Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เล็ง 6 ข้ออุ้ม"เอสเอ็มอี" ชดเชยส่วนต่าง 300 บ. ให้สมทบ สปส. แค่ 2.5%{แตกประเด็นจาก P13007396} vote ติดต่อทีมงาน

กระทู้นี้แตกประเด็นมาจาก P13007396


เล็ง 6 ข้ออุ้ม"เอสเอ็มอี" ชดเชยส่วนต่าง 300 บ. ให้สมทบ สปส. แค่ 2.5%


วันที่ 01 ธันวาคม พ.ศ. 2555 เวลา 20:12:44 น.


คลังถกมาตรการเพิ่มช่วยเอสเอ็มอี ใช้มาตรการภาษีกระตุ้นบริโภค คาดได้ข้อสรุปสัปดาห์หน้า

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ภายหลังหารือร่วมกับนายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และตัวแทนจากภาคเอกชน ทั้งสภาหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) และสมาคมธนาคารไทย เพื่อหารือถึงมาตรการเยียวยาเพิ่มเติมให้กับผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 300 บาท ทั่วประเทศ ในวันที่ 1 มกราคม 2556 ว่าที่ประชุมเห็นตรงกันในการพิจารณามาตรการบรรเทาผลกระทบเพิ่มเติมกับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ที่อยู่นอกเหนือคำนิยามของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ที่กว้างเกินไป ทำให้รายใหญ่เองได้ประโยชน์ไปด้วย จำเป็นต้องมีมาตรการเพิ่มเติม เพื่อให้ตรงกลุ่มเอสเอ็มอีเป้าหมายจริง

นายกิตติรัตน์กล่าวว่า ที่ประชุมได้กำหนดแนวทางช่วยเหลือ 6 แนวทางคือ
1. การเพิ่มสภาพคล่องและวงเงิน ดอกเบี้ยต่ำ
2. การพิจารณาลดต้นทุนผู้ประกอบการ ด้วยการลดเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมอัตราที่ลดแล้วเหลือ 4% จะลดลงได้อีกหรือไม่ หรือรายการอื่นๆ ทั้งอัตราภาษีและค่าธรรมเนียม
3. ทบทวนการใช้จ่ายภาครัฐให้เหมาะสมกับสถานการณ์จากการว่าจ้างเอสเอ็มอีที่มาให้บริการกับภาครัฐ เช่น การรักษาความปลอดภัย หรือทำความสะอาด รวมถึงการรับเหมาต่างให้สอดคล้องกัน
4. มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการบริโภคสินค้าที่มีประโยชน์หรือที่เกิดจากเอสเอ็มอี
5. มาตรการเพิ่มคุณภาพผู้ประกอบการผ่านเงินทุนเวียนของรัฐและ
6. ประชาสัมพันธ์ให้เกิดความรู้ความเข้าใจและเข้าถึงมาตรการต่างๆ

"หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะรับไปพิจารณาในประเด็นต่างๆ เพื่อนำมาหารือ เพื่อให้ได้ข้อสรุปในสัปดาห์หน้า จะได้นำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อออกเป็นมาตรการที่ชัดเจนภายในเดือนธันวาคมนี้ โดยรัฐบาลมั่นใจว่านโยบายนี้ไม่ใช่นโยบายประชานิยม แต่เป็นการเปลี่ยนสมดุลของประเทศด้วยการกระจายรายได้ ที่จะทำให้คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้น"นายกิตติรัตน์กล่าว

นายกิตติรัตน์กล่าวว่า มาตรการ 11 ข้อที่ได้ดำเนินการไปแล้วคือ ลดอัตราเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมจาก 5% เหลือ 4% การปรับลดภาษีนิติบุคคลจากเดิม 30% เหลือ 23% ในปีนี้ และจะเหลือ 20% ในปี 2556 นำส่วนต่างของรายได้มาหักเป็นค่าใช้จ่ายได้ 1.5 เท่า นำค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมฝีมือแรงงานมาหักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า การให้กู้ยืมผ่านกองทุนพัฒนาฝีมือแรงงานในอัตราดอกเบี้ยต่ำ 0.1% สินเชื่อเพื่อส่งเสริมการจ้างงาน สินเชื่อเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการผลิต การค้ำประกันสินเชื่อรวมรายธนาคารพาณิชย์ การค้ำประกันผู้ประกอบการรายใหม่ การยกเว้นภาษีสำหรับการซื้อเครื่องจักรเพิ่มเติม เพื่อทดแทนเครื่องจักรเก่าและการหักค่าเสื่อมราคาเครื่องจักรได้ทันที 100%

"ในส่วนที่เกี่ยวกับเงินสินเชื่อและการค้ำประกัน กระทรวงการคลังจะเป็นคนพิจารณาวงเงินที่เหมาะสม อย่างสินเชื่อเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตที่กำหนดไว้ 3 ปีจากปี 2555-2557 วงเงินรวม 20,000 ล้านบาท จะขยายออกไปอีก 1 ปีถึงปี 2558 โดยที่วงเงินรวมเดิมแบ่งเป็น ปีแรกใช้วงเงิน 7,500 ล้านบาท และปีที่ 2 จำนวน 12,500 ล้านบาท เมื่อขยายเวลาออกไปอีก 1 ปี วงเงินจึงไม่ควรต่ำกว่าปีที่ 2" นายกิตติรัตน์กล่าว

นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า เอกชนยังต้องการที่จะเสนอมาตรการเพิ่มเติมในส่วนของการลดเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมให้เหลือเพียง 2.5% เป็นเวลา 3 ปี เพื่อช่วยเหลือเอสเอ็มอีที่ได้รับความเดือดร้อน รวมถึงจัดตั้งกองทุน เพื่อชดเชยส่วนต่างค่าจ้าง การยกเว้นการหักภาษี ณ ที่จ่าย 3% หรือการรับจ้างเหมาช่วงและที่มีการพูดกันมากคือ ภาษีมูลค่าเพิ่มที่จะลดจาก 7% เหลือ 5% นั้น เป็นการพูดถึงการยกเว้นในส่วนของภาษีขายของผู้ประกอบการ

นายจีรศักดิ์ สุคนธชาติ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการประกันสังคม (บอร์ด สปส.) มีมติเห็นชอบลดส่งเงินสมทบให้ผู้ประกันตนและนายจ้างร้อยละ 1 ตลอดปี 2556 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท โดยผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ทั้งนายจ้างและลูกจ้าง จะส่งเงินสมทบในอัตรา ร้อยละ 4 จากปกติที่เก็บร้อยละ 5 ส่วนผู้ประกันตนตามมาตรา 39 เดิมจ่ายในอัตราร้อยละ 9 ของฐานค่าจ้าง 4,800 บาท ลดเหลืออัตราร้อยละ 7 ของฐานค่าจ้าง 4,800 บาท หรือจ่ายเงินสมทบเดือนละ 336 บาท อย่างไรก็ตาม ในส่วนของรัฐบาลยังคงจ่ายเงินสมทบในอัตราเดิมคือ ร้อยละ 2.75 ว่าการปรับค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท ส่งผลให้ผู้ใช้แรงงาน 3.46 ล้านคน ได้รับค่าจ้างเพิ่มขึ้น และต้องนำส่งอัตราเงินสมทบที่เพิ่มขึ้น หากมีการจัดเก็บในอัตราปกติฝ่ายนายจ้าง ลูกจ้างร้อยละ 5 และรัฐบาลร้อยละ 2.75 รวมแล้วในกลุ่มนี้จะต้องส่งเงินสมทบเพิ่มขึ้น 9,217.44 ล้านบาท หากลดเงินสมทบร้อยละ 1 ในส่วนของนายจ้างและลูกจ้าง เงินที่ต้องเก็บได้เพิ่มขึ้นจะหายไป 5,231.52 ล้านบาท

นายจีรศักดิ์กล่าวว่า ผู้ประกันตนมาตรา 33 และ 39 ที่ต้องได้รับการลดเงินสมทบมีทั้งหมด 10,368,499 คน หากมีการจัดเก็บเงินสมทบในอัตราปกติของคนทั้ง 2 กลุ่มนี้ สปส.จะมีเงินเข้ากองทุน 171,140 ล้านบาท แต่เมื่อมีการลดเงินสมทบส่งผลให้เงินลดลง ดังนั้น ในปี 2556 สปส.จะเก็บเงินคน 2 กลุ่มนี้ได้เพียง 144,180 ล้านบาท แยกเป็นผู้ประกันตน มาตรา 33 ทั้งหมด 9,395,282 คน หากมีการจัดเก็บในอัตราปกติร้อยละ 5 ของฝ่ายนายจ้างและลูกจ้าง กองทุนประกันสังคมจะมีเงินเข้า 129,400 ล้านบาท และเมื่อลดเงินสมทบอัตราร้อยละ 1 เงินจะหายไป 25,880 ล้านบาท ขณะที่ผู้ประกันตนมาตรา 39 จำนวน 973,217 คน หากมีการจัดเก็บในอัตราปกติร้อยละ 9 กองทุนประกันสังคมจะมีเงินเข้า 5,410 ล้านบาท และเมื่อลดเงินสมทบอัตราร้อยละ 2 เงินจะหายไป 1,080 ล้านบาท รวมแล้วเงินจะหายไปทั้งหมด 26,960 ล้านบาท

"การลดเงินสมทบในปี 2556 จะส่งผลกระทบให้เงินที่ได้รับไม่เพียงพอต่อการจ่ายสิทธิประโยชน์ใน 4 กรณี ได้แก่ เจ็บป่วย ทุพพลภาพ คลอดบุตร และเสียชีวิต ซึ่งคาดว่าจะต้องนำเงินสะสมในส่วนของประโยชน์ทดแทน 4 กรณี มาเติมในจำนวนเงินที่หายไป และหากในปี 2557 ยังคงลดเงินสมทบต่อไปอีก เงินสะสมในส่วนของประโยชน์ทดแทน 4 กรณี จะมีความเสี่ยงสูงที่จะหมด เพราะในแต่ละปี สปส.ต้องจ่ายประโยชน์ทดแทนทั้ง 4 กรณีเฉลี่ยกว่า 40,000 ล้านบาท" นายจีรศักดิ์กล่าว

 

(ที่มา:มติชนรายวัน 1 ธ.ค.2555)

มติชนออนไลน์

 

 
 

จากคุณ : น้ำมิตร
เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 55 20:34:10 A:110.168.249.108 X:




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com