไปนอนพัก จุดแรกที่ จ.พิษณุโลก ตามแผนการ ในวันแรกนี้จะต้องสำรวจอุโมงค์เขาพลึง และ ปางตูบขอบให้ได้ก่อนเข้าพักที่ บ้านน้ำแรมการ์เดนท์ เพื่อที่วันถัดไป(เดินทางกลับ) จะได้ไปสำรวจอุโมงค์ห้วยแม่ลาน เสร็จก่อนค่ำ แล้วกลับมาทำงานกรุงเทพฯ ในวันต่อมาได้... จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 13:23:34

ความคิดเห็นที่ 5 สวัสดีปีใหม่ด้วยนะคะ หายไปนานเชียว                วันพ่อไปรถจักรไอน้ำมาหรือเปล่าคะ วิ่งตั้ง 3 วัน                เห็น 953 แว่บ ๆ ไม่ทราบทำขบวนไปไหน ทราบไม๊คะ ... จากคุณ : กบจูเนียร์ เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 13:29:13

ความคิดเห็นที่ 6 ขอติดไปเที่ยวด้วยคนคะ ;) จากคุณ : BROWN STITCH เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 13:31:51

ความคิดเห็นที่ 7 ขอกล่าวสวัสดี เพื่อนๆ ทุกท่าน คุณluckyfarm6662, คุณกบจูเนียร์ และคุณเล็กทาโร่ ที่ได้แวะเข้ามาทักทาย ตั้งแต่ภาพเปิดกระทู้เลย คาดว่า ในตอนนี้จะสามารถโพสเสร็จในวันนี้ให้ได้ เพราะได้จัดเตรียมภาพมาพร้อมแล้ว (กลับเพื่อนๆ จะรอนาน ถ้าหากโพสไปพลาง จัดภาพไปด้วย) เพิ่มเติมเรื่องเส้นทางการเดินทางขึ้นเหนือให้เพื่อนๆ อีกหน่อย  จากกรุงเทพฯ ปกติจะนิยมใช้ถนน 2 เส้นทาง คือ ถ.ตลิ่งชันสุพรรณบุรี ที่ผ่าน จ.สุพรรณบุรี กับ ถ.พหลโยธิน ที่ผ่าน จ.อยุธยา แล้วไปบรรจบกันที่ จ.นครสวรรค์ ตรงนั้นเรียกได้ว่า มหกรรมการรวมรถเลยเชียว  (แต่สำหรับคนที่ไปภาคอีสาน จะเลี้ยวขวาตรง แยกบางปะอิน จึงไม่ควรใช้ถนน พหลโยธินในช่วงก่อนถึง แยกบางปะอิน  แนะนำให้ใช้ ถนนที่แยกจาก จ.ปทุมธานี ที่ตรงไปยัง อ.บางปะหันแทน) แต่ถึงอย่างไร ช่วงหยุดยาว ถนน 2 เส้นทางนี้ก็ติดหนักอยู่ดี จึงมีทางเลือกใหม่ คืออ้อมไปวิ่งด้านใน เช่น ย้อนไป จ.นครปฐม ผ่าน อ.กำแพงแสน  อ.อู่ทอง มา จ.สุพรรณบุรี ก็ได้ถ้าหากกลัวหลง  แต่ถ้ามี GPS นำทางดีๆ ก็สามารถใช้เส้นทางของผมได้ รถน้อยมากๆ เหมือนวันปกติเลย แถมบรรยากาศดีสุดๆ ลืมไปเลยว่า เป็นช่วงหยุดยาว แสดงให้เห็นในภาพข้างล่างนี้ ซึ่งเป็นเส้นทางช่วง อ.บางเลน ที่กำลังจะไป ตลาดบางหลวง  มีอุโมงค์ต้นไม้เล็กๆ ด้วยครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 13:33:57

ความคิดเห็นที่ 8 ตอบ คุณกบจูเนียร์ : ไม่ได้ห่างหายไปจากห้องนี้เลยในช่วงนี้ คือมีรีวิว ตลาดน้ำอโยธยา และ ตลาดน้ำ 4 ภาค ที่ตั้งใจทำให้เสร็จก่อนไปเที่ยวปีใหม่ในทริปนี้ เล่นเอายุ่งไปเหมือนกัน  สำหรับ เที่ยวรถจักรไอน้ำ ผมไม่ได้ไปครับ สวัสดี คุณBROWN STITCH : พบกันอีกแล้ว เชิญติดตามได้เลยครับ กระทู้กำลังเริ่มต้น (ในระยะทางอีกยาวไกล.......ฮา) ในการเดินทางลับแบบนี้ ก็มักมีอุปสรรค ที่ไม่คาดฝันครับ คือมีการสร้างสะพานในช่วงเลย ตลาดบางหลวงไปเล็กน้อย (เลยแยกไป วัดไผ่โรงวัว พอดี)  เป็นสะพาน 2 ช่วงใหญ่ๆ แถมมองไปทางขวา (ภาพที่ 4) มีลักษณะเป็นช่องๆ เหมือนประตูน้ำด้วย คงอีกนานกว่าจะเสร็จ  เลยเป็นการแจ้งให้เพื่อนๆ ทราบ ถ้าจะมาทางนี้ก็ต้องทำใจรอกันหน่อย เพราะรถวิ่งได้ช่องเดียวจริงๆ (ภาพที่ 3) อ้อ..ผ่านสะพานไปแล้ว ตรงนั้นเป็นซุ้มประตูวัดบางสาม พอดีครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 13:41:11

ความคิดเห็นที่ 9 เส้นทางช่วงนี้บอกได้เลยว่า สวยเป็นธรรมชาติมากๆ เรียกว่า เพลินจนลืมไปเลยว่า เรากำลังจะไปที่ไหนกัน....ฮา  ในภาพข้างล่างนี้ คือถนนช่วงที่เลย จ.สุพรรณบุรี มาแล้ว (สายใน)  แถวๆ ตลาดร้อยปี(สามชุก)  ที่ผมเคยวิ่งรถผ่านมาแล้วครั้งหนึ่ง  เวลานั้นประมาณ 6 โมงเย็นเริ่มมืด ตั้งใจให้ออกถนนใหญ่ก่อนค่ำให้ได้ (ถนนเล็ก คดเคี้ยว ใช้ความเร็วไม่ได้) ซึ่งผมทำสำเร็จ มาออก ที่ อ.เดิมบางนางบวช พบว่า รถบนถนนใหญ่ ไม่มากเหมือนช่วงก่อนเข้า จ.สุพรรณบุรี  ทำให้คิดว่า ถ้าหากผมรีบเข้าถนนใหญ่ ให้เร็วกว่านี้ เช่น อ.ศรีประจันต์ ก็จะทำให้ผมทำเวลาได้ดีกว่านี้แน่นอน จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 13:47:20

ความคิดเห็นที่ 10 อ้อ..เกือบลืมบอกไปว่า การใช้ถนนด้านใน ลับๆ แบบนี้ มีปัญหาอย่างหนึ่งที่คุณผู้หญิงไม่ชอบ คือ ไม่มีปั๊มน้ำมันริมถนนเลย ทำให้ต้องทนไม่เข้าห้องน้ำ กว่าจะมาออกถนนใหญ่  ซึ่งต้องบอกกันไว้ล่วงหน้า เดี๋ยวจะมาบ่นกันภายหลัง...ฮึฮึ พอมาถึงถนนใหญ่ ก็ต้องมองหาปั๊มเข้าห้องน้ำกันเป็นธรรมดา ซึ่ง จะพบว่า ถ้าเป็นปั้มใหญ่ มีร้านค้าเยอะ เช่น ปตท.  จะหาที่จอดรถยากมาก จนบางครั้งต้องวนออกเลย   ในทางตรงกันข้าม ปั๊มเล็กๆ กลับโล่งอย่างคาดไม่ถึง แต่ต้องทำใจกับความไม่สะอาดของห้องน้ำ และร้านค้าที่ไม่คุ้นเคย เหมือน ปั๊มที่มีเซเว่นอยู่ในตัว ในภาพข้างล่างนี้ เป็นปั๊มเชลล์ ในช่วง จ.ชัยนาท ข้างๆ ห้องน้ำมีการจัดสวนธรรมชาติ เลยเก็บภาพมาให้ดูกัน แต่ใจตอนนั้น อยากแวะเข้าไป นั่งเล่น ตลอดจนนอน เพราะขับรถมาประมาณ 5 ชั่วโมงแล้ว (ยังไปไม่ถึงไหนเลย) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 13:53:38

