 |
ในช่วงของพระกระยากลางวันที่ผ่านมา..ดูเหมือนว่าฉันจะเป็นคนผู้ขาดการสนทนาอยู่ผู้เดียว เพราะใครต่อใครทราบดีว่า..ในพระทัยของพระเจ้าอัลฟองโซนั้นคงมีแต่ความหมองเศร้า..จากเหตุการณ์ที่ผ่านมาที่เป็นเหตุต้องพลัดบ้านพลัดเมือง... แต่ขณะนี้เราอยู่กันสองคน...ซึ่งฉันได้เตรียมตัวต่อการที่จะถามในคำถามสั้นๆ แต่รู้ดีว่า มันลึกซึ้ง กินใจ อีกทั้งเป็นเรื่องยาว...ว่า "แล้วมันเกิดขึ้นได้อย่างไร...มันช่างรวดเร็ว อีกทั้งเกินความคาดคิดของใครๆ เพราะเราต่างทราบกันดีว่า พระองค์ทรงเป็นที่รัก..ชื่นชอบและป๊อปปูล่าร์ที่สุดในสเปน"
เหมือนจะทรงทราบว่าฉันจะถามอะไร เพราะคำตอบทั้งหมดนั้น...ท่านเตรียมไว้แล้ว.. "การปฏิวัติครั้งสุดท้ายนั่น...มันเป็นเรื่องที่ใครก็ขบไม่แตกถ้าหากว่าเขาไม่ได้มาอยู่กับฉันตลอดสามสิบปีในการครองราชย์ ความยุ่งยากทั้งหลายแหล่ในสเปนนั้น มันมีมาก่อนฉันเกิดมาในโลกนี้เสียอีก ทุกอย่างมันต่อเนื่องมาจนฉันเกิด จนแม้กระทั่งก้าวแรกที่เดิน ซึ่งฉันไม่มีทางเลือกอื่นใด..." คำพูดของพระองค์นั้น..ฉันรู้สึกคุ้นยังไงบอกไม่ถูก...จนชักสงสัยว่า หรือนี่ฉันอยู่ที่ Czarskoie-Selo กับซาร์นิโคลาสในปี 1917 หรือ อยู่ที่ Fountainbleau กับพระเจ้าอัลฟองโซ ที่สิบสาม ในปี 1931 กันแน่?
พระองค์ทรงเปลี่ยนพระอิริยาบท และ มีแย้มพระสรวลนิดๆ ซึ่งฉันไม่แปลกใจ เพราะพวกเจ้าพวกนายเนี่ย..เขาเปลี่ยนสีหน้ากันได้รวดเร็วอย่างนี้แหละ จากนั้นพระองค์ได้ย้อนความของบรรพบุรุษเชื้อสายจาก Holy Roman Empire มาถึงพระองค์ที่เป็น หน่อเนื้อของ Hapsburg และ Bourbon พระชนมายุเพียงสี่สิบห้า เมื่อเทียบกับฉันที่แก่กว่าถึงยี่สิบปีนั้น... แต่ในเส้นทางชีวิตที่ผ่านมา...ฉันกลายเป็นชั้นอนุบาลเมื่อเทียบกับพระองค์เลยทีเดียว พระเจ้าอัลฟองโซ..ถ้าจะว่าไปแล้ว..ทรงประสูติมาพร้อมกับความรับผิดชอบต่อประเทศที่ยิ่งใหญ่เกินตัว... ทรงเล่าไปเรื่อยๆ...มีหยุดบ้างต่อการวิพากษ์และวิจารณ์คนและประเทศที่เกี่ยวข้องด้วยอารมณ์ขันแบบแห้งๆ หรือ อดีตอื่นๆที่ไม่มีอีกแล้วในปัจจุบัน.. รวมไปถึงเรื่องของนโปเลียน...และเรื่องของพระองค์คือ..
พระบิดา...พระเจ้าอัลฟองโซที่สิบสอง..ทรงสิ้นพระชนม์อย่างกระทันหันเพียงพระชนมายุแค่ 28 ในวันที่ 25 พฤศจิกายน 1885 โดยไม่มีรัชทายาทให้ประจักษ์ เพราะพระมารดายังทรงครรภ์ ที่ไม่มีใครทราบว่า พระทารกจะเป็นเพศชาย หรือ หญิง...ทุกคนต่างเฝ้ารอคอยในคำตอบ เพราะมันเป็นจุดเปลี่ยนแปลงของประเทศครั้งใหญ่ ถ้าเป็นพระธิดา หมายความว่า บัลลังก์นั้นจะต้องตกไปอยู่ในสายของทายาท Don Carlos (Don Carlos, the Prince of Viana) ที่สองฝั่งนี้ไม่ลงรอยกันมาตั้งแต่สมัย ควีน อิสซาเบลล่า ที่สอง ครั้ง ปี 1833
ในวันที่ 17 พฤษภาคม 1886 คือวันที่ทุกคนในประเทศต่างรอฟังข่าวจากพระราชวัง..ถึงประสูติกาลของพระราชินีอย่างใจจดใจจ่อ... นายกรัฐมนตรี Senor Sagasta รวมไปถึงผู้นำของบรรดาฝ่ายค้านในรัฐบาล Senor Canovas del Castillo ต่างพากันเดินให้วุ่นในเขตพระตำหนัก ต่างซุบซิบภาวนาถึงความปรารถนาที่อยากให้ประสูติกาลเป็นพระโอรส...
เวลาผ่านไปเป็นชั่วโมงๆ ..หากมันเหมือนเวลาที่ยาวนานราวนิจนิรันดร์แห่งการรอคอย...ในที่สุด...นางพระกำนัลอาวุโสได้เปิดประตูห้องพระประสูติออก...เดินมาหยุดที่ธรณีประตู ในมือของนางพระกำนัลนั้นมีถาดเงิน ที่บุคลุมด้วยผ้าชีฟอง ท่านนายก Senor Sagasta ได้เดินไปเปิดผ้าคลุมออกดู และได้หันมาทางกลุ่มผู้ที่เฝ้าคอย พร้อมกับประกาศก้องด้วยเสียงแห่งชัยชนะว่า "Viva el Rel!!!" (ขอให้พระเจ้าแผ่นดินทรงพระเจริญ)
ซึ่งได้รับเสียงโห่ร้องด้วยความยินดีของประชาชนไปในทุกถนนของกรุงมาดริด รัฐบาลได้เตรียมการเถลิงพระยศ และ พระนามว่า.. "Alfonso XIII, by the Grace of God and the Constitution, the Catholic King of Spain."
จากคุณ |
:
WIWANDA
|
เขียนเมื่อ |
:
14 ธ.ค. 55 16:11:39
|
|
|
|
 |