Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
"โกร่ง" การันตีเศรษฐกิจ "เยี่ยม" ยันหนี้สาธารณะพุ่งเกิน 60% จีดีพีไม่ใช่ปัญหา vote ติดต่อทีมงาน


"โกร่ง" การันตีเศรษฐกิจ "เยี่ยม" ยันหนี้สาธารณะพุ่งเกิน 60% จีดีพีไม่ใช่ปัญหา


“ดร.โกร่ง” เชื่อการลงทุน 2–5 ปีข้างหน้าจะช่วยสร้างรากฐานใหม่เศรษฐกิจไทย ชี้ปีนี้โตได้ 5.7% ถือว่าดี ไม่สะท้านหากหนี้สาธารณะประเทศจะพุ่งไปแตะ 60–65% เหตุกู้เงินในมาใช้ ไม่ได้เป็นหนี้นอก “โต้ง” ฟุ้งเน้นการกระจายรายได้–กดสินค้าราคาถูก ขณะ “สรรพากร” ห่วง “ห่าน” ปีหน้า ไม่มีขนให้รีด

นายวีรพงษ์ รามางกูร ประธานคณะกรรมการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ (กยอ.) กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง “Thailand Economic Outlook 2013 ถอดรหัสเศรษฐกิจไทยใต้เงาวิกฤติเศรษฐกิจ-การเมืองโลก” ว่าในช่วง 2-5 ปีข้างหน้าประเทศไทยจะเกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจจำนวนมากจากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน 2.27 ล้านล้านบาท โดยเฉพาะการปรับระบบโลจิสติกส์ สร้างรถไฟความเร็วสูง และการลงทุนในโครงการบริหารจัดการน้ำอีก 350,000 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยวางรากฐานให้เศรษฐกิจไทยในอนาคต

ทั้งนี้ ประเด็นที่มีความกังวลกันในเรื่องปัญหาหนี้สาธารณะของประเทศนั้นว่า ยอดหนี้สาธารณะจะมากขึ้นไปถึง 60-65% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) นั้น ถึงแม้ว่าจะขึ้นไปก็ไม่น่าจะเป็นอันตรายต่อฐานะการคลังของประเทศ เพราะไม่ได้ใช้เงินกู้จากต่างประเทศมาลงทุน แต่ถ้าหนี้สาธารณะเป็นเงินกู้จากต่างประเทศแค่ 40% ของจีดีพีก็เป็นปัญหาแล้ว แต่การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของประเทศเป็นการใช้เงินออมในประเทศที่อยู่ในรูปของเงินบาทมาลงทุนพันธบัตรซึ่งตลาดมีอย่างไม่จำกัด ขณะที่การออกพันธบัตรเพื่อระดมทุนเพื่อการลงทุนก็เป็นการออกของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจเป็นส่วนใหญ่ ไม่ใช่รัฐบาล และอาจจะตั้งบริษัทลูกขึ้นมาให้เอกชนมาร่วมลงทุนด้วย

สำหรับสถานการณ์เศรษฐกิจโลก นายวีรพงษ์ กล่าวว่า ประเทศจีน ซึ่งสะสมทุนสำรองไว้มากมีโอกาสที่จะทำให้ค่าเงินหยวนค่อยๆ แข็งค่าขึ้น ดังนั้น จีนจึงต้องเร่งใช้เงินส่วนเกิน โดยการลงทุนในต่างประเทศในสาขาพลังงานเป็นหลัก ขณะที่การลงทุนในสาขาอื่นคงดำเนินการในประเทศ โอกาสที่จีนจะมาลงทุนในประเทศไทยคงไม่มาก เพราะไม่ใช่ประเทศที่มีพลังงานเหลือเฟือ ดังนั้น ยุทธศาสตร์ของไทยน่าจะมองจีนในแง่เป็นตลาดมากกว่าดึงเงินมาลงทุน

ส่วนประเด็นหน้าผาทางการคลังของสหรัฐอเมริกานั้น มองว่าสื่อมวลชนตะวันตกให้ความสำคัญมากเกินไป คิดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ น่าจะถึงจุดต่ำสุดแล้ว ระยะต่อไปจึงมีโอกาสที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ  จะฟื้นตัวในอีก 2-3 ปีข้างหน้า เมื่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ  ฟื้นตัวดีขึ้นน่าจะเป็นตัวฉุดให้เศรษฐกิจยุโรปไม่ให้ตกต่ำมากไปกว่านี้ และอนาคตในอีก 7-8 ปีข้างหน้า สหรัฐฯ จะเป็นผู้ผลิตพลังงานรายใหญ่ของโลกเทียบเท่าประเทศซาอุดิอาระเบีย

“เศรษฐกิจจีนปีนี้ที่นักเศรษฐศาสตร์คาดกันว่าจะชะลอตัวก็คาดการณ์ผิดหมด เพราะเศรษฐกิจจีนยังขยายตัวได้ 8% ถือว่าเติบโตขึ้นมาก จีนจะยังคงเป็นหัวรถจักรสำคัญฉุดเศรษฐกิจโลกต่อไป ขณะที่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศไทยหลังน้ำท่วมถือว่าเร็วกว่าที่คาดไว้เกือบทุกอุตสาหกรรม โดย ธปท.คาดว่าปีนี้เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ 5.7% โดยขยายตัวได้มากในครึ่งปีหลัง ขณะที่ปีหน้าคาดว่าจะขยายตัวได้ 4.6%”

ด้านนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ  รมว.คลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง “ออกแบบเศรษฐกิจไทย ภายใต้โจทย์ใหญ่เศรษฐกิจโลก” ว่า “รัฐบาลยังคงมีความแน่วแน่ในทิศทางการปรับสมดุลทางเศรษฐกิจของประเทศ เน้นเศรษฐกิจภายในประเทศให้มากขึ้น และแนวทางการบริหารเศรษฐกิจที่ดีควรจะมีการเติบโตของเศรษฐกิจและมีการกระจายรายได้ที่ดี พร้อมกับมีเสถียรภาพของราคา ทั้งในรูปของอัตราแลกเปลี่ยน อัตราดอกเบี้ย และราคาสินค้า ซึ่งเศรษฐกิจโลกช่วง 2-3 ทศวรรษที่ผ่านมามีความหมกมุ่นในการเติบโตทางเศรษฐกิจนำไปสู่นโยบายที่ผิดพลาด ทั้งนี้ รัฐบาลได้วางแผนที่จะปรับลดการขาดดุลงบประมาณในปี 2557 เหลือ 225,000 ล้านบาท และประเทศไทยมีการขาดดุลงบประมาณเหลือเพียง 2% ของจีดีพี ซึ่งถือว่าเป็นการขาดดุลงบประมาณที่ต่ำมากที่สุดประเทศหนึ่งในโลก จากนั้นจะปรับงบประมาณให้เข้าสู่สมดุลภายใน 3 ปีข้างหน้า

ขณะที่นายสาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร ระบุว่า ในปีงบประมาณนี้ การปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลจะมีผลต่อการจัดเก็บรายได้ของกรมฯ  อย่างมากเมื่อเทียบกับปีก่อน เพราะปีนี้จะมีผู้ประกอบการที่เสียภาษี 23% ครึ่งปี และอีกครึ่งปีจะเสียในอัตรา 20% ถือเป็นระเบิด 2 ลูกใหญ่ที่แรงที่สุด แต่รัฐบาลมีเป้าหมายให้กรมฯ  จัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้น 9% จากปีก่อนและไม่มีนโยบายที่จะเพิ่มอัตราภาษีหรือเพิ่มการจัดเก็บภาษีตัวใหม่เข้ามาช่วย อย่างไรก็ตาม จะพยายามจัดเก็บรายได้ให้ได้ตามเป้าหมาย โดยปีนี้มีเป้าหมายการจัดเก็บที่ 1.74 ล้านล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนกว่า 80% ของการจัดเก็บรายได้รัฐบาล.

ไทยรัฐออนไลน์


    โดย ทีมข่าวเศรษฐกิจ
    1 ธันวาคม 2555, 05:00 น.

จากคุณ : น้ำมิตร
เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 55 08:43:37 A:58.11.84.66 X:




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com