ความคิดเห็นที่ 1 - Who will live? Who will die? เดาไว้ในใบชิงโชคของเอเชียบุคส์แล้วล่ะค่ะ ตามกระแสนั่นแหละ ดูซิว่าจะได้ไปอังกฤษฟรีหรือเปล่า - Is Snape Good or Evil? เราว่าสเนปเป็นตัวละครที่ซับซ้อนมากนะ อะไรๆ มันไม่น่าจะเป็นไป อย่างที่เห็นหรอก - Will Hogwarts reopen? ไม่น่า เพราะถ้ามัวเรียนด้วย จะเดินเรื่องได้อย่างไรกัน - Who ends up with whom? ไม่กล้าตอบอ่ะ นึกแต่อะไรวายๆ -__-" - Where are the horcruxes? อาจจะอยู่ในที่ที่นึกไม่ถึงก็ได้ ที่นึงที่คิดไว้คือแผลเป็นที่หน้าผากแฮรี่ - Will Voldemort be defeated? แหงแซะ ไม่งั้นจะเขียนมาทั้งหมดนั่นเพื่อ...? ปล. ถ้ากระทู้ล่างยังอยู่ช่วยลบด้วยค่ะ ตั้งแล้วมันไม่แตกประเด็นง่ะ จากคุณ : the grinning cheshire cat - [ 4 ก.ค. 50 20:27:34 ]

ความคิดเห็นที่ 2 คงเลือกปก US ตามที่ซื้อมาตลอดแหละค่ะ   แอบดีใจว่ารูปแบบปกคงเส้นคงวาดี ...แม้ว่าจะชอบทำแบ็คกราวด์สลัวมัวซัวเสียเหลือเกินในสองสามเล่มหลัง   (อันที่จริง เก็บชุด UK อีกแบบ  แต่ไม่ชอบปกเล่มจบนี้เลย เลิกเก็บเสียดีไหมเนี่ย T^T) เดี๋ยวค่อยมาดูคำถามค่ะ บอกตามตรงว่าเริ่มลืมเรื่องฮอร์ครักซ์ไปแล้วล่ะ  มันมีกี่อันหว่า แต่คิดว่าสุดท้ายแล้ว คงเปิดฮอกซ์วอตส์อยู่ดี   และป๋าสเนปเป็นคนดี (นิสัยร้าย) ชัวร์ แก้ไขเมื่อ 05 ก.ค. 50 23:55:51 จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 5 ก.ค. 50 00:36:02 ]

ความคิดเห็นที่ 3 มาตอบคำถาม ข้อ 2 ตามที่ใจคิดนะคะ เกี่ยวกับสเนป ถ้าไม่เสียสละ ก็ไม่ได้ชัยชนะค่ะ อย่างไรอย่างไรก็เชื่อใจ ดัมเบิ้ลดอร์ เสมอ พ่อมดที่เก่งที่สุดแห่งยุค ผู้ซึ่งไม่แคร์อะไรนอกจากรูปตัวเองบนกระดาษห่อกบช๊อคแล็ต ไม่น่าจะมองคนผิดพลาด ไม่รู้เจ๊ เจ.เค. แกมีปมอะไรหรือเปล่ายิ่งเขียน ยิ่งมีคนตายเยอะแยะไปหมด เล่ม 5 เราโกรธทีหนี่งแล้วที่มาแต่งให้คนที่เราชอบตาย เล่ม 6 นี่ยิ่งแล้วใหญ่ อ่านจบก็ว่าจะไม่อ่านต่อแล้ว แต่งอย่างนี้ ทำร้ายจิตใจกันชัดๆ นี่เห็นว่าเล่ม 7 เป็นเล่มสุดท้ายแล้ว อ่านต่ออีกหน่อยก็ได้ แกจะให้ใครตายสักกี่คนก็ไม่เป็นไรแล้วมั้ง เล่นตายกันเกือบหมดแล้วนี่ เมื่อวานไปดู ทรานส์ฟอร์เมอร์ มา เลยนึกถึง พ๊อตเตอร์ขึ้นมา อิ อิ อาจจะจริงนะ จากคุณ : ผ่านมา - [ 5 ก.ค. 50 10:31:12 A:124.121.60.222 X: TicketID:105357 ]

ความคิดเห็นที่ 4 คิดว่า ดัมเบิ้ลดอ ส่งสเนป ไปเป็นสายสืบ เพราะ ไม่มีใครที่จะรู้หรอกว่า ฮอร์ครักซ์ จะอยู่ที่ไหนได้บ้าง นอกจาก ตัว โวล........(.ไม่กล้าออกชื่อน่ะ ) เอง เลยต้องส่ง สเนปไป สืบ สุดท้าย แฮรี่ ก็ฆ่าสเนป ด้วยความเข้าใจผิด และสเนป ก็บอกแหล่ง ฮอร์ครักซ์ ทั้งหมด ซึ่งมีอันหนึ่งอยู่ที่สแนปเอง (จากตอนจบของเล่ม 6) ตอนจบแฮรี่ ก็ต้องเสียใจ ที่ฆ่าคน บริสุทธิ์ เช่นสเนป ทำให้แปลงร่างเป็น โวล.........ไปอีกคนหนึ่ง และลูกหลานของ สแนป ก็ตาม ฆ่า แฮรี่ต่อไป เป็นเล่ม 8 -14 น่ะ เป็นไง จบได้สะใจ เจ๊ เจ.เค. ดีนะ ถ้าเป็นแบบนี้ได้ จากคุณ : ผ่านมาอีกที - [ 5 ก.ค. 50 10:40:49 A:124.121.60.222 X: TicketID:105357 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ไม่มีใครมาตอบเลยเหรอ (นึกว่าจะนั่งอ่านเพลิน ๆ เสียหน่อย) ตอนนี้กำลังสงสัยว่าพ่อของทอม ริดเดิ้ลมีลูกคนอื่นนอกจากทอมรึเปล่า   เพราะเจ.เค. สละเนื้อที่เล่ม 6 มาเล่าความเดิมตั้งเยอะ  ถ้าไม่มีเบาะแสใหม่ซ่อนอยู่ในเล่ม 6 ก็เสียดายแย่  (อุตส่าห์เขียนซะหนาเชียว) เพราะงี้แหละ เลยเชื่อนิด ๆ เวลาใครเดาว่าเจมส์ พ่อแฮรี่เป็นเชื้อสายของทอม  แฮรี่เองยังเหมือนลอร์ดโวลฯ ตั้งหลายอย่าง  ถ้าสุดท้ายจะกลายเป็นมนุษย์ 2-in-1 ก็คงไม่แปลก ... แต่ที่ว่ากันว่าเพตทูเนียสืบเชื้อสายทอม ริดเดิ้ลมา?   เป็นไปได้นะ แต่ไม่เชื่อน่ะ จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 11 ก.ค. 50 10:53:53 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ดูแต่หนังอะ เลยล้าหลังกว่าชาวบ้านเล็กน้อย แต่ว่าจะซื้อเก็บเหมือนกัน แก่ตัวไปจะได้แงะออกมาอ่าน อิอิ จากคุณ : มณฑารัตน์ - [ 15 ก.ค. 50 16:34:25 ]

ความคิดเห็นที่ 7 พี่น้องเรามานัดมีตติ้งกันเหอะ อยากเจอๆ อยากกินๆ จากคุณ : มณฑารัตน์ - [ 15 ก.ค. 50 16:35:54 ]

ความคิดเห็นที่ 8 อ่า ... เข้ามาหนับหนุนหนูปุ๋ยจ้า มีทติ้งกันซักทีก็ดีเน้อออ แต่ถ้านัดแล้ว ห้ามลืมชวนเราด้วย ไม่งั้น โกดดดด (โดยเฉพาะยายติ่ม ไม่ได้เจอกันชาตินึงแล้ว โทรหาก็ดันเลิกใช้เบอร์เดิมซะอีก วุ้ย ยุ่งจริง หนีหนี้หรือยะ) จากคุณ : petitfour - [ 17 ก.ค. 50 09:45:54 ]

ความคิดเห็นที่ 9 มาเล่นด้วยๆ ไม่ได้จองค่ะเพราะคิดว่า Kinokuniya น่าจะถูกอยู่แล้ว เลยกะไปสอยเอาวันนั้นแหละ ^^" คงซื้อปก UK Children เหมือนเดิมจะได้เข้าชุดกัน ระยะเวลาที่อ่าน HP มีตั้งแต่ 4 ปีจนถึง 2 วันค่ะ เอิ๊ก (เล่ม 1 อ่านอยู่นานม้ากกก น่าเบื่อสุดๆ ค้างไว้เกือบๆ 4 ปี - -" เล่มสองไม่ได้อ่าน เล่มสามอ่านตอนอยู่บนเครื่องบิน ส่วนเล่มหกประมาณ 2 วัน) - Who will live? Who will die? คนรอดคงเยอะ (แฮร์รี่ จินนี่ สองคนนี้ลอยตัวอ่ะค่ะ ไม่คิดว่าเจเคจะกำจัดทิ้ง เนวิลล์ จินนี่ เฮอร์ไมโอนี่ แมคกอนากัล ฯลฯ) ส่วนที่ตาย...เดาว่าโวลดี้ (ก็ผู้ร้ายนี่นา เอิ๊ก) สเนป เบลลาทริกซ์ รอน (คิดว่าต้องตายเพื่อสร้าง impact ให้แฮร์รี่ ถ้าเจเคทำได้ลงนะ ฮา) พี่ๆไม่ก็พ่อแม่รอนสักคน (เราเดาว่าน่าจะโดนลูกหลง ไม่อยากให้เป็นแฝดอ่ะ ขอเป็นคนอื่นละกันนะ) ลูปิน (ไหนๆรุ่นพ่อก็ไปหมดละ เอาไปอีกคนละกันจะได้ครบๆ - -")   - Is Snape Good or Evil? ไม่คิดว่าสเนปจะ evil ล่ะ (เพราะโดยส่วนตัวคิดว่าเป็นตัวละครที่เจเคตั้งใจให้ออกมาเป็นสีเทามากเกินไป จนมั่นใจ 99.99 เปอร์เซนต์ว่าไม่หักหลังแหงๆ - -") แต่อาจจะไม่ใช่คนใจดี - Will Hogwarts reopen? คิดว่าเปิดทำการอีก (แมคกอนากัลเป็น head คนต่อไป...เดาๆ)   - Who ends up with whom? แฮร์รี่กับจินนี่ รอนกับเฮอร์ไมโอนี่ (แต่เรายังคิดว่าน้องรอนไม่น่า่รอดอยู่นะ กร๊าก) ลูปินกับ Tonks (ไม่ชอบคู่นี้เลย แต่มันก็มีแววมาตั้งแต่เล่มที่แล้ว เอาน่ะ คิดว่ายังไงลูปินก็ไม่รอดอยู่ดี) - Where are the horcruxes? ข้อนี้ไม่ได้เดาไว้ แต่ตัวแฮร์รี่เองก็น่าจะมีสักชิ้นเนาะ (เว้นแต่เจเคจะหักคอคนอ่าน อืมม์...) - Will Voldemort be defeated? แน่นอน จากคุณ : scarborough - [ 18 ก.ค. 50 14:26:08 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เพิ่งไปเจอกระทู้สปอยล์มา เห็นเขาว่าแกะมาจากต้นฉบับที่ดูเป็นรูปเล่มเหมือนจริงมาก (เห็นรูปแล้วก็รู้สึกว่าเหมื๊อนเหมือน) แต่ถ้าเนื้อเรื่องเป็นอย่างที่เขาสรุปไว้  คงช็อคนะ เพราะเดินเรื่องไวมาก ตัวละครไม่คุ้นชื่อโผล่มาแล้วก็มีบทเด่นเลย ตอนนี้เลยรู้สึกว่าเรื่องจะให้ใครอยู่ใครตายก็ได้  ขอแต่ให้มีเหตุผลละกัน เพิ่งจองหนังสือไปไม่ถึงอาทิตย์ คิโนะก็ออกโปรโมชั่น Early Bird 590 บาท ช็อคไปเลย เรา... ไว้นัดเจอกันก็ดีค่ะ  แต่แน่นอนว่าคงไม่ใช่ช่วงนี้ แหะแหะ (เต๋อสุดที่รัก หนีหนี้อะไรก๊านน  หนี้หัวใจอ๊ะเปล่า? เอิ้กๆๆ) จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 20 ก.ค. 50 05:43:03 ]

ความคิดเห็นที่ 11 สวัสดีค่ะทุกคน พี่ติ่มคะ ที่คิโนะ 590 บาทน่ะต้องไปแย่งกับเขาซื้อนะเพราะมีจำกัดแค่ 300 เล่มเอง แถมเปิดขายตั้งแต่เช้าตรู่ 6โมง วันนี้อยู่ระยองล่ะ อยากรีบๆกลับกทมคืนนี้เลย เพราะต้องการไปรับหนังสือให้เร็วที่สุด อยากอ่านมากกกกกกๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อ้อ มาสนับสนุนคุณปุ๋ยนะคะ นัดมีทติ้งกันเมื่อไร โทรชวนตาลด้วยนะ อยากไป (แต่ปลายเดือนนี้ไม่ว่างนะคะ ต้องไปมาเลย์อีกแล้ว) ตอบคำถามก่อน - Who will live? Who will die? ถ้าบอกว่าให้ตายทั้งคู่เลยจะได้มั้ยเนี่ย - Is Snape Good or Evil? คิดว่าสุดท้าย ท้ายสุด คงจะเป็นคนดีค่ะ - Will Hogwarts reopen? คิดว่าเปิดนะ ไม่เห็นมีเหตุผลที่จะต้องปิดนี่นา - Who ends up with whom? รอนกับเฮอร์ไมโอนี่  คู่เดียวพอ - Where are the horcruxes? ไม่รู้เหมือนกัน - Will Voldemort be defeated? ชัวร์อยู่แล้น จากคุณ : Angel Eyes - [ 20 ก.ค. 50 09:23:59 ]

ความคิดเห็นที่ 12 คิโนะทำเกินไปมากเลยค่ะ ไม่เห็นหัวคนที่จองกับเขา เอาเิงินให้เขาไป หมุนก่อนเลย ตอนเห็นโปสเตอร์หน้าร้านโมโหมากๆๆๆๆๆ แถมยังส่งใบปลิว มาชวนทางไปรษณีย์ซ้ำเข้าไปอีก จะุบอกว่าคนที่เป็นแฟนพันธุ์แท้น่ะ เขาก็จองตั้งแต่เปิดให้จองวันแรกๆ แล้ว แล้วมาทำงี้ได้ไงฟะ งอน งอน จากคุณ : the grinning cheshire cat - [ 20 ก.ค. 50 15:01:02 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เพิ่งอ่านเจอในหนังสือพิมพ์ Bangkok Post อันนี้ยิ่งแล้วใหญ่ ใช้แต้ม the 1 Card 4,800 points แลกฟรีหนังสือ Harry Potter #7!!!! อันนี้น่าจะคุ้มสุดเลยเนอะ เอามาฝากเผื่อใครยังไม่ได้จองหนังสือเนอะ จากคุณ : Angel Eyes - [ 20 ก.ค. 50 17:59:18 ]

ความคิดเห็นที่ 14 แวะเข้ามาทักทายค่ะ นานๆ เข้ามาตามกระแสที เดี๋ยวนี้รู้แกว ไม่ซื้อแล้วตอนออกใหม่ๆ แย่งกันซื้อนี่ เมื่อเดือนก่อน ได้ฉบับแปลจาก B2S ภาค 5 และ 6 ปกแข็งด้วย ลด 70% น่ะค่ะ จากคุณ : tc - [ 21 ก.ค. 50 11:16:27 A:125.26.66.38 X: TicketID:046716 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ตกลงว่างานนี้หนังสือหลุดก่อนวันแรกจำหน่ายขนานแท้ค่ะ มีทั้งเรื่องย่อที่คนอ่านแล้วมาโพสท์ทีละบท และต้นฉบับสมบูรณ์ให้โหลดไปอ่านเอง อย่างน้อยล่วงหน้า 1-2 วัน เมื่อคืนเลยโหลดแบบเต็มมานั่งอ่านจบไปแล้ว   ช่วงแรกนี่อ่านไม่ละเอียดเพราะกะจับผิดว่าของจริงเปล่า (ยังคงคิดว่าสไตล์ครึ่งเล่มแรกมันเดินเรื่องเร็วผิดฟอร์มจากสองเล่มล่าสุดเยอะเลย) แต่ช่วงหลังนี่แน่ใจแล้ว เลยนั่งอ่านละเอียด สนุกดีอ่ะ วันนี้ไปรับหนังสือปุ๊บ ก็รีบเปิดเช็คเลยว่าไอ้ที่อ่านไปมันใช่จริงไหม แล้วก็...เซ็งงงง  แบบว่ารู้เรื่องหมดแล้ว  จะซื้อไปทำไมฟร่ะ -*- (บ่นไปงั้นแหละ  ตัวเองทำตัวเองนี่นา) กรณีคิโนะเนี่ย 6 โมงก็ไปได้นะ  ช่วงนี้ต้องตื่นเช้าบ่อยอยู่แล้ว เลยเสียดายไงว่าถ้ารู้ก่อนก็คงประหยัดได้ตั้ง 260 บาทแน่ะ พอดีมีโอนหนังสือข้ามสาขามาด้วย  ไปเอาพร้อมกันได้เลย แบบแลกคะแนนสะสมในบัตรก็ดี  ไม่รู้มีมานานยัง ไม่เห็นใครพูดถึงเลย คุณ tc ใจเย็นดีจังค่ะ   สำหรับเรื่องแฮร์รี่เนี่ย ถ้าไม่รีบอ่าน มีสิทธิ์โดนสปอยล์เช้าสายบ่ายค่ำ  ดังนั้น อ่านเองก่อน (แล้วไปสปอยล์คนอื่นแทน ฮา) น่าจะดีกว่า จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 21 ก.ค. 50 17:23:05 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ความคิดเห็นนี้ไม่สปอยล์ค่ะ แต่อันถัดไปจะสปอยล์ อ่านจบแล้วค่า อ่านจบแล้ว แง่ม เมื่อเย็นถูกบังคับให้ไปทำงาน กว่าจะอ่านจบก็ตั้งตีสี่ครึ่งแน่ะ อ่านแล้วชอบค่ะ เจ๊เคเก็บ loose end ได้เกลี้ยงดี (ถึงจะยังสงสัยว่าพ่อแม่แฮร์รี่ทำงานอะไรหว่าก็เถอะ) หลายเรื่องเป็นไปอย่างที่คิด บางเรื่องก็พลิกผันนิดหน่อย แถมตัวละครยังออกเป็นสีเทามากขึ้นด้วย ที่เคยดำก็มีส่วนขาว ที่ขาวจั๊วะก็เจือดำๆนิดหน่อย แฮร์รีกับเพื่อนก็ไม่ได้ฮีโรกันจนเวอร์ แต่ก็ไม่ได้คร่ำครวญเหมือนในเล่ม 5 ประมาณว่าโตขึ้นน่ะ หรือเป็นเพราะเล่ม 5 กับ 6 ไม่ค่อยเวิร์ค เล่มนี้เลยไม่ได้คาดหวังมากก็ไม่รู้ อ้อ ที่รู้สึกว่าเก๋มากก็คือเล่ม 7 ตรงพับปกไม่มีเรื่องย่อแล้วค่ะ เขียนแค่ "We now present the seventh and final installment in the epic tales of Harry Potter" เหมือนจะบอกคนอ่านว่า ถ้าหยิบหนังสือเล่มขึ้นมา ก็คงไม่ต้องนำเสนอแล้วมั้งว่ามีอะไรรออยู่ ขอตอบคำถามคุณเหมียวยิ้ม  แบบสปอยล์ๆนะคะ คิดว่ากว่าทุกคนจะกลับมา ก็คงอ่านกันจบแล้วมั้ง แก้ไขเมื่อ 22 ก.ค. 50 16:50:33 แก้ไขเมื่อ 22 ก.ค. 50 16:50:04 แก้ไขเมื่อ 22 ก.ค. 50 16:35:27 จากคุณ : ทินา (ทินา) - [ 22 ก.ค. 50 16:13:32 ]

ความคิดเห็นที่ 17 อ๋า แก้ไขแล้วค่า ต่อไปนี้สปอยล์สุดใจขาดดิ้น ระวังกันให้ดีนะค้า . . . . . . . เอาล่ะน้า ตอบคำถามมั่ง - Who will live? Who will die?  ก่อนอ่านคิดว่าแฮกริดน่าจะไป ลูปินก็ด้วย เพอร์ซี่อาจจะสละชีพช่วยพ่อแม่  แล้วก็สเนปน่าจะเอาตัวเข้าแลกเพื่อช่วยแฮร์รี่ เนวิลล์เพราะมีบทบาทในคำ  ทำนาย อ้อ Voldy ก็ต้องตายด้วยดิ  อ่านแล้ว : เฮดวิก, มูดดี้, เฟรด, ลูปิน, ทองส์, สเนป, ดอบบี้,  คอลิน ครีฟวี่ย์ แล้วก็ Voldemort เย้  ไม่เคยคิดว่าสามสหายจะตายเลยค่ะ   รู้สึกว่าคนเขียนปูเรื่องโรแมนติกในอนาคตไว้แล้วน่ะ - Is Snape Good or Evil?  ก่อนอ่าน : เมื่อก่อนอ่านจะเคยร้าย แต่ตอนนี้ภักดีกับดัมเบิลดอร์แน่ๆ  หลังอ่าน : คนเลวกลับใจจริงๆ เฮียแกรักเดียวใจเดียวสุดๆเลยนะเนี่ย  ตอนเสก Patronus ให้ดัลเบิลดอร์ดูน่ะ คนอ่านแทบน้ำตาซึม  แต่ว่าเฮียแกตายเงียบไปหน่อยรึเปล่านะ - Will Hogwarts reopen?  ก่อนอ่าน : เปิดสิ  หลังอ่าน : เปิด แต่เปลี่ยนครูใหญ่เป็นสเนป แล้วก็มีครูโหดอีกสองคน  กลายเป็นโรงเรียนสยองไปเลยอะ - Who ends up with whom?  ก่อนอ่าน : แฮร์รี่+จินนี , รอน + เฮอร์ไมโอนี  หลังอ่าน : แน่นอนอยู่แล้ว แต่ที่ลูปินกับทองส์แต่งงานกันนี่แอบอึ้ง  ไม่ใช่ว่าเขาเพิ่งชอบกันเองเหรอ แต่ก็มีลูกแล้วให้แฮร์รีเป็นพ่อทูนหัวด้วย  Circle completes อย่างแรง - Where are the horcruxes?  ก่อนอ่าน : ไม่รู้ แต่คิดว่าตัวแฮร์รี่น่าจะเกี่ยวด้วย  หลังอ่าน : นอกจากน้องงูกับแหวนแล้วก็ไดอารี่ของริดเดิลก็มี   ล็อคเก็ตตัวจริงของเรกูลัสถูกเอาไปขายให้อัมบริดจ์,  ถ้วยของฮัฟเฟิลพัฟฟ์อยู่ในเซฟของเบลลาทริกซ์ที่กริงกอตส์,  รัดเกล้า (?) ของราเวนคลอว์อยู่ในห้องซ่อนของที่ฮอกวอร์ตส์  แล้วก็แฮร์รี่ที่เป็น Horcrux โดยบังเอิญ - Will Voldemort be defeated?  ก่อนอ่าน : แน่นอน  หลังอ่าน : แน่อยู่แล้ว! เย้ รู้สึกว่าแฮร์รี่เล่มนี้เน้นที่ความรักของครอบครัวมากๆเลยค่ะ ทั้งพ่อแม่แฮร์รี ลูปินกับลูก รอนกับพวกวีสลีย์ ทั้งหมดฯลฯ แอบมีประโยคนึงที่แฮร์รี่คิดว่าฮอกวอร์ตส์คือบ้านของเด็กที่ไม่มีใครต้องการอย่างเขา วอลเดอมอร์ต แล้วก็สเนป เห็นเลยว่าความรักในชีวิตทำให้คนที่เริ่มต้นคล้ายกันต่างกันยังไงบ้าง แก้ไขเมื่อ 23 ก.ค. 50 20:03:03 จากคุณ : ทินา - [ 22 ก.ค. 50 16:49:37 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ^ ^ น้องทินา  ใส่คำว่าสปอยล์แล้วเคาะสเปซเพิ่มให้รู้ก่อนดีกว่าไหม? เกิดคนที่ไม่ได้อ่านคห. บนเขาเผอิญเลื่อนมาเจอนี่ ได้ช็อคแน่ อันตรายน่อ (สังเกตไหมว่า 3 คนที่ยึดฮอกวอร์ตส์เป็นบ้านเนี่ย มีภูมิหลังคล้ายกัน คือ เป็นลูกครึ่งมักเกิ้ล สนใจศาสตร์มืด แถมผมดำเหมือนกันอีก .. น่าจะมีแฟนฟิคแบบให้สามคนนี้จับมือกันตั้งแก๊งหรือร่วมกันสู้ดัมเบิลดอร์  คงแปลกไปอีกแบบ 555) พออ่านจบ คิดว่าเข้าใจหมดแล้ว แต่พอไปอ่านกระทู้ในคลับแฮร์รี่แล้วกลับตอบบางคำถามไม่ได้แฮะ  สงสัยอ่านไม่แตก ต้องอ่านอีกรอบ มีความรู้สึกว่าบรรยากาศในการสปอยล์ของเล่มนี้ คึกคักและอุ่นหนาฝาคั่งกว่าที่ผ่านมาเยอะเลยค่ะ  อาจเพราะเป็นเล่มอวสานมั้ง?  แต่รู้สึกดีจัง จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 23 ก.ค. 50 05:12:04 ]

ความคิดเห็นที่ 19 รู้สึกเหมือนกันว่าบรรยากาศในการสปอยล์เล่มนี้มันสนุกจัง คนสปอยล์ก็ระวังตัวไม่ให้กระเทือนคนกลัวสปอยล์เต็มที่ คนที่อ่านแล้ว ก็มาวิเคราะห์กันทุกเม็ด แถมมีคนทำเรื่องย่อให้ก่อนอีกแน่ะ น่ารักจริงๆ จากคุณ : ทินา - [ 23 ก.ค. 50 20:10:55 ]

ความคิดเห็นที่ 20 รออีกแป๊บนะ อีกไม่ถึง 100 หน้าก็จะจบแล้ว ไว้เดี๋ยวมาคุยกัน จากคุณ : Angel Eyes - [ 24 ก.ค. 50 11:36:19 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เย้ อ่านจบแล้วดีใจจัง อุตส่าห์ดาวน์โหลดมาอ่านที่ทำงานเลยนะเนี่ยวันนี้ ไปหากระทู้สปอยเลอร์อ่าน+ตอบดีกว่า ไว้คุยกันนะ จากคุณ : Angel Eyes - [ 24 ก.ค. 50 14:22:10 ]

ความคิดเห็นที่ 22 สวัสดีทุกๆคนค่ะ มีข้อสงสัยข้อนึงอ่ะค่ะ รบกวนถามคนที่อ่านจบแล้วช่วยเฉลยที * * * * * * * * * * * * * * ที่ King Cross ที่แฮรี่คุยกับดัมเบิลดอร์อ่ะนะคะ ไอ้ตัวที่เหมือนเป็นเด็กทารก รึว่า creature อะไรอย่างนึง ที่นอนอยู่ใต้เก้าอี้ คอยทำเสียงอยู่ตลอดเวลา คือตัวอะไรคะ มีความเกี่ยวพันอะไรกับ voldermort รึเปล่า ไม่รู้จะเข้าไปหาคำตอบในกระทู้สปอยล์อันไหน เยอะตาลายไปหมด @_@ ใครรู้ช่วยตอบทีนะคะ แล้วมี plan จะอ่านอะไรกันต่อคะเนี่ย highlight ของปีนี้จบซะแล้ว จากคุณ : kitnan - [ 26 ก.ค. 50 13:19:06 ]

ความคิดเห็นที่ 23 คำถามที่เจ็ดออกแล้วนะคะ แต่เขาไม่ได้เปลี่ยนรูปหน้ารวม เพิ่งกดไปดูค่ะ What are the Deathly Hallows? ค่ะ เป็นคำถามที่ถ้าไม่อ่านนี่ไม่มีทางตอบได้จริงๆ นะเนี่ย ตกลงเราอ่านจบแล้วค่ะ จบตั้งแต่เช้าวันอังคาร วันเสาร์กับอาทิตย์นั่งทำงาน สลับกับขโมยอ่านเป็นพักๆ แล้วพอวันจันทร์ก็รู้สึกว่าไม่มีสมาธิทำงานแล้ว แถมโอกาสเจอสปอยล์ยังพุ่งกระฉูด ก็เลยตัดสินใจมาอ่านจริงๆ จังๆ จนจบ เมื่อเช้าวันอังคารนี่แหละค่ะ ส่วนเรื่องที่จะอ่านต่อไป ตอนนี้กำลังอ่าน Hogfather หนึ่งในชุด Discworld ที่คุณทินาให้ยืมมาอยู่ค่ะ เจอคุณพี่ Death อีกแล้ว สัญจรไปทั่วจริงๆ เล้ย ต่อจากนั้นอาจจะอ่าน After Dark หรือไม่ก็ Travels in the Scriptorium ค่ะ อยากอ่านหนังสืออย่างทันต่อเหตุการณ์กับเขาบ้าง ที่แล้วๆ มาอ่านแต่กองดอง (เอ่อ สองเล่มนี้ก็อยู่ในกองดอง แหะๆ แต่รสชาติยังไม่เข้มข้นเท่าไรนัก อิอิ) จากคุณ : the grinning cheshire cat - [ 26 ก.ค. 50 15:30:59 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เย้ คุณเหมียวยิ้มอ่าน Hogfather แล้ว ท่านเดธน่ารักน้า (ส่งเป็น LIF ไปเลยค่ะ เล่มนี้ใช้สำหรับเผยแพร่โดยเฉพาะ) จากนี้ Spoiler alert ค่า . . . . . . . เรื่องตัวแดงๆที่อยู่ใน King's cross คิดว่าเป็นส่วนของ Voldemort ที่ติดอยู่ในตัวแฮร์รี่น่ะค่ะ ถ้าจำไม่ผิดก่อนที่ Voldy จะมีร่างเต็ม (ที่สร้างจากเลือดศัตรู กระดูกพ่อแม่) ก็เคยเป็นตัวหยึยๆแบบนี้มาก่อน พอโดนคาถาปุ๊บ ทั้งแฮร์รี่ ทั้งส่วนนั้นของ Voldemort ก็กระเด็นไป King's cross เดาว่าตอนที่บรรยายว่าเจ้าตัวแดงๆนั่นเงียบไป คงแปลว่าส่วนของ Voldemort ตายไปแล้ว เลยถึงเวลาแฮร์รี่กลับโลก แก้ไขเมื่อ 28 ก.ค. 50 18:19:21 จากคุณ : ทินา (ทินา) - [ 26 ก.ค. 50 18:12:03 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณค่ะน้องทินา พี่ก็เดาๆว่าน่าจะเกี่ยวพันกับ voldy แต่ไม่เห็นมีพูดถึงซ้ำอีกเลยในเรื่อง เลยไม่แน่ใจ ทีนี้ก็นอนตาหลับแล้ว หายคาใจซะที ^^ จากคุณ : kitnan - [ 26 ก.ค. 50 18:38:50 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ^ ^ สองคนข้างบนช่วยใส่ spoiler alert ด้วยค่า เดี๋ยวมีใครยังไม่ได้อ่าน ตกลงหนังสืออ่านจบแล้วทำไงคะ ส่งกลับคืนคุณทินาหรือคุณเคียวเอ่ย ข้อความต่อไปนี้สปอยล์แฮรี่เล่มเจ็ด แล้วทำไมสเนปถึงได้รบเร้าจะเป็นคนไปเอาตัวแฮรี่มาให้โวลเดอร์มอร์นักคะ ในเมื่อถึงแฮรี่จะมาหาโวลเดอร์มอร์เอง มันก็ยังเข้าแผนพอดีนี่คะ หรือถ้าจะเพื่อ คุ้มครองแฮรี่ ก็น่าจะรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้แล้ว จบสปอยล์ แก้ไขเมื่อ 27 ก.ค. 50 11:46:52 จากคุณ : the grinning cheshire cat - [ 26 ก.ค. 50 19:00:24 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ตอบอีกทีดีกว่า Hogfather ฝากเข้า LIF ไปเลยค่ะ เล่มนี้มีไว้เพื่อการเผยแพร่โดยเฉพาะ (ไว้จะส่งเล่มอื่นไปให้อ่านอีกนะ ถ้าชอบ) สปอยล์ Harry ตอบเน้อ . . . . . . . . เราคิดว่าสเนปคงอยากจะไปตามตัวแฮร์รี่เอง จะได้ถ่ายทอดคำสั่งของดัมเบิลดอร์อย่างปลอดภัยมั้ง เพราะไอ้การที่แฮร์รี่มาแอบดูสเนปถูกฆ่าเนี่ยก็บังเอิญอย่างแรงเลยนะ เกิดแฮร์รี่มาไม่ทันล่ะ ก็ไม่มีทางรู้ต้นสายปลายเหตุเลย (ที่จริงเล่มนี้ก็ความบังเอิญเป็น plot device เยอะเหมือนกันแฮะ อย่างลำดับการครอบครอง elder wand เราก็ว่าบังเอิญเหมือนกันนา) จากคุณ : ทินา - [ วันอาสาฬหบูชา 00:04:09 ]

