ผมเพิ่งกลับมาจากอุดรเองครับ
อยากบอกว่า ช่วงนี้ฝนตกตลอดเลย เปาะแปะเสียเป็นส่วนใหญ่ โครมครามก็มีบ้าง แต่ไม่ตลอด แม้บางช่วงถ้าคุณไม่เจอฝนก็จริง แต่ท้องฟ้าก็ไม่ใสเท่าไหร่
ส่วนสถานที่ท่องเที่ยว ถ้าเน้นธรรมชาติ และเป็นผู้ใหญ่ไปได้ภายในวันเดียวล่ะก็ คงเป็นอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาทครับ อยู่ที่อำเภอบ้านผือ ไปดูรูปทรงหินแปลกประหลาดมากมายที่เกิดจากการกัดกร่อนมานานนับพันปี เดินชมไปเรื่อยๆก็เพลินดีครับ มีก้อนหินที่วางซ้อนทับกันหลากหลายรูปแบบจนเป็นถ้ำและหินเพิงต่างๆ ที่เด่นๆก็คือ ตำนานรักที่หอนางอุษา รูปเขียนร่องรอยทางอารยธรรมที่ถ้ำวัวถ้ำคน และวิวทิวทัศน์ที่ผาเสด็จ เป็นต้น จริงๆยังมีอีกเยอะนะครับ ค่อยๆเดินดูไป หลังจากนั้นก็ไปไหว้พระที่วัดพระพุทธบาทบัวบกต่อก็ได้ เพราะอยู่ในแถบเดียวกัน แล้วค่อยกลับ (เมื่อก่อนยังไม่มีใครค้นพบถ้ำและหินเพิงที่ภูพระบาทเยอะขนาดนี้จนต้องทำถนนขึ้นมา ชาวบ้านก็ต้องเดินขึ้นเขามาวัดนี้เอง ข้าพเจ้านับถือเลย)
หรือถ้าเน้นทริปจัดเบาให้กับพ่อแม่ของคุณ ก็คงเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบ้านเชียง และถ้ายังมีเวลาอยู่ ลองไปดูตำนานลึกลับเหนือธรรมชาติกับบรรยากาศพิศวงชวนเสียวสันหลังที่เมืองคำชะโนดก็ได้ Unseen Thailand อีกที่นึงของเมืองไทย แล้วค่อยกลับเด้อ
จริงๆ หน้าฝนแบบนี้ สถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสมที่สุดก็คงหนีไม่พ้นน้ำตกครับ และหนึ่งในน้ำตกที่ผมขอแนะนำเป็นที่สุดในจังหวัดอุดรธานี ก็คือ น้ำตกยูงทองกับน้ำตกตาดน้อยครับ อยู่ที่อุทยานแห่งชาตินายูง-น้ำโสม ช่วงนี้น้ำแรงมาก เสียงดังกึกก้องลั่นป่าเลยครับ ผมชอบธรณีวิทยาโดยรอบของน้ำตกที่นี่มาก มันแปลกตาไปด้วยก้อนหินที่ไม่ค่อยเหมือนใคร แต่ขอบอกว่า เส้นทางไปน้ำตกยูงทองลื่นมาก เพราะเอกลักษณ์ของน้ำตกที่นี่ก็คือ ก้อนหินยักษ์ใหญ่มากมายที่อยู่รายล้อมรอบตัวน้ำตก ใครเข้าไป ต้องทรงตัวให้ดีๆเพราะลื่น เนื่องจากน้ำจากน้ำตกกระเซ็นก้อนหินไปทั่วเลยครับ แต่วิวสวยแปลกดีจัง ถ้าใครกลัว ก็อยู่บริเวณบันไดได้ ไม่ต้องเดินข้ามหินไป
ออกจากน้ำตกยูงทอง พอเดินเลาะตามเขาขึ้นไปเรื่อยๆ ก็เป็นน้ำตกตาดน้อยครับ แต่ต้องเดินเก่งหน่อยนะ จะผ่านลำธารเล็กๆช่วงนึงก่อน น้ำตกตาดน้อยก็น่ารักดี มันเป็นชั้นๆก่อนจะไหลสู่เบื้องล่าง
เมื่อเดินผ่านน้ำตกตาดน้อย ก็จะเจอเส้นทางศึกษาธรรมชาติ แต่แนะนำว่า ให้ไปกับเจ้าหน้าที่นะครับ ถ้ายังไม่เคยไป เพราะเส้นทางเดิมถูกหญ้าขึ้นปกคลุม ไม่มีใครทำทางเลย หลงได้ง่ายๆ (เพราะตัวผมเองก็เกือบหลงมาแล้วตอนไปครั้งแรก ตอนนั้นแอบใจแป้วด้วยเพราะฉายเดี่ยวเดินคนเดียว) เดินไปเรื่อยๆแต่ไกลเหมือนกัน ก็จะถึงผาแดง บริเวณหน้าผา สามารถมองทิวทัศน์จากบนผาได้ทั่วเลยครับ ใกล้ๆหน้าผายังมีพระพุทธรูปให้กราบไหว้ด้วย
อีกจุดหนึ่งของอุทยานนี้ก็คือ ถ้ำปลาครับ ทีแรกผมก็นึกว่า มันจะมีถ้ำ แล้วมีบ่ออะไรสักอย่างในถ้ำนั้นที่มีปลาเยอะๆ แต่ไปๆมาๆ ทำไมมันมีแต่ก้อนหินใหญ่ให้ปีนป่ายตลอดทาง แถมมีหลุมระหว่างหินก้อนใหญ่ๆที่มีน้ำตกไหลผ่านอยู่ บางช่วงอันตรายด้วย เพราะลื่นอันเนื่องมาจากความชื้น โอกาสบาดเจ็บมีสูง แขนขาต้องประสานกันให้ดี จนในที่สุดผมก็ถึงบางอ้อว่า ที่แท้ถ้ำปลาก็หมายความถึงช่องว่างระหว่างหินใหญ่ๆที่มีน้ำตกไหลผ่านนี่เอง เราต้องคอยสังเกตเสียงน้ำตามบริเวณหลุมต่างๆเอา แปลกดีเหมือนกัน แต่ผมไม่เห็นปลานะ อ้อ ยิ่งปีนเข้าไปลึก ยิ่งอันตรายครับ บางช่วงเป็นก้อนหินใหญ่ที่ชัน เราต้องพยุงตัวกับต้นไม้และก้อนหินยักษ์ลูกเดียว สุดๆไปเลย ผมเผลอลื่นไปทีนึง แต่เกาะได้ทัน ตอนนั้นยอมเสี่ยงเพราะได้ยินเสียงน้ำตก(ที่เป็นไฮไลต์แน่นอน)จากหลุมบนก้อนหินยักษ์ที่อยู่ปลายทาง เลยอยากเห็นกับตาสักครั้ง แล้วก็สมใจ สรุปก็คือ น้ำที่ไหลผ่านตามช่องก้อนหินยักษ์เหล่านี้ ก็มาจากเส้นทางของน้ำตกยูงทองนั่นเอง
หมายเหตุนิดนึงนะครับ เมื่อก่อนไปคนเดียวเลยไม่รู้ เห็นป้ายทางเข้า แยกเป็น 3 ทางคือ ผาแดง น้ำตกยูงทอง และถ้ำปลา ก็เลยเดินไปทีละช่อง ปรากฏว่า เดินไปทางน้ำตกยูงทองและน้ำตกตาดน้อยก่อน แต่หญ้าขึ้นรกจนไม่เห็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ผมเลยถอยกลับ (อุตส่าห์ไปได้ไกลแล้วด้วย) แล้วลงมา กลับไปทางแยกเพื่อไปผาแดงต่อ อยากบอกว่า เล่นเอาลมจับจนหอบเลยครับ เพราะจริงๆมันคือทางลงจากผาแดง แต่เราไปเดินขึ้น เนื่องจากคุณต้องไปดูผาแดงโดยเดินผ่านเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่น้ำตกตาดน้อยโน่น ก็หญ้าดันขึ้นรถขนาดนั้นน่ะ หลงทางแน่นอน ใครจะไปล่ะครับ เลยกลายเป็นผมไปเดินย้อนศรขึ้นผาแดง เหนื่อยสุดชีวิตเลย บันไดไม่รู้กี่ร้อยขั้น จริงๆถ้าเจ้าหน้าที่คอยมาทำทางเส้นทางศึกษาธรรมชาติหน่อย มันก็คงไม่เป็นแบบนี้หรอก ผมติงเจ้าหน้าที่อุทยานไปเหมือนกัน เมื่อมารู้ความจริงตอนขากลับ เฮ่อ! (เหนื่อยกว่าเดินขึ้นปราสาทเขาน้อยสีชมพูที่จังหวัดสระแก้วมาก) แต่คิดไปคิดมา มันก็เป็นสีสันของชีวิตที่ไม่ลืมเช่นกัน เย้! ^^
หมายเหตุอีกนิด จังหวัดอุดรธานียังมีที่เที่ยวธรรมชาติอีกเยอะเลย แต่อยู่นอกเมืองหมด ที่ผมพูดมานี่ ต้องมีรถด้วยนะครับ ^^ (หรือถ้าอยากไปจังหวัดที่ 77 ของประเทศไทย นั่นคือ บึงกาฬ ผมก็แนะนำที่เที่ยวได้เช่นกันครับ)
ขอนำรูปก้อนหินบริเวณถ้ำปลามาให้ดูนะครับ ตลอดทางปีนแต่หินก้อนใหญ่ๆ ที่นี่มีธรณีวิทยาตลอดทางของน้ำตกที่แปลกตาครับ อย่างเช่น เส้นทางของน้ำตกของถ้ำปลานี่แหละ
จากคุณ |
:
ตี๋หล่อมีเสน่ห์
|
เขียนเมื่อ |
:
19 ก.ค. 54 18:15:12
|
|
|
|