ความคิดเห็นที่ 1 น่าเสียดายที่ส้มจี๊ดไม่ได้มาพักที่นี่เลยไม่ได้มีโอกาสถ่ายรูปด้านในให้ชมกันว่าจะสวยซักเท่าไหร่....คราวหน้าถ้ามีโอกาสมาสวนผึ้งไม่พลาดแน่ๆคะ จากคุณ : kamonda เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 54 18:58:03

ความคิดเห็นที่ 2 จากที่นี่ปุ๊กลุ๊กค่อยๆ ขับเคลื่อนล้อน้อยๆ พาพวกเรากลับมาตามเส้นทางเดิมกับขามาเพื่อกลับที่พักที่บ้านห้วยน้ำรินรีสอร์ท แต่ก่อนกลับพวกเราก็ได้มีโอกาสแวะอีกหนึ่งรีสอร์ทสวย "สวนผึ้งรีสอร์ท" คะ จากคุณ : kamonda เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 54 18:59:07

ความคิดเห็นที่ 3 รีสอร์ทไอเดียร์เก๋ ที่สร้างบ้านพักแต่ละหลังย้อนไปในยุคหิน ผสมผสานอย่างลงตัวกับบรรดาเหล่าการ์ตูนดังในเรื่องมนุษย์หินฟลิ้นท์สโตน ภายใต้คำพูดยอดฮิตติดปาก " Yabba-Dabba-Doo "  ส้มจี๊ดชอบเรื่องนี้มากๆ ตอนเด็กๆ มักจะมาจับจองหน้าทีวีสีช่อง 3 เพื่อมารอดู หรือในครั้งที่มีการนำมาทำหนังภาพยนต์ ก็ไม่พลาดที่จะซื้อตั๋วไปชม และในวันนี้ส้มจี๊ดก็ไม่พลาดที่จะเก็บภาพถ่ายสวยๆมาให้ชาว blog ได้ชมกัน จากคุณ : kamonda เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 54 19:01:07

ความคิดเห็นที่ 4 ว่าจะไม่พลาดแต่ก็พลาดจนได้...ส้มจี๊ดสงสัยนักว่าทำไมตอนขามารถราจึงมาจอดกันเต็มรีสอร์ทกันนัก และในช่วงเย็นแบบนี้ รถถึงว่างม๊ากมาก ในที่สุดก็ได้คำตอบว่าที่นี่เปิดให้นักท่องเที่ยวขาจรเก็บรูปรีสอร์ทในช่วงเวลาตั้งแต่ 12.00-14.00 น. เลยเวลานี้แล้ว บ่ได้แล้วเด้อ .....ส้มจี๊ดเศร้าใจถ่ายรูปกันแค่ 2-3 แชะ ปุ๊กลุ๊กก็ขับมุ่งตรงกลับบ้านพักน้อยๆ ของเรากันดีกว่าคะ จากคุณ : kamonda เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 54 19:03:39

ความคิดเห็นที่ 5 ที่บ้านห้วยน้ำรินนั้นมีรถจักรยานให้ขี่เล่นหลายคัน ส้มจี๊ดเลยชวนสาละมีขี่เล่นให้ทั่วรีสอร์ท ที่เห็นท่าขี่ดูเหมือนตั๊กแตนตำข้าวแบบนี้ก็เป็นเพราะว่าขนาดช่วงตัวรถไม่เข้ากันกับผู้ขี่นั่นเอง ถีบแต่ละที หัวเข่าเกือบชนกับหน้าอก..... จากคุณ : kamonda เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 54 19:05:42

ความคิดเห็นที่ 6 ด้านหลังรีสอร์ทจะเป็นลำคลองภาชี วันที่ส้มจี๊ดไปช่วงวันมาฆบูชา ระดับน้ำก็เหมือนอย่างในรูปด้านล่างนั่นแหละคะ แห้งมากๆ ตรงบริเวณลึกหน่อยก็อยู่แค่หัวเข่าเท่านั้นเอง จากคุณ : kamonda เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 54 19:08:16

ความคิดเห็นที่ 7      ถ้ายังเห็นไม่ชัดว่าน้ำลดลงแค่ไหน ลองสังเกตท่อประปาสีฟ้าในภาพด้านล่างดูนะคะ นั่นเป็นท่อประปาของชาวบ้านที่เขาทำไว้ดูดน้ำไปใช้ในครัวเรือน ในช่วงที่น้ำเต็มตลิ่งจริงๆชาวบ้านเล่าให้ส้มจี๊ดฟังว่าถึงตัวบ้านด้านบนเลยละคะ      ที่รีสอร์ทก็จะมีการต่อท่อสูบน้ำในลำคลองภาชีไปใช้ประโยชน์เหมือนกัน อย่างเช่น นำน้ำไปรดต้นไม้ในบริเวณรอบๆ นั่นเอง ฉันได้มีโอกาสคุยกับคนสวนของที่นี่ ถามไถ่ถึงต้นไม้หน้าตาประหลาดที่ใบและลำต้นเหมือนต้นมันสำปะหลัง  เขาบอกฉันว่านั่นคือ ต้นละหุ่ง ที่ใช้ทำน้ำมันละหุ่งไงละคะ เขาเล่าว่าเมล็ดของมันลอยตามน้ำมาจากฝั่งพม่าด้านหลังเขาตะนาวศรีนู่นแนะ ในช่วงที่น้ำท่วมสวนผึ้ง ระดับน้ำสูงมากๆ ใหลบ่ามาในช่วงตี 2 เขาได้ยินเสียงน้ำดังมากๆ กว่าจะรู้ตัวอีกที น้ำก็ท่วมรีสอร์ทไปหมดแล้ว นำพาโคลนตมเละเทะไปหมด ที่เห็นอยู่นี่ก็คือสภาพหลังจากที่ได้เก็บกวาดเรียบร้อยแล้ว จากคุณ : kamonda เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 54 19:12:05

ความคิดเห็นที่ 8 ตามไปเที่ยวสวนผึ้งด้วยคนครับ จากคุณ : ตระเวนเที่ยว เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 54 19:15:25

ความคิดเห็นที่ 9 " ฝนถล่มหนัก 3 วัน 3 คืน ถนนถูกตัดขาด นักท่องเที่ยวตกค้างในรีสอร์ทเกือบ 30 ชีวิต อ่างเก็บน้ำมีรอยรั่วซํ้า 5 ตค. รายงานข่าวแจ้งว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอสวนผึ้ง จ.ราชบุรี ขณะนี้ยังวิกฤตหนัก เนื่องจากมีปริมาณฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องทำให้ปริมาณน้ำป่าที่ไหลมาจากเทือกเขาตะนาวศรีนั้นกำลังจะล้นสะพานข้ามแม่น้ำลำภาชี ที่เป็นสะพานสายหลักที่จะเข้าตัวอำเภอสวนผึ้ง ซึ่งคาดว่าถ้าปริมาณฝนยังตกอยู่ต่อเนื่องเช่นนี้คาดว่าสะพานลำภาชีนั้นน่าจะพัง เพราะถูกกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวพัด สำหรับเส้นทางสายอื่นๆที่เป็นเส้นทางสัณจรของชาวบ้านนั้นขณะนี้คอสะพานขาดหลายแห่งชาวบ้านหลายหมู่บ้านถูกตัดขาดไม่สามารถเดินทางเข้าออกได้ ขณะที่บริเวณสวนผึ้งคันทรีฮิลล์รีสอร์ท ซึ่งอยู่บ้านห้วยคลุม หมู่ 6 ต.สวนผึ้ง ยังมีนักนักท่องเที่ยวติดอยู่ภายในรีสอร์ทกว่า 25 คน เพราะเส้นทางที่จะเข้าไปช่วยเหลือนั้นคอสะพานขาดหลายแห่งทำให้เจ้าหน้าที่ทหาร อำเภอสวนผึ้ง และชาวบ้านต้องระดมกำลังช่วยกันทำสะพานชั่วคราวให้รถข้ามไปได้ เพื่อนำอาหารและน้ำดื่มไปให้นักท่องเที่ยวได้กินพอประทังชีวิต รวมทั้งเตรียมนำเรือท้องแบนและแพเข้าไปช่วยนักท่องเที่ยวออกมาจากรีสอร์ทก่อน พ.ต.ท.วิโรจน์ สุขเสริม ผู้บังคับการกองร้อย ตชด.ที่ 137 ได้ส่งเจ้าหน้าที่ 2 นาย ลุยน้ำป่าข้ามไปสำรวจพื้นที่ เพื่อทำฐานลงจอดเฮลิคอปเตอร์ที่จะส่งเข้าไปช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่ติดค้างอยู่ในรีสอร์ต แต่กระแสน้ำเชี่ยวกรากและฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างยากลำบาก อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่อื่นๆของอำเภอสวนผึ้งส่วนใหญ่เป็นรีสอร์ทและบ้านพัก ก็ได้รับผลกระทบ เนื่องจากปริมาณที่ไหลเชี่ยวทำให้ดินพังทลายและบ้านที่ปลูกอยู่ก็พังลงมา หลายหลัง? และจากปริมาณน้ำป่านั้นยังคงสูงขึ้นเรื่อยๆ ประกอบกับได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่กรมชลประทานว่า จะต้องทำการระบายน้ำในเขื่อนท่าเคย อ.บ้านคา จ.ราชบุรี ออกเนื่องจากปริมาณน้ำกำลังจะล้นเขื่อน นอกจากนั้น ยังมีรายงานด้วยว่า เกิดรอยร้าวหลายจุดที่อ่างเก็บน้ำห้วยสุด อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี? เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งเตือนประชาชนให้ขนของขึ้นที่สูง และเตรียมอพยพแล้ว ล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่ติดค้างอยู่ในรีสอร์ทออกมาทั้งหมดแล้ว" เรียบเรียงข่าวโดย Mthai news จากคุณ : kamonda เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 54 19:17:07

ความคิดเห็นที่ 10 ตามมาเที่ยวกันนะคะคุณตระเวนเที่ยว ------------------------------------------------------------------------------------         สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นจะโทษใครได้ละคะนอกจากน้ำมือมนุษย์ที่ไม่เห็นคุณค่าของป่าไม้ แต่ละคนต่างคอยทำลายป่าเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ที่เห็นได้ง่ายๆ ก็คือ ธุรกิจการทำรีสอร์ทที่กำลังเฟื่องฟูภายในอำเภอสวนผึ้งนั่นเอง ป่ากลายเป็นทุ่งหญ้าเลี้ยงแกะเอย เป็นรีสอร์ทสวยเอย เฮ้อ...เขาจะรับรู้บ้างไม๊ว่าพวกเขาก็เป็นส่วนหนึ่งที่เป็นผู้ทำลายหรือพวกเขาจะไม่สนใจต่อผลกระทบต่างๆ ที่เกิดขึ้นเลยนะ....ส้มจี๊ดอดสงสัยไม่ได้ ก็ผลกำไรทั้งนั้นนิคะ เงิน เงินและก็เงิน ภาพด้านล่างเป็นอาคารอาบน้ำที่ทางรีสอร์ทเตรียมไว้สำหรับใครอยากลงไปเล่นน้ำที่ลำคลองภาชีคะ   จากคุณ : kamonda เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 54 19:21:49

ความคิดเห็นที่ 11          ส้มจี๊ดมาเที่ยวครั้งนี้ผิดหวังมากโดยเฉพาะบรรยากาศของป่าเขียวสวยที่ส้มจี๊ดได้เคยสัมผัส ในช่วงปิดเทอมในอดีตสมัยละอ่อน ป่าในอำเภอสวนผึ้งนั้นไม่เคยแห้ง บรรยากาศร่มรื่นเขียวไปหมด...แต่ปัจจุบันมันแห้งแล้งซะจนส้มจี๊ดไม่อยากมาเที่ยวที่นี่อีกแล้ว ผู้คนก็เปลี่ยนแปลง อาหารแต่ละร้านก็โขกเงินกันแบบเอาครั้งเดียวให้อยู่หมัดไม่กะว่าใครจะกลับมากินอีก เพราะแต่ละคนขาจรกันทั้งนั้น ทานแต่ละมื้อไม่เคยต่ำกว่า 500 บาทมันเป็นไปได้ยังไงกันนะ  อาหารจานนึงตกร้อยกว่าบาท ทั้งๆ ที่ฉันก็ไม่ได้ทานร้านหรูหราอะไร แต่ฉันก็ได้อ่านใน pantip มากมายแต่ละคนก็ชื่นชมกับที่นี่มาก ร้านนู้นร้านนี้ก็อร่อยมากๆ ราคาก็ไม่แพง แค่นี้เอง แค่นั้นเอง เฮ้อ....มันแพงจังสำหรับส้มจี๊ดเดี๋ยวมื้อดึกจะพาไปทานอาหารกันที่ร้านครัวตะนาวศรีสาขา 2 คะ ดูซิว่าราคาโค ตะ ระ แพงแค่ไหน  จากคุณ : kamonda เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 54 19:25:17

ความคิดเห็นที่ 12           ร้านอาหารเย็นวันสุดท้ายในอำเภอสวนผึ้ง ส้มจี๊ดและครอบครัวขับรถตระเวนไป-มาอยู่หลายร้าน สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า เข็ดจริงๆกับอาหารราคาแสนแพงที่ขายนักท่องเที่ยว แต่ละร้านโขกราคากันจนน่าเวียนหัว สุดท้ายท้ายสุดก็มาเลือกร้านอาหารที่มีชื่อว่า "ครัวตะนาวศรี 2" ซึ่งเป็นร้านอาหารที่อยู่ในอำเภอสวนผึ้งนั่นแหละ โดยสถานที่ตั้งร้านจะอยู่ติดกับไปรษณีย์สวนผึ้ง ผ่านสะพานข้ามแม่น้ำภาชีประมาณ 700 เมตรก็จะเห็นอยู่ทางซ้ายมือ เหตุผลสำคัญที่เลือกร้านนี้ก็เพราะว่า บรรยากาศของร้านตกแต่งค่อนข้างเรียบง่าย แถมมีรถราจอดแน่นเต็มร้านไปหมด สงสัยคงอร่อยแน่ๆ  แถมอาหารที่นี่น่าจะขายของพื้นถิ่น ที่มีรสชาติชัดช้านน่าลิ้มลองสักครั้ง จากคุณ : kamonda เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 54 19:28:24