ความคิดเห็นที่ 11 เย้ มาทันถ่ายทอดสดด้วย แอบตามอ่านกระทู้ของคุณ MIRAGE มานาน ช่วงหลัง หาไม่เจอ เพราะเปลี่ยน LOG IN นี่เอง แถมยังแอบเอาแผนที่ไปใช้ด้วยค่ะ ขอบคุณมากๆ นะคะ ชอบการ REVIEW ของคุณมากๆค่ะ จากคุณ : เด็กอุดมเดช (เด็กอุดมเดช) เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 13:56:07

ความคิดเห็นที่ 12 ตอนนี้เกือบจะถึง จ.นครสวรรค์แล้ว ก็ต้องมีอันเข้าห้องน้ำกันอีกครั้ง  กลับพบภาพอันน่าตะลึง ข้างหน้าคือ ผู้คนมากมาย รถก็เยอะ  ทำให้ คุณผู้หญิงที่มาด้วย อดเข้าใช้บริการ ต้องรอปั๊มหน้าอีก จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 13:56:08

ความคิดเห็นที่ 13 สวัสดีครับ คุณเด็กอุดมเดช (เด็กอุดมเดช): ยินดีที่ชอบครับ พอดีมีปัญหาเรื่อง Login กันหน่อย เลยต้องเปลี่ยนครับ แต่ถึงอย่างไรก็ใช้ชื่อภาษาไทยอันเดิมนะครับ Search หาใน Smart Search ของห้อง BP นี้ได้เลยครับ ที่หน้าห้องน้ำของปั๊มนี้ ได้มีแผ่นป้ายขนาดยักษ์ ประชาสัมพันธ์ พร้อมเสียงบอกให้ใช้เส้นทางเลี่ยงเมือง นครสวรรค์ เพราะรถมากจริงๆ  ผมเลยต้องปฏิบัติตาม คือเลี้ยวซ้ายเข้าทางเลี่ยงเมือง ทำทีว่าจะไป จ.กำแพงเพชร แล้วหักกลับเข้าเมือง อีกที ตามแผนที่ ในคห.4  จนถึงทางขึ้นเหนือไปยัง จ.พิษณุโลก (ขากลับ ผมขับรถตรงดิ่งมาข้ามสะพานเดชาติวงค์เลย เพราะรถโล่งมาก เนื่องจากกลับคืนวันที่ 1 มกราคม) รู้สึกสนุกครึกครื้นดีเหมือนกัน ที่มีผู้คนมากมาย เสียงประชาสัมพันธ์ และอากาศเย็นๆ แบบนั้น จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 14:02:57

ความคิดเห็นที่ 14 และแล้วก็มาถึง จ.พิษณุโลกในเวลา ห้าทุ่ม พอดี (ทีแรกยัง สองใจ คิดว่าจะไปนอน ที่จ.อุตรดิตถ์เลย เผื่อจะได้มีเวลาเหลือไป เดินชม แก่งหลวง และ สะพานห้วยแม่ต้า สะพานปรมินทร์ที่ อ.พิชัย อีก แต่อีกใจหนึ่งก็ให้คิดถึง สถานีรถไฟพิษณุโลก ที่ไม่ได้มาเห็นนานเกือบ 30 ปีแล้ว ตั้งแต่ เรียน ปี 2 ที่ มช.โน้น ก็เลยตัดสินใจนอนที่นี่แหละ เพราะอย่างน้อย ตอนเช้าจะได้ไหวพระพุทธชินราชกันก่อนออกเดินทาง เพื่อความเป็นสิริมงคล ครับ) ผมขอลากแผนที่ รอบๆ เมืองพิษณุโลกให้ดูก่อน เพราะมีถนนวงแหวนล้อมรอบแบบสมบูรณ์แล้ว อาจทำให้งง ได้  คือผมมาจากถนนด้านใต้ของเมือง(ตามลูกศรสีชมพู) เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนวงแหวนเลี่ยงเมือง แล้วไปหักซ้าย ผ่านหน้าสนามบิน ตรงมายังสถานีรถไฟเลย ว้า...ผมทำแผนที่ผิดอีกแล้ว  ตำแหน่งห้างบิ๊กซี กับ โลตัส นั้น ที่จริงแล้วไม่ได้อยู่บนถนนวงแหวนเส้นบนครับ แต่อยู่บนถนนเส้นกลางที่มาจาก วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ (พระพุทธชินราช) ที่ตรงไปยัง สามแยกวังทอง ครับ (พอดีแก้ไขในรูปไม่ได้ เลยขอแจ้งให้ทราบครับ) แก้ไขเมื่อ 07 ม.ค. 54 14:25:59 แก้ไขเมื่อ 07 ม.ค. 54 14:21:14 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 14:19:32

ความคิดเห็นที่ 15 มาติดตามชมด้วยคนครับ ไปครบ 3 อุโมงค์เลยนะครับเนี่ย รวมกันขุนตานเมื่อคราวก่อนคุณมิรราชก็ไปครบ 4 แห่งแล้วครับ จากคุณ : digimontamer เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 14:27:13

ความคิดเห็นที่ 16 ตอนนี้ ผมต้องมาหยุดรถตรงลานหลังสถานีรถไฟ ขอเพื่อเก็บภาพ ต้นคริสต์มาสยักษ์กลางวงเวียน ที่เต็มไปด้วยแสงสีอันน่าประทับใจ  หันไปขวามือคือ สถานีรถไฟยามค่ำคืนที่อยู่ใกล้กัน (ที่ผมพยายามถ่ายภาพให้ชัดแล้วไม่ยอมชัดแม้จะใช้ขาตั้งกล้องก็ตาม งง...จริงๆ) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 14:27:36

ความคิดเห็นที่ 17 สวัสดีครับ คุณdigimontamer : แฟนประจำรถไฟ ใช่ครับ ตอนนี้ผมก็เหลือ อุโมงค์รถไฟแห่งเดียวที่ยังไม่ได้ไป คือ อุโมงค์เขาช่อง ที่ จ.นครศรีธรรมราชครับ  ดูจากแผนที่แล้วคิดว่า เข้าถึงง่ายกว่าอุโมงค์ใดๆ ที่เคยไป แต่ปัญหาคือ ไม่ง่ายที่จะไป จ.นครศรีธรรมราช เพราะอยู่ไกล ผมไม่มีธุระไปแถวนั้นด้วย  คุณdigimontamer เคยไปหรือยังครับ อุโมงค์ 3 แห่งนี้ สะดวกต่อการนั่งรถไฟไปเริ่มเดินมากๆ เลย (แต่สำหรับรถยนต์นั้นค่อนข้างลำบากไม่น้อย) มาต่อกันครับ ในคืนแรกนั้น ผมไม่ได้จองที่พักใดๆ ไว้เพราะไม่แน่ใจว่าจะนอนที่ไหน กลัวว่าจะไปถึง ตี 3 ตี 4 แล้วเข้าพักลำบาก เกรงใจคนอื่นที่เขาพักอยู่ก่อนแล้ว จะมาตกใจตอนผมขนของขึ้นห้องพักครับ  เวลา 5 ทุ่มเข้าพัก นับว่าเหมาะสมดี ถ้าพักเร็วกว่านี้ เสียดายระยะทางในวันพรุ่งนี้ที่จะต้องตื่นเช้ามากๆ (ซึ่งปกติจะตื่นสายๆ กันเป็นประจำ) ก็วนรถหากันหน่อย เอาตรงใกล้ๆ สถานีรถไฟพิษณุโลกนี่แหละ จะได้เดินมาชมสถานีได้โดยไม่ต้องหาที่จอดรถให้วุ่นวาย  ได้โรงแรมสมัยนิยม ที่อยู่ประจันหน้ากับ โรงแรมเอเชีย  ผมเลือกสมัยนิยม เพราะดูทันสมัยกว่า เข้าไปถามราคาค่าห้องพัก 350 บาท ห้องคู่ น้ำอุ่น แอร์ ตู้เย็นพร้อม ตกลงครับ แถมยังมีห้อง 3 เตียงด้วย 450 บาท ตกลงเพราะผมไปกัน 6 คน + เด็ก 1 คน จะได้ไม่ต้องมีใครนอนพื้นกัน จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 14:36:12

