ความคิดเห็นที่ 1 ผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงสาธารณสุข ร่วมมือกับนักการเมืองกดหัวพยาบาลและวิชาชีพอื่น ๆ ในกระทรวงสาธารณสุขมาโดยตลอด ทั้ง ๆ ที่เป็นวิชาชีพที่ขาดแคลนเหมือนกับแพทย์และทันตแพทย์ กรณีของแพทย์และทันตแพทย์ เมื่อสำเร็จการศึกษาก็ได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการสาธารณสุขทันที แต่พยาบาลและนักเรียนทุนของของกระทรวงสาธารณสุขอื่น ๆ ให้บรรจุได้แค่ตำแหน่งลูกจ้างชั่วคราว จะลาออกก็ไม่ได้เพราะต้องทำสัญญาชดใช้ทุนให้ครบเสียก่อนอย่างน้อย 4 ปี  มิฉะนั้นก็จะถูกปรับเป็นเงินหลายแสนบาท พยาบาลและวิชาชีพอื่น ๆ ที่เป็นนักเรียนทุนของกระทรวงสาธารณสุขจะ ต้องได้รับการปฏิบัติจากกระทรวงสาธารณสุขและรัฐบาลอย่างเป็นธรรม ไม่ถูกเลือกปฏิบัติจากหมอผู้ผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงสาธารณสุขและนักการเมืองอย่างไม่เป็นธรรมอย่างที่ผ่าน ๆ มา เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วต้องได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการทันทีเช่นเดียวกับแพทย์ ทันตแพทย์ หรือนักเรียนนายสิบทหารและตำรวจ มาตรการการนัดหยุดงานของกลุ่มพยาบาลลูกจ้างชั่วคราว ถือเป็นมาตรการขั้นสุดท้ายที่เขาหมดความอดทนแล้วจริง ๆ ต่อการกระทำที่เอารัดเอาเปรียบและเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมจากรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุข ข้อเรียกร้องของพวกเขาก็ไม่ได้มากมายนอกเหนือจากสิทธิ์ ที่พวกเขาควรจะมีควรจะเป็นและควรจะได้ แต่รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขก็พยายามต่อรองเพื่อซื้อเวลา และหากยอมทุกอย่างก็กลัวเสียหน้า  โดยอ้างระบบระเบียบของทางราชการ  ทั้ง ๆ ที่ระเบียบระบบใด ๆ ก็ตาม ที่ไม่เป็นธรรม รัฐบาลก็มีอำนาจที่จะปรับปรุงแก้ไขหรือยกเลิกได้ เรื่องเงินงบประมาณยิ่งไม่ใช่ข้ออ้าง เพราะ ทีนโยบายประชานิยม จำนำข้าวเป็นแสน ๆ ล้านบาท รัฐบาลยังทุ่มได้เต็มที่ แต่เงินเดือนพยาบาลแค่ไม่กี่พันล้านบาททำไมรัฐบาลไม่สามารถจัดสรรได้ การต่อสู้ของวิชาชีพพยาบาลครั้งนี้ พยาบาลทุกคนต้องยืนหยัดในหลักการคือ 1.ลูกจ้างชั่วคราวพยาบาลนักเรียนทุนทุกคนของกระทรวงสาธารณสุข 17,000 กว่าคนต้องได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการทันที 1 มกราคม 2556 2.นักเรียนทุนของกระทรวงสาธารณสุขรุ่นต่อ ๆ ไปต้องได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการทันทีที่สำเร็จการศึกษา 3. ไม่ยอมรับเงื่อนไขและข้อต่อรองอื่นใดทั้งสิ้นของรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุข เพราะนักการเมืองและผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงสาธารณสุขแค่ต้องการซื้อเวลา เพื่อให้พยาบาลเกิดความแตกแยก ล้า เบื่อ เลิกราและยอมแพ้ไปเองในที่สุด การต่อสู้ครั้งนี้เพื่อเกียติยศศักดิ์ศรีของวิชาชีพพยาบาล และนักเรียนทุนของกระทรวงสาธารณสุขทุกสาขา ให้มีเกียรติมีศักดิ์ศรีอย่างน้อยก็ทัดเทียมกับนักเรียนนายสิบทหารและตำรวจ ที่จะได้บรรจุเป็นข้าราชการเช่นเดียวกัน จึงควรได้รับการสนับสนุนจากพยาบาลทุกคนที่ได้เป็นข้าราชการแล้วและสมาคมวิชาชีพทางการแพทย์และสาธารณสุขทุกสาขา จากคุณ : ขุนวารินสุราบดี (เขียว หางไหม้) เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 55 15:08:40 A:118.173.9.116 X:

