ความคิดเห็นที่ 1 ไหนๆ ก็จะพาไปชมวังกันแล้ว  ก็เลยไปหาประวัติและองค์ความรู้เกี่ยวกับพระราชวังแห่งนี้มาให้ได้ประทับความรู้กันพอสังเขป  โดยข้อมูลต่างๆ นำมาจาก http://th.wikipedia.org นั่นเอง ซึ่งต้องขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย มาเริ่มกันเลยล่ะกันนะครับ  "พระราชวังบางปะอิน" ตั้งอยู่ในตำบลบ้านเลน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อยู่ห่างจากเกาะเมืองอยุธยาลงมาทางทิศใต้ประมาณ 18 กิโลเมตร เป็นพระราชวังโบราณตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 22:51:13

ความคิดเห็นที่ 2 แผนที่ภายใน"พระราชวังบางปะอิน" จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 22:53:05

ความคิดเห็นที่ 3 อูย....โดนคุณnoiwanรีวิวพระราชวังบางปะอินตัดหน้า จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 22:54:32

ความคิดเห็นที่ 4 ตามไปเที่ยวพระราชวังบางปะอินด้วยค่ะ จากคุณ : Memories pink เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 22:57:56

ความคิดเห็นที่ 5 ตามไปเที่ยวด้วยค่ะ   จากคุณ : บูตะ กะ กิมจิ เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 22:59:31

ความคิดเห็นที่ 6 ค่าเข้าชม  -ผู้ใหญ่ ๓๐ บาท  -เด็กนักเรียน, พระสงฆ์, ชี ๒๐ บาท -ชาวต่างชาติ ๑๐๐ บาท       -ติดต่อเข้าชมเป็นหมู่คณะลดพิเศษ มีรถไฟฟ้าให้เช่า ในอัตราชาวไทยชั่วโมงละ ๒๕๐ บาท  ชาวต่างชาติชั่วโมงละ ๔๐๐ บาท จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 22:59:57

ความคิดเห็นที่ 7 ไปเยี่ยมชมพระราชวังบางปะอินด้วยคนครับ... จากคุณ : ผู้ก่อการร้ายทางความคิด เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 23:05:38

ความคิดเห็นที่ 8 -ยินดีต้อนรับครับคุณtiger's nest  ต้องขอประทานโทษเป็นอย่างสูงครับ -ยินดีต้อนรับครับคุณMemories pink  ตามไปด้วยกันต่อนะครับ -ยินดีต้อนรับครับคุณบูตะ กะ กิมจิ   ................................................................................................. พระราชวังบางปะอินนี้ถูกสร้างขึ้นโดยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง เนื่องจากเป็นที่ประสูติของพระองค์ ใช้เป็นสถานที่ที่ทรงใช้ประทับแรม ของพระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา ด้วยเป็นพระราชวังใกล้พระนครนั่นเอง เมื่อครั้งเสียกรุงแก่พม่าครั้งที่สอง พระราชวังบางปะอินถูกปล่อยให้รกร้างมาระยะหนึ่ง พระราชวังบางปะอินกลับมาเป็นที่รู้จักอีกครั้งเมื่อสุนทรภู่ ซึ่งได้ตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชไปนมัสการ พระพุทธบาทสระบุรี ได้ประพันธ์ถึงพระราชวังบางปะอินไว้ในนิราศพระบาท จนกระทั่ง ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงได้เริ่มการบูรณะพระราชวังขึ้น และในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้บูรณะครั้งใหญ่ โดยสร้างพระที่นั่ง พระตำหนัก และตำหนักต่าง ๆ ขึ้นมากมายเพื่อใช้เป็นที่ประทับ รับรองพระราชอาคันตุกะ และพระราชทานเลี้ยงในโอกาสต่าง ๆ แก้ไขเมื่อ 24 พ.ค. 54 23:08:31 จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 23:07:26