ความคิดเห็นที่ 18 ขนของขึ้นห้องแล้วก็รีบมาหาอะไรทานกัน เดี๋ยวดึกไปกว่านี้จะหายาก ได้ตรงหน้า ร้านโลตัสเอ็กเพรส ใกล้ๆ นี่แหละ ประหยัดดีด้วยครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 14:38:01

ความคิดเห็นที่ 19 ตามรถไฟไป ^^ จากคุณ : akasia เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 15:13:19

ความคิดเห็นที่ 20 สงสังจะตามไม่ทัน หายไปใหนแล้วอ้า T___T จากคุณ : akasia เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 15:32:56

ความคิดเห็นที่ 21 สวัสดีครับ คุณakasia : ผมไม่ได้ไปไหน ไปทานมื้อเที่ยงมาครับ  เชิญติดตามต่อได้เลยนะครับ ไหนๆ ก็มาพักโรงแรมที่จัดว่าอยู่ในระดับปานกลาง ราคาถูกแล้ว ก็ขอนำภาพมาให้ชมกัน  ชอบใจบันไดโค้งในภาพขวา ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 16:02:44

ความคิดเห็นที่ 22 หันกลับหลังไป ก็คือล๊อบบี้  ถ่ายตอนมืดๆ ค่ำๆ นี่แหละ แสงสีดูสวยดีกว่าตอนกลางวัน จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 16:05:00

ความคิดเห็นที่ 23 ภาพซ้าย : มองขึ้นไปจุดพักบันได ชั้นสอง ภาพขวา : ขึ้นไปจุดพักบันไดชั้นสองแล้วมองลงมา ระหว่างถ่ายภาพ ป้าเจ้าของโรงแรมมาเห็น รู้สึกงงๆ นี่ก็เที่ยงคืนไปแล้ว ผมมายืนเล็งกล้อง ถ่ายอะไรกัน ผมเลยบอกว่า ชอบบันได สวยดี ป้าก็บอกว่า โรงแรมนี้เปิดมานานแล้ว... ขอแก้ไข พอดีโพสรูปผิดครับ แก้ไขเมื่อ 07 ม.ค. 54 16:09:45 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 16:08:16

ความคิดเห็นที่ 24 แฮะๆ มาแระ ^^ จากคุณ : akasia เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 16:10:27

ความคิดเห็นที่ 25 พอดีผมรวมรูปไว้แล้ว ต้องเป็นภาพข้างล่างนี้ครับ  จะมีภาพในมุมอื่นๆ อีก  ถ่ายไปก็รู้สึกเสียวๆ  กับการอยู่คนเดียวท่ามกลางแสงสลัวๆ เงียบๆ แบบนี้เหมือนกัน จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 16:12:07

ความคิดเห็นที่ 26 ลองเข้ามาดูสภาพภายในห้องพักบ้างนะครับ ตอบได้ว่าไม่เลวเลย  แม้พรมจะมีคราบสกปรกบ้าง เหมาะกับคนรักรถไฟ ที่ไม่ต้องนอนห่างจากสถานีรถไฟ ในราคาประหยัด จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 16:16:56

ความคิดเห็นที่ 27 ภาพบน : มองในห้องแล้ว ก็มองออกหน้าต่างนอกห้องบ้าง อย่าลืมว่าเป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว ถนนหนทางเลยเงียบเหงากับแบบนี้  แต่ก็ให้ความรู้สึกอีกแบบ ของคนกลางคืนครับ ภาพล่าง : สิ่งที่ไม่ลืม ก็คือ ห้องน้ำครับ ที่บางคนใช้เป็นข้อตัดสินใจในการเข้าพัก  สำหรับที่นี่ น้ำอุ่นจะใช้ระบบก๊อกแยก ซึ่งไม่ค่อยร้อนนัก แต่ก็เรียบๆ ไม่วูบวาบเหมือนเครื่องทำน้ำอุ่น ที่เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวเย็น แต่หัวก๊อก อ่างอาบน้ำนั้น ต้องคอยกด ให้นำบนฝักบัวข้างบนลงมา บ่อยๆ  มิฉะนั้น น้ำจะออกมาข้างล่างตรงอ่างเท่านั้น จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 16:23:02

ความคิดเห็นที่ 28 ตอนนี้ถึงเวลาเช้าแล้ว ผมขอซนขึ้นไปบนดาดฟ้าโรงแรม เพื่อมองเมืองพิษณุโลกในมุมสูงดูบ้าง  (พอดีหลานชายผม ได้ขึ้นไปรอบหนึ่งแล้ว ตอนเช้าๆ) ภาพซ้าย : เมื่อขึ้นทางบันไดหนีไฟมา ก็จะเห็นดาดฟ้าเป็นแบบนี้ ภาพขวา : ออกไปยืน แล้วหันกลับมาดู จะเห็น ถังเก็บน้ำอุ่น ที่ใช้ในโรงแรม จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 16:30:21

ความคิดเห็นที่ 29 ภาพซ้าย : ออกไปยืนตรงริมระเบียงดาดฟ้า มองหาสถานีรถไฟ (มองไม่ค่อยเห็น) เห็นต้นคริสต์มาส กลางวงเวียนอยู่ ไม่ไกล กับ หลังคาสถานีด้วย เดี๋ยวจะออกไปหาอะไรทานกันที่นั่น แถมด้วยการเก็บภาพรอบๆ สถานี ด้วย ภาพขวา : หันไปดูฝั่งโรงแรมฝั่งตรงข้าม ซึ่งก็คือ โรงแรมเอเชีย มุมนี้ดูเสียวๆ อย่างไรชอบกล จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 16:37:39

ความคิดเห็นที่ 30 เดินลงมา ก็พบกับรถเมล์ หลายคัน จอดเรียงรายกันตรงป้ายรถเมล์ใกล้กับโรงแรม ซึ่งสังเกตุ กระเป๋ารถเมล์ ทั้งหญิงชาย จะสวมชุดผ้าไหม มีเสื้อนอกทับ โอ้โฮ...ยังกลับรถ วีไอพี เลย  สงสัยจะเป็นเฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่กระมังครับ (ในรูปไม่มี) รูปซ้าย :จะเห็นสภาพรถในปัจจุบัน และป้ายรถเมล์ครับ อีกไม่นานคงจะมีการเปลี่ยนรถคันใหม่ เหมือนในกทม. นะครับ (จากป้ายหน้ารถ จะเห็นว่ารถคันนี้วิ่งจากสถานีรถไฟ ซึ่งก็คือตรงนี้ ไปยังสถานที่ต่างๆ ในเส้นทางหมายเลข 7 ครับ) รูปขวา : บังเอิญตรงนี้เป็นตึกกำลังก่อสร้าง เลยดูรกๆ ไปมาก แต่ลักษณะป้ายเป็นไปตามมาตรฐานสากลดีครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 16:44:48

ความคิดเห็นที่ 31 รูปความเห็นที่27 มุมขวาบน ไม่ใช่โรงภาพยนตร์ครับเป็นร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่เค้าไปซื้อตึกของธนาคารเก่ามาทำ ^^ จากคุณ : apotheker เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 16:47:27

ความคิดเห็นที่ 32 ภาพซ้าย : เดินผ่านรถเมล์ แล้วหันกลับไปมองโรงแรมที่พัก เห็นจุดที่ผมไปยืนบนดาดฟ้าเมื่อสักครู่ ด้วย ภาพขวา : สักพัก รถเมล์ก็สลาย...เอ๊ย..แยกย้ายกันเดินทางไปหมด คงเหลือแต่ป้ายรถเมล์ สวยๆ เท่านั้น  ก็นับว่าสะดวกดีเหมือนกัน ตรงจุดนี้ สำหรับคนที่ไม่ได้นำรถส่วนตัวมา จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 16:50:48

ความคิดเห็นที่ 33 สวัสดี คุณapotheker : ต้องขอบคุณมากครับ ที่เข้ามาแก้ไขข้อมูลให้ครับ ถึงว่าซี เคยเป็นตึกธนาคารมาก่อน เลยมีรูปร่างแปลกไปจาก ห้างร้านทั่วๆ ไปมากครับ   แถมยังมีป้ายชื่อ "เน็ตตี้" ตัวโตๆ ราวกับชื่อภาพยนต์ เลย  สงสัยคุณเป็นคนที่นั่น  ยินดีที่เจอกับคนพื้นที่เข้าให้แล้ว ภาพซ้าย : ตอนนี้เป็นช่วงที่ต้องอาหารมารองท้องก่อน เนื่องจากผมไม่ได้มาที่นี่นาน 30 ปีแล้ว จึงไม่ทราบว่า จะหาอาหารได้จากที่ไหน แต่ในใจคิดว่า ที่สถานีรถไฟต้องมี เลยเดินมาเรื่อยๆ ผ่านตลาดสด ที่มีคนพลุกพล่าน (มองไม่เห็นมีร้านอาหาร) ภาพขวา : เดินมาจนถึงถนนเลียบสถานีรถไฟแล้ว ข้างหน้าคือทางเข้าสถานี มีแนวร้านค้าอยู่ข้างๆ แต่ไม่เห็นมีร้านอาหารเลย  สมาชิกที่มาด้วยกันก็เริ่ม กังวลใจว่าจะเดินไปฟรี หาอะไรกินไม่ได้ เลยต้องถามคนแถวนั้น ได้คำตอบว่า ร้านอาหารอยู่ด้านหลังแนวร้านค้าขวามือนี้เอง เพียงแต่หันหน้าเข้าไปที่ชานชาลาสถานี ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 17:00:03

ความคิดเห็นที่ 34 ผมขอแยกตัวมาเก็บภาพสถานีรถไฟก่อน ปล่อยให้สมาชิกเข้าไปหาของกินกันตามอัธยาศัย ภาพขวา : ตรงหลังสถานี มีรถโดยสารสามล้อ ตุ๊กๆหน้ากบ จอดเรียงรายกัน  รถแบบนี้เลิกใช้ในกรุงเทพฯนานแล้ว เลยเก็บภาพมาให้ดูกันหน่อย ภาพซ้าย : ไปยืนตรงกลาง ทางเข้าสถานี แล้วหันมาดูทางวงเวียน จะเห็นท้ายรถจักรไอน้ำที่เขาจัดวางไว้เป็นอนุสาวรีย์ เดี๋ยวเราจะไปดูด้านหน้ากันชัดๆ ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 17:08:17

ความคิดเห็นที่ 35 ภาพซ้าย : ผมเดินออกมายืนตำแหน่งเดียวกับเมื่อคืน (ภาพคห.16)  เพื่อเก็บภาพต้นคริสต์มาสยักษ์ กลางวงเวียน ในตอนกลางวัน ภาพขวา : หันไปทางขวามือ ก็คือ สถานีรถไฟ ที่มี รถจักรไอน้ำเก่า จอดอยู่ตรงหน้าครับ   สถานีรถไฟแห่งนี้ ดูสวยไม่น้อย ด้วยอาคารไม้หน้าจั่วคู่ สองชั้น จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 17:12:51

ความคิดเห็นที่ 36 ชมเมืองสองแควด้วยคนครับ จากคุณ : คนข้างหนุน เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 17:13:15

ความคิดเห็นที่ 37 #27 ไม่ใช่โรงภาพยนต์นะ เห็นช่วงนึงเป็นโชว์รูมมอไซค์ แล้วก็ขายเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่ตอนนี้เป็นไรไม่รู้ระค่ะ ไม่ได้กลับบ้านบ่อยๆ จากคุณ : mercipians เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 17:25:32

ความคิดเห็นที่ 38 สวัสดีครับ คุณคนข้างหนุน : แหม..จะว่าเป็นการชมเมืองทั้งเมืองเลยก็ไม่ถูกครับ ที่นี่ผมแวะแค่ สถานีรถไฟ กับ วัดพระพุทธชินราช เท่านั้นครับ เลยไม่กล้าตั้งชื่อ ว่าชมเมืองพิษณุโลกแต่แรกครับ   ที่นี่ยังมีอะไรน่าดูอีกเยอะ ครับ เข้าไปดู หัวจักรไอน้ำเก่า ที่หน้า(เอ๊ย..หลัง)สถานีรถไฟพิษณุโลกกัน ชัดๆ หน่อย   ดูแล้วไม่เหมือนรถจักรไอน้ำในยุโรปสมัยโบราณที่มีปล่องควันสูงๆ กันชนหน้าใหญ่ๆ อย่างในภาพยนต์ฝรั่ง เช่น Black To theFuture ภาค 3 (บุกเมืองคาวบอย)  อาจเป็นเพราะเป็นรถที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 17:27:43

ความคิดเห็นที่ 39 สวัสดีครับ คุณmercipians : ยินดีที่รู้จักคนพิษณุโลกอีกคนแล้วครับ  พิษณุโลกเป็นเมืองที่หลายคนได้มีโอกาสมาเที่ยว เพราะอย่างน้อยก็เป็นจุดต่อรถไปยังจังหวัดต่างๆ ได้มาก โดยมาทางรถไฟ  และสำหรับผมก็มีอดีตที่นี่ ก็คือ รับน้องรถไฟของลูกช้าง ม.ช. ที่สมัยก่อนจะใช้รถขบวน พิษณุโลก-เชียงใหม่ เหมาตู้ มาจอดรอที่นี่ โดยหลายคนก็เหมือนนัดมาพบกัน ทั้งขาไปและขากลับ  แต่ในปัจจุบันทราบมาว่า ทางการรถไฟงดเดินรถขบวนนี้ไปแล้ว การรับน้องรถไฟเลยไม่สนุก เพราะไม่สามารถเหมาตู้โดยสารได้เช่นเคย น้องใหม่ต้องนั่งปนไปกับผู้โดยสารทั่วไป  ทำให้นึกถึงความหลังครั้งนั้นได้ดีครับ ตอนนี้ได้เวลาเข้าไปชมสถานีกันแล้ว...พูดเหมือนกับว่า เป็นสถานที่เข้าถึงได้ยากเลย....(แต่สำหรับผม ก็ประมาณ 30 ปีแล้ว ถึงได้มาที่นี่อีกครั้ง) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 17:35:12

ความคิดเห็นที่ 40 ภาพซ้าย : เมื่อก้าวเข้ามาในสถานี เป็นต้องประหลาดใจในเคาท์เตอร์จำหน่ายตั๋วหรูอันใหม่ ภาพขวา : สังเกตุว่าจะมีชั้นสองอยู่ข้างบนด้วย ข้างล่างเป็นร้านค้า ข้างบนเป็นห้องพยาบาล  ต้องยอมรับว่า ผมจำที่นี่ไม่ได้แล้วจริงๆ  เพราะรู้สึกเหมือนไม่เคยมาด้วยซ้ำ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 17:38:13

ความคิดเห็นที่ 41 ตรงผนังข้างทางเดิน นั้นมีตารางเวลาเดินรถ อยู่ในบอร์ดทรงแหลม ดูดีมีระดับด้วย แก้ไขเมื่อ 07 ม.ค. 54 17:44:01 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 17:41:44

ความคิดเห็นที่ 42 ตอนนี้ผมเดินทะลุมาที่ชานชาลาสถานีแล้ว หันไปมองทางซ้ายมือ(ด้านทิศเหนือ) จะเห็นแผงเช่าพระเต็มไปหมด บริเวณหน้าร้านค้าที่ส่วนใหญ่จะยังปิดประตูอยู่  (ในความทรงจำผม ยังคิดว่า แนวร้านค้าด้านทิศเหนือนี้ แต่ก่อนเป็นห้องโล่งๆ ขายกาแฟ และอาหาร ปาทองโก๋ตอนเช้า เวลาผมรอรถกลับบ้าน(ลงมาจากขบวน เชียงใหม่-พิษณุโลก ที่มาถึงที่นี่ตอนเช้ามืด) มักจะเดินมาซื้อกินเป็นประจำ  ภาพเหล่านั้นหายไปหมดแล้วในปัจจุบัน จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 17:48:19

ความคิดเห็นที่ 43 มองกลับออกไปทางหลังสถานี จะเห็นส่วนท้ายหัวรถจักรไอน้ำเก่าอยู่ไม่ไกลโน้น ภาพนี้คงชินตากับหลายคนที่นั่งรถไฟผ่านสถานีนี้เป็นประจำครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 17:50:56

ความคิดเห็นที่ 44 ภาพซ้าย : มองไปทางซ้ายหน่อย (ด้านใต้ของอาคารสถานี) จะเห็นแนวร้านค้าเหมือนอีกด้าน แต่จะมีร้านอาหารอยู่ 2 ร้าน เป็นอาหารสั่ง กับ ข้าวแกง ซึ่งผมต้องขอตัวไปทานก่อนละ ภาพกลาง : ถัดมาทางสถานี ก็คือห้องสุขา ที่ปกติต้องเสียค่าบริการบ้าง แต่ถ้าสะอาดก็คุ้มค่า แต่สำหรับผม เดี๋ยวก็กลับไปโรงแรมอีกครั้งเพื่ออาบน้ำก่อนออกเดินทาง เลยไม่ได้ใช้บริการ ภาพขวา : เป็นห้องนายสถานี ที่มีการจัดสวนหินเล็ก ไว้ด้านหน้าครับ  ห้องนายสถานีแห่งนี้ดูดีมีระดับ ใครหลายคนอาจนึกอิจฉา อยากมาเป็นนายสถานีแห่งนี้กันไม่น้อย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 17:56:07

ความคิดเห็นที่ 45 หลังจากทานอาหารแล้ว (ทานเสร็จเร็วกว่าใครๆ ) ผมก็ขอมาเดินเก็บภาพสถานีกันต่อ ภาพซ้าย : หันไปทางเหนือ ตรงชานชาลาใน มีคนมารอรถไฟอยู่ประปราย เหลือบเห็นป้ายอะไรอยู่ตรงโน้น.... ภาพขวา : เข้าไปใกล้แล้วอ่าน   สรุปได้ใจความว่า ไม่ให้ยิงสัตว์ที่เกาะ หรือไต่บนสายไฟสีดำตามริมทางรถไฟ เพราะไม่ใช่สายทองแดง หรือจะเป็นสายออฟติคไฟเบอร์(แก้วนำสัญญาณแสง) นำสัญญาณความเร็วสูง ถ้าหากทีการกระทบกระแทก จะขาดข้างใน ทันที ไม่ทนทานเหมือนสายทองแดงอย่างที่เคยใช้นะครับ แก้ไขเมื่อ 07 ม.ค. 54 18:06:49 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 18:04:43

ความคิดเห็นที่ 46 ผมเดินออกมายังนอกชานชาลา  มองไปทางซ้ายและขวา จะเห็นดังภาพข้างล่างครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 18:09:48

ความคิดเห็นที่ 47 ภาพซ้าย : มองกลับไปยังสถานีอีกครั้ง  จะเห็นชานชาลาในสุด ด้วย ภาพขวา :  จากภาพบนซ้าย ผมมีความสนใจ สวนหย่อมฝั่งตรงข้าม เลยเดินมาเก็บภาพใกล้ๆ หน่อย  ดูเป็นซากชิ้นส่วนใหญ่ๆ ของรถจักรไอน้ำ ที่นำมาประดับให้เป็นส่วนหนึ่งของสวนหย่อมครับ  มีรั้วรอบขอบชิด ดูไม่น่าจะให้เข้าไปนั่งเล่นข้างในรั้วได้ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 18:13:30

ความคิดเห็นที่ 48 ภาพซ้าย : หันไปมองรางทางด้านใต้ (ตอนนี้ผมยืนอยู่เยื้องมาทางเหนือของสถานีแล้ว) จะเห็นแนวชานชาลานอก ทอดยาวไปไกลเลย ภาพขวา : หันมาตรงหน้าหน่อย จะเห็นแนวร้านค้าด้านเหนือ ต่อจากภาพซ้าย ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 18:17:45

ความคิดเห็นที่ 49 ภาพซ้าย : แดดแรงจัง ผมเดินกลับเข้ามาในชานชาลานอก เหลือบเห็นป้ายบอกระยะทาง ที่ปกติมักจะตั้งอยู่ติดกับชานชาลาที่ติดอยู่กับอาคารสถานี  สำหรับที่นี่ มาอยู่บนชานชาลาที่สอง  (ผมกำหนดทิศเพิ่มให้จะได้ไม่งง ว่าผมกำลังมองด้านใดของป้ายอยู่) ภาพขวา : หันไปมองทางสถานีอีกครั้ง ตรงนี้ถือเป็นรางในที่ รถไฟจะเข้าชิดอาคารสถานีมากที่สุด เวลาเดินข้ามไปมา ระวังรถไฟด้วยนะครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 18:22:45

ความคิดเห็นที่ 50 ..ตามอ่านมาตลอด..สนุกครับ...ขอบคุณสำหรับรีวิวดีๆเช่นนี้ครับ จากคุณ : อายะ (prsty) เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 18:26:43

ความคิดเห็นที่ 51 หันกลับไปทางเหนืออีกครั้ง จะเห็นสะพานลอยคนข้าม ทอดยาวข้ามไปลงนอกรั้วสถานีเลย จุดนี้อยู่ในความทรงจำของผม เวลานั่งรออยู่ในตู้รถไฟเหมา ขบวนพิษณุโลก-เชียงใหม่  ยังจำรั้วตระแกรงนี้ได้ดี ตอนนั้นสนิมขึ้นเยอะกว่านี้ด้วยซ้ำ แถมยังมีตู้สินค้า ต.ญ. จอดให้เห็นบ่อยๆ ด้วย  ทำให้ต้องมีการทายกันทุกทีว่า ย่อมาจากอะไร...  เฉลย คือ ตู้ใหญ่ ครับ (แทบไม่น่าเชื่อว่าจะย่อกันง่ายๆแบบนี้) จากรูปจะเห็นห้างเก้าแสนสีขาวๆ อยู่ไม่ไกลนัก จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 18:31:45

ความคิดเห็นที่ 52 สวัสดีครับ คุณอายะ (prsty) : ขอบคุณเช่นกันที่ติดตามครับ นักเขียนที่ไม่มีใครอ่าน นักพูดที่ไม่มีใครฟัง ย่อมรู้สึกหดหู่ในใจไม่น้อยครับ  กำลังใจจากผู้อ่านนับเป็นสิ่งสำคัญครับ ถ้าอย่างไรก็ติชมไปได้ ถ้าอยากให้เป็นแบบใดครับ ภาพขวา : ลองเดินออกมาแนวรั้วสถานี จะได้เห็นห้างเก้าแสนชัดๆ เต็มๆ หน่อย นับเป็นห้างที่มีชื่อเสียงมานาน ที่ตั้งอยู่ใกล้สถานีรถไฟมากที่สุด มารอรถไฟสมัยก่อนต้องแวะมาเดินชมสินค้ากันเป็นประจำครับ ภาพซ้าย : หันกลับไปมองทางสถานีอีก จะเห็นร้านค้าด้านเหนือ ที่หันหน้าออกหลังสถานี  ตอนนี้เปิดเป็นบางร้านเท่านั้น พวกเขาอาจหยุดเที่ยวปีใหม่กันนะครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 18:42:28

ความคิดเห็นที่ 53 ตอนนี้กลับมายืนตรงกลางสถานีอีกครั้ง ตรงนอกชานชาลาโล่งๆเลย เพื่อจะได้เก็บภาพรางและชานชาลาทั้งสองด้าน ในคราวเดียวกันครับ (น่าจะเป็นมุมมองของสัตว์ประเภทนก ที่ตาสองข้างอยู่คนละด้านของหัว ครับ) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 18:45:57

ความคิดเห็นที่ 54 ภาพขวา : เดินไปทางใต้อีกหน่อย จะเห็นป้ายชื่อสถานีชัดๆ  อยู่ไม่ไกลจากอาคารสถานี (แตกต่างจากป้ายด้านเหนือ จะอยู่ไกลลิบเลยชานชาลาออกไปเยอะเลย  แสดงได้จากภาพขวาของ คห.51 ครับ)  ภาพนี้จะเห็นถังเก็บน้ำใบใหญ่ สองใบ อยู่ลิบๆ โน่นครับ ภาพซ้าย : ผมได้ยินเสียงประกาศจากสถานีว่ารถไฟที่จะเข้า เสียเวลา ผมเลยเดินข้ามรางไปยังฝั่งตรงข้ามสถานี แล้วเล็งมายังถังเก็บน้ำแบบที่ไม่มีอะไรมาบัง จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 18:51:31

ความคิดเห็นที่ 55 ลองใช้ความสามารถของกล้องดึงภาพถังเก็บน้ำสำหรับรถจักรไอน้ำมาใกล้ๆ หน่อย ไม่อยากเดินไป ต้องออมแรงและเวลาไว้เดินสำรวจอุโมงค์ด้วยครับ  เลยทำให้ได้ภาพสวยๆ มาให้ดูกันครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 18:54:16

ความคิดเห็นที่ 56 ตอนนี้เดินข้ามรางมาจนถึงฟุตบาทอีกฝั่งหนึ่งแล้วครับ มองเห็นป้าย"วัดเจดีย์ยอดทอง" เลยเกิดไอเดีย เก็บภาพ มุมมองหายาก มาให้ชมกันครับ   คือมองเห็นสถานีเต็มๆ  แต่อาจนึกไม่ออกว่าเป็นสถานีอะไร จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 18:58:18

ความคิดเห็นที่ 57 ตามท่านเจ้ากรมแผนที่ฯสีชมพู มาดูรถไฟด้วยครับ จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 19:07:54

ความคิดเห็นที่ 58 ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว มาทั้งที ต้องไม่พลาดเก็บภาพ ป้ายชื่อสถานีเต็มๆ ชัดๆ กันหน่อย  พอเดินมาถึง ก็ต้องมีอันประหลาดใจว่า มีการทำป้ายชื่อ "เมืองสองแคว" ไว้ข้างหน้าป้ายด้วย  มองจากสถานีจะไม่เห็นเลยนะครับ จะว่าไปแล้ว สองแควนี้เป็นชื่อเก่าของเมืองพิษณุโลก มีที่มาจากเมืองเก่าที่เคยตั้งอยู่ระหว่างสองแม่น้ำ คือ แควใหญ่(แม่น้ำน่าน) แควน้อย(แม่น้ำเหตุ) ตรงตำแหน่งวัด จุฬามณี (ใต้ลงไปจากเมืองปัจจุบัน 5 กิโลเมตร)  แต่ต่อมา  แม่น้ำเหตุได้เปลี่ยนเส้นทางเหือดแห้งไปหมด เลยทำให้เหลือแม่น้ำน่าน เพียงสายเดียว   แต่ถึงอย่างไร เราก็ยังเห็นแม่น้ำสองสายนี้(จากในแผนที่)  ในด้านเหนือของเมือง ที่มาบรรจบกันก่อนถึงเมืองประมาณ 10 กิโลเมตร(ตรงวัดเกาะแก้ว) กลายเป็นแม่น้ำน่านเพียงสายเดียว   โดยที่ แม่น้ำน่านมาทาง อ.พหรมพิราม แม่น้ำแควน้อย มาทาง อ.วัดโบสถ์ ครับ อ้อ..สำหรับตำแหน่งเมืองในปัจจุบันนั้น พระมหาธรรมราชาที่ 1 (ลิไท) ได้โปรดให้ย้ายมาตั้งแต่ปี พ.ศ.1900 แล้ว แต่ชาวบ้านก็ยังเรียกติดปากเหมือนเดิม ว่า "เมืองสองแคว" ครับ แก้ไขเมื่อ 07 ม.ค. 54 19:43:23 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 19:39:41

ความคิดเห็นที่ 59 สวัสดีค่ะคุณมิราชช ขอตามไปลอดอุโมงค์ด้วยคนนะคะ จากคุณ : บัวนลิน เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 19:44:51

ความคิดเห็นที่ 60 สวัสดีครับ คุณtiger's nest : ยินดีด้วยครับ  ยังนึกสงสัยรูปเปิดกระทู้ "วันเดียวเที่ยวภาคกลาง" ตอน18 อยู่นะครับ ว่าอยู่ตรงไหนกัน เพราะตรงลานจอดรถด้านหลังตลาดน้ำอโยธยา จะเห็นเจดีย์เท่านั้น ไม่สังเกตุเห็นองค์พระอยู่ด้วยเลย ตอนนี้ผมขอกลับที่พักก่อนละ ระหว่างทางเดินกลับ สังเกตุเห็นแนวร้านค้าแบบรถเข็นเรียงราย อยู่ชิดติดรางในสุด ที่พุ่งตรงไปยังอาคารสถานีเลย ผมเลยเดินตามรางนี้ไปเรื่อยๆ ไปสะดุดตรงร่มที่วางทับรางอยู่ ช่างเหมือนกับ ตลาดร่มหุบ ที่แม่กลองจริงๆ เพียงแต่รางนี้คงไม่มีรถเข้ามาจอดแล้ว จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 20:07:07

ความคิดเห็นที่ 61 สวัสดีครับ คุณบัวนลิน : ยินดีต้อนรับครับ ระยะทางยังอีกยาวไกล คอยติดตามตอนต่อไปนะครับ งานนี้รายละเอียดเยอะ ถ่ายภาพไปพันกว่าภาพเอง! ภาพซ้าย : หันหลังกลับมาดูรางด้านใต้อีกที จะเห็นว่ารางนี้แยกเขามาตรงปลายชานชาลาเอง ภาพขวา : ผมเดินต่อไปจนสุดรางก็พบว่า รางจมหายไปในดินที่มีหญ้าขึ้นเต็ม ก่อนจะถึงแป้นปะทะ(เพื่อการหยุดรถ)  คาดว่าคงเลิกใช้แล้วจริงๆสำหรับรางนี้   นับว่าเป็นสถานี ที่แปลกเหมือนกันที่ดันมีรางพุ่งเข้ามาหยุดที่ด้านข้างอาคารสถานี ทั้งสองด้าน (สำหรับด้านเหนือ แป้นปะทะ จะอยู่ใต้สะพานลอยคนข้ามพอดี ดังแสดงในรูปภาพซ้าย คห.51 ตรงตัวเลขวันที่ สีเหลือง) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 20:20:26

ความคิดเห็นที่ 62 ตอนนี้กลับออกมาจาก สถานีรถไฟแล้วละ (คงเต็มอิ่มกันไปเลย..อิอิ)  ระหว่างทางเดินกลับขอเก็บภาพ โรงแรมใกล้เคียงกันหน่อย ภาพซ้าย : เป็นโรงแรมเอเชีย ที่อยู่ตรงข้ามกับ โรงแรมสมัยนิยม ที่ผมพัก ภาพขวา : โรงแรมอัมรินนคร อยู่บนถนนที่ตรงออกมาจาก สถานีรถไฟ ดูสวยดีเหมือนรังผึ้งเลยเก็บภาพมาให้ชม (แหม...ชวนนึกถึง ธนาคาร มหานคร แถวๆ สวนมะลิเลย) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 20:34:11

ความคิดเห็นที่ 63 ขอจบกระทู้ตอนนี้ ไว้ที่ภาพนี้ละกันครับ คือ ถนนที่ออกมาจาก โรงแรมสมัยนิยม ที่กำลังตรงไปยัง วงเวียนต้นคริสต์มาส  ซึ่งผมจะขับรถอ้อมเจดีย์ ตรงไปยังวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ เพื่อสักการะพระพุทธชินราช ที่ปัจจุบันได้มีการปฏิสังขรณ์แล้ว  จนมีความงดงามมาก  (เพื่อนผมเคยไปไหว้ตอนที่กำลังทำอยู่ เห็นองค์สีดำสนิท แทบจำไม่ได้เลย) ซึ่งจะผ่านหน้าสถานีรถไฟอีกครั้ง ถ้าหากหันไปมองด้านขวามือ ตรงวงเวียนครับ ไว้ตอนหน้ามาไหว้พระพุทธชินราชด้วยกัน ในรูปแบบละเอียด ชนิดที่ บางคนอาจพูดว่า "มีอย่างนี้ด้วยหรือ ที่นี่"  ซึ่งผมเองก็เพิ่งเห็นเหมือนกัน ทั้งๆ ที่เคยมาหลายครั้งแล้วก็ตาม (ซึ่งแน่นอน ว่าก็ยังคงมีอีกบางจุดที่ผมไม่ได้เห็นเช่นกัน)  คอยติดตามชมในสัปดาห์หน้านะครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 20:44:08

ความคิดเห็นที่ 64 ขอบคุณมากๆครับผม ตามมาเที่ยวต่อด้วยคน หุหุ - อุโมงค์ช่องเขาผมเคยนั่งผ่าน 1 ครั้งเองครับ กับ ข.171 ตอนตีสี่กว่าๆ เป็นอีกหนึ่งแห่งที่ไม่เคยเห็นหน้าตาตอนฟ้าสว่างๆเลย ไว้ว่างๆจะลองนั่งไปชมวิวตอนกลางวันบ้าง - เจ้ารถจักรไอน้ำหน้าสถานีพิษณุโลกคือ Ten Wheeler E-class หน่ะครับ จากคุณ : digimontamer เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 21:12:23

ความคิดเห็นที่ 65            รีวิวได้เยี่ยม ให้รายละเอียดได้ดี ขอบคุณมากๆครับ           จากคุณ : หนุ่ม ณ วันวาน เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 21:50:06

ความคิดเห็นที่ 66 องค์พระอยู่ถัดไปด้านในครับ  ตามรูปด้านล่าง  (มิได้เจตนาเลียนแบบ  หุหุ) จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 21:57:07

ความคิดเห็นที่ 67 เป็น รีวิว ที่เป๊ะมากครับ จากคุณ : แม่พิมพ์ทองคำ เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 22:21:10

ความคิดเห็นที่ 68 คุณ digimontamer : ขอขอบคุณเช่นกันที่เข้ามาเพิ่มเติมข้อมูลให้ ผมพยายามค้นหารุ่นของหัวจักรไอน้ำ หน้าสถานีพิษณุโลก แล้วไม่พบ  ผมไม่เคยได้ยินชื่อรุ่น "Ten Wheeler E-class" มาก่อนเลย  ในหูก้องแต่ชื่อ ฮาร์โนแมกซ์ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า... ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง สงกรานต์นี้ผมจะไปเดินอุโมงค์ช่องเขา ให้ได้  เพราะทีแรกกะจะไปตอนปีใหม่นี้แล้วเชียว พอดี  วันหยุดน้อยเลยเปลี่ยนมาเดินที่แพร่-อุตรดิตถ์แทน สวัสดีครับ คุณหนุ่ม ณ วันวาน และคุณแม่พิมพ์ทองคำ : ขอบคุณที่ชมครับ ตอนนี้แค่โหมโรงครับ  คอยติดตามตอนต่อๆ ไปรับรองงานนี้ มีลุ้นกันสุดๆ โดยเฉพาะอุโมงค์ห้วยแม่ลาน ที่ถือว่าเข้าถึงยากที่สุด  ออกมาแล้ว เดินกันไม่เป็นเลย เหมือนขี่ควายมาทั้งวัน...ฮา คุณtiger's nest : ขอบคุณที่มาตอบข้อมูลที่สอบถามให้ครับ  ผมนึกแล้วเชียวว่าต้องเป็นที่เดียวกัน เพียงแต่นั่งดูรูปในกระทู้ของคุณวนไปวนมาก็ไม่เจอภาพเชื่อมต่อระหว่างองค์พระและเจดีย์...จากรูปคห.66 แทบไม่น่าเชื่อว่าองค์พระเล็กขนาดนั้น  เป็นเพราะมุมกล้องที่คุณวางไว้ ช่างทำให้ องค์พระมีขนาด ใกล้เคียงกับเจดีย์ ตามรูปข้างล่างนี้ เจ๋งจริงๆ ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 54 00:29:12

ความคิดเห็นที่ 69 ขอบคุณสำหรับรีวิวที่ละเอียด และแสดงจุดสนใจไว้ครบครันครับ อ้อ อีกอย่างหนึ่งก็คือไม่มีการยั่วให้หิวตอนดึกดึกอีกด้วย ดีชมัดเลยครับ ฮ่า ฮ่า ขอบคุณอีกครั้งครับ จากคุณ : xebec เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 54 00:51:54

ความคิดเห็นที่ 70 มีความหลังกับสถานีรถไฟพิษณุโลกเยอะเหมือนกันค่ะ   ผ่านไปมาแวะเปลี่ยนขบวนที่นั่นตั้งแต่จำความได้....  เมื่อก่อนนั้นเวลานั่งรถไฟผ่านที่นี่ทีไรจะได้ยินเสียงโฆษณาจากลำโพงของห้างเก้าแสน  ฟังแล้วคึกคักน่าดู... จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 54 11:09:02

ความคิดเห็นที่ 71 ละเอียดดีจังครับ คุณพี่Mirage สำหรับ คคห.61 การออกแบบย่านสถานีรถไฟ ที่เป็นชุมชน มักจะมีรางตัน เข้าหาอาคารสถานีอย่างนี้หลายแห่ง เช่นที่ บ้านโป่ง ราชบุรี ฯลฯ ที่เคยเห็น อาจจะเป็นที่จอดรถไฟที่เป็นต้นทาง หรือรับส่งสินค้า แต่เดี๋ยวนี้ หายไปเกือบหมด นัยว่า อาจจะขยายชานชาลาสถานี หรือ เอาไปสร้างสิ่งก่อสร้างอื่น เช่น ร้านขายของ หรือลานจอดรถครับ จากคุณ : หมอดาริน เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 54 11:41:28

ความคิดเห็นที่ 72 สวัสดีครับ คุณxebec : ขอบคุณเช่นกันครับ ที่ชม  กระทู้ของผม อาจทำให้คนที่ชอบชิม ชอบทานผิดหวังได้...ฮา  เพราะผมไม่ค่อยสนใจเรื่องอาหาร  ชอบแต่วิว สถานที่  และประวัติความเป็นมา ขนาดรีวิวตลาดน้ำของผม ยังมีภาพเกี่ยวกับอาหารน้อยมากๆ จนบางคนอาจแซวผมว่า  แล้วไปตลาด ทำไม ? สวัสดีครับ คุณป้าฟู : ดีใจที่พบกันอีกครับ (แทบไม่น่าเชื่อว่า ป้าหาผมเจอได้....) สำหรับผมนั้น สถานีที่มีความหลังฝังใจ จนจำเอาไปฝันได้มากที่สุดก็คือ สถานีตะพานหิน เพราะในวัยเด็ก รถไฟเป็นการเดินทางเดียวที่ทำได้สะดวกเพื่อไป กรุงเทพฯ อยุธยา นครสวรรค์   และยังมีอีกสถานี ที่จำฝังใจ ก็คือ สถานีอยุธยา ครับ เพราะคุณแม่พื้นเพเป็นคนอยุธยา อ.ผักไห่  เวลาไปเยี่ยมคุณยายที ก็ต้องไปลงรถไฟที่ อยุธยา แล้วต่อรถยนต์ไป อ.ป่าโมก นั่งเรือข้ามฟากไปต่อรถอีกที เพื่อไป อ.ผักไห่ แล้วลงเรือ (โอย..ฟังดู แค่นี้ก็ยุ่งยาก จนไม่น่าจะจดจำได้  แต่ผมเองก็เคยย้อนรอย ไปถ่ายรูปมาแล้ว ในปี  พ.ศ.2539 ซึ่งก็ ท่าเรือข้ามฟาก ป่าโมก และท่าเรือผักไห่ ก็ยกเลิกกันไปแล้ว) อ้อ..เกือบลืม ยังมีสถานี ที่ประทับใจผมอีก และอีกหลายคน คือ หัวลำโพงครับ  ซึ่งประทับใจตั้งแต่ ผ่าน สถานีสามเสน ที่มีกระปุก เอ๊ย..เสาชานชาลารูปร่างเหมือนนาฬิกาทราย (ซึ่งปัจจุบันถูกรื้อหายไปตั้งแต่มี โฮปเวลล์แล้ว) มา เห็นถนนเลียบข้างรถไฟ ซึ่งไม่น่าเชื่อว่า ปัจจุบันนี้ เวลากลับบ้านตอนกลางคืน  ผมกลับเป็นผู้ขี่รถบนถนนเส้นนั้นเอง แล้วหันไปดูรถไฟเสมอๆ (ถ.พระราม สวรรคโลก- ถ.เทอดดำริ) และเสียงรถไฟวิ่งผ่านประแจ ก๊อกๆ แก๊กๆ ซึ่งผู้โดยสารหลายคนช่วงนี้ชอบที่จะออกมายืนรอตรงประตูโบกี้ จวบจนเวลารถไฟค่อยๆแล่นเข้า อาคารสถานีหัวลำโพงโค้งๆ แล้วจอด ซึ่งเป็นภาพที่ประทับใจ ที่ปัจจุบันหาได้ยาก เพราะส่วนใหญ่ รถไฟจะถูกกันให้จอดก่อน(เกือบจะถึง) อาคารหลังคาโค้งเสียเป็นส่วนใหญ่ สวัสดีครับ คุณหมอดาริน : ขอบคุณที่เข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ รางตันที่วิ่งเข้าหาด้านข้างอาคารสถานี ครับ แก้ไขเมื่อ 08 ม.ค. 54 19:22:18 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 54 19:20:28

ความคิดเห็นที่ 73 แจ่มๆๆ จากคุณ : chui_club เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 54 19:29:01

ความคิดเห็นที่ 74 โรงแรมสมัยนิยม เป็นโรงแรมเก่าแก่คู่เมืองพิษณุโลก ก่อนเกิดไฟไหม้ใหญ่ช่วงปี 2500  แต่ที่ผมเคยพักในสมัยเด็กๆ ที่จำได้คือโรงแรมพิษณุโลก ที่อยู่ข้างสถานีรถไฟครับ ต้องค้างคืนก่อนขึ้นรถหวานเย็น ทำขบวนด้วยรถจักรไอน้ำต่อจากพิษณุโลก ไปลงที่ลำปาง ถ้าผมไปแวะพักคนเดียวที่พิษณุโลก จะไปพักที่โรงแรมอมรินทร์ เหตุผลมีเพียงว่าอยู่ใกล้สถานีรถไฟเท่านั้นแหละครับ ขี้เกียจเดินไปหาโรงแรมที่อื่น ที่ผมชอบใจเมืองพิษณุโลกอีกอย่างหนึ่ง ตรงที่มีรถประจำทางวิ่งบริการอยู่ในเมืองครับ  เดินทางไปไหนค่อนข้างสะดวก  ต่างจากเชียงใหม่  มีแค่วันละสี่เที่ยวเท่านั้นเองครับ จากคุณ : owl2 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 54 22:02:23

ความคิดเห็นที่ 75 สวัสดีพี่ ติดตามตลอดนะครับ ขอบคุณมากๆสำหรับความรู้ที่มีให้ตลอดมา จากคุณ : toom59 เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 10:56:43

ความคิดเห็นที่ 76 ดูแล้ว คิดถึงบ้านจังเลยค่ะ T_____T จากคุณ : poyz123 เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 15:45:56

ความคิดเห็นที่ 77 สวัสดีครับ คุณ chui_club, คุณ toom59 และ คุณpoyz123 ครับ ยินดีที่ชอบครับ อย่างไรก็คอยติดตามตอนต่อๆ ไปนะครับ  ผมเองนี่ยังรู้สึกสนุกไปด้วยเลย อยากให้ถึงตอนใหม่เร็วๆเช่นกัน (ใช้เวลาค่อนข้างเยอะ เลยต้องกะโพสตอนละหนึ่งสัปดาห์พอ ไม่งั้นไม่ต้องทำงานกันละ) สวัสดีครับ คุณowl2 : ขอบคุณที่เข้ามาแจม  เพิ่มเติมข้อมูลให้กับกระทู้ครับ  ฟังคุณพูดถึงปีพ.ศ.2500 สงสัยคุณคงมีอายุมากกว่า 50 ปีแน่ๆ เลยครับ ถึงทราบข้อมูลเชิงลึก ขนาดนี้ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 22:31:56

ความคิดเห็นที่ 78 แวะมาติดตามครับ รถจักรหน้าสถานีพิษณุโลก เป็นรถจักร North British ชั้น E หรือที่เรียกกันว่า E-Class ครับ ลักษณะการวางล้อเป็น 4-6-0 หรือ Ten Wheeler ครับ จากคุณ : Alderwood เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 23:12:52

ความคิดเห็นที่ 79 ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ ^^ จากคุณ : คืนไร้ดาวพราวแสงจันทร์ เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 20:19:21

ความคิดเห็นที่ 80 อูย...ชมจนเขินเรื่องอายุนี่แหละครับ  ฮ่าๆๆๆ จากคุณ : owl2 เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 22:05:50

ความคิดเห็นที่ 81 สวัสดีครับ คุณAlderwood : ขอบคุณสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมครับ  วันนี้นึกสังหรณ์ใจแล้วว่า คุณต้องแวะเข้ามาทักทายครับ ข้อมูลตรงกับของ คุณdigimontamer ในคห.64 ครับ  อย่าลืมติดตามตอนต่อไปนะครับ  ผมยังได้แวะเข้าไปชม กระทู้ลุยเดี่ยว "นอนส่องรถไฟที่กัสซัน" ยอมรับว่าเจ๋งมากๆ ทุ่มเทจริงๆ ถ้ามีโอกาสจะตามรอยไป แน่นอนครับ สวัสดีครับ คุณคืนไร้ดาวพราวแสงจันทร์ : ด้วยความยินดีครับ ตอนสองกำลังฟักตัวอยู่ (วันนี้จัดเตรียมภาพเกือบเสร็จแล้ว เร็วๆ นี้ครับ) คุณ owl2 : ต้องขอโทษ ที่อาจพาดพิงไปได้อย่างคาดไม่ถึง ในโลกอินเตอร์เน็ตนี้ไม่มีจำกัดอายุครับ พี่ๆ น้องๆ กันทั้งนั้น...ฮา จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 23:11:27

ความคิดเห็นที่ 82 มิเป็นไร  ไม่เคยคิดถือสาครับ  เอาเป็นเรื่องเฮฮาดีกว่า  พาไปเที่ยวลุยๆ  แบบนี้ต้องทำใจสบายๆ ถึงจะสนุกครับ จากคุณ : owl2 เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 23:48:56

ความคิดเห็นที่ 83 วันนี้มาต่อแล้วในตอนที่สอง พาไปนมัสการพระพุทธชินราช เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนไปลุยกัน ในตอนบ่าย ครับ  เชิญติดตามลิ้งค์ข้างล่างนี้ไปได้เลยครับ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10119517/E10119517.html จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 16:01:39