ความคิดเห็นที่ 2 น่าสงสารครับ  บอกตรงๆในฐานะ ที่"รู้ใจ"  คนกลุ่มนี้ว่าเธอทำงานหันหนักมากๆ จากคุณ : แตงโมรังสิต เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 55 15:19:59 A:110.168.28.124 X:

ความคิดเห็นที่ 3 สมัยก่อน พ่อแม่อยากให้ลูกสาวไปทำงานอาชีพนี้ เพราะจะได้มาดูแล เมื่อไม่สบาย หลังจากมี โครงการ 30 บาท ช่องว่างนี้ ก็หมดไป ไม่มีคำอธิบาย เพราะน้องก็อาชีพนี้ ตอนนี้อยู่ที่ usa อีกคนอยู่เมืองไทย สู้ ๆ ครับ จากคุณ : อับราฮัม ลินคอล์น เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 55 15:25:14 A:118.172.216.240 X:

ความคิดเห็นที่ 4 ดีครับ จากคุณ : ไทยด่าน เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 55 15:37:22 A:180.183.165.144 X:

ความคิดเห็นที่ 5 หนีมาก็รอบแล้วครับ เจ๊ปูเนี่ย สงสาร น้องๆ พยาบาล ต้องไปตั้งม๊อบ ตากแดด ตากลม จากคุณ : New_BlackCat เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 55 16:09:14 A:58.8.166.16 X:

ความคิดเห็นที่ 6 ชื่นชม ท่านายกฯรมต คะ ท่านไม่หนีปัญหา ทราบว่าปัญหาในประเทศไทยมีมากมายจริงๆ เห็นด้วยกับการแก้ใขปัญหานี้ เพราะท่านเหล่านี้ ทำงานหนัก และเป็นอาชีพที่จำเป็นอย่างยิ่งคะ จากคุณ : กุหลาบแวร์ซาย เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 55 17:47:47 A:27.55.9.19 X:

ความคิดเห็นที่ 7 พยาบาล ลุ้นบรรจุข้าราชการ   โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 30 พฤศจิกายน 2555 16:16 น.        สธ.ดันบรรจุลูกจ้างชั่วคราวตกค้างให้เป็น ขรก.ได้ใน 3 ปี จำนวน 22,641 ตำแหน่ง เฉลี่ยปีละ 7,547 อัตรา เตรียมชงเข้า ครม.18 ธ.ค.นี้ พร้อมเรียก 21 สายวิชาชีพหารือการจัดสัดส่วนบรรจุ ปลัด สธ.เร่งคุยทุกสถานพยาบาลรับมือการบริการผู้ป่วย หากพยาบาลหยุดงานตามคำขู่             วันนี้ (30 พ.ย.) นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าว “การบรรจุลูกจ้างชั่วคราวเป็นข้าราชการ” ว่า จากการหารือกับสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) และสำนักงบประมาณ มีความเห็นตรงกันว่า ตั้งแต่ปี 2555 -2557 จะเริ่มบรรจุข้าราชการตั้งแต่ปีงบประมาณ 2556 เป็นต้นไปนั้น จะอนุมัติตำแหน่งบรรจุลูกจ้างชั่วคราวเป็นข้าราชการของ สธ.ทั้ง 21 สายวิชาชีพได้ทั้งหมด 22,641 อัตรา จากทั้งหมด 30,188 คน โดยตำแหน่งที่ได้จะเฉลี่ยตกปีละ 7,547 อัตรา ที่เหลือระหว่างรอการบรรจุจะเปลี่ยนสถานะเป็นพนักงานกระทรวงสาธารณสุข (พนักงาน กสธ.) โดยจะนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 18 ธันวาคม 2555 และคาดว่าจะดำเนินการได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2556             นพ.ประดิษฐ กล่าวอีกว่า กลุ่มที่อยู่ระหว่างรอการบรรจุจะได้รับการปรับสถานะเป็นพนักงาน กสธ.โดยจะมีสิทธิประโยชน์เทียบเท่าข้าราชการ ได้อัตราเงินเดือน 1.2 เท่าของข้าราชการ เลื่อนค่าจ้างปีละ 1 ครั้ง ต่อสัญญาทุก 4 ปี มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ได้รับสิทธิการรักษาพยาบาลในระบบประกันสังคม และทายาทสายตรงได้แก่บิดามารดา สามี หรือภรรยา และบุตร ใช้สิทธิ 30 บาท ที่มีเงื่อนไขพิเศษเพิ่มเติม มีสิทธิการกู้เงินจากธนาคารออมสิน ธนาคารอาการสงเคราะห์ และสิทธิบัตรเครดิตธนาคารกรุงไทยได้ ซึ่งทั้งหมดหากพนักงาน กสธ.พอใจกับสถานะดังกล่าว และไม่ต้องการบรรจุเป็นข้าราชการอีก ก็สามารถทำได้หากมีความสมัครใจ             นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัด สธ.กล่าวว่า การแบ่งสัดส่วนการบรรจุข้าราชการแต่ละสายวิชาชีพ จะหารือกับ คปร.อีกครั้งในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะเชิญทั้ง 21 สายงานวิชาชีพเข้าร่วมด้วย โดยคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ โดยจะพิจารณากลุ่ม 21 สายวิชาชีพที่รอการบรรจุตั้งแต่ปี 2549 ก่อน ซึ่งมีประมาณ 5,630 คน จากนั้นจึงพิจารณาปี 2550 และ 2551 พร้อมทั้งต้องพิจารณาระดับของโรงพยาบาล (รพ.) ที่ต้องการ ทั้ง รพ.กันดาร มีความขาดแคลนวิชาชีพใด เป็นต้น เบื้องต้นจะใช้งบประมาณ 1,600 ล้านบาท ในการบรรจุปีแรก ยืนยันว่า รัฐบาลจะไม่ให้ รพ.ขาดทุนแน่นอน แม้จะปรับสถานะเป็นพนักงาน กสธ.ที่ต้องเพิ่มเงินเดือน ทั้งนี้ ในวันที่ 3 ธันวาคมนี้ นายกรัฐมนตรีได้เชิญตัวแทนเครือข่ายพยาบาลฯ และสายวิชาชีพอื่นๆ เข้าพบเพื่อชี้แจง และรับฟังปัญหา โดยรัฐมนตรี สธ.ปลัด สธ.และรองปลัด สธ.จะเข้าร่วมด้วย             ผู้สื่อข่าวถามว่า พยาบาลลูกจ้างชั่วคราว 17,000 คน จะนัดหยุดงาน นพ.ณรงค์ กล่าวว่า ได้หารือกับผู้บริหารและหัวหน้าพยาบาลของสถานพยาบาลต่างๆ แล้ว ให้เตรียมพร้อมในแง่ของการบริการผู้ป่วยเป็นหลัก และคำนึงถึงจริยธรรมในวิชาชีพ ที่ไม่ต้องการให้เอาคนไข้เป็นตัวประกัน เพราะขณะนี้ สธ.พยายามแก้ปัญหาเรื่องบรรจุข้าราชการแล้ว             นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมช.สาธารณสุข กล่าวว่า การนัดหยุดงานของพยาบาลนั้น ถือเป็นสิทธิ แต่ไม่อยากให้ภาพออกมาในลักษณะหยุดงานประท้วง ซึ่งหากพอใจกับแนวทางแก้ปัญหาของ สธ.ก็สามารถส่งตัวแทนมาติดตามความก้าวหน้าได้             ด้าน น.ส.กาญจนา จันทร์ไทย ผู้อำนวยการสำนักการพยาบาล สธ. กล่าวว่า หากพยาบาลที่ต้องการหยุดงาน เพราะเหนื่อยกับภาระงาน ย่อมทำได้ตามสิทธิ ซึ่งยังมีพยาบาลรุ่นพี่คอยให้บริการ จึงไม่ต้องกังวล http:ager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9550000146225 จากคุณ : เขียว หางไหม้ เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 55 20:42:10 A:118.173.9.116 X:

ความคิดเห็นที่ 8 กระทรวงสาธารณสุขและก.พ. ค่อย ๆ เพิ่มตัวเลขมาทีละน้อย ๆ เรื่อย ๆ จากปีละสี่พันเป็นเจ็ดพันต่อปี  ภายในสามปี เพราะรู้ว่างานนี้ของจริง น่ากลัวกว่าม็อบเสธ.อ้ายหรือม็อบพันธมิตร เพราะผมเชื่อม็อบพยาบาลเด็ก ๆ สาว ๆ สวย ๆ อายุยังไม่ถึงสามสิบ ไม่ต้องถึงหมื่นคนแสนคนหรอกครับแค่หลักพันคน บุกไปที่ไหนก็ไม่น่าจะมีตำรวจทหารคนไหนหน่วยไหนกล้าใช้กระบองหรือแก๊สน้ำตากับพวกเธอหรอกครับ แค่เห็นหน้าพวกเธอก็มืออ่อนเท้าอ่อนปวกเปียกไปหมดแล้ว งานนี้รัฐบาลแพ้ม็อบสีขาวพยาบาลลูกจ้างชั่วคราวแน่ ๆ แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 55 21:08:04 แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 55 20:54:29 จากคุณ : เขียว หางไหม้ เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 55 20:51:14 A:118.173.9.116 X:

ความคิดเห็นที่ 9 ผมขออนุญาตกราบเรียนถึงท่านนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในวันที่ 3 ธันวาคมนี้หลังจากที่ตัวแทนพยาบาลลูกจ้างชั่วคราวเข้าพบท่านแล้ว ขอให้ท่านมีนโยบายถึงส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงสาธารณสุขและ ก.พ.ซึ่งท่านเป็นประธานอยู่ ให้ดำเนินการบรรจุพยาบาลลูกจ้างชั่วคราวนักเรียนทุนของกระทรวงสาธารณสุข 17,000 กว่าคนเป็นข้าราชทันที ย้อนหลังให้ถึงวันที่ 1 ตุลาคม 2555 จะบรรจุวันนี้หรือสามปีข้างหน้ามันก็ต้องบรรจุเหมือนกัน และเงินงบประมาณแค่หลักพันล้านน่าจะเป็นเรื่องจิ๊บ ๆ สำหรับท่านนายกรัฐมนตรีคนนี้ และในอนาคตให้บรรจุนักเรียนทุนกระทรวงสาธารณทุกคนเป็นข้าราชการทันทีที่สำเร็จการศึกษา ไม่ต้องรอเป็นลูกจ้างชั่วคราวไปก่อน จนกว่าจะหมดภาวะความขาดแคลนกำลังคนค้านสาธารณสุขของประเทศและไม่มีนักเรียนทุนของกระทรวงสาธารณสุขอีกแล้ว การทำความดี ทำความถูกต้อง ท่านนายกรัฐมนตรีไม่ต้องกลัวเสียหน้า เพราะคนก่อเรื่องไม่เป็นธรรม ก่อความผิดพลาดในเรื่องนี้ ไม่ใช่รัฐบาลนี้และไม่ใช่ท่านนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ คนนี้ เป็นเรื่องที่กระทรวงสาธารณสุขและ ก.พ.ที่ผ่าน ๆ มาต้องรับผิดไปเต็ม ๆ ท่านเป็นเพียงผู้เข้ามาแก้ไขให้เกิดความเป็นธรรมขึ้นเท่านั้นเอง   ภาพจะออกมาดีมากเลยครับสำหรับท่านนายกรัฐมนตรีและวิชาชีพพยาบาล ที่ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงเพศแม่เช่นเดียวกับท่านนายกรัฐมนตรี ที่จะไม่ต้องไปก่อม็อบตากแดดโต้ลมเรียกร้องความเป็นธรรมกันอยู่กลางถนนหน้าทำเนียบรัฐบาล ม็อบแพทย์พยาบาลเรียกร้องสิทธิและสวัสดิการไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทย เท่าที่ผมจำได้ เมื่อหลายปีก่อนแพทย์พยาบาลที่ประเทศอิสราเอลก็ก่อม็อบขอเพิ่มเงินเดือนเป็นสองเท่า รัฐบาลอิสราเอลในยุคนั้นสั่งเพิ่มเงินเดือนให้ทีเดียวสามเท่าตัวเลยโดยไม่ต่อรองแม้แต่น้อย จากคุณ : เขียว หางไหม้ เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 55 21:13:20 A:118.173.9.116 X:

ความคิดเห็นที่ 10 ผมว่าราชการมีข้อจำกัดมีระเบียบ มีข้อบังคับ  ถ้ารับไม่ได้ที่จะเป็นพนักงานไปก่อน  ก็ลาออกไปเถอะครับ  มีคนอื่นอีกมากมายที่จบพยาบาลมา  ต้องการทำงานครับ จากคุณ : ต้องผ่านไปให้ได้ เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 55 21:59:27 A:115.87.31.161 X:

ความคิดเห็นที่ 11 เรียนคุณ ความคิดเห็นที่ 10     ผมว่าราชการมีข้อจำกัดมีระเบียบ มีข้อบังคับ  ถ้ารับไม่ได้ที่จะเป็นพนักงานไปก่อน  ก็ลาออกไปเถอะครับ  มีคนอื่นอีกมากมายที่จบพยาบาลมา  ต้องการทำงานครับ จากคุณ : ต้องผ่านไปให้ได้     เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 55 21:59:27 A:115.87.31.161 X:    ----------- ผมเห็นด้วยว่าราชการมีข้อจำกัด มีระเบียบ มีข้อบังคับ และคนทำงานราชการทุกคนไม่ว่าจะเป็นข้าราชการหรือลูกจ้างก็ต้องเคารพยอมรับและปฏิบัติตามข้อจำกัด ระเบียบ ข้อบังคับของทางราชการ แต่ก็มีข้อแม้ว่าข้อจำกัด ระเบียบ ข้อบังคับนั้น มันมีความชอบธรรม มีความเป็นธรรมหรือไม่ ข้อจำกัด ระเบียบ ข้อบังคับนั้น เลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมกับคนบางกลุ่ม บางเพศ บางวิชาชีพหรือไม่ ข้อจำกัด ระเบียบ ข้อบังคับที่พยาบาลลูกจ้างชั่วคราวกระทรวงสาธารณสุขกำลังประสบอยู่ในขณะนี้คือการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมอย่างยิ่ง ผมขอยกตัวอย่างข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในวงข้าราชการไทย สำหรับนักเรียนทุนของทางราชการ กระทรวงกลาโหมและตำรวจ นักเรียนนายสิบทหารตำรวจเมื่อสำเร็จการศึกษาก็ได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการ นับอายุราชการทันทีทุกคน นักเรียนนายร้อย นายเรือหรือนายเรืออากาศ ก็เช่นเดียวกัน หรือแม้แต่ในกระทรวงสาธารณสุขเอง วิชาชีพ แพทย์ ทันตแพทย์ เมื่อสำเร็จการศึกษาก็ได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการทันที ทุกคน แต่พยาบาล และนักเรียนทุนทางการแพทย์และสาธารณสุขอื่น ๆ ได้บรรจุเป็นแค่ลูกจ้างชั่วคราว หรือกำลังจะเปลี่ยนฉลากใหม่ เป็นพนักงานสาธารณสุข พนักงาน กสธ. หรือลูกจ้างเถื่อนที่ไม่เคยมีในระบบของการสาธารณสุขไทยที่ใดเลย ไม่เคยมีกฎหมายใด ๆ รองรับเลย จากลูกจ้างชั่วคราวเป็นลูกจ้างเถื่อน การเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมเพราะพยาบาลส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงเพศแม่เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรี อย่างนี้พยาบาลวิชาชีพลูกจ้างชั่วคราวทั้งหลายควรยอมรับข้อจำกัด ระเบียบ ข้อบังคับที่เลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมเหล่านี้หรือไม่ ---- รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ ส่วนที่ ๒ ความเสมอภาค มาตรา ๓๐  บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมายและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายเท่าเทียมกัน ชายและหญิงมีสิทธิเท่าเทียมกัน การเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคลเพราะเหตุแห่งความแตกต่างในเรื่องถิ่นกำเนิด เชื้อชาติ ภาษา เพศ อายุ ความพิการ สภาพทางกายหรือสุขภาพ สถานะของบุคคล ฐานะทางเศรษฐกิจหรือสังคม ความเชื่อทางศาสนา การศึกษาอบรม หรือความคิดเห็นทางการเมืองอันไม่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ จะกระทำมิได้ -------- จากคุณ : เขียว หางไหม้ เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 55 13:07:11 A:61.7.145.156 X: