ความคิดเห็นที่ 1 ปูดตั้ง"บริษัทผี"ประมูลข้าว                     นายเศรษฐกิจ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ โชว์ชาร์ทประกอบการอภิปรายความเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าว เชื่อมโยงบริษัทเอกชนกับคนในรัฐบาลศึกซักฟอกวันที่สองเดือด ปชป.รุมชำแหละโครงการจำนำข้าว “หมอวรงค์” เปิดหลักฐานตั้ง “บริษัทผี” จัดฉากประมูล “จีทูจี” แต่ที่แท้แอบขายราคาต่ำให้บริษัทเอกชนใกล้ชิดคนในรัฐบาล ทั้งที่เคยร่วมวงทุจริตจำนำข้าวสมัย “ทักษิณ” มาแล้ว           แฉถ้าขายหมด 7 ล้านตัน ส่วนต่างพุ่ง 2 หมื่นล้าน ส.ส.ยะลามึนอ้างขายข้าว “จีทูจี” แต่ให้เอกชนทำ “เกียรติ” ซ้ำ “เจ๊ ด.-บริษัท ส.” จัดโควตา แบ่งกำไรโรงสีกิโลละบาท           การประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล วันที่สอง เมื่อวานนี้ (26 พ.ย.) ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ได้พุ่งเป้าอภิปรายไปที่นโยบายรับจำนำข้าวทุกเม็ดของรัฐบาล โดยเรียกร้องให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รับผิดชอบในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ           ไฮไลต์ของการอภิปรายอยู่ที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ที่ระบุว่า การขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ “จีทูจี” นั้น เป็นเรื่องที่รัฐบาลโกหก เนื่องจากตรวจสอบเอกสารแล้วพบว่าจำนวนข้าวที่รัฐบาลบอกว่าจะขาย 7.32 ล้านตันนั้น เป็นการซื้อขายให้กับบริษัทผีของคนไทยและของจีน มีกระบวนการซื้อชื่อบริษัทเพื่อมาทำสัญญาเท่านั้นเอง โดยบริษัทจีนที่ว่านี้ชื่อ GSSG IMP AND EXP.CORP ตั้งอยู่ที่นครกวางเจา สาธารณรัฐประชาชนจีน           ทั้งนี้ นพ.วรงค์ ได้นำเอกสารมาประกอบการอภิปราย โดยเป็นเอกสารมอบอำนาจของบริษัท ผู้มีอำนาจได้ลงนามมอบอำนาจให้กับบุคคลคนหนึ่ง ภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.พิจิตร ให้มีอำนาจทำการแทนในการซื้อขายข้าวตามสัญญาจีทูจีจำนวน 5 ล้านตัน แต่จากการตรวจสอบพบว่า ผู้มีอำนาจของบริษัทดังกล่าวกลับเป็นผู้ช่วย ส.ส.พรรคเพื่อไทย           ส่วนบุคคลที่รับมอบอำนาจให้ทำการแทน และอยู่ที่จังหวัดพิจิตร นั้น คนพื้นที่เรียกว่า “เสี่ยโจ” เป็นคนของบริษัท เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด ซึ่งถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบพบว่ามีส่วนในการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวเมื่อปี 2546-2547 สมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พฤติกรรมนำข้าวเก่ามาเวียนเทียนเข้าโครงการรับจำนำ           นอกจากนั้น บริษัท เพรซิเดนท์ฯ ยังมีความเกี่ยวข้องกับบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด ที่มีข่าวประมูลข้าวของรัฐบาลเมื่อเร็วๆ นี้ เพราะเมื่อปี 2547 บุคคลสำคัญใน บริษัทเพรซิเดนท์ฯ ได้ไปจดทะเบียนตั้ง บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด และเชื่อมไปถึง “เสี่ยโจ”           ตั้งบริษัทผีประมูลข้าวราคาต่ำเอื้อพวก           “รัฐบาลยอมนำหัวของบริษัทจีนมาทำสัญญาแบบจีทูจี เป็นเพราะว่าต้องการเลี่ยงการประมูลที่มีราคาสูง จากการตรวจสอบพบว่าเมื่อทำเช่นนี้ จะได้ข้าวกระสอบละ 300 บาท ทั้งที่ราคาข้าวในตลาดอยู่ที่กระสอบละ 1,500-1,555 บาท ถ้ารัฐบาลขายด้วยวิธีนี้ทั้งหมด 7.32 ล้านตัน จะมีค่าส่วนต่างราคาถึง 2 หมื่นล้านบาท” นพ.วรงค์ กล่าว           ส.ส.พิษณุโลก อภิปรายอีกว่า จากการตรวจสอบบันทึกการเบิกข้าวของกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ พบว่ามีการอำพรางชื่อบริษัทที่จะส่งมอบข้าว โดยในใบบันทึกช่วงต้นพบมีการบันทึกชื่อบริษัทรับข้าวว่า “สยามเอริก้า” แต่ช่วงท้ายของบันทึก เจ้าหน้าที่กลับพิมพ์ว่า “สยามอินดิก้า” จึงถือว่ามีการลับลวงพรางเกิดขึ้น           เงินไหลเข้า”นอมินี”บริษัทค้าข้าว           นพ.วรงค์ อภิปรายต่อว่า มีคนส่งข้อมูลบัญชีค้าข้าวของรัฐบาล เป็นบัญชีออมทรัพย์ของกรมการค้าต่างประเทศ ปรากฏว่าข้อมูลช่วงวันที่ 28 ก.ย. ถึง 15 ต.ค. ที่รัฐบาลประกาศว่าจะมีการขายข้าวแต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ พบว่ามีการถอนเงินจากธนาคารใหญ่ในหลายลักษณะ ทั้งแคชเชียร์เช็ค และการโอนเงิน เรื่องนี้สามารถจับโกหกรัฐบาลได้ เพราะหากเป็นการค้าแบบ “จีทูจี” จะต้องมีการเปิดแอล/ซี แต่ครั้งนี้กลับไม่พบว่ามีการเปิดแอล/ซี แสดงว่าไม่มีการค้าข้าวให้ต่างประเทศจริง           อย่างไรก็ดี กลับมีเงินหมุนเวียนจากธนาคารใหญ่ เช่น มีการโอนเงินรวม 72 รายการจากธนาคารใหญ่ 4 แห่งในประเทศไทย รวมมูลค่า 4,960 ล้านบาท และมีการถอนเงินออกจากบัญชีกรมการค้าต่างประเทศ 2 ครั้ง รวมเป็นเงิน 4,200 ล้านบาท           เมื่อไม่มีการค้าข้าวแบบจีทูจีจริง แต่รัฐบาลกลับเปิดโอกาสให้ บริษัทสยามอินดิก้า นำข้าวของรัฐบาลไปเร่ขายให้กับโรงสี ได้มีการพบแคชเชียร์เช็คออกในนามบุคคลคนหนึ่ง จำนวนกว่า 500 ล้านบาท แต่เมื่อตรวจสอบที่อยู่ของบุคคลคนนี้กลับไม่พบสภาพบ้านของพ่อค้าข้าวรายใหญ่ ซ้ำเมื่อสอบถามประชาชนบ้านใกล้เคียงยังทราบว่าย้ายไปอยู่บ้านของภรรยาย่านบางแคแล้ว เมื่อตามไปถึงพบว่าเป็นเพียงบ้านไม้สองชั้น ตั้งอยู่ริมคลอง จากการตรวจสอบชื่อของบุคคลคนนี้ พบว่าเป็นคนของ บริษัท สยามอินดิก้า เคยรับมอบอำนาจจากเสี่ยคนหนึ่งไปจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทเมื่อวันที่ 13 ม.ค. 2547           ตั้งกองทุนซุกเงิน-เปิดคลิปโยงอดีตนายกฯ           นพ.วรงค์ อภิปรายอีกว่า บุคคลผู้นี้เกี่ยวข้องกับบัญชีธนาคารกสิกรไทย โดยบัญชีดังกล่าวมีผู้มีอำนาจลงนาม 5 คน หนึ่งในนั้นคือ “เสี่ยโจ” และสุภาพสตรีอีกคนหนึ่ง โดยสุภาพสตรีคนนี้เปิดบัญชีไว้กว่า 100 บัญชี มีการตั้งกองทุนชื่อ KTAM เอาไว้ซุกเงิน ลักษณะที่ตรวจพบคือ เมื่อมีการโอนเงินมาในช่วงเช้า ปรากฏว่าช่วงบ่ายก็มีการถอนเงินออกจากบัญชีทั้งหมดในรูปแบบของเงินสด โดยการโอนเงินเกิดขึ้นหลายครั้งด้วยตัวเลขใกล้เคียงกัน อยากถามว่าเข้าข่ายการฟอกเงินหรือไม่           ในตอนท้าย นพ.