ความคิดเห็นที่ 28 สวัสดีค่ะทุกๆคน เป็นยังไงกันบ้างคะ อ่านหนังสืออะไรกันอยู่เอ่ย เมื่อวานเพิ่งได้อ่านหนังสือเล่มนึงจบค่ะ ชอบมากกกกกกก รู้สึกดีสุดๆเลยที่ได้อ่านหนังสือดีๆอย่างนี้ อ่า............ อยากรู้ล่ะสิว่าเรื่องอะไร จริงๆก็ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรหรอกค่ะ พี่ติ่มก็เคยรีวิวเล่มนี้ไปเมื่อหลายปีก่อนแล้ว ตาลเองก็ซื้อหนังสือเล่มนี้มาตั้งหลายปี เพิ่งจะได้มีโอกาสปัดฝุ่นและหยิบมาอ่านเมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี่เอง รีวิวย่อๆให้ฟังนะคะ Blindness by Jose Saramago หนังสือเล่มนี้เริ่มต้นเรื่องด้วยการบอกเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกลางเมืองบนสี่แยกแห่งหนึ่ง จู่ๆเมื่อไฟเขียว รถคันหนึ่งก็วิ่งไปแล้วก็จอดมันซะกลางถนนแบบนั้น ทำให้รถติดกันเป็นแถว จากนั้นผู้คนในรถคันอื่นๆก็เริ่มหงุดหงิดและเปิดประตูรถมาดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย และแล้วเขาก็พบว่าชายเจ้าของรถได้แต่พูดว่า ผมตาบอด ผมตาบอด สักพักก็มีพลเมืองดีเข้ามาช่วยและเริ่มซักถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น ชายตาบอดก็ได้แต่บอกว่าเขาเองก็ไม่รู้ เพราะเมื่อเขาเห็นสัญญาณไฟเขียวเขาก็ออกรถตามปกติ แต่แล้วจู่ๆเขาก็มองเห็นทุกๆสิ่งรอบๆตัวกลายเป็นสีขาวล้วนหมด เขาจึงไม่กล้าที่จะขับรถต่อไป กลุ่มฝรั่งมุง(หรือชาติไหน?)ก็ช่วยกันออกความคิดเห็นกันใหญ่ หญิงคนหนึ่งบอกว่าอาจเป็นเพราะสมองสั่งการผิดปกติก็ได้ เดี๋ยวก็คงหาย ชายตาบอดจึงค่อยใจชื้นขึ้นมาหน่อยแล้วพร่ำร้องว่าช่วยพาเขากลับบ้านที เขาอยากกลับบ้าน ทันใดนั้นชายคนหนึ่งก็รีบขันอาสาว่าจะช่วยขับรถกลับไปส่งชายตาบอดที่บ้าน กลุ่มฝรั่งมุงจึงได้สลายตัว เมื่อชายพลเมืองดี(รึเปล่า?)ส่งชายตาบอดที่บ้านแล้วเขาก็ช่วยหาที่จอดรถและพาชายตาบอดขึ้นไปบนอพาร์ตเมนท์ เขายังเสนอตัวว่าจะอยู่เป็นเพื่อนรอจนกว่าภรรยาชายตาบอดจะกลับมาอีก แต่ชายตาบอดก็ปฏิเสธความมีน้ำใจของชายผู้นี้ไป เมื่อชายตาบอดอยู่เพียงลำพังเขาก็พยายามทำตัวให้คุ้นเคยกับบ้านของเขาด้วยการใช้มือสัมผัสสิ่งต่างๆ แต่คงเป็นเพราะความไม่เคยชินในสถานภาพใหม่ที่เขาได้รับประจวบกับที่เขาไม่ได้คิดว่าจะมีแจกันแก้วใบหนึ่งวางอยู่ตรงนั้น เขาก็พลันปัดแจกันนั้นตกแตก เขาพยายามที่จะเก็บเศษแจกันและทำความสะอาดพื้น แต่ก็โชคร้ายถูกเศษแจกันบาดเข้าที่มืออีก เขารู้สึกสมเพสตัวเอง เหนื่อยและล้า จนในที่สุดเขาก็หลับไป เมื่อภรรยาเขากลับมาบ้านมองเห็นสามีกับสภาพบ้านที่เลอะเทอะก็เริ่มจะอารมณ์เสีย แต่เมื่อถามไถ่จนได้ใจความภรรยาเขากลับรู้สึกตกอกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และรีบเปิดหาจักษุแพทย์และคลินิคบริการที่อยู่ใกล้และอาจอนุญาตให้เขาและสามีเข้าพบเป็นการด่วน เมื่อนัดแนะกับทางคลินิกได้เรียบร้อยพร้อมทั้งทำแผลที่มือของสามีแล้วเขาก็ถามหากุญแจรถ และจุดที่รถจอดเพื่อจะขับรถไปที่คลินิกด้วยกัน แต่เขากลับพบว่า ชายผู้อาสาขับรถมาส่งนั้นไม่ได้คืนกุญแจให้ ภรรยาชายตาบอดเดินไปหาตำแหน่งรถที่คาดว่าจะจอดอยู่ใกล้ๆตึกแต่ก็ไม่พบแต่อย่างใด ทั้งสองเศร้ากับเหตุการณ์เวรซ้ำกรรมซัดที่เกิดขึ้นกับครอบครัวตน สุดท้ายภรรยาเขาเรียกแท็กซี่คันหนึ่งให้ไปส่งที่คลินิก เมื่อมาถึงคลินิกเขาก็ได้พบว่ามีคนไข้หลายคนที่นั่งรอหมออยู่อันได้แก่ หญิงสาวผู้สวมแว่นกันแดด ชายผู้สวมที่ปิดตาข้างหนึ่ง เด็กชายคนหนึ่งซึ่งมากับแม่ของเขา ทางด้านพยาบาลได้มาบอกกับคนไข้กลุ่มนี้ว่าขอลัดคิวหน่อยนะคะพอดีมีเคสด่วนค่ะ หลายคนที่เฝ้ารออยู่นั้นก็ไม่พอใจแต่สุดท้ายก็ต้องยอม เมื่อหมอได้ทำการตรวจคนตาบอดด้วยการส่องกล้องเขาก็รู้สึกแปลกใจมากเพราะสภาพของดวงตานั้นดูปกติดี หมอได้ซักถึงลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วหมอเองก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายเคสนี้อย่างไร หรือจะให้ยาอะไรกับคนไข้จึงได้บอกให้เขากลับบ้านพักผ่อนก่อน แล้วจะติดต่อให้มานัดตรวจอีกครั้ง ในคืนนั้นเมื่อหมอกลับไปที่บ้านเขาได้เล่าเรื่องของคนตาบอดอย่างเฉียบพลันให้ภรรยาฟัง และเขาก็พยายามค้นหาหนังสือทางวิชาการเพื่อจะหาคำอธิบายกับเหตุการณ์นี้ ภรรยาของหมอขอตัวเข้านอนก่อน ในขณะที่หมอเองยังอยากใช้เวลาค้นคว้ากับเรื่องนี้ต่อ ในระหว่างที่หมอกำลังอ่านหนังสือเขาก็ได้พบว่าเขาเริ่มมองอะไรไม่เห็นยกเว้นแต่สีขาวเท่านั้น ขณะนั้นเองเขาจึงได้รู้ว่าเขานั้นตาบอดแล้ว ในอีกมุมหนึ่งของเมืองชายผู้ขโมยรถชายตาบอดคนแรกได้ขับรถไปตามถนนอย่างระมัดระวัง เพราะเกรงว่าจะทำผิดกฎจราจรหรือทำพิรุธให้ตำรวจเรียกตรวจได้ เขาได้หาที่จอดตรงซอกซอยแห่งหนึ่งเพื่อสงบสติอารมณ์และในขณะนั้นเอง เขาก็ได้พบว่าเขาตาบอดแล้ว เมื่อถึงตอนเช้าหมอได้พยายามนึกหาคำอธิบายกับเหตุการณ์ต่างๆ และท้ายที่สุดเขาได้บอกกับภรรยาเขาว่าเขาตาบอดเมื่อคืนก่อนเข้านอน เขาเริ่มคิดได้ว่านี่ต้องเป็นโรคระบาดหรือโรคติดต่อแน่ๆเขาจึงได้รีบประสานไปยังองค์การสาธารณสุขแต่กลับไม่ได้รับการตอบรับอย่างดี สุดท้ายเขาจึงโทรไปหาผอ.โรงพยาบาลและได้แจ้งข่าวนี้ให้ทราบ ในไม่กี่ชั่วโมงต่อมารถพยาบาลได้มารับเขาที่บ้านเพื่อไปสู่สถานกักกันผู้ติดเชื้อระบาดนี้ ภรรยาเขาต้องการที่จะไปด้วยแต่บุรุษพยาบาลไม่อนุญาตให้มีผู้ติดตาม เขาจึงได้บอกว่าเขานั้นเพิ่งจะตาบอดขณะนี้เอง เหตุการณ์เริ่มจะเข้มข้นขี้นเรื่อยๆเมื่อเหล่าคนตาบอดถูกนำส่งสถานกักกันแห่งนี้ ทั้งคุณหมอ, ภรรยาคุณหมอ, ชายตาบอดคนแรก, ชายผู้ขโมยรถ, หญิงสาวผู้สวมแว่นตาดำ, เด็กชายที่ไปหาหมอที่คลินิก ฯลฯ ในแต่ละวันมีรถนำส่งตัวคนตาบอดเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งภรรยาชายตาบอดคนแรก นางพยาบาล ผู้ช่วยหมอที่คลินิก ชายผู้มีที่ปิดตาข้างเดียว ชายผู้ขับแท็กซี่ จากสิบเป็นร้อย จนในที่สุดสถานที่กักกันนั้นหนาแน่นไปด้วยชายตาบอดหลายร้อยคน สถานกักกันแห่งนี้ไม่ใช่สถานที่น่ารื่นรมย์แต่อย่างใดเพราะมีกฎระเบียบมากมายหลายข้อ ให้พึงปฏิบัติถูกคุมเข้มด้วยกองกำลังทหารติดอาวุธซึ่งเฝ้าอยู่ที่ประตูด้านนอก สถานที่นี้ไม่ไดรับ้การดูแลทางด้านสุขอนามัยที่ดีเพราะมีแต่คนตาบอดเท่านั้นที่อาศัยอยู่ภายใน ผู้เขียนได้บรรยายถึงภาพเหตุการณ์ต่างๆที่น่าขยะแขยงและสยดสยองในสถานที่นี้ได้ดีมากๆเลยคะ อยากให้ลองอ่านกันเอาเองนะ จุดเด่นของนักเขียนคนนี้ก็คือ - เขาจะไม่ใช้ชื่อแทนตัวละครใดๆของเขา แต่เขาจะให้สรรพนามแทนการเรียกตัวละครนั้นๆแทน เช่นขายตาบอดคนแรก ภรรยาของชายตาบอดคนแรก หญิงสาวผู้สวมแว่นตาดำ ฯลฯ - ประโยคคำพูดและประโยคบอกเล่าจะยาวติดกันเป็นพืดโดยไม่ได้มีการคั่นด้วย full stop. - ในประโยคสนทนาระหว่างตัวละครแต่ละตัว จะถูกคั่นด้วยเครื่องหมาย comma เราจะรู้ได้ว่านี่คือประโยคคำพูดของอีกตัวละครเมื่อมันเป็นเครื่องหมาย comma  และตามด้วย Capital letter แก้ไขเมื่อ 06 ส.ค. 50 12:19:51 จากคุณ : Angel Eyes - [ 6 ส.ค. 50 12:13:57 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เป็นหนังสือที่เจ๋งเท่ห์ดีเนอะคะ เพื่อนให้ยืมมาอ่านเมื่อนานมาแล้ว อ่านแล้วก็ไม่ได้ ว่าชอบมากมายอะไร แต่ยิ่งเวลาผ่านไปก็ยิ่งชอบมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นหนังสือที่ลืมไม่ลง จริงๆ ชอบที่หนังสือบอกว่า สถานการณ์ที่เลวร้ายสุดๆ จะดึงส่วนที่ดีที่สุดและ เลวที่สุดของมนุษย์ออกมาได้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับว่าคุณมีส่วนไหนอยู่ ตอนนี้เล่มสอง Seeing มีฉบับราคาถูกวางขายในไทยแล้วนะคะ รอให้เพื่อนคนเดิม ซื้อมาอยู่ จะได้ยืมอ่าน อิอิ เล่มนี้ได้อ่านแนะนำในเว็บคุณเฟย์ตอนเหตุการณ์ บ้านเมืองเหมือนในหนังสือพอดี อ่านไปก็ขนลุกซู่ๆ ไป lives imitate art เจงๆ อ้อ มีเรื่องเล่าขำๆ ถ้ายังจำกันได้ ลุงซาราโกแกไม่ค่อยชอบย่อหน้าค่ะ ย่อหน้าหนึ่งๆ ของแกบางทียาว 3-4 หน้า ครั้งหนึ่งเคยพกหนังสือเล่มนี้ไปนั่งอ่านรอเพื่อนคนที่ เป็นเจ้าของหนังสือ พอเพื่อนมาถึง ด้วยความที่กำลังติดพัน เลยบอกว่ารอให้จบ ย่อหน้านี้ก่อน (แล้วค่อยพูดกัน) มันก็ร้องว่า แล้วเมื่อไหร่ล่ะเฟ้ย เอ่อ นั่นจิ อีกกี่หน้าล่ะนั่น จากคุณ : the grinning cheshire cat - [ 6 ส.ค. 50 17:43:37 ]