ความคิดเห็นที่ 13 ส้มจี๊ดได้อ่านสโลแกนเก๋ๆของทางร้านเขาด้วยละ        "เลิศรสอาหาร สีสันศิลปะ อิสระ แห่งธรรมชาติ" รายการอาหารมีมากมายให้เลือก ตัวอย่างเช่น 1.ต้มยำปลาคัง 2.ยำปลาสายไหม 3.ไก่ทอดตะนาวศรี 4.ผัดผักกูดน้ำมันหอย 5.เมี่ยงเสวย 6.แกงป่าไก่บ้าน 7.ฉุ่ฉี่ปลาเนื้ออ่อน 8.ปลาทับทิมสามรส 9.ปลาช่อนทอดยำ 10.ไก่คั่วสมุนไพร เป็นต้น           "จุดเด่นของร้าน ที่ส้มจี๊ดหาเจอจากเวปไซต์หนึ่ง เขาเขียนชมไว้ว่า รสชาติของอาหารที่นี่รสแซ่บ อย่าบอกใคร เมนูส้มตำของที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นตำไทย ตำปู ตำปลาร้า ทุกเมนูไร้เทียมทานจริงๆ การบริการที่เป็นกันเองของพนักงานก็น่ารัก ไปตามประสา ของคนพื้นเมือง พนักงานที่นี่น่าตาน่ารัก บ๋องแบ๋วดี อาการถามอย่างตอบอีกอย่างก็ทำให้นึกขำไม่ได้ แต่ก็มิได้ ทำให้เสียบรรยากาศแต่อย่างใด กลับทำให้เราได้เข้าใจความเป็นพื้นบ้านมากขึ้น และเจ้าของร้านก็ไม่ ได้ปล่อยจนให้เกิดความเสียหายหรือน่ารำคาญ กลับเรียกเสียงหัวเราะให้นักชิมไม่น้อย เสียงหัวเราะที่เต็ม ไปด้วยความเอ็นดู และความสุข ยังไงก็ต้องทิปให้เด็กๆเป็นค่าขนม และค่าทำให้อารมณ์ดี อยู่ดี           ในช่วงเวลาตั้งแต่ 20.30-24.00 น. ที่นี่มีดนตรีให้ฟังด้วยได้ข่าวว่านักดนตรี บางท่านที่มาเล่นที่นี่ เดินทางมาจากกรุงเทพฯ เลยที่เดียว คงจะมาด้วยใจรัก มากกว่า แนวดนตรีเป็นสไตล์ เพลงสากล แจ๊ส บลู ละติน กับเพลงไทยป๊อปๆ เจ้าของร้านบอก ว่าที่เลือกเป็นแนวนี้ก็เพราะชอบเพลงสากลเก่าๆ ไม่อยากให้เป็นเพื่อชีวิต เพราะร้านตรงข้ามเขามีอยู่แล้วเดี๋ยวจะซ้ำกัน จะได้ เป็นทางเลือกใหม่ๆให้กับนักท่องเที่ยว ซอกแซกสอบถามจนได้ความว่า เจ้าของร้าน เพิ่งได้รับช่วงต่อจากคุณแม่ ซึ่ง แต่เดิมเปิดเป็นร้านอาหารป่าธรรมดาๆ แต่รสชาติไม่ธรรมดา พอมาถึงมือของเจ้าของใหม่ ซึ่งเป็นลูกสาวคนกลาง เพิ่งจบจากเพาะช่าง และได้รับเกียรตินิยมอันดับสองมา จึงเอาความรู้ทางด้านศิลปะเข้ามาประยุกต์ใช้ โดยไม่ได้ลงทุนเพิ่มเติมอะไรมาก ทำแบบพอเพียง ซึ่งก็เป็นไอเดียที่ดี เพราะทำให้ร้านมีจิตวิญญาณมีเรื่องราว ของตกแต่งเกือบทุกชิ้นล้วนแล้วแต่เกิดจากฝีมือเธอทั้งสิ้น ใครจะเอาไปทำบ้างเธอก็ไม่ว่า ไม่หวงเลย แถมยังแนะนำแบบหมดไส้หมดพุง อีกนี่แหล่ะค่ะ ผู้บริหารรุ่นใหม่ ไฟแรง และใจกว้าง สิ่งนี้นี่เองที่ทำให้รถต้อง วิ่งเข้าวิ่งออกร้านนี้ตลอดเวลาเพียงแค่ใช้เวลาในการเดินทางเพียง 2 ชั่วโมงเศษ คุณก็สามารถหนี ความวุ่น วายของชีวิตในเมืองได้แล้ว ลองหาประสบการณ์ใหม่ๆให้กับชีวิตบ้าง เพื่อรสชาติและสีสัน ที่จะเติมเต็มหัวใจของคุณ ให้มีความสุข และสันติ" เรื่อง/ภาพ โดย ปริศนา ณ เวียงพิงค์ จากคุณ : kamonda เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 54 19:30:19

ความคิดเห็นที่ 14 แค่อ่านสโลแกนและคำนิยมของคุณปริศนา ณ เวียงพิงค์เท่านี้ส้มจี๊ดก็อดไม่ได้คะ ที่จะมาลองลิ้มลองที่นี่ก่อนกลับกรุงเทพฯ อาหารที่พวกเราเลือกสั่งกันมา ได้แก่ จากคุณ : kamonda เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 54 19:31:06

ความคิดเห็นที่ 15 ผัดเผ็ดหมูป่า ราคาจานละ 130 บาท รสชาติอาหารจานนี้อร่อยที่สุดแล้วในบรรดาอาหารทุกจานที่เสิร์ฟมาให้พวกเราในมื้อนี้ แต่ขอบอกว่ารสชาติเผ็ดมากๆ ขนาดส้มจี๊ดว่าทานเผ็ดได้แล้วนะ ยังต้องทานน้ำคำกับคำเลยละคะ จากคุณ : kamonda เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 54 19:32:45

ความคิดเห็นที่ 16 จานนี้ส้มจี๊ดสั่ง ฉู่ฉี่ปลาเนื้ออ่อน นะคะ แต่อาหารที่ได้มากลับน่าตาคล้ายกับปลาราดพริกรสหวานอย่างกับน้ำเชื่อม เฮ้อ...ไม่อร่อยแต่ก็ต้องจำใจกัดฟันทานไปก็ราคาอาหารจากนี้ 150 บาท มีปลาให้ 3 ตัวเล็กจิ๋วคะ จากคุณ : kamonda เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 54 19:34:13

ความคิดเห็นที่ 17 อีกจานเนี่ยสุดๆ ของคำบรรยาย แกงส้มผักรวม มากันเป็นหม้อไฟ แต่รสชาติสุดๆ ของความไม่อร่อย...เพราะทานกันไม่ลง แม่ครัวทำรสชาติหวานเจี๊ยบเหมือนกับทานขนมหวานเด๊ะ....กุ้งตัวเล็กก็ให้ไม่กี่ตัว แถมที่น่าโมโหที่สุดคือบรรดาผักรวมที่เหมือนเอาเศษผักสารพัดที่ร้านกะจะทิ้งแล้วมาใส่ส่งๆ ลงไปในหม้อไฟ เจ็บใจมากแถมหม้อไฟนี้ก็ไม่ใช่ถูกนะคะ 120 บาท จากคุณ : kamonda เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 54 19:35:37

ความคิดเห็นที่ 18 แต่อาหารที่สุดๆ ของความโมโหและคาดโทษไว้เลยว่าจะไม่มีทางมาทานที่ร้านนี้อีกเลย เพราะเอาเปรียบผู้บริโภคอย่างเรามากๆ ก็คือ เมนูยอดฟักแม้วน้ำมันหอย ที่ราคาปาเข้าไปจานละ 80 บาท นี่ถ้าให้เยอะก็ยังพอไหวนะคะ ถ้าใครเป็นแม่บ้านคงทราบว่าราคาของยอดฟักแม้วที่ตลาดกำหนึ่งไม่ถึง 20 บาท แต่ปริมาณผักที่ใส่จานมาให้ยังไม่ถึงกำเลยละ น่าจะต้นทุนซัก 10 บาทเห็นจะได้แต่โขกราคาไปตั้ง 80 บาทเชื่อเขาเลย จากคุณ : kamonda เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 54 19:37:15

ความคิดเห็นที่ 19 หวังว่าข้อความส้มจี๊ดคงไปกระทบหูเจ้าของร้านไม่มากก็น้อยถ้ายังคงขายกันอยู่แบบนี้ หวังรับนักท่องเที่ยวแบบขาจรเท่านั้น ครัวตะนาวศรีอาจเหลือแต่ชื่อเอาไว้ให้นักท่องเที่ยวอย่างฉันได้จดจำว่า สุดแสนที่จะไม่อร่อย.....เฮ้ออยากเขียนแรงกว่านี้เหมือนกันนะ แต่กลัว blog ส้มจี๊ดโดนปิดอะ อุตส่าห์เปิดมาตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ มาถึงรุ่นตัวเองอย่าปล่อยให้เสียชื่อแบบนี้ซิคะ .....ส้มจี๊ดขอเตือนด้วยความหวังดี จากคุณ : kamonda เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 54 19:38:06

ความคิดเห็นที่ 20 แวะมาชมครับ ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ จากคุณ : กัปตันลูกชุบ เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 54 23:28:25

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณสำหรับข้อมูลรายละเอียดพร้อมรูปนะคะ   จากคุณ : สาวหน้าใส เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 54 06:54:07

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณมากๆครับผม จากคุณ : digimontamer เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 54 08:13:41

ความคิดเห็นที่ 23 ว้าว ว้าว ว้าว เพื่อน Pantip เจ้าเดิมเสียงเดิมมาเยี่ยมส้มจี๊ดอีกแล้ว ดีใจมากมายเด้อคะ    จากคุณ : kamonda เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 54 09:08:34

ความคิดเห็นที่ 24 สวยครับ  ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 54 15:25:31