วรงค์ ยังได้เปิดคลิปภาพ และระบุว่าเป็นเสี่ยคนหนึ่งในวงการค้าข้าวที่เคยทำให้รัฐเสียหายและเกี่ยวข้องกับการตั้งบริษัทผีดังกล่าว ไปพบกับอดีตนายกฯของไทยที่ประเทศมาเลเซียด้วย แสดงให้เห็นว่าเสี่ยรายนี้ใกล้ชิดกับรัฐบาล และมีการตั้งบริษัทผีขึ้นมาหากินหรือไม่           อ้างขายข้าว”จีทูจี”แต่ให้เอกชนทำ           ก่อนหน้าการอภิปรายของ นพ.วรงค์ ซึ่งถูก ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลประท้วงขัดจังหวัดอย่างต่อเนื่องนั้น นายประเสริฐ พงษ์สุวรรณศิริ ส.ส.ยะลา พรรคประชาธิปัตย์ ได้อภิปรายกรณีรัฐบาลอ้างว่ามีการทำสัญญาขายข้าวจีทูจีกับอินโดนีเซีย เป็นข้าวค้างสต็อก 3 แสนตัน โดยรัฐบาลให้บริษัทสยามอินดิก้าไปทำสัญญากับองค์กรสำรองข้าวของอินโดนีเซีย แต่กลับมีลักษณะงุบงิบทำสัญญา เนื่องจากก่อนการประมูลมีเพียง 2 บริษัทเท่านั้นที่ทราบ และในที่สุดบริษัทที่ประมูลได้คือบริษัทสยามอินดิก้า โดยไม่มีการเปิดเผยหรือแจ้งให้สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยทราบ จนทางสมาคมฯมีหนังสือสอบถามไปยังรัฐบาล ที่สำคัญการขายข้าวจีทูจี เหตุใดจึงไปให้เอกชนทำ           นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า ที่มาของบริษัทสยามอินดิก้า มีความเชื่อมโยงกับ บริษัท เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง ซึ่งเป็นบริษัทที่ชนะประมูลข้าวมากที่สุดในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นบริษัทที่เดินเข้าออกกระทรวงพาณิชย์ ได้รับผลประโยชน์จากการขายข้าว ได้ลดค่าประกันสัญญา แต่ต่อมาบริษัทดังกล่าวทำให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) เสียหายเป็นเงินสูงมาก และบริษัทก็ล้มละเลย กระทั่งมาตั้งบริษัทใหม่ ใช้ชื่อบริษัท สยามอินดิก้า โดยมีรายชื่อกรรมการบริหารบริษัทเป็นชุดเดียวกัน ใช้ที่อยู่เดียวกัน           “เมื่อในอดีตเคยทำให้ อคส.เสียหาย แต่ทำไมถึงยังทำธุรกิจกับบริษัทนี้อยู่” นายประเสริฐ ตั้งคำถาม           ปูดขายข้าวราคาต่ำ-”เจ๊ ด.”เอี่ยวจัดโควตา           นายเกียรติ สิทธีอมร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า วันนี้วงการข้าวทราบกันดีว่า ถ้าโรงสีใดอยากได้ข้าวต้องติดต่อ “เจ๊ ด.” คนเดียว และที่ผ่านมามี “บริษัท ส.” ได้สิทธิกระจายข้าวจากโครงการรับจำนำ มีการจัดระบบการส่งมอบ จัดหาข้าว และแบ่งกำไรให้โรงสีกิโลกรัมละ 1 บาท           นายเกียรติ อภิปรายอีกว่า หากเทียบงบประมาณที่รัฐบาลใช้กับโครงการรับจำนำ พบว่าขาดทุนมหาศาล เพราะมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติเงิน 4.05 แสนล้านบาท ต้องรับจำนำข้าวให้ได้ 26 ล้านตัน ครอบคลุมเกษตรกร 4 ล้านครัวเรือน แต่รัฐบาลกลับใช้เงิน 4.05 แสนล้านบาทรับจำนำข้าวได้เพียง 18 ล้านตัน ครอบคลุมเกษตรกรเพียง 1.7 ล้านครัวเรือนเท่านั้น เท่ากับเงินหายไปถึง 1.2 แสนล้านบาท           “แต่ผลประโยชน์ที่ได้กลับพบว่าไม่ถึงมือชาวนา มีแต่โรงสีเท่านั้นที่ได้กำไรอย่างมหาศาล จากการตรวจสอบโรงสีแห่งหนึ่งมีรายได้ในปี 2554 ถึง 44 ล้านบาท ทั้งที่รายได้ในปี 2553 มีเพียง 19 ล้านบาทเท่านั้น หรือโรงสีอีกแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้ กทม. มีรายได้ปี 2554 สูงถึง 114 บาท ทั้งที่ปี 2553 มีรายได้แค่ 3 หมื่นบาท”           “อภิสิทธิ์”แขวะจีทูจีคือบริษัทผี           ในช่วงเช้า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายเปิดประเด็นจำนำข้าวตอนหนึ่งว่า โครงการรับจำนำข้าวทำประเทศสูญเสียงบประมาณปีละกว่า 2 แสนล้านบาท กระทบต่อฐานะการเงินการคลัง ปริมาณการส่งออกลดลงร้อยละ 30 ทำให้ต้องสูญเสียตลาด เสียแชมป์ในการส่งออกข้าว และยังมีปัญหาเรื่องคุณภาพข้าวที่จะรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ที่สำคัญการทุจริตคอร์รัปชันเกิดขึ้นทุกขั้นตอนและมีแนวโน้มรุนแรง           “รัฐบาลปกปิดการระบายข้าว โดยอ้างว่าไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะเป็นสัญญาแบบจีทูจี ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นจีเจี๊ยะ จีเจ๊ง จีเจ๊ จีจีน จีโจ๊ก หรือ จีโกสต์ (ผี) บริษัทผีคืนชีพ ที่ทำเป็นขบวนการโกงทั้งหมด”           นายกฯเล็งวางระบบไอทีป้องทุจริต           ด้าน นางสาวยิ่งลักษณ์ ลุกขึ้นชี้แจงว่า โครงการรับจำนำข้าวที่ว่าไม่โปร่งใสนั้น ขณะนี้ได้มอบนโยบายให้ทำทุกขั้นตอนด้วยความโปร่งใส และต้องไม่ให้ขาดทุนกว่าการทำนโยบายประกันรายได้ในปีที่ผ่านมา นอกจากนั้นก็ได้สร้างระบบตรวจสอบ ให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม อีกทั้งอนาคตจะนำระบบเทคโนโลยีมาเก็บรายละเอียดทุกขั้นตอนเพื่อลดความซ้ำซ้อนและช่องว่างการทำทุจริต           บรรยายใต้ภาพ           เชื่อมโยง: นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปปัตย์ โชว์ชาร์ทประกอบการอภิปรายความเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าว เชื่อมโยงบริษัทเอกชนกับคนในรัฐบาล--จบ--           ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ .....เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ ที่มา คลิ๊ก -------------------------------------------------------------------------------------- นั่นสิ หากเคยทำให้รัฐเสียหายขนาดนั้น  ทำไมรัฐบาลมาร์ค-ปชป. จึง           “เมื่อในอดีตเคยทำให้ อคส.เสียหาย แต่ทำไมถึงยังทำธุรกิจกับบริษัทนี้อยู่” นายประเสริฐ ตั้งคำถาม จากคุณ : น้ำมิตร เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 55 21:48:09 A:58.8.162.233 X:

ความคิดเห็นที่ 2 เงินถึงมือชาวนา รัฐบาลขายข้าวได้ราคาดี นำเงินเข้าประเทศมากมาย ทุจริต ก้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามตรวจสอบ ไม่เห็นมีอะไร ไม่ดีสำหรับประชาชนเลยครับ จากคุณ : kkattleya เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 55 22:04:06 A:171.98.109.85 X:

ความคิดเห็นที่ 3 เงินเข้าเท่าไรจ้ะ จากคุณ : Khmer Su-rin เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 55 22:12:31 A:14.207.1.21 X:

ความคิดเห็นที่ 4 แถมครับ ก่วนมู่ เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ได้ให้ข้อมูลเมื่อวันที่ 30 พ.ย. ซึ่งแสดงให้เห็นอย่างชัดแจ้งว่า ข้อมูลการขายข้าวที่รัฐบาลชี้แจงต่อสาธารณะนั้นไม่ตรงกับความเป็นจริง ก่อนหน้านี้ รัฐบาลได้ชี้แจงว่าได้ขายข้าวผ่านระบบรัฐบาลต่อรัฐบาล หรือจีทูจี ให้กับสาธารณรัฐประชาชนจีน และพยายามจะระบุในเอกสารที่ผู้นำสองประเทศจะลงนามร่วมกันในระหว่าง เวินเจียเป่า นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน เดินทางมาเยี่ยมไทยอย่างเป็นทางการเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า จีนจะซื้อขายจากไทย 5 ล้านตัน แต่ทางจีนได้ขอเปลี่ยนเนื้อหาสาระ โดยตัดข้อดังกล่าวทิ้ง เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นำเรื่องความไม่ชอบมาพากลในการดำเนินนโยบายรับจำนำข้าวมาอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยชี้ให้เห็นว่าการที่กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) ขายข้าวให้บริษัท GSSG ImportExport Corporation นั้นมีพิรุธหลายประการ เพราะ รัฐนิธ โสจิรกุล ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจลงนามในบริษัทนั้น เป็นผู้ช่วยลำดับที่ 3 ของ ระพีพรรณ พงศ์เรืองรอง สส.บัญชีรายชื่อ และเป็นภรรยา อริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แกนนำคนเสื้อแดง อีกทั้งเมื่อตรวจสอบฐานะการเงินของคนเหล่านั้นแล้ว ก็ปรากฏว่ามิได้มีฐานะพอจะมาประกอบธุรกิจเช่นนี้ได้ พร้อมกันนั้นก็ได้ชี้ให้เห็นว่าแท้จริงแล้วบริษัทนี้เป็นของผู้มีอิทธิพลในวงการค้าข้าว ซึ่งสนิทสนมกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ปชป. ฟันธงว่า แท้จริงแล้วไม่มีการขายข้าวเพื่อส่งออกจริง แต่เป็นการขายข้าวให้บริษัทผีเพื่อนำกลับมาสวมรอยเวียนเทียนหาประโยชน์จากการจำนำข้าวเท่านั้นเอง บุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ได้ชี้แจงในสภาว่า ทั้งหมดเป็นจินตนาการ เพราะก่อนขายให้ต่างประเทศ กรมการค้าระหว่างประเทศต้องตรวจสอบรายละเอียดก่อนขายข้าวให้จีน “เรามีการตรวจสอบถึงรัฐบาลจีน สถานทูตจีน ยืนยันหน่วยงานที่มาติดตามกระทรวงพาณิชย์เป็นหน่วยงานรัฐบาลจริงๆ เมื่อมีหลักฐานเช่นนี้ เราจึงไม่สามารถปฏิเสธการเจรจาได้” บุญทรง ระบุ อย่างไรก็ตาม ไม่มีคำอธิบายถึงความพิลึกอีกหลายประการ อาทิ ทำไมบริษัท GSSG ImportExport Corporation จึงซื้อข้าวจากรัฐบาลไทยได้โดยไม่มีการเปิดแอลซี หรือไม่มีหนังสือค้ำประกันจากธนาคาร ทำไมทางการจีนจึงให้บริษัท GSSG ImportExport Corporation มาเป็นนายหน้าในนามรัฐบาลจีน โดยให้เงินสดแก่บริษัทนี้มาซื้อข้าว โดยให้บริษัทถือเช็คไปสั่งจ่ายให้กรมการค้าต่างประเทศโดยตรง ทำไมถึงซื้อขายกันแบบหน้าโกดัง ทั้งที่วิธีนี้ผู้ซื้อจะไม่รู้เลยว่าตัวเองจะได้ข้าวคุณภาพแบบไหน ทำไมซื้อไปแล้วจึงไม่ปรากฏว่ามีการส่งออกไปต่างประเทศ ข้าวจำนวนหนึ่งซึ่งเป็นจำนวนไม่น้อยหายไปไหน ทำไม ทำไม และอีกหลายๆ ทำไม เมื่อโพสต์ทูเดย์ได้สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่สถานทูตจีนว่า บริษัท GSSG ImportExport Corporation เป็นตัวแทนของประเทศจีนจริงหรือไม่ ปรากฏว่า ยังเฉินลี่ผิง เจ้าหน้าที่ด้านสื่อของสถานทูต ปฏิเสธที่จะรับรอง โดยระบุว่าทั้งหมดนั้นเป็นการ “ปล่อยข่าวกันเองจากฝ่ายไทย” วานนี้ ก่วนมู่ เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ได้ให้สัมภาษณ์ขยายภาพที่ถูกต้องเกี่ยวกับความเป็นจริงของการขายข้าวแบบจีทูจีระหว่างไทยกับจีนให้ชัดขึ้น ในโอกาสที่มาบรรยายเกี่ยวกับวิสัยทัศน์ของประเทศจีนในทางเศรษฐกิจและการเมืองให้โรงเรียนการเมืองพรรคประชาธิปัตย์ ว่า การซื้อข้าวจากไทยนั้นเป็นประเพณีที่เกิดขึ้นมาหลายสิบปีแล้ว นอกจากนั้นไทยและจีนยังมีข้อตกลงสนับสนุนสินค้าเกษตร และสนับสนุนการค้าและวางแผนงาน 5 ปีด้านการเกษตรอีกด้วย ต่อมามีการหารือกันขอให้จีนซื้อข้าวเพิ่ม เพื่อช่วยเหลือชาวนาไทยให้มีรายได้ดีขึ้น การขายข้าวก็ถือว่าขายลำบาก แต่จีนก็เห็นว่าควรจะสนับสนุนตามประเพณีที่ปฏิบัติมา จึงลงนามในหลักการ แต่นั่นก็เรียกได้ว่าการตกลงระหว่างรัฐบาลเป็นระดับหลักการถ้าจะซื้อขายจริงๆ จะมอบหมายให้บริษัทไปหารือกับประเทศไทยโดยตรง ทราบว่ามีการเซ็นสัญญากับบริษัทแล้วหลายแสนตัน แต่ไม่เคยมีสัญญาซื้อขาย 5 ล้านตัน ตามที่รัฐบาลไทยระบุ เพราะจีนไม่ได้ซื้อข้าวจากไทยประเทศเดียว “เราไม่ได้ซื้อมากมาย เพราะเราไม่ได้ขาดข้าวอยู่แล้ว เพียงแต่ซื้อเพื่อปรับตามความต้องการของตลาดที่ชอบรสชาติข้าวไทย บางครั้งก็ซื้อจากเวียดนาม รัสเซีย และอีกหลายประเทศ” ท่านทูตระบุ ท่านทูต ก่วนมู่ อธิบายว่า รัฐบาลจีนจะไม่ทราบเรื่องการเปิดแอลซีอะไรเลย เพราะถือว่าเป็นเรื่องของบริษัทหรือรัฐวิสาหกิจจะดำเนินการเอง รัฐบาลมีบทบาทเพียงแค่ชี้นำให้มีการซื้อขาย ที่เหลือบริษัทจะไปตกลงกับประเทศไทยเอง “ระบบที่ทำอยู่ตอนนี้ไม่ใช่ว่ารัฐบาลจีนเป็นผู้ซื้อ แต่มีบทบาทชักนำให้รัฐวิสาหกิจหรือภาคเอกชนเข้ามาซื้อเท่านั้น หลังจากนั้นก็ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล เรื่องการตกลงราคาก็เป็นเรื่องที่สองฝ่ายคุยกัน หลักการอยู่ที่กลไกตลาด บริษัทที่ซื้อไปต้องขายได้กำไร เพราะถ้าขาดทุนคงไม่ซื้อ เพราะรัฐบาลไม่ได้ช่วย เนื่องจากมีกฎเกณฑ์และระเบียบหลายอย่าง” ท่านทูต ก่วนมู่ ระบุ เมื่อถูกถามว่าบริษัทที่จีนมอบหมายให้ซื้อข้าวกับไทย คือ บริษัท GSSG ImportExport Corporation ใช่หรือไม่ ท่านทูตก่วนมู่ ตอบว่า ไม่ได้มีบริษัทเดียว แต่มีหลายบริษัทประมาณ 45 บริษัท สัญญาซื้อขายก็ยังไม่ได้ยุติทั้งหมด ต้องตกลงกันต่อไป สิ่งที่เอกอัครราชทูตจีนอธิบายความในครั้งนี้ ทำให้เข้าใจแจ่มแจ้งว่า ที่รัฐบาลไทยอธิบายและให้ภาพการขายข้าวแบบจีทูจี ว่าเป็นการขายข้าวให้รัฐบาลจีนนั้น เป็นหนังคนละม้วนเลยทีเดียว ด้าน อริสมันต์ ยอมรับว่า รัฐนิธ เป็นผู้ช่วยลำดับที่ 3 ของ ระพีพรรณ ภรรยาของตนจริง โดยอธิบายว่า รัฐนิธ เป็นน้องเขยของเพื่อน เป็นคนดี มีความสามารถคล่องตัว จึงให้เข้ามาสมัครเป็นผู้ช่วย สส. แต่ทั้งตัวเองและภรรยาไม่ทราบเลยว่า รัฐนิธ ไปทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับบริษัทใดหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาไม่เคยสอบถามเรื่องนี้ ถึงแม้จะเป็นผู้ช่วย สส. แต่ไม่ได้ทำงานร่วมกันตลอดเวลา และ ระพีพรรณ เองไม่ได้มีอาชีพเป็นนักธุรกิจ หรือเกี่ยวข้องใดๆ กับวงการค้าข้าว “ผมยืนยันได้ว่าทั้งผมเเละภรรยาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาที่ฝ่ายค้านพาดพิงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ขณะนี้มีความพยายามนำชื่อผมไปเกี่ยวข้องกับนายอภิชาติ จันสกุลพร หรือเสี่ยเปี๋ยง อดีตกรรมการผู้จัดการ บริษัท เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด ที่ถูกฝ่ายค้านอภิปรายว่าร่วมกับนายรัฐนิธ อยู่เบื้องหลังการตั้งบริษัทค้าข้าวแบบจีทูจี เพราะผมและนายอภิชาติ เคยมีชื่อถูกชี้มูลความผิดในคดีทุจริตจัดซื้อจัดจ้างบ้านเอื้ออาทร แต่ขอยืนยันว่าไม่รู้จักและไม่เคยเห็นหน้านายอภิชาติมาก่อนเลย ครั้งนั้นรู้จักเพียงคนเดียว คือ นายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เท่านั้น” อริสมันต์ ระบุด้วยว่า ภายใน 12 วันนี้ จะออกมาแถลงข่าวตอบโต้ข้อกล่าวหา เเละจะประสานให้ รัฐนิธ มาร่วมแถลงด้วย เพื่อชี้แจงข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้น สัปดาห์หน้าเรื่องข้าวระอุแน่นอน! http://www.posttoday.com/%E0%B8%98%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88-%E0%B8%95%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%94/191184/%E0%B8%97%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B8%97%E0%B8%B9%E0%B8%88%E0%B8%B5-%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%86 จากคุณ : Angleevil เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 55 22:13:39 A:124.121.22.157 X:

ความคิดเห็นที่ 5 ตามความคิดผม  ตัดเรื่องโกงออกไปเลย  ผมว่าทักษิณ กับรัฐบาลเขาอยากให้นโยบายนี้สำเร็จที่สุด  เพราะถ้าสำเร็จ มันจะการันตีการเลือกตั้งครั้งหน้าได้เลย     ฉะนั้นไอ้โกงมันเป็นเรื่องระดับล่าง  มันคุมยาก คนมันโลภ      พรรค ปชป  อภิปรายถึงสยามอินดิก้าว่าเกี่ยวข้องกับนโยบายนี้ แต่ก็ไม่ได้บอก ว่าเขาได้ประโยชน์ยังไง  ได้เงินไปเท่าไหร่จากโครงการนี้   โยงตามสเตปคือ ทักษิณ    ธรรมดา การที่เอาคนรู้จักใกล้ชิด อาจจะโดนมองว่าผลประโยชน์แอบแฝง  แต่มองอีกด้านนึง การที่เอาคนใกล้ชิดมาทำงานด้วย หมายถึงความไว้วางใจ เชื่อในฝีมือมากกว่า         เหมือน สมมติ เราเป็นนายก อบต  จะจ้างคนงานก่อสร้างโครงการ  ส่วนใหญ่เขาก็ต้องเอาคนรู้จักไว้ก่อน เชื่อในฝีมือคนที่เราเคยเห็นงานมาก่อน   ในอีกแง่อาจจะโดนเรื่อง ผลประโยชน์แอบแฝง  ว่าชักเปอร์เซ็นกัน     มันต้องดูเจตนารวมๆ พรรคเพื่อไทย ไม่มีเส้น  เป็นรัฐบาลได้ เพราะการชนะเลือกตั้ง ฉะนั้น จะชนะเลือกตั้ง เพื่อไทยเขาก็ต้องทำนโยบายให้สำเร็จ     แก้ไขเมื่อ 01 ธ.ค. 55 22:24:40 จากคุณ : panra09 เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 55 22:22:10 A:110.171.54.210 X:

ความคิดเห็นที่ 6 ไร้ค่าที่จะพูดถึง จากคุณ : เฒ่าวัย 56 เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 55 22:22:44 A:110.171.31.199 X:

ความคิดเห็นที่ 7 ...ควรเป็นไปอย่างโปร่งใส    ตรวจสอบได้ ทุจริตน้อย หรือมาก   ไม่ควรนำมากล่าว ไม่ว่ากรณีย์ใดๆ  เพราะมันไม่ควรทั้งสิ้น ผิดคือผิด....ถูกก็คือถูก   ต้องแยกกันให้ออกก่อน จากคุณ : วิหคน้ำเค็ม เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 55 22:53:29 A:49.48.211.248 X:

ความคิดเห็นที่ 8 นโยบายที่ผ่าน มาตั้งแต่ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ก็เห็นชนะ ใจประชาชนมาตลอด และเป็นสิ่งที่จับต้องได้มากกว่า            เรื่องแบบนี้ต้องถามชาวนา ว่าแบบไหนดีกว่ากัน ตอนนี้ชาวนาก็ดูจะพอใจกันมากๆ จากคุณ : Tan_my เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 55 23:22:53 A:110.49.233.168 X:

ความคิดเห็นที่ 9 ยาวเกิ๊นนนนนนนน จากคุณ : น้องพรผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 55 23:32:54 A:171.101.126.124 X:

ความคิดเห็นที่ 10 ขอเพิ่มส่วนหัวของข่าวที่คุณสายชล26 เอามาสักหน่อยนะครับ "เพราะมีข้อมูลปรากฏชัดเจนว่า ภายหลังบริษัท เพรซิเดนท์ฯ ประสบปัญหาในการทำธุรกิจอย่างหนัก จนถึงขั้นถูกฟ้องล้มละลาย ธนาคารกรุงไทย ได้ให้บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ บริษัท เพรซิเดนท์ฯ เข้ามารับเป็นลูกหนี้จำนวน 1.05 พันล้านบาท กับธนาคารแทน ก่อนจะปล่อยวงเงินกู้ก้อนใหม่จำนวนพันกว่าล้านบาท เพื่อให้บริษัทมีทุนไปหมุนทำธุรกิจต่อ..." สรุปคือตอนแรกเป็นหนี้อยู่ 1.05 พันล้านบาท (หนึ่งพันล้าน กับอีก 50 ล้านบาท) แล้วกู้เพิ่มอีกพันกว่าล้านบาท "และดูเหมือนว่า บริษัท สยามอินดิก้า จะไม่ทำให้ธนาคารกรุงไทย ผิดหวัง เพราะในช่วง 1-2 ปี ที่ผ่านมา บริษัทฯ สามารถเข้าประมูลข้าวในสต๊อกรัฐบาลได้เป็นจำนวนมาก ทำให้มีกำลังเพียงพอที่จะใช้หนี้ที่เกิดขึ้นกับธนาคารกรุงไทย ได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย โดยมูลหนี้ล่าสุด เหลือเพียงแค่หลัก 1,000 กว่าล้านบาท จากวงเงินหนี้เดิมที่มีจำนวนกว่า 2,000 ล้านบาท" พอเอาเงินไปก็ทำธุรกิจเกี่ยวกับการประมูลข้าวในสต๊อกรัฐบาล แล้วก็ใช้หนี้คืน จนเหลือแค่พันกว่าล้านบาท อ่านดูเหมือนกับว่า หนี้เก่าจะไม่ลด แล้วดีไม่ดียังมีหนี้ใหม่เพิ่มอีก เพราะคำว่า พันกว่าล้าน กับหนี้ก้อนแรกทีเดียวแค่ 1,050 ล้านบาทเอง แบบนี้ไม่รู้ว่า กรุงไทยจะโชคดีจริงป่าว ไปที่ประเด็นกระทู้ ผมว่าตอนนี้ คุณบุญทรงไม่ควรจะตั้งรับแล้ว ถ้ามั่นใจข้อมูลที่มีในมือ เพราะวันก่อนที่คุณบุญทรงให้สัมภาษณ์ (รายการอะไรสักอันนึง) บอกว่า สมัยประชาธิปัตย์ขายข้าวในสต๊อกรัฐบาล ให้กับบริษัทไม่กี่แห่ง และรู้สึกจะมีสยามอินดิก้าด้วย แล้วโดนคุณไตรรงค์ตอบกลับว่า สมัยประชาธิปัตย์มีการระบายข้าว ออกไป 11 ครั้ง มีบริษัทที่ได้ไป 10 บริษัท (คงมีบริษัทนึงที่ได้ 2 รอบ) ถ้าคุณบุญทรงเอาข้อมูลนี้ออกมาแสดง และข้อมูลทำให้เห็นชัดว่า มีพิรุธในการขายจริง ก็จะเป็นผลดีกับรัฐบาล ทำให้สามารถตอบโต้ ปชป.ได้ว่า ก็โกงเหมือนกัน และจะเป็นผลดีกับประเทศชาติ เพราะยิ่งนักการเมืองสองฝ่าย แข่งกันเอาหลักฐานออกมาประจานซึ่งกันและกัน ประชาชนจะได้รับรู้ข้อมูล รู้เท่าทันนักการเมืองมากขึ้น แต่ถ้าคุณบุญทรงไม่เอาออกมาแสดง ก็คงตีความได้ว่า คุณบุญทรงพูดเอาตัวรอดเท่านั้น ไม่มีหลักฐานว่ารัฐบาลอภิสิทธิ์ทุจริตจริง อันนี้คงเป็นผลเสียกับตัวคุณบุญทรงแน่ ๆ จากคุณ : Lpg_Horse เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 55 23:35:12 A:110.171.132.154 X:

ความคิดเห็นที่ 11 จากกระทู้เดิม http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P12986172/P12986172.html หมอวรงค์เก่งจัง นับถือ ............................ข้อมูลเพียบ หากินง่าย.. นั่งฟังอภิปรายข้าวสามชั่วโมง นึกชมในใจ "หมอวรงค์เก่งว่ะ" ที่ไหนได้ ไปก็อปปี้ข้อมูลจากเว็บไซต์ประสงค์ เลิศฯ และ สำนักข่าวอิศราทั้งดุ้น??? ขอขอบคุณ โก6ทีวี จากคุณ : ลุงเห็ดโคน จากคุณ : สายชล26 เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 00:02:19 A:58.11.178.44 X:

ความคิดเห็นที่ 12 ความคิดเห็นที่ 1 http://www.prasong.com/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87/3-8/ http://www.isranews.org/%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%88%E0%B8%99/56-isranews/6236-2012-04-07-13-27-10.html แก้ไขเมื่อ 26 พ.ย. 55 19:35:31 จากคุณ : ลุงเห็ดโคน จากคุณ : สายชล26 เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 00:04:02 A:58.11.178.44 X:

ความคิดเห็นที่ 13 เรื่้องนี้ น่าจะมีการชี้แจ้งให้ชัดเจนจากฝ่ายรัฐบาล จะพูดง่ายๆว่า ชาวนาพอใจ แล้วคนอื่นๆละ เงินที่ รัฐบาล เอาไปประกันราคาข้าวเปลือกคือภาษีฯ ปชช ทุกคน มีสิทธิที่จะสงสัยได้ว่า มันเป็นประโยชน์จริงๆ เพื่อชาวนา ไม่ใช่การแอบฟอกเงินของคนบางกลุ่ม ถ้า รัฐบาลชี้แจ้งได้ชัดเจน กลับจะเป็นผลดีกับฝ่ายรัฐบาลไม่ใช่หรือ????? ฝ่ายค้าน เขามีหน้าที่ตรวจสอบการทุจริต เขาก็ตรวจสอบไป อันไหนไม่จริง รัฐบาลก็ชี้แจ้งไป ถ้ามาแบบอำๆอึ้งๆ ยิ่งทำให้น่าสงสัยว่า มีการทุจริตจริง แต่ไม่รู้ว่ามากน้อยแค่ไหน แล้วรัฐฯ เสียหายไปเป็นจำนวนมากน้อยแค่ไหน ........... จากคุณ : UlingChi เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 00:14:29 A:124.120.54.146 X:

ความคิดเห็นที่ 14 จขกท เพราะ ปชป เลวตัวพ่อไงคะ ถ้าเราไม่ตามข่าวสารรัฐบาลอย่างเกาะติด คงเชื่อมันไปแล้วคะ นี่ไง ถึงต้องเข้ามาโพสท์จนเวลานี้คะ..   จากคุณ : กุหลาบแวร์ซาย เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 00:24:04 A:27.55.12.103 X:

ความคิดเห็นที่ 15 ธนาคารกรุงไทย ให้วงเงินเพิ่มอีกพันกว่าล้าน ตามที่คุณ  Lpg_Horse ว่ามาแล้วก็ทำให้สงสัยเลยนะครับเนี้ย ว่าใครถือหุ้นใหญ่ในกรุงไทยทำไมกล้าทำขนาดนี้ ตอนปล่อยกู้ให้พม่าที่เอามาด่าทักษิณกันก็กรุงไทยนี้แระ เอ....หรือทักษิณถือหุ้นใหญ่ถึงได้มีอำนาจสั่งการได้ เอ.......หรือว่าทักษิณซื้อธนาคารกรุงไทยไปแล้วละครับเนี้ยยย ท่านใดมีข้อมูลผู้ถือหุ้นใหญ่ที่มีอำนาจตัดสินใจ ช่วยลงข้อมูลให้หน่อยนะครับ .........หุหุ จากคุณ : TIGER_NUDE เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 00:25:51 A:171.7.207.34 X:

ความคิดเห็นที่ 16 เห็นด้วยกับ คห 13 ครับ โดยส่วนตัวผมชอบโครงการจำนำข้าวครับ  แต่ในแง่ของการตรวจสอบ ผมว่ารัฐบาลควรชี้แจงเรื่้องนี้ให้ชัดเจนจะเป็นผลดีต่อรัฐบาลเอง อย่างเรื่องการเข้าไปประมูลข้าวของ บริษัทอินดิก้า ชื่อเดิมก็คือบริษัทสยามเพรสซิเดนท์ อะกริ ซึ่งมีประวัติที่ไม่ค่อยดีอย่างมากในอดีดเรื่องการโกงและเบี้ยวหนี้ธนาคารพาณิชย์จำนวนมหาศาล... ถ้ารัฐบาลชี้แจงตรงนี้ได้ชัดเจนก็จะเป็นผลดีทั้งต่อรัฐบาลและประชาชนครับ จากคุณ : IamVincent เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 00:38:50 A:58.11.0.12 X:

ความคิดเห็นที่ 17 ความคิดเห็นที่ 15     ธนาคารกรุงไทย ให้วงเงินเพิ่มอีกพันกว่าล้าน ตามที่คุณ  Lpg_Horse ว่ามาแล้วก็ทำให้สงสัยเลยนะครับเนี้ย ว่าใครถือหุ้นใหญ่ในกรุงไทยทำไมกล้าทำขนาดนี้ ตอนปล่อยกู้ให้พม่าที่เอามาด่าทักษิณกันก็กรุงไทยนี้แระ เอ....หรือทักษิณถือหุ้นใหญ่ถึงได้มีอำนาจสั่งการได้ เอ.......หรือว่าทักษิณซื้อธนาคารกรุงไทยไปแล้วละครับเนี้ยยย ท่านใดมีข้อมูลผู้ถือหุ้นใหญ่ที่มีอำนาจตัดสินใจ ช่วยลงข้อมูลให้หน่อยนะครับ .........หุหุ จากคุณ : TIGER_NUDE   เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 00:25:51 A:171.7.207.34 X:   http://www.settrade.com/C04_05_stock_majorshareholder_p1.jsp?txtSymbol=KTB&selectPage=5 จากคุณ : ห่านจิก (Mr.Warut) เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 00:39:29 A:171.97.76.129 X:

ความคิดเห็นที่ 18 ได้เห็น "ขบวนการสมคบคิด" เล่นกันเป็นระบบ จากเรื่อง "ทุจริตจำนำข้าว" จาก #4 ... ข่าวจาก "โพสท์ ทูเดย์ " .... สื่อที่รู้กันว่า อยู่ตรงข้ามกับทักษิณ   พาดหัวข่าวว่า ..... "ทูตจีนส่ายหน้า "จีทูจี" ยกเมฆ" เนื้อข่าว ... มาจากการสัมภาษณ์ทูตจีน ระหว่างที่มาบรรยายที่ รร.การเมืองพรรคประชาธิปัตย์ https://www.youtube.com/watch?v=ZCdpuIjJm1Uhttps://www.youtube.com/watch?v=ZCdpuIjJm1U สัมภาษณ์ โดย "สมจิตต์" แห่งช่อง 7 สี ..... คนที่ไม่ชอบคำว่า "ฝักใฝ๋ ปชป." เข้าไปฟัง ... ได้เห็น สมจิตต์ สัมภาษณ์ราวกับว่า ... คนของ ปชป. ตั้งคำถามเองเลย มีการพยายามตั้งคำถามแบบเอา "ความคิดเห็น" ของตนเองเข้าไปใส่ (ไม่รู้ว่า ของ ปชป.ด้วยหรือเปล่า ??) บางช่วงทูตจีนถึงกับ แย้งว่า สมจิตต์เข้าใจผิด ในคำตอบของทูตจีน แล้ว ก็ได้เห็น สื่อหลายสำนักเอาข่าว "การให้สัมภาษณ์ของทูตจีน" .... ไปในแนวเดียวกัน คือ ผู้จัดการ โพลท์ทูเดย์ คมชัดลึก .... เขียนข่าวไปในแนวว่า ทูตปฏิเสธ "จีทูจี" โดยทุกสำนักข่าว .... น่าจะถอดเทปจากแหล่งเดียวกัน คือ "สมจิตต์" ....เพราะ เป็นการสัมภาษณ์ "แบบตัวต่อตัว" ที่ พรรค ปชป. ขอตั้งข้อสังเกตว่า น่าจะเป็น "ขบวนการสมคบคิด" ของสื่อเลือกข้าง ไม่เว้นแม้แต่ "สำนักข่าวอิศรา" กับ ปชป. แก้ไขเมื่อ 02 ธ.ค. 55 00:53:59 จากคุณ : สายชล26 เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 00:48:43 A:58.11.178.44 X:

ความคิดเห็นที่ 19 สนับสนุนนโยบายรับจำนำข้าวค่ะ ยังมั่นใจว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์ไม่มีเจตนาจะคอรัปชั่นในการทำนโยบายนี้ รัฐบาลมีหน้าที่ต้องตอบคำถามของทุกฝ่ายที่กังขาในโครงการนี้ ให้ชัดเจน โปร่งใส เท่าที่ไม่กระทบข้อจำกัดด้านกฏหมายหรือความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพื่อให้ไร้ข้อกังขาและต่อไร้การต่อต้านจากหลายๆ ส่วน และที่สำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน ฝ่ายค้าน ปชป. ต้องทำหน้าที่อย่างโปร่งใสตรงไปตรงมาด้วย ถ้า ปชป. กล่าวหาว่าในรัฐบาลยิ่งลักษณ์มีการทุจริตคอรัปชั่นเกิดขึ้นจากนโยบายรับจำนำข้าว เพราะมีการให้"สยามอินดิก้าฯ"มาประมูลซื้อข้าวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ไป ปชป. ก็ต้องตอบให้ได้ว่า  แล้วรัฐบาลอภิสิทธิ์ที่ให้"สยามอินดิก้าฯ" เข้าประมูลซื้อข้าวของรัฐบาลอภิสิทธิ์ได้นั้น รัฐบาลอภิสิทธิ์โปร่งใสไม่มีการทุจริตคอรัปชั่นจากโครงการประกันราคาข้าว อย่างไร? ในเมื่อทั้งสองรัฐบาล มีการขายข้าวให้บริษัทเดียวกัน จากคุณ : น้ำมิตร เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 00:49:53 A:110.168.249.108 X:

ความคิดเห็นที่ 20 เมื่อช่วงค่ำ ได้ฟังคนฝั่งเพื่อไทยให้สัมภาษณ์ช่องเอเชียอัพเดท ว่า จีน ไม่มีการซื้อขายในนามรัฐบาล แต่จะมีการตกลงเจรจาระหว่างรัฐบาล คือ แนะนำบริษัทเอกชนให้เท่านั้น จขกท. เลยนึกย้อนไปถึงเรื่องที่รัฐบาลไทยมีการจัดซื้อ tablet จากประเทศจีน โดยจีนเสนอชื่อบริษัท ผู้ผลิต tablet ให้ไทยเป็นผู้เลือกว่าจะซื้อจากบริษัทไหน ประเด็นรัฐบาลไทยขายข้าวให้จีนนี้ เหมือนกันกับรัฐบาลไทยซื้อ tablet จากจีน ใช่หรือไม่? จากคุณ : น้ำมิตร เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 01:01:06 A:110.168.249.108 X:

ความคิดเห็นที่ 21 ตรรกะเพี้ยนกันไปหมดละ ผิดก็ต้องว่าตามผิด ถูกก็ค้อว่าตามถูกสิครับ จากคุณ : หมูหมีหมาอ้วน เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 01:01:59 A:58.11.241.15 X:

ความคิดเห็นที่ 22 ตรรกะ ที่เอามาอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เรื่องโครงการรับจำนำข้าว มันไม่ถูกตั้งแต่ ปชป.  หยิบเรื่องนี้มาอภิปรายแล้วละค่ะ โดยไปอ้างว่า เพราะรัฐบาลปูมีการขายข้าวให้กับ"สยามอินดิก้าฯ" เพราะรัฐบาลประชาธิปัตย์สมัยอดีตนายกฯมาร์ค ก็ขายข้าวในโครงการประกันราคาข้าวให้กับ"สยามอินดิก้าฯ" ด้วยเหมือนกัน ..................... คำซ้ำ แก้ไขเมื่อ 02 ธ.ค. 55 01:08:21 จากคุณ : น้ำมิตร เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 01:07:19 A:110.168.249.108 X:

ความคิดเห็นที่ 23 เรื่องนี้สั้นๆ ง่ายๆ ถ้าเรื่องนี้เพื่อไทยโกงล่ะก็  สมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ยิ่งโคตรจะโกง จากคุณ : penn's เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 01:13:46 A:110.77.209.79 X:

ความคิดเห็นที่ 24 คือประเด็นผมว่าน่าจะอยู่ที่รัฐบาลบอกว่าเป็นการขายระหว่างรัฐบาลกับรัฐบาลนิครับ เท่าที่อานจากหลายๆๆกระทู้นะครับ บางกระทู้ก็พูดทำนองว่าสยามอินดิก้าก็เป็นรัฐวิสาหกิจที่รัฐบาลจีนแนะนำให้รัฐบาลไทยอะไรประมาณนี้อะครับ มันทำให้ผมสงสัยว่าสยามอินดิก้า เป็นบริษัทสัญชาติจีนหรือไทยหรอครับ ซึ่งจริงๆแล้วไม่ต้องทำจีทูจีหรอกแบบนี้ แค่ประมูลกันเหมือนเดิมก็ได้นิครับ ปล.ปรกติก็ไม่ได้ติดตามข่าวการเมืองมากมายนะครับ ความคิดผมอาจจะผิดก็ได้ จากคุณ : หมูหมีหมาอ้วน เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 01:30:50 A:58.11.241.15 X:

ความคิดเห็นที่ 25 ประชาชนมีสิทธิที่จะสงสัย และรัฐบาลมีหน้าที่ต้องตอบใหชัดเจน ส่วนเรื่องจำนำข้าวรอบนี้ผมว่าได้มีซักเด้ง2เด้งแน่ๆ..อิอิ จากคุณ : อย่าให้อคติอยู่เหนือเหตุผล (GUN MASTER) เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 02:44:48 A:223.207.3.111 X:

ความคิดเห็นที่ 26 #15 ต้องดูผู้รายชื่อผู้บริหารครับ รัฐบาลใครขึ้นมาที ก็เอาคนของตัวเองขึ้นมาทั้งนั้น ยิ่งแบงค์รัฐ ในความเห็นผมคือ "สั่งได้" จากคุณ : TFEX RETURN เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 03:24:43 A:27.55.6.146 X:

ความคิดเห็นที่ 27 ท่านใดไม่สนใจ การขายข้าวในประเทศ บ้างหรือครับ ผมตั้งคำถาม ว่า  เมื่อข้าว 1.5 หมื่น กับ 2 หมื่น ต่อตัน ข้าวเปลือก ทำไม ขณะนี้ ราคาข้าวสารในประเทศ ที่กินกัน 12 -13 ล้านตัน มันจึงไม่ขยับ แพงไปตาม ราคาข้าวเปลือกที่สูงขึ้น เที่ยวนี้ โรงสี รับซื้อ ด้วย ราคาจำนำแล้วครับ วี่ง มาซื้อ ตรง นาเลย กลัวไม่มีข้าวขาย ทำไมครับ  ผลต่าง ที่เคยได้ แต่ก่อน มัน มากจน ขยับ ตอนนี้ไม่ได้  ราคา ที่เป็นจริง ทำให้ ชาวนารวย กว่าเดิม ทำไม  ท่านผู้รู้ เข้ามาตอบหน่อยครับ ไม่ต้องไปสนใจ ราคา จีทูจี หรือการค้าต่างประเทศ เอาในบ้านก่อนครับ จากคุณ : pongsri เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 07:28:25 A:101.51.6.134 X:

ความคิดเห็นที่ 28 #27 หลงประเด็นเปล่าค่ะ เขากำลังสงสัยว่า การจำนำข้าวเปลือก จริงๆ แล้ว ใครได้ผลประโยชน์จริงๆ ชาวนา พวกคอปรัปชั่นอีแอบ หรือนักการเมืองเลวๆ ไม่ได้ด่ารัฐบาล ไม่ได้ว่านายกฯ ปชช ต้องการคำอธิบายว่าเอาเงินภาษีตอนนี้ ไปจำนำข้าวแล้วมันโปร่งใสหรือไม่??? นโยบายไม่ว่ารัฐบาลไหน ล้วนดีๆทั้งนั้น แต่การปฏิบัติต่างหากที่ต้ืองมีการตรวจสอบ นายกฯ สั่งให้สอบสวนไปแล้ว  .....  ทาง ปปช และ คตส คงกำลังตรวจสอบไปตามกระบวนการฯ จากคุณ : UlingChi เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 07:52:08 A:124.120.54.146 X:

ความคิดเห็นที่ 29 ที่ผ