ความคิดเห็นที่ 9 ในปัจจุบัน พระราชวังบางปะอินอยู่ในความดูแลของสำนักพระราชวัง และยังใช้เป็นสถานที่แปรพระราชฐานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ รวมถึงประกอบพระราชพิธีสังเวยพระป้าย แต่ได้เปิดให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวเข้าชมได้ โดยต้องแต่งกายให้สุภาพ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 23:09:27

ความคิดเห็นที่ 10 บริเวณพระราชวังพื้นที่ของพระราชวังบางปะอินนั้น แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่   1.เขตพระราชฐานชั้นนอก 2.เขตพระราชฐานชั้นใน จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 23:11:45

ความคิดเห็นที่ 11 -เขตพระราชฐานชั้นนอกนั้น เป็นบริเวณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงใช้สำหรับการออกมหาสมาคมหรือประกอบพระราชพิธีต่าง ๆ ซึ่งประกอบด้วย 1.หอเหมมณเฑียรเทวราช 2.พระที่นั่งวโรภาษพิมาน 3.สภาคารราชประยูร -เขตพระราชฐานชั้นใน เป็นที่ประทับของของพระมหากษัตริย์ สมเด็จพระอัครมเหสี พระบรมวงศานุวงศ์ฝ่ายใน และข้าบาทบริจาริกา ประกอบด้วย 1.พระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียร 2.หอวิฑูรทัศนา 3.พระที่นั่งเวหาศน์จำรูญ 4.พระตำหนักฝ่ายใน 5.อนุสาวรีย์สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ และ อนุสาวรีย์ราชานุสรณ์ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 23:18:22

ความคิดเห็นที่ 12 มารู้จักประวัติของแต่ละสถานที่ภายใน"พระราชวังบางปะอิน"กันสักนิด  เริ่มจาก "หอเหมมณเฑียรเทวราช" หอเหมมณเฑียรเทวราช หรือที่บางคนเรียกกันว่า "ศาลพระเจ้าปราสาททอง" เป็นปรางค์ศิลา จำลองแบบจากปรางค์ขอม ภายในประดิษฐานเทวรูปสมมุติแทนพระองค์พระเจ้าปราสาททอง ตั้งอยู่ในเขตพระราชฐานชั้นนอก ริมสระใต้ต้นโพธิ์ ภายในพระราชวังบางปะอิน จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 23:23:18

ความคิดเห็นที่ 13 "สภาคารราชประยูร" สภาคารราชประยูร เป็นอาคาร 2 ชั้น ศิลปะแบบโคโลเนียล ตั้งอยู่ในเขตพระราชฐานชั้นนอก ริมสระน้ำตรงข้ามกับหอเหมมณเฑียรเทวราช ปัจจุบัน ใช้เป็นอาคารจัดแสดงประวัติและเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ของพระราชวังบางปะอิน ประวัติของสภาคาราชประยูร  พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้จัดสร้างสภาคารราชประยูรขึ้น เพื่อพระราชทานให้เป็นที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอฯ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ และเจ้านายฝ่ายหน้า โดยก่อสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2419  นอกจากนั้น สภาคารราชประยูรยังเป็นที่ทำการของ "หอทะเบียนเมืองกรุงเก่า" ซึ่งเป็นสำนักงานที่ดินกรุงเก่าแห่งแรกของประเทศไทยด้วย จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 23:26:34

ความคิดเห็นที่ 14 "พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์" พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ เป็นพระที่นั่งปราสาทโถงกลางน้ำ สร้างในแบบจตุรมุข พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จำลองแบบมาจาก พระที่นั่งอาภรณ์ภิโมกข์ปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง สร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2419 และพระราชทานนามว่า "พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์" ตามนามพระที่นั่งองค์แรก ซึ่งสมเด็จพระเจ้าปราสาททองทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น ณ พระราชวังบางปะอินแห่งนี้ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 23:29:32

ความคิดเห็นที่ 15 ปัจจุบัน เป็นสถานที่ประดิษฐาน รูปหล่อสัมฤทธิ์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ฉลองพระองค์เต็มยศจอมพลทหารบก ซึ่งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 23:31:40

ความคิดเห็นที่ 16 พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์จัดได้ว่าเป็นผลงานชิ้นเอกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งเคยได้รับเกียรติให้สร้างจำลองแบบไปแสดงในงานมหกรรมนานาชาติ ณ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อ พ.ศ. 2501 จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 23:32:47

ความคิดเห็นที่ 17 ประวัติพระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ เป็นพระที่นั่งที่สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อฉลองการที่พระราชเทวีประสูติสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ พระนารายณ์ราชกุมาร โดยพระราชทานนามว่า "พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์" ซึ่งหมายความว่า พระองค์ได้มีพระราชสมภพที่นี่ และได้เป็นพระเจ้าแผ่นดินพระที่นั่งองค์นี้ใช้เป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ในสมัยกรุงศรีอยุธยา จนกระทั่ง เสียกรุงให้แก่พม่าเมื่อปี พ.ศ. 2310 พระที่นั่งองค์นี้จึงถูกปล่อยให้รกร้างไป จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 23:34:44

ความคิดเห็นที่ 18 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเสด็จพระราชดำเนินผ่านพระราชวังบางปะอิน เมื่อครั้งเสด็จฯ ประพาสพระนครศรีอยุธยา จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้มีการบูรณปฏิสังขรณ์พระที่นั่งขึ้นใหม่ โดยใช้เครื่องไม้สร้างพระที่นั่งขึ้นใหม่ ณ บริเวณที่ตั้งเดิมของพระที่นั่งในสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง โดยยังคงใช้ชื่อ "พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์" ดังเดิม จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 23:36:18

ความคิดเห็นที่ 19 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงให้รื้อพระที่นั่งองค์เดิมลง เพื่อขยายสระน้ำให้กว้างขวางยิ่งขึ้น พร้อมทั้งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระที่นั่งองค์ใหม่ ซึ่งเป็นพระที่นั่งที่สร้างจากเครื่องไม้บริเวณกลางสระน้ำ โดยให้จำลองแบบพระที่นั่งมาจากพระที่นั่งอาภรณ์ภิโมกข์ปราสาทในพระบรมมหาราชวัง และพระราชทานนามว่า "พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์" ซึ่งยังคงชื่อพระที่นั่งไว้ดังเช่นในสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 23:37:25

ความคิดเห็นที่ 20 ต่อมา พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงให้บูรณปฏิสังขรณ์พระที่นั่งอีกครั้ง โดยได้เปลี่ยนพื้นและเสาเป็นแบบคอนกรีต แทนเครื่องไม้ซึ่งผุง่ายเมื่ออยู่ในน้ำ พร้อมทั้งให้สร้างพระบรมรูปหล่อสัมฤทธิ์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวขนาดเท่าพระองค์จริงในฉลองพระองค์เต็มยศจอมพลทหารบกมาประดิษฐาน ณ พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์จนถึงปัจจุบัน จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 23:38:38

ความคิดเห็นที่ 21 " พระที่นั่งวโรภาษพิมาน" พระที่นั่งวโรภาษพิมาน เป็นพระที่นั่งตึกชั้นเดียว โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯให้สร้างขึ้นตรงบริเวณที่ประทับเดิมของพระองค์ ในพระราชวังบางปะอิน แล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2419 จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 23:41:00

ความคิดเห็นที่ 22 เมื่อแรกสร้างเป็นอาคารตึกสองชั้น ต่อมาได้ดัดแปลงรื้อลงเป็นชั้นเดียว มีท้องพระโรงสำหรับเสด็จออกว่าราชการ และใช้เป็นที่ประทับ ภายในห้องทรงพระสำราญ และห้องโถงรับรอง ประดับภาพเขียนสีน้ำมัน ภาพเขียนสีฝุ่น และพระราชพงศาวดารจากวรรณคดีไทยหลายเรื่อง แก้ไขเมื่อ 24 พ.ค. 54 23:42:26 จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 23:42:09

ความคิดเห็นที่ 23 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้วาดภาพเหล่านี้ขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2430 นอกจากนี้ ยังมี สิ่งประดับล้ำค่าชิ้นเอกของโลกด้วย คือ"แจกันสลับสีเขียนลายทอง" จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 23:44:19

ความคิดเห็นที่ 24 ในรัชกาลปัจจุบัน พระที่นั่งวโรภาษพิมานยังใช้เป็นที่ประทับ เมื่อมีการเสด็จแปรพระราชฐาน ณ พระราชวังบางปะอิน แต่ยังเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้โดยไม่สามารถถ่ายภาพภายในพระที่นั่งได้ และสุภาพสตรีต้องสวมกระโปรงเข้าชม จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 23:45:11

ความคิดเห็นที่ 25 "ประตูเทวราชครรไล" ในอดีตจะเป็นท่าเทียบเรือสำหรับการเดินทางมายังพระราชวังบางปะอิน จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 23:49:14

ความคิดเห็นที่ 26 ปัจจุบันถูกทำให้เป็นร้านจำหน่ายเครื่องดื่มและนั่งพักผ่อน ซึ่งเป็นบริเวณที่สามารถชมวิวทิวทัศน์เขตพระราชฐานชั้นนอกได้อย่างชัดเจน จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 23:51:46

ความคิดเห็นที่ 27 ประตูเทวราชครรไลนี้เป็นที่ที่กั้นระหว่างพระราชฐานชั้นนอกและชั้นในได้อย่างชัดเจนและลงตัว จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 23:53:52

ความคิดเห็นที่ 28 ติดตามชมค่ะ คิดถึงอยุธยาจัง หาเวลาว่างไปไม่ได้สักที จากคุณ : ลูกอ๊อดตัวใหญ่ เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 23:55:59

ความคิดเห็นที่ 29 เป็นที่นั่งพักร้อนได้ดี มีวิวสวยให้ชม จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 23:57:57

ความคิดเห็นที่ 30 ยินดีต้อนรับครับคุณลูกอ๊อดตัวใหญ่ ................................................................................................. "พระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียร" พระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียร ตั้งอยู่ในเขตพระราชฐานชั้นใน ตรงข้ามกับสระทางด้านตะวันออก ของพระราชวังบางปะอิน พระที่นั่งองค์นี้สร้างด้วยไม้ สไตล์ยุโรป แบบสวิสชาเล่ต์ 2 ชั้น มีกำแพงแก้ว จดหมายเหตุได้กล่าวไว้ว่าพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานเงิน 90 ชั่งเพื่อสร้างพระที่นั่งองค์นี้ และรั้วพระราชวังบางปะอิน เมื่อวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2420 จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 00:00:33

ความคิดเห็นที่ 31 ต่อมา พ.ศ. 2481 ได้มีการซ่อมแซมใหญ่พระราชวังบางปะอิน แต่ผู้รับเหมาประมาทเลินเล่อ ทำให้เกิดไฟไหม้พระที่นั่งทั้งองค์ คงเหลือแต่หอยุโรปข้าง ๆ เท่านั้น หลังจากนั้น ในปี พ.ศ. 2537 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต สร้างพระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียรขึ้นใหม่ ปัจจุบัน พระที่นั่งองค์นี้ไม่เปิดให้เข้าชม จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 00:02:04

ความคิดเห็นที่ 32 ประวัติพระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียร พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียรขึ้นเมื่อวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2420 โดยโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนเรศวรฤทธิ์เป็นผู้ออกแบบ โดยพระราชทานเงิน 70 ชั่ง หรือประมาณ 5,600 บาท ทุกปีในฤดูฝน พระองค์จะเสด็จมาประทับที่พระที่นั่งองค์นี้ปีละ 3 ครั้ง จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 00:03:51

ความคิดเห็นที่ 33 พระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียรเป็นพระที่นั่งเรือนไม้ 2 ชั้น มีสถาปัตยกรรมแบบชาเล่ย์ของสวิตเซอร์แลนด์ โดยทาสีเขียวอ่อนและสีขียวแก่สลับกันทั้งองค์ ประดับประดาไปด้วยลวดลายฉลุไม้แบบยุโรปที่แสนงดงาม มีระเบียงแล่นโดยรอบพระที่นั่ง ภายในมีการตกแต่งแบบยุโรปด้วยเครื่องเรือนฝรั่งเศสสมัยพระเจ้านโปเลียนที่ 3 ที่เข้าชุดกันทั้งหมด พระที่นั่งองค์นี้ถือได้ว่าเป็นพระที่นั่งที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดปรานมากที่สุด เมื่อปี พ.ศ. 2433 แกรนด์ดุ๊กซาร์วิตส์แห่งรัสเซีย (พระยศขณะนั้น) ได้เสด็จเยือนประเทศไทย พระบามสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ใช้พระที่นั่งองค์นี้เป็นที่ประทับของแกรนด์ดุ๊กซาร์วิตส์ และในปี พ.ศ. 2452 ยังใช้เป็นที่ประทับของดยุคโยฮัน อัลเบรตแห่งเยอรมันด้วย จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 00:05:34

ความคิดเห็นที่ 34 ในวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2481 ได้มีการบูรณะซ่อมแซมพระที่นั่งต่าง ๆ ในพระราชวังบางปะอิน ขณะดำเนินการทาสีพระที่นั่งนั้นได้เกิดเหตุเพลิงไหม้พระที่นั่งทั้งองค์ ซึ่งเหลือเพียงหอน้ำข้างพระที่นั่งเท่านั้นที่ไม่ถูกเพลิงไหม้ เมื่อปี พ.ศ. 2531 สำนักพระราชวังจึงสร้างพระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียรขึ้นมาใหม่เลียนแบบพระที่นั่งองค์เดิม เพื่อใช้เป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงภาพเขียนและวัตถุโบราณ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 00:07:09

ความคิดเห็นที่ 35 มาชมสถาปัตยกรรมด้วยครับ ^^ จากคุณ : ไผ่พริ้ว (PyDE) เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 00:07:43

ความคิดเห็นที่ 36 จนกระทั่ง เมื่อปี พ.ศ. 2537 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ให้จัดสร้างพระที่นั่งขึ้นใหม่ ขึ้นโดยใช้คอนกรีต แทนไม้ โดยทาสีขาวสลับเขียวตามแบบเดิมทั้งองค์พระที่นั่ง ต่อมาได้มีการรื้อดัดแปลงสร้างใหม่อีกครั้งหนึ่งตามลักษณะที่ปรากฏในปัจจุบัน เพื่อใช้เป็นที่ประทับของ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักรในคราวเสด็จเยือนประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2539 การดัดแปลงใหม่ครั้งนี้ได้ใช้ศิลปะสถาปัตยกรรมแบบวิคตอเรียน ตัวอาคารเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 ชั้นกรุกระจกโดยรอบองค์พระที่นั่ง องค์พระที่นั่งทาสีม่วงชมพูอย่างงดงาม ปัจจุบัน พระที่นั่งองค์นี้ใช้เป็นที่ประทับในการเสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐาน ณ พระราชวังบางปะอิน และเป็นสถานที่รับรองพระราชอาคันตุกะ เป็นสถานที่เดียวในพระราชวังบางปะอินที่ไม่เปิดให้เข้าชม จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 00:08:19

ความคิดเห็นที่ 37 ยินดีต้อนรับครับคุณไผ่พริ้ว (PyDE) ................................................................................................. "หอวิฑูรทัศนา" หอวิฑูรทัศนา ตั้งอยู่ระหว่างพระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียรและพระที่นั่งเวหาศน์จำรูญ โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นภายในพระราชวังบางปะอิน แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2424 พร้อมทั้งได้พระราชทานนามหอนี้ว่า "หอวิฑูรทัศนา" จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 00:11:04

ความคิดเห็นที่ 38 "หอวิฑูรทัศนา" ใช้สำหรับเป็นที่เสด็จขึ้นไปทอดพระเนตรภูมิประเทศโดยรอบของพระราชวัง กล่าวกันว่าเมื่อแรกสร้างนั้น ยังมองเห็นช้างป่าเป็นโขลง ๆ เดินอยู่ตามชายทุ่ง หรือถ้าขึ้นไปดูในช่วงฤดูทำนาก็จะเห็นความงามของทุ่งนาในช่วงต่าง ๆ จนมีคำกล่าวว่า "ดูนาที่ไหนเล่า ไม่เท่าที่บางปะอิน" จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 00:15:02

ความคิดเห็นที่ 39 หอวิฑูรทัศนา มีความสูง 30 เมตร ลักษณะเป็นหอคอยสูง 3 ชั้น 12 เหลี่ยม ยอดหอคอยคลุมด้วยหลังคารูปครึ่งวงกลม มีสถาปัตยกรรมผสมผสานของยุโรป ตัวอาคารทาสีแดงสลับเหลือง ภายในมีบันไดเวียนขึ้นสู่ชั้นบน 112 ขั้น โดยแบ่งเป็น จากพื้นชั่นล่างขึ้นไปยังชั้นที่ 1 จำนวน 18 ขั้น จากชั้นที่ 1 ขึ้นไปยังชั้นที่ 2 จำนวน 55 ขั้น และจากชั้นที่ 2 ขึ้นไปยังชั้นที่ 3 จำนวน 39 ขั้น จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 00:16:51

ความคิดเห็นที่ 40 มุมมองมุมสูงจากหอวิฑูรทัศนา  ซึ่งจะเห็น"พระที่นั่งเวหาศน์จำรูญ"ได้อย่างสวยงาม แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 54 00:21:53 จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 00:20:24

ความคิดเห็นที่ 41 อีกภาพกับ"พระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียร" จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 00:22:56

ความคิดเห็นที่ 42 หวัดดียามดึกครับพี่น้อย พาไปเที่ยวอยุธยาแล้วมีพาไปหม่ำกุ้งแม่น้ำเผาด้วยไหมครับเนี่ยะ จากคุณ : Coffee Blended เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 00:26:45

ความคิดเห็นที่ 43 "พระที่นั่งเวหาศน์จำรูญ" พระที่นั่งเวหาศน์จำรูญ เป็นพระที่นั่งสองชั้น สถาปัตยกรรมแบบจีน ตั้งอยู่ภายในพระราชวังบางปะอิน สร้างในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในปี พ.ศ. 2432 จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 00:31:33

ความคิดเห็นที่ 44 ยินดีต้อนรับครับคุณกาแฟ  Coffee Blended  ยามสิ้นเดือนแบบนี้กุ้งแม่น้ำไม่ได้เห็นหรอกครับ อย่างดีก็แค่กุ้งแห้ง...พอไหวมั้ยครับ ................................................................................................. พระที่นั่งองค์นี้มีนามในภาษาจีนว่า เทียน เม่ง เต้ย (天明殿 อ่านแบบจีนกลางว่า เทียน หมิง เตี้ยน) แปลเป็นไทยว่า พระที่นั่งฟ้าสว่าง (เทียน แปลว่า เวหา , เม่ง แปลว่า จำรูญ , เต้ย แปลว่า พระที่นั่ง) ใช้เวลาในการสร้างประมาณ 10 ปี และเป็นพระที่นั่งองค์สุดท้ายที่สร้างขึ้นในรัชกาลที่ 5 จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 00:34:34

ความคิดเห็นที่ 45 ด้านใน"พระที่นั่งเวหาศน์จำรูญ" ไม่สามารถถ่ายภาพได้เหมือนเช่นพระที่นั่งอื่นๆ แต่สามารถถ่ายภาพได้ด้านหน้าพระที่นั่งบริเวณที่จัดให้ถ่ายภาพได้โดยเฉพาะ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 00:40:55

ความคิดเห็นที่ 46 บนหลังคาพระที่นั่ง เป็นศิลปะแบบจีนที่สวยงามล้วนๆ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 00:42:31

ความคิดเห็นที่ 47 ตุ๊กตาสิงห์จีนโบราณ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 00:44:05

ความคิดเห็นที่ 48 ส่วนพระตำหนักฝ่ายใน  อนุสาวรีย์สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์และอนุสาวรีย์ราชานุสรณ์  ไม่ได้เข้าไปถ่ายมาให้ชมเพราะเวลามีจำกัด ไว้โอกาสจะไปเก็บภาพมาให้ชมอีกครั้งนะครับ นอกจากนี้ยังมี"ประตูน้ำ"ที่เชื่อมระหว่างพระราชวังบางปะอินกับแม่น้ำด้านนอก จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 00:48:36

ความคิดเห็นที่ 49 จบแล้วครับสำหรับรีวิวพระราชวังบางปะอิน ไว้จะกลับมารีวิวอีกหนึ่งสถานที่ที่อยู่ใกล้กับพระราชวังบางปะอินแห่งนี้ นั่นก็คือ "วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร" ซึ่งเป็นวัดที่สวยงามเป็นอย่างยิ่ง   สำหรับวันนี้โชคดีราตรีสวัสดิ์นะครับ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 00:51:17

ความคิดเห็นที่ 50 ...ตามมาเที่ยวอยุธยาด้วยคนนะคะ   ไม่ได้แวะไปเที่ยวพระราชวังนานมากแล้วค่ะ ส่วนใหญ่ไปที่อื่นซะมากกว่าที่บ้านชอบไปไหว้พระมากๆ ค่ะ  ^-^ จากคุณ : จูลายกะปลายฟ้า ^-^ (ปลายฟ้าที่ภูตะวัน) เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 02:25:36

ความคิดเห็นที่ 51 สวยงามมากครับ  ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 02:38:45

ความคิดเห็นที่ 52 เห็นแล้วคิดถึงวัยเด็กที่โรงเรียนจัดทัศนศึกษา ไม่ได้ไปนานมากๆ ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 06:41:19

ความคิดเห็นที่ 53 กาลครั้งหนึ่งเคยไปมาแล้ว รีวิวนี้ชมแล้วสบายใจสบายตา รูปสวยสดใสมากๆครับ ขอบคุณนะครับ จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 07:12:49

ความคิดเห็นที่ 54 ตามไปด้วยคนครับพี่น้อย ได้ไปกินกุ้งตัวโตๆ หรือเปล่า จากคุณ : นายโอเลี้ยง (ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง) เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 08:23:14

ความคิดเห็นที่ 55 สถานที่นี้ ไม่ได้ไปนานนนนนนมากแล้วครับ เค้าปรับปรุงให้สวยงามขึ้นเยอะเลย รอชม วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร ต่อนะครับ แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 54 08:32:40 จากคุณ : Koon Shy_Tour Dee เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 08:31:59

ความคิดเห็นที่ 56 ยังไม่เคยไปเลยครับ ขอชมผ่านคุณน้อย ไปก่อนนะครับ ขอบคุณมากครั จากคุณ : One Light One Shadow เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 08:57:56

ความคิดเห็นที่ 57 ขอบคุณที่พาเที่ยวค่ะ  รูปสวยมากๆ จากคุณ : สาวหน้าใส เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 09:33:29

ความคิดเห็นที่ 58 สวัสดีครับ ตามมาเที่ยวด้วยคนนะครับ ภาพสวยชวนให้อยากเที่ยวมากครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : declare01 เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 09:46:50