ความคิดเห็นที่ 30 กี๊ด เพิ่งรู้ว่ามีแตกทู้ อิชั้นเพิ่งออกจากหลังเขามาค่า แฮรี่ก็อ่านจบ แปะบล็อกไปแล้ว ส่วนหนังสือที่ตั้งตารออ่าน (How do we live now that HP is finished เอิ้ก) ก็กะจะสั่งอเมซอนยูเคที่มันกะลังเซลนี่ล่ะค่ะ ตอนนี้อ่าน Murder by night (ขออภัยหากจำชื่อผิดเพราะอ่านเป็นเต่าคลานมากๆ) สนุกดีสมกับแนวประวัติศาสตร์ของพัท ฮ่า ช่วงนี้เที่ยวบ่อยอ่ะค่ะ เลยอ่านไม่ค่อยปะติดปะต่อเท่าไหร่ คิดถึงทุกคนมากๆค่ะ จากคุณ : Il Maze - [ 9 ส.ค. 50 15:49:54 ]

ความคิดเห็นที่ 31 น้องตาลสุดยอดมากกกก  Blindness เป็นเรื่องที่ทำให้สนใจ "เงาสีขาว" ขึ้นมาน่ะ  ได้รู้จักเล่มหลังนี้เพราะแมวยิ้ม (และฉกมาต่อหน้าเธอ ดีนะที่มันมีหลายเล่ม ไม่งั้นคงตบกันตายอยู่ตรงนั้น) ... ทำให้นึกขึ้นมาได้ว่า ยังไม่ได้อ่านเงาสีขาวเลย แหะแหะ ช่วงนี้บรรยากาศหนังสือใหม่ไม่มีเล่มไหนที่ชวนให้รู้สึกตื่นเต้น รออ่านได้เลยค่ะ  ทั้งไทยทั้งเทศ  เฉยสนิท  ไอ้ที่อ่านไปก็เช่นกัน  ดีมากบ้างน้อยบ้าง แต่ไม่มีเล่มที่ทำให้กรี๊ดได้เลย ... จะเฉาตายอยู่แล้วเนี่ย ฮืออออ พัทจะไปเที่ยวไหนอีกเหรอ?  (อิจฉาวุ้ย) น้องทินา ถามเรื่องดิสค์เวิร์ลหน่อยจิ วันก่อนพี่เห็นชุด 3-in-1 ที่มีเรื่อง Hogfather อยู่ด้วยในคิโนะ  เลยสงสัยว่าชุดที่เกี่ยวกับ Death เนี่ยมีกี่ตอน แล้วต้องอ่านตามลำดับไหม?  (เล่มที่พี่เจอเป็นปกแข็ง มีเรื่องฟาโรห์อะไรสักอย่างเป็นเรื่องแรก  เรื่องที่สองจำไม่ได้  ฮ็อกเป็นเรื่องที่สามน่ะ)   กำลังคิดว่าถ้าเซ็ง ๆ อาจลองซื้อมาอ่านดู   ใครอ่านเจอเล่มไหนเจ๋ง ๆ มาแนะนำกันบ้างค่ะ   ป.ล. อ่าน Jinx เล่มล่าสุดของเม็ก คาบอทแล้ว เรื่องนี้เป็นแนวแม่มด พล็อตคล้ายหนัง the Craft   แต่... อ่านแล้วแค่ "เกือบจะสนุกมาก" ค่ะ จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 11 ส.ค. 50 03:59:53 ]

ความคิดเห็นที่ 32 พูดถึง Discworld หารือคุณทินาหน่อย ชื่อโลกนี่เขาเล่นคำหรือเปล่าเนี่ย Discworld/ This world ??? วันก่อนไปคิโนะ หนังสือปกอ่อนเล่มใหญ่แพงจังเลย ไหนว่าเงินบาทแข็งไง เล่ม 500 ขึ้นทั้งนั้น แต่ปกแข็งเล่มใหม่ของพี่ Connelly ลดแล้วเหลือ 600 ต้นๆ อ๊ายยยยย อยากได้อ่ะ จากคุณ : the grinning cheshire cat - [ 11 ส.ค. 50 15:35:29 ]

ความคิดเห็นที่ 33 วันก่อนคุยกับพี่กรัปป้าว่าน่าจะมาเจอกันซะหน่อย ไม่ได้เจอกันนานมากกกก สนใจบุฟเฟต์ติ่มซำไหมคะ เล็งไว้ที่อโนมา ตรงข้ามเซ็นทรัลเวิลด์ ราคากลางๆ เดินทางสะดวก สักเดือนหน้าดีไหมเอ่ย พี่เพติ๊ด พี่ติ่ม พี่เอ๊ง แมวยิ้ม พี่ปู ตาล คุณกลาง ทินา นารูมิ คุณแนน คุณสกบร. เชิญหมดทุกคนเลยนะคะ อ้อ คุณโป้แอบอ่านอยู่อ๊ะป่าวเนี่ย ถ้ามาแจมได้ก็จะดีใจมากเลยค่ะ สาวๆเฝ้ารอมาหลายปีแล้ว ฮา อ้าว ตกชื่อน้ำแข็งใสไปได้ไงเนี่ย เออ เจ้าออฟด้วย วุ้ย หล่นไปหมด เอิกๆ ส่วนพัท คุณป้า น้องปอ พวกเราจะรับประทานฮะเก๋าเผื่อนะก๊ะ อิอิอิ จากคุณ : มณฑารัตน์ - [ วันแม่แห่งชาติ 13:23:50 ]

ความคิดเห็นที่ 34 คนข้างบนใจร้ายมั่กๆ ฮึ่ม ส่งข่าวค่ะ คุณป้าและน้องปอคาดว่ากะลัง grand tour ยุโรปอยู่ คุณป้าบอกว่าปีนี้คุณลุงฟิตจัด ไปทั้งอังกฤษ อิตาลีและฝรั่งเศสโลด ส่วนปอได้ข่าวมาว่าไป present paper ปริญญาเอกที่สก็อตแลนด์หรือไงเนี่ยค่ะ แต่มีแว่บไปเที่ยวสเปนด้วยน้อ พี่ติ่มคะ ลองเล่มนี้มั้ยพี่ กะลังว่าจะสั่งซื้อพอดี เล่มไซส์ใหญ่นะสวยมากๆๆๆ ขอบหนังสือเป็นสีดำด้วย เหมือนหีบสมบัติเลยค่ะ http://www.amazon.co.uk/End-Mr-Y-Scarlett-Thomas/dp/1847671179/ref=sr_1_1/203-4165888-5747904?ie=UTF8&s=books&qid=1187007576&sr=1-1 เห็นแล้วใจสั่นๆๆ (ปล หลังจากโรมก็ไม่ได้เที่ยวไรมากเลยพี่ แค่ในกรีซนิดๆหน่อยๆ ยังไม่ถึงเกาะด้วย แต่ปลายปีถ้าไม่กลับบ้านว่าจะหาที่ไปเที่ยวน่ะค่ะ ไม่โปรตุเกสก็อาจจะไปอิตาลีอีกรอบ อย่าอิจฉาพัทเลย เอาส้มตำปูไข่ดองมาแลกพัทยอมไม่ไปเลยจริงจริ้งงงง) จากคุณ : Il Maze - [ 13 ส.ค. 50 19:23:33 ]

ความคิดเห็นที่ 35 พี่ติ่ม ไอ้เงาสีขาวนี่อะไรเหรอ มาอธิบายหน่อยสิ คุณปุ๋ยคะ นัดวันไหนบอกได้เลยนะคะ ถ้าเป็นเสาร์อาทิตย์น่าจะว่างชัวร์ค่ะ ปล ตอนนี้อ่าน All the names (ของ Saramago) ไม่สนุกเท่า Blindness แต่ก็ใช้ได้ค่ะ แบบว่ามันคนละแนวอารมณ์กันน่ะ จากคุณ : Angel Eyes - [ 14 ส.ค. 50 10:29:22 ]

ความคิดเห็นที่ 36 อิอิ มีพรายมากระซิบว่าจะมีมีตติ้งกัน ไอ้เราก็เห็นแก่ของกิน เลยตามกลิ่นติ่มซำมา ฮ่าๆๆๆ ไปด้วยๆๆๆ อยากเจอมั่กๆ หลังจากพี่พัทไปอยู่เมืองนอก ยังไม่ได้เจอกันเลยอ่า >< มีหลายๆคนมาเพิ่มเติมด้วย ยินดีที่ได้รู้จักด้วยนะคะ อาจจะไม่ค่อยเห็นออฟ เพราะว่าไม่ค่อยได้อ่านหนังสือเท่าไหร่อ่ะค่ะ (กองดองเบลอเพียบเลยค่ะพี่น้อง) พักหลังๆเลยไปสิงห้องโต๊ะแป้งแทน เอิ๊กๆๆ รักห้องสมุดนะ แต่ไม่มาบ่อย ปล.พี่ปุ๋ย พัสดุได้แล้วนะคะ ขอบคุณหลายๆเด้อ จากคุณ : s.o.s - [ 14 ส.ค. 50 16:29:26 ]

ความคิดเห็นที่ 37 อ๊าย ติ่มซำบุฟเฟ่ต์ โปรดแปะลิ้งค์รีวิวปลากรอบภาพจากก้นครัวมาด่วนนนนน เดี๋ยวนี้ถ้าไม่มีรีวิวก้นครัว ชักจะกินข้าวกินปลาไม่เป็นแร้วครับท่าน โฮ่ๆ จากคุณ : the grinning cheshire cat - [ 14 ส.ค. 50 19:05:08 ]

ความคิดเห็นที่ 38 กร้าก คนข้างบนตะกละ แต่เดี๋ยวจัดให้ เพราะเราดูของเราทู้กกกวัน ฮ่า http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/D3739295/D3739295.html อันนี้คือสนามประลองยุทธที่ปุ๋ยชวนไว้นะคะ :) (ยังไม่เลิกทำหน้าที่เหฯ ถึงจะอยู่ไกลแสนไกล ฮ่า เดี๋ยวนี้ออฟพ่วงตำแหน่งพรายให้ด้วย ภูมิใจมั่กๆ) กินเผื่อด้วยนะคะ แก้ไขเมื่อ 15 ส.ค. 50 00:27:33 จากคุณ : Il Maze - [ 14 ส.ค. 50 23:19:21 ]

ความคิดเห็นที่ 39 สวัสดีค่ะ เพิ่งหาทู้เจอ... รู้สึกว่าตัวเองเชยสะบัดเพราะไม่รู้เรื่องพ่อหนุ่มพอตเตอร์มาตั้งแต่เล่มสี่โน่น... ตามไม่ทันแล้วค่ะ ยอมแพ้... รู้แต่ว่าหนุ่มน้อยคนที่เล่นเป็นพอตเตอร์ในหนัง ไปเล่นละครเวที...หล่อ เซ็กซี่ไม่เหลือเค้าพ่อมดกำพร้าน่าสงสารเลยละค่ะ เช้าตรู่วันที่พอตเตอร์เล่มล่าสุดออกวางขาย ป้ารอรถไฟอยู่ที่เมืองเล็กๆ แถวทัสคานี่ เห็นเด็กอังกฤษนั่งอ่านไปได้ครึ่งค่อนเล่มแล้ว ยังสงสัยว่าเขาไปซื้อจากที่ไหนเพราะตามข่าวบอกว่าจะขึ้นชั้นขายที่อังกฤษตอนสายๆ วันเดียวกันนั้น ประทับใจอิตาลีค่ะ เพราะตามเมืองใหญ่ยังมีแผงขายหนังสือมือสองให้เห็นเต็มไปหมดแทบทุกหัวมุมถนน ตามเมืองเล็กมีร้านขายหนังสือไม่น้อยเลยเมื่อเทียบกับขนาดเมือง ขึ้นรถไฟทั้งใต้ดินบนดินเห็นคนอ่านหนังสือเยอะทีเดียว (และเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองหล่อมากกก...) ไปเดินดูหนังสือแถว Charing Cross ที่ลอนดอนด้วยค่ะ ลุงบ่นว่าร้านหนังสือมือสองลดลงจนน่าใจหาย (เทียบกับสมัยที่เขายังเรียนเมื่อกาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว) ต่อไปคงกลายเป็นแค่ตำนาน น่าเสียดายจริงๆ เดินทางเที่ยวนี้ได้อ่านหนังสือน้อยค่ะ และซื้อหนังสือกลับมาแค่ไม่กี่เล่ม แต่เล่มที่ได้อ่านนี่มันหยดถึงใจทุกเล่ม ไม่รู้เป็นไงอ่านเล่มไหนก็สนุกไปหมด... คุณติ่มลอง Wizard of the Crow สิคะ สนุกจริงๆ น่าจะช่วยให้หายเซ็งได้ อีกเล่มที่น่าสนใจคือ The tenderness of wolves ป้ายังไม่ได้อ่านแต่พี่สาวลุงบอกว่าเรื่องนี้ตอนออกใหม่ๆ ที่อังกฤษฮือฮากันมาก อยากร่วมวงติ่มซำค่ะ ขอส่งความคิดถึงมาแทนตัวก็แล้วกัน จากคุณ : ป้า (น้ำคำ) - [ 15 ส.ค. 50 05:03:39 ]

ความคิดเห็นที่ 40 คุณป้าออก grand tour นี่เอง มิน่าถึงหายยาว เที่ยวให้สนุกนะคะ อย่าลืมของฝากหลาน ๆ (เน้นประโยคหลัง 555) ขอบคุณที่แนะนำหนังสือค่ะ  Tenderness นี่เคยเห็นแต่ไม่เคยหยิบแฮะ ส่วน Wizard of Crow นี่มันการเมืองหรือเปล่าคะ?  จำได้ว่าเหมือนจะเป็นแนวเสียดสีการเมือง--ที่ไม่ค่อยถูกจริตเท่าไหร่น่ะค่ะ กลัวอ่านไม่เก็ท น้องตาล   "เงาสีขาว" เป็นนิยายของคุณแดนอรัญ แสงทองค่ะ เนื้อเรื่องอาจต้องถามคุณเหมียวยิ้ม เพราะพี่ยังไม่ได้อ่านเลย แต่ที่ซื้อเพราะสไตล์การเขียนเป็นแบบ Blindness คือเขียนยาวต่อกันโดยไม่มีชื่อตัวละคร ไม่มีย่อหน้าค่ะ   พออ่าน blindness แล้วมาเจอเล่มนี้คงอดอยากลองอ่านไม่ได้แน่ เรื่องมีทติ้งนี่โอเคเสมอค่ะ นัดวันมาได้เลย จะได้เคลียร์งานช่วงนั้น ไม่ได้กินติ่มซำนานแล้ว ชักอยากกินเหมือนกัน (แผล่บๆ พิมพ์แล้วชักหิว) ปุ๋ยหรือใครได้แชทกับไอซ์หรือคุณเพติ๊ดรึเปล่า? ลองกำหนดวันมาเลยค่ะ แล้วค่อยมาดูว่าใครสะดวกไม่สะดวกยังไง (พัท ไม่บินกลับมามีทกันหน่อยเหยอ? อิอิ) ไว้คุยกันค่ะ ทำงานๆๆ จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 17 ส.ค. 50 02:46:48 ]

ความคิดเห็นที่ 41 แดนอรัญ แสงทองนี่คือคนเดียวกับที่แต่งมาตานุสติใช่หรือเปล่าคะ ไว้งานหนังสือคราวหน้าจะไปเดินหาซื้อ ขอบคุณพี่ติ่มที่ให้ความกระจ่างค่ะ จากคุณ : Angel Eyes - [ 17 ส.ค. 50 10:46:49 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ไปเที่ยวจนกลับมาแล้วค่ะ เดินทรหดจนน้ำหนักลดไปโข...ไว้ค่อยทำน้ำหนักคืนที่เมืองไทย Wizard of the Crow เป็นเรื่องการเมืองใต้อำนาจเผด็จการค่ะ เนื้อหาไม่หนักเลย (ตัวเล่มหนัก เพราะหนังสือออกจะหนา) มีวิธีเล่าแบบเหนือจริงแทรกเข้ามา และเสียดสีสุดๆ อ่านแล้วขำมาก เหตุการณ์เล็กๆ น้อยๆ ในเรื่องมีอะไรๆ ชวนขันไปหมด อ่านเรื่องนี้แล้วนึกถึงเสรีภาพเจ้ากรรม กับ ฟ้าใหม่ในซานมาร์โค ที่คุณเทศภักดิ์เคยแปลไว้ แนวเสียดสีคล้ายๆ กันค่ะ แต่แถมอารมณ์เหนือจริงและนิทานปรัมปราเข้าไปอีกนิด แนะนำอย่างแรงค่ะ สำหรับคนชอบประวัติศาสตร์ ขอแนะนำ Rubicon ของ Tom Holland นะคะ เล่าเรื่องประวัติศาสตร์โรมันได้สนุกมาก ผู้เขียนเรียบเรียงเหตุการณ์ได้เร้าใจมากคะ มีทั้งเรื่องรบ เรื่องการเมือง การแย่งชิงอำนาจ ความหรูหราฟุ้งเฟ้อของบรรดานายพล สุดยอดค่ะ เป็นหนังสือประวัติศาสตร์ที่อ่านสนุกยิ่งกว่านิยาย แถมได้ความรู้เรื่องลึกๆของโรมันมากมาย แนะนำอย่างแรงอีกเล่มค่ะ ดูหนังสือที่ยังไม่ได้อ่านแล้วอ่อนใจค่ะ ต่อให้อ่านได้สัปดาห์ละเล่มก็คงพออ่านไปตลอดปีแถมยังมีเหลือถึงปีต่อไป พยายามตัดใจไม่เดินร้านหนังสืออีกจนกว่าจะปีใหม่ อยู่เมืองนี้แล้วทำได้ง่ายค่ะ ถ้าอยู่เมืองไทยคงห้ามใจยากน่าดู จากคุณ : ป้า (น้ำคำ) - [ 18 ส.ค. 50 02:03:57 ]

ความคิดเห็นที่ 44 หลายทู้ก่อนเคยพูดถึงหนุ่มสูงศักดิ์ที่ใกล้เคียงบทชารีฟแห่งฟ้าจรดทรายที่สุด แต่ไม่มีรูปประกอบ เพิ่งเห็นว่ามีคนใจตรงกันแถวห้องเฉลิมไทย ทู้นี้นะคะ http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A5735335/A5735335.html ลองแปะรูปให้ดูเป็นตัวอย่างค่ะ จากคุณ : ป้า (น้ำคำ) - [ 22 ส.ค. 50 13:29:23 ]

ความคิดเห็นที่ 46 สวัสดีค่ะ นัดกันเมื่อไหร่บอกด้วยนะคะ ไม่พลาดแน่นอน แวะมาบอกนิดนึงค่ะว่าหากใครอยากรู้จักคุณเฟย์ เจ้าของเวป faylicity.com ตามหาอ่านบทสัมภาษณ์ได้ที่หนังสือ Image เล่มล่าสุดนะคะ จากคุณ : Pooh (Bigcrab) - [ 27 ส.ค. 50 07:49:10 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ^ ^ ตามไป (ยืน) อ่าน (ในร้าน) แล้วค่า รูปเธอสวยเชียว แลดูเป็นสาวเปรี้ยวมาดมั่น ตอนที่เห็นตัวจริงในงานดอน (กิโฆเต้) รู้สึกว่าจะออกไปทางสาวทอมบอยน่ารัก ส่วนตัวบทสัมภาษณ์นั้น ถ้าเป็นแฟนประจำอยู่แล้วก็คงไม่มีอะไรใหม่นัก แต่รองเท้าเธอสวยดีค่ะ อ้อ ตอนแรกหาบทสัมภา๋ษณ์อยู่ตั้งนานแน่ะ เกือบจะต้องกลับมาถามคุณปู อยู่แล้วว่าอยู่หน้าไหน นิตยสารสมัยนี้เค้าน้าหนาเนอะ ุ จากคุณ : the grinning cheshire cat - [ 28 ส.ค. 50 13:03:07 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ไปด้วยคนค่า ขอเป็นเดือนหน้าเลยยิ่งดี สองอาทิตย์นี้พี่จะยุ่งมากๆๆๆ ทิ้งงานไว้มากมายเป็นดินพอกหางหมู เพื่อเพนกวินอย่างเดียว กร้ากกกก ตอนนี้เลยต้องขอเคลียร์ก่อน จากคุณ : petitfour - [ 28 ส.ค. 50 17:20:16 ]

ความคิดเห็นที่ 49 นอกเรื่อง 1. คห. 43 กะ 45 หายไปไหนอ่ะ??? 2. กระทู้ข้างบนบอกว่าคุณมนตรี ศรียงค์ได้ซีไรท์ค่า รวมบทกวีชื่อ โลกในดวงตาข้าพเจ้า น่าสงสารกวีทั้งหลาย สามปีจึงจะมีโอกาสได้พิมพ์หนังสือที เราเองก็ไม่ค่อย ได้อ่านบทกวีสมัยใหม่เท่าไหร่ ก่อนหน้านี้อ่าน ลงเรือมาเมื่อวาน ของศิริวร แก้วกาญจน์ ที่ติดใจมาจากกรณีฆาตกรรมฯ ก็ยังรู้สึกว่าไม่ลึกซึ้งพอแฮะ จากคุณ : the grinning cheshire cat - [ 28 ส.ค. 50 18:39:05 ]

ความคิดเห็นที่ 50 เออแฮะ หายไปไหนสองคห. หว่า? ถ้ายังไง ลองกำหนดวันไว้ก่อนดีไหม? น้องทินาว่างวันอาทิตย์ที่ 2, 16 กับ 30 น้องตาลว่างเสาร์-อาทิตย์อยู่แล้ว ถ้ากลางเดือน คุณเพติ๊ดก็น่าจะเคลียร์งานไปแล้ว (รึเปล่าจ้ะ??) ใครไม่สะดวกบ้าง ยกมือขึ้น (เอิ๊กๆๆ  ยกไปก็ไม่เห็น) เดี๋ยวไปตามหา Image มาอ่านก่อนค่ะ อยากเห็นหน้าคุณเฟย์ จากคุณ : ยาคูลท์ - [ 28 ส.ค. 50 23:42:57 ]

ความคิดเห็นที่ 51 เอาเป็นวันที่ 30 ได้ไหมคะ อยากเจอคุณทินาตัวเป็นๆ (จะได้เอาหัวไปถูๆๆๆ ด้วยความรักใคร่) ถ้าเป็นวันที่ 16 มัน 50/50 น่ะค่ะว่าคุณเพติ๊ดจะเคลียร์งานเสร็จหรือยัง (คำว่ากลางเดือน ของเรามันมักจะเลยไปถึงวันที่ 19-20 ทู๊กกกที) กลับมาปิดวงเล็บค่ะ แก้ไขเมื่อ 29 ส.ค. 50 01:17:54 จากคุณ : the grinning cheshire cat - [ 29 ส.ค. 50 01:16:59 ]

ความคิดเห็นที่ 52 วันไหนก็ได้ค่ะ เดี๋ยวถอดวิญญาณ เอ๊ย ส่งจายไป ใครช่วยสแกนอิมเมจที่มีสัมภาษณ์คุณเฟย์ให้ทีได้ไหมคะ สงสารคนไกลบ้านมั่งง งึ่มๆๆ จากคุณ : Il Maze - [ 29 ส.ค. 50 14:05:17 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ความคิดเห็นที่ 43 กะ 45 ที่หายไปของเราเองอ้ะ แค่ตอบเรื่อง Discworld เอง แต่ดันโดนลบทั้งสองรอบเลย ฮือ เผยแพร่ลัทธิแค่นี้ก็ไม่ได้ เชอะ! เอ่อ ตอนนี้วันที่ 16 ไม่ว่างแล้วอะค่า ต้องอยู่เวรถึงบ่ายสองแน่ะ (เราจะไม่ยอมอดกินเด็ดขาด!) เปลี่ยนมาว่างเสาร์ 15 แทน อ้อ ตอนนี้วันอาทิตย์ที่ 23 ก็ว่างค่ะ (ต้องขออภัยทุกท่านด้วย ก็โรง'บาลมันไม่หยุดเสาร์อาทิตย์นี่น้า เฮ้อ) แก้ไขเมื่อ 29 ส.ค. 50 23:08:36 จากคุณ : ทินา - [ 29 ส.ค. 50 23:06:00 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ^ ^ คุณทินาไปขอเว็บมาสเตอร์กู้กลับมาได้นะคะ คาดว่าคงเพราะมีคำต้องห้ามที่ ต้องลบอัตโนมัติ แต่ถ้าเนื้อความไม่มีอะไร ก็คงกู้กลับมาได้ค่ะ อยากอ่านอ่ะ มีแต่ความเห็นเราอันเว้นอันแล้วเนี่ย งื้อ จากคุณ : the grinning cheshire cat - [ 30 ส.ค. 50 12:55:26 ]

ความคิดเห็นที่ 55 เลอะเทอะมามากแล้ว แปะรีวิวดีกว่า เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีใครรีวิวหนังสือเนอะคะ (ว่าแต่ว่าหล่อนน่ะ จะยึดกระทู้รึไงยะ) อันนี้ก็ลอกมาจากบล็อกนั่นแหละค่า หนังสือเก่าแล้วด้วย อาจจะอ่านกันไป หมดแล้วนะคะ The Christmas Mystery Jostein Gaarder เขียน Elizabeth Rokkan แปล Rosemary Wells วาดภาพประกอบ Phoenix ในเครือ Orion Books พิมพ์ เรื่องนี้เป็นเรื่องของโยอาคิม เด็กชายตัวน้อยในนอร์เวย์ที่บังเอิญไปได้ Advent calendar ทำมือเก่าๆ มาจากร้านหนังสือมือสอง เพราะตอนนั้น เขากับพ่อหาซื้อตามร้านต่างๆ แต่หาไม่ได้เลย Advent calendar นี้เป็นธรรมเนียมของชาวยุโรปตะวันตกบางชาติและ ยุโรปเหนือ เริ่มต้นที่เยอรมัน เป็นกลวิธีสร้างความสนุกให้เด็กๆ (และผู้ใหญ่) ไปพร้อมกับการเรียนรู้เรื่องศาสนา ในยุคแรกๆ จะเป็นการนับในลักษณะ ใดก็ได้ แต่ที่ชอบมากๆ คือเป็นเชิงเทียนสำหรับเทียน 24 เล่ม โดยจุด วันละเล่ม ตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 24 ธันวาคม ส่วนในยุคหลังๆ จะเป็นแผ่นกระดาษ สองชั้น มีหน้าต่างหรือประตูยี่สิบสี่บาน ให้แกะเปิดวันละบาน ข้างในจะมี ภาพเกี่ยวกับวันคริสตสมภพอยู่ ในปัจจุบันอาจมีช็อกโกแลตอันเล็กๆ หรือ ตุ๊กตาพลาสติกอยู่ข้างในด้วย แต่ Advent calendar ที่โยอาคิมได้มานี้ เมื่อเปิดออกมาแล้ว นอกจากรูปภาพ แล้ว ก็ยังมีกระดาษแผ่นเล็กๆ หล่นลงมาด้วย ในนั้นเป็นเรื่องของเด็กหญิง คนหนึ่งที่หายไปจากเมืองนั้นในปี 1948 โดยเล่าว่าเธอวิ่งตามตุ๊กตาลูกแกะ ตัวหนึ่งออกไปจากห้างสรรพสินค้า ไปพบทูตสวรรค์เข้าองค์หนึ่ง และพากัน เดินทางข้ามทวีปและย้อนเวลาไปยังวันเวลาและสถานที่ที่พระเยซูประสูติ และระหว่างทางก็จะมีคนเข้ามาสมทบวัน (ของ Advent calendar) ละคน ทุกวัน เรื่องจะเล่าสลับกันระหว่างชีวิตของโยอาคิมและเรื่องราว ใน Advent calendar เป็นโลกคู่ขนานตามสไตล์ลุงโย เพียงแต่เป็นโทนที่ซอฟท์ลงกว่าโลกของ โซฟีกับ The Solitaire Mystery หน่อย ส่วนทีเ่ป็นชีวิตของโยอาคิมจะเป็นเรื่องราวในครอบครัวแบบน่ารักแต่สมจริง ตอนแรกโยอาคิมไม่ได้เอากระดาษเล่าเรื่องให้พ่อแม่ดู เพราะกะว่าจะรอเก็บ ให้ครบยี่สิบสี่วันแล้วห่อเป็นของขวัญวางไว้ใต้ต้น คริสต์มาส แต่พ่อแม่สงสัย ที่ลูกชายใช้คำแปลกๆ และรู้เรื่องที่ไม่น่าจะรู้ เลยแอบเปิดกล่องลับที่เคย สัญญาไว้ว่าจะไม่ล่วงละเมิดความเป็นส่วนตัวของลูก ด้วยการแอบเปิดดู เด็ดขาด ตรงนี้จะมีการทะเลาะกันนิดหน่อย แต่สุดท้ายก็เข้าใจกันได้ ทุกคน มาเฝ้ารอการเปิดหน้าต่างทุกเช้าด้วยความตื่นเต้น ตรงนี้เองที่โยอาคิมบอก ว่าเหมือนทุกวันเป็นปาร์ตี้วันเิกิด และเขาก็คิดขึ้นมาได้ว่าวันคริสต์มาสก็คือ ปาร์ตี้วันเกิดที่ใหญ่ที่สุดในโลกนั่นเอง นอกจากนั้นพ่อแม่ก็ช่วยกันค้นคว้าแผน ที่ประกอบการเดินทาง มีการแบ่งขั้ว นิดหน่อย พ่อเห็นว่าเป็นเรื่องแต่ง ส่วนแม่คิดว่ามันเป็นเรื่องจริงก็ได้ และที่ สำคัญกว่านั้นคือพ่อแม่ก็ช่วยกันโยงเรื่องเด็กหญิงที่หายตัวไป เด็กหญิงใน เรื่อง และภาพหญิงสาวที่จอห์น คนขายดอกไม้ที่เป็นคนทำ Advent calendar เคยเอามาวางไว้ที่หน้าต่างร้านขายหนังสือเข้าด้วยกัน และพยายามคลี่คลาย ปริศนาที่ว่านี้ ส่วนเรื่องใน Advent calendar ก็จะออกแนวอิงศาสนามากหน่อย ทูตสวรรค์ จะัเป็นไกด์ทัวร์โบสถ์ในยุโรป ว่าหลังไหนสร้างเมื่อไหร่อย่างไร เป็น ประวัติศาสตร์การเผยแผ่ศาสนาคริสต์ไปในตัว แต่ถ้าใครเคยอ่านโลกของโซฟี ก็น่าจะเดาได้ว่าแนวคิดทางศาสนาของลุงโยจะไม่ได้เน้นศรัทธามากนัก แต่จะออกแนวปรัชญา ความงาม และความดีมากกว่า มีอะไรสวยๆ อยู่หลาย ตอน ซึ่งถ้าเป็นคริสต์อาจจะซาบซึ้งมากทีเดียว แต่ถ้าไม่ใช่ก็จะเห็นแค่ว่า มันสวยดีนะ คิดได้ไงเนี่ย ที่ชอบมากตอน หนึ่งโดยไม่เกี่ยวกับศาสนาคือตอนที่พ่อเปรียบเทียบการ เดินทางของคณะผู้แสวง บุญในเรื่องกับกองแพนเค้ก เขาบอกว่่าถ้ามีแพนเค้ก กองซ้อนๆ กันอยู่ตั้งใหญ่ การจะหาจุดดำจุดหนึ่งในนั้น นอกจากเดินทาง ไปบนแพนเค้ก แล้ว ยังต้องเดินทางลงไปในกองแพนเค้กด้วย แล้วเขาก็ เรียกหนังสือแผนที่ประวัติศาสตร์ว่า "หนังสือแพนเค้ก" โอย น่ารักอ่ะ เป็นหนังสือที่อ่านแล้วสบายใจจริงๆ ค่ะ เขาช่างเอาเรื่องที่ดูเป็นเรื่องธรรมดา มาเขียนให้มันกลายเป็นเรื่องที่มี magic ได้ มันไม่เหมือนหนังสือเด็กแบบ แฟนตาซี แต่ก็ไม่ใช่หนังสือสะท้อนชีวิตเด็ก แต่เป็นทั้งสองอย่างผสมกัน แล้วเหยาะยากระตุ้นความคิดลงไปอีกหน่อย เป็นเรื่องอย่างที่อยากสนับสนุน ให้เด็กอ่านจ้ะ แต่ขอโทษลุงจริงๆ ที่เราให้หนังสือเรื่องนี้ได้แค่สามดาวครึ่ง ***1/2 เพราะทำยังไงก็อดเอาไปเปรียบกับโลกของโซฟีไม่ได้ คิดว่าชาตินี้ลุงคง ไม่มีวันขึ้นถึงระดับนั้นได้อีกแล้วล่ะ แก้ไขเมื่อ 30 ส.ค. 50 13:11:00 จากคุณ : the grinning cheshire cat - [ 30 ส.ค. 50 13:05:31 ]

ความคิดเห็นที่ 56 เข้ามานั่งคุยเป็นเพื่อนคุณเหมียวยิ้มค่ะ เรื่องนักเขียนที่ทำงานชิ้นดีที่สุดมาแล้วยากจะทำได้อีกนี่เห็นด้วยจริงๆ ค่ะ ตอนนี้นักเขียนรุ่นใหญ่มีแต่ผลงานเนือยๆ เนิบๆ ออกมา คนที่ตามเป็นแฟนกันมาก็ได้แต่ลุ้นว่าเมื่อไหร่จะมีงานชิ้นเอกออกมาให้อ่านกันอีกที เท่าที่ผ่านมามีแต่หลับแล้วหลับอีกกว่าจะอ่านจบ แถมหนังสือของนักเขียนใหญ่ยังราคาแพงอีกต่างหาก อ้อ...ใน Long list ของ Booker Prize ปีล่าสุดก็มีแต่นักเขียนรุ่นหลังนะคะ รุ่นใหญ่นี่มีติดเข้ามาคนเดียวคือคุณลุงเอียน คน(เคย)โปรดของคุณเพติ๊ดนั่นละ และก็รู้สึกจะมี AN Wilson อีกคน เป็นประเด็นที่นักวิจารณ์หนังสือในอังกฤษเขาหยิบมาถกกันว่าทำไมหนอ ปีที่ผ่านมามีหนังสือของนักเขียนรุ่นใหญ่ออกมาตั้งหลายคนแต่ไม่เข้าตากรรมการซักเท่าไหร่ แต่กรรมการเขาเลี่ยงๆ ว่าอยากให้เรื่องของนักเขียน (ค่อนข้าง)ใหม่ ฝีมือดีเป็นที่รู้จักของนักอ่านในวงกว้างมากกว่าเดิม ป้าพยายามหาหนังสือของนักเขียนใหม่มาอ่านอยู่เหมือนกัน แต่เลือกยากจังค่ะ นักเขียนไม่คุ้นหูนี่พอจะควักกระเป๋าซื้อหนังสือเขาสักทีแล้วคิดมากจริงๆ ไว้ว่างๆ เรามาแนะนำงานของนักเขียนที่ชื่อไม่คุ้นหู แต่อ่านแล้วถูกใจกันบ้างดีกว่า ฝากกินซาลาเปาไส้หมูสับ ขนมจีบหมู บะหมี่หมูแดง หมูย่าง หมูสะเต๊ะด้วยนะคะ แล้วจะอ่านหนังสือเผื่อเป้นการตอบแทน... จากคุณ : ป้า (น้ำคำ) - [ 30 ส.ค. 50 14:48:30 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ยังตามอ่านอยู่เรื่อยๆค่ะ พอดีคุณป้าพูดเรื่อง Long list ของ Booker Prize เลยเอามาแปะให้ดูเล่นกันค่ะ http://en.wikipedia.org/wiki/List_of_winners_and_shortlisted_authors_of_the_Booker_Prize_for_Fiction - Darkmans by Nicola Barker (Fourth Estate) - Self Help by Edward Docx (Picador) - The Gift Of Rain by Tan Twan Eng (Myrmidon) - The Gathering' by Anne Enright (Jonathan Cape) - The Reluctant Fundamentalist by Mohsin Hamid (Hamish Hamilton) - The Welsh Girl by Peter Ho Davies (Sceptre) - Mister Pip by Lloyd Jones (John Murray) - Gifted by Nikita Lalwani (Viking) - On Chesil Beach by Ian McEwan (Jonathan Cape) - What Was Lost by Catherine O'Flynn (Tindal Street) - Consolation by Michael Redhill (William Heinemann) - Animal's People by Indra Sinha (Simon & Schuster) - Winnie & Wolf by A.N. Wilson (Hutchinson) แหม ท่าทางคุณป้าจะโหยหาหมูมากๆเลยนะคะเนี่ย อิอิ ไว้จะทานเผื่อค่ะ จากคุณ : Angel Eyes - [ 30 ส.ค. 50 15:11:32 ]

ความคิดเห็นที่ 58 พอได้อ่านความเห็นคุณป้าเกี่ยวกับเรื่องนักเขียนเก่า-ใหม่ ทำให้นึกถึงบทความนี้พอดี ก็ไม่ถึงกับจะเกี่ยวกันมากนัก เอามาให้อ่านเล่นๆละกัน อันนี้ได้จาก fwd mail ================================== ในตอนจบวัน.... ผมมีประสบการณ์หาแพทย์ที่เพิ่งจบใหม่ หลายครั้งพบว่าบางที ค่ารักษากับหมอใหม่แพงกว่าหมอที่มีประสบการณ์ยาวนาน ทั้งที่ขัดกับหลักตรรกที่ว่า หมอที่ทำงานยาวนานน่าจะคิดค่ารักษาแพงกว่า เหตุผลก็เพราะว่า หมอจบใหม่บางคนเกิดอาการเกร็ง อาจเกิดความกลัววูบขึ้นมาว่า "จะเกิดอะไรขึ้นหากวินิจฉัยโรคพลาด?" เมื่อเกร็งก็เกิดความไม่แน่ใจ เพื่อความปลอดภัยต่ออาชีพของตนก็สั่งให้มี การทดสอบในห้องแล็บเพิ่มอีกหลายรายการ ยกตัวอย่างเช่นเมื่อคนไข้ท้องเสีย ก็สั่งตรวจดูว่าเกิดจากเชื้อโรคชนิดใด ทั้งที่คนไข้บอกว่าไม่ได้กินอาหารสกปรกอย่างแน่นอน ผลตรวจที่ออกมาสรุปว่าท้องเสียไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค หากจากความเครียด เมื่อรวมค่าตัวของหมอใหม่ (ซึ่งไม่สูงนัก) กับค่าตรวจในแล็บและอื่นๆ รวมๆ แล้ว ก็มากกว่าที่คนไข้ควรจ่ายเมื่อรักษากับหมอที่มีประสบการณ์กว่า ครั้งหนึ่งผมเกิดอาการปวดหัวตึบๆ หมอใหม่ก็จัดการส่งผมไปสแกนสมอง ทั้งที่ผมรู้ว่าไม่เป็นอะไรมาก "เพื่อความชัวร์" หมอว่า เมื่อเห็นใบเสร็จ ผมก็เกิดอาการปวดหัวกว่าเดิม เพื่อนสถาปนิก-ผู้รับเหมาคนหนึ่งบอกผมว่า ในงานทุกชิ้นของเขา จะเจาะจงใช้แต่ช่างชั้นหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช้ 'มือใหม่หัดขับ' เลย ทั้งที่ค่าแรงช่างเก่าแพงกว่า 2-3 เท่า "ทำไม?" ผมถาม เขายกตัวอย่างงานปูน ช่างปูนที่เพิ่งทำงานไม่นานค่าแรงต่อวันถูกมาก แต่เนื่องจากยังอ่อนประสบการณ์ จึงใช้ปูนซิเมนต์เปลืองมาก ทุกครั้งที่ตักปูนมาก่อกำแพงหรือฉาบ ปูนมักหล่นเรี่ยราด ส่วนที่ตักเกินมาก็ปาดทิ้ง กว่าจะจบงานหนึ่งชิ้น ต้องเสียปูนไปเกินจำเป็น ขณะที่ช่างที่เชี่ยวชาญใช้ปูนเท่าที่จำเป็นเพราะแม่นงานกว่า เมื่อคิดรวมดูแล้ว ใช้ช่างเชี่ยวชาญถูกกว่าและได้งานที่ดีกว่า ในช่วงชีวิตของเรา ต้องพบกับการตัดสินเลือกของสองอย่างที่เลือกยาก ส่วนมากมักมีเรื่องเงินทองมาเกี่ยว คนส่วนมากเมื่อเจอกับการตัดสินใจดังกล่าวมักหนีไม่ค่อยพ้นสัจธรรมของ 'เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย' ยกตัวอย่างเช่นเมื่อไปสมัครงานสองบริษัทและได้งานทั้งสองแห่ง แห่งหนึ่งให้เงินเดือนสูงแต่งานจำเจ อีกแห่งหนึ่งเงินเดือนต่ำกว่ามากแต่งานท้าทาย หลายคนเลือกเงินเดือนสูงไว้ก่อน เพราะมันทำให้รู้สึกว่ามีคนเห็นคุณค่าของ เรามากพอที่ยอมจ่ายมากๆ ในชีวิตของเรายังมีอีกหลายเรื่องที่เราต้องตัดสินใจเลือกไปทางซ้ายหรือทางขวา และเป็นการเลือกที่ยากเอาการ จะเรียนคณะวิชาที่ทำเงินหรือคณะวิชาที่ชอบ? จะเลือกงานที่ให้เงินเดือนมาก หรือเงินเดือนน้อย? จะเลือกผู้หญิงที่ความสวยหรือความเก่ง? ฯลฯ ฝรั่งมีวลีหนึ่งที่ว่า at the end of the day หมายถึงการวัดผลในตอนจบวัน เป็นการใช้ชีวิตโดยการมองภาพรวม จะลงทุนมากหรือน้อย จะทำงานใหญ่หรือเล็ก ไม่สำคัญเท่ากับว่า ในตอนจบวัน คุณเหลือเงินในกระเป๋าสตางค์เท่าไร แม่ค้าขายขนมครกที่ทำงานไปเรื่อยๆ ตลอดวันเมื่อหักค่าใช้จ่ายแล้ว อาจจะมีเงินในกระเป๋ามากกว่าเจ้าของร้านอาหารติดแอร์ฯ ที่ถึงแม้รายได้ต่อวันจะสูงกว่ามาก แต่ค่าโสหุ้ยก็สูงเช่นกัน บางทีเมื่อวัดกันที่ 'ในตอนจบวัน' อาจทำให้เราตัดสินใจหลายๆ เรื่องได้ง่ายขึ้น ในตอนจบวัน แฟนคุณช่วยคุณสร้างเงินหรือถลุงเงิน? ในตอนจบวัน คุณเก่งกว่าเดิมหรือเปล่า? ในตอนจบวัน คุณมีความสุขมากกว่าความทุกข์หรือไม่? และในตอนจบวัน คุณรู้สึกว่าชีวิตในวันนั้นสูญเปล่าหรือไม่? วินทร์ เลียววาริณ ================================= จากคุณ : Angel Eyes - [ 30 ส.ค. 50 15:19:42 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ตกลงปาร์ตี้ติ่มซำไปวันไหนอ่ะ สรุปได้ยัง จะได้ไปหม่ำและถ่ายรูปมายั่วคนอยู่ต่างประเทศ กร๊าก พออ่านบทสัมภาษณ์เธอคุณเฟย์จบ ชอบความเห็นเธอหมดเลย ตั้งแต่เหตุผลที่ว่าทำไมเธอทิ้งการเรียนปริญาเอกเสีย ความคิดเห็นต่อการอ่านหนังสือ และงานสัปดาห์หนังสือของบ้านเรา เป็นคนที่มีความคิดชัดเจนมาก หลังๆ มานี่ตัวเองรู้สึกแปลกๆ กับงานหนังสือเข้าทุกที แถมเวลาแนะนำหนังสือะไรที่บล็อก ก็จะมีคนบอกว่ารอซื้อตอนงานหนังสือตลอด จนรู้สึกว่า เฮ้ย อะไรกันนี่  ร้านหนังสือยังมีอยู่นะ ที่ชอบอีกอย่างคือรู้สึกว่า คนที่เรียนวิทยาศาสตร์มาจะมีความคิดที่เป็นระบบ เขียนหนังสือแล้วอ่านกระจ่าง ตอนนี้ชอบงานของนักวิจารณ์หนังมือรางวัล ม.ล.บุญเหลือ  ชื่อกัลปพฤกษ์ เขียนวิจารณ์หนังอ่านรู้เรื่องมาก ผ่าโครงสร้างหนังให้เห็นเป็นส่วน ๆ ตอนอ่านหนังสือของกัลปพฤกษ์ก็คิดว่า คนนี้ต้องทำงานที่ไม่ใช่สายที่เกี่ยวข้องกับหนังสือแน่ๆ ภาษาเป็นวิทยาศาสตร์มาก พอไปเจอตัวเขาก็เข้าใจถูกต้องเพราะเขาทำงานอยู่ที่ สสวท. ( หุหุ) สำหรับคุณเฟย์ เธอเรียนวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ และตอนนี้เป็นอาจารย์สอนวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ที่มหาวิทยาลัยมหิดล ลิงก์นี้สำหรับรูปใหญ่ เข้าไปอ่านบทสัมภาษณ์เธอได้ สแกนมาให้อ่านทั้ง 2 หน้าเลย สำหรับพัทและแฟนคลับ faylicity http://img486.imageshack.us/img486/6715/picture001oj4.jpg http://img179.imageshack.us/img179/7064/picture002ly9.jpg แก้ไขเมื่อ 01 ก.ย. 50 12:49:03 แก้ไขเมื่อ 01 ก.ย. 50 12:47:58 จากคุณ : grappa - [ 1 ก.ย. 50 12:46:15 ]

ความคิดเห็นที่ 60 กรี๊ด ขอบคุณมากค่ะพี่แป๊ด เดี๋ยวเปิดอ่านก่อนแล้วจะมาถกใหม่ จากคุณ : Il Maze - [ 1 ก.ย. 50 13:52:11 ]

ความคิดเห็นที่ 61 แตกกระทู้หาของหม่ำกันเถอะ ความคิดเห็นนี้ได้แตกไปยังกระทู้ K5778601 จากคุณ : ทินา - [ 2 ก.ย. 50 22:39:01 ]