ความคิดเห็นที่ 59 ไปเที่ยวมาก็หลายครั้ง   แต่มารู้ข้อมูลจากคุณน้อยวันนี้นี่เองค่ะ จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 09:47:53

ความคิดเห็นที่ 60 ขอบคุณมากๆครับผม จากคุณ : digimontamer เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 10:15:40

ความคิดเห็นที่ 61 ขอบคุณมากครับ สงสัยพรุ่งนี้ต้องตามไปเที่ยวบ้างแล้วหละ จากคุณ : พนบ. เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 10:40:35

ความคิดเห็นที่ 62 สวยมากเลยค่ะ ไม่ได้ไปนานแล้วที่นี้ จำได้ที่บ้านพาไปเมื่อตอนยังเด็กอยู่เลย ขอบคุณสำหรับรีวิวสวยๆนะค่ะ จากคุณ : เขื่อนขัน เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 10:52:33

ความคิดเห็นที่ 63 ขอบคุณมากครับ ส่วนตัวผมเคยไปที่บางปะอินล่าสุดเกือบ 2 ปีมาแล้ว ว่างๆคงต้องหาโอกาสกลับไปเยือนอีกครับ จากคุณ : Destiny-Boy เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 11:32:49

ความคิดเห็นที่ 64 ตามพี่น้อยไปบางปะอิน ด้วยค่ะ ตอนเด็กๆ คุณครูชอบพาไป ทัศนศึกษาที่นี่... ตอนโตหน่อย ไม่ค่อยได้ไปเที่ยวเลยอ่ะ ตามไปชมภาพสวยๆค่ะ^^ จากคุณ : hollaneung เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 13:42:57

ความคิดเห็นที่ 65 ตามมาเที่ยวด้วยค่า ไปกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ จากคุณ : Bpearl เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 18:15:36

ความคิดเห็นที่ 66 ตามมาเที่ยวด้วยครับ จากคุณ : Red Fox เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 21:20:25

ความคิดเห็นที่ 67 สวยมากครับ อยากไปอีกจัง ... เคยไปตั้งแต่ยังเด็กๆนู่น จากคุณ : แมลงภู่บนหูกระต่าย เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 54 02:57:38

ความคิดเห็นที่ 68 เคยไปหลายครั้งเหมือนกันค่ะ แต่ตั้งแต่สนใจหัดถ่ายรูปก็ยังไม่มีโอกาสไปอีกเลยอ่ะ จากคุณ : BROWN STITCH เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 54 11:30:39

ความคิดเห็นที่ 69 ชอบที่นี่เหมือนกันค่ะ  สถาปัตยกรรมสวยๆทั้งนั้นเลย  เดินชมจนทั่ว  ร้อนแดดดีแท้ ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ จากคุณ : Red-Rose-14Feb เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 54 01:29:15

ความคิดเห็นที่ 70 สวัสดีครับพี่น้อยตามมาเที่ยวพระราชวังบางประอินด้วยคนนะครับ ผมไม่ได้ไปที่นี่นานมากแล้ว ล่าสุดที่ไปก็ย้อนไปหลายปีอยู่ครับ ตอนนั้นไปถ่ายรูปกับทริปของมหาวิทยาลัย เห็นแล้วก็อยากไปเที่ยวชมอีก ขอบคุณสำหรับภาพสวย ๆ ที่นำมาฝากกันนะครับ จากคุณ : P.S. i love you เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 08:23:28

ความคิดเห็นที่ 71 เคยไปล่าสุดตอนอยู่ ม.3 นานมากกกกกกกแล้ว ยังสวยงามเหมือนเดิมเลยนะคะ ขอบคุณคุณ noi ค่ะ จากคุณ : Yai Klong_Tour Rai เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 22:36:14

ความคิดเห็นที่ 72 ตามไปเที่ยวด้วยครับ จำไม่ได้แล้วว่าครั้งสุดท้ายที่ไปนี้กี่ปีมาแล้ว จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 54 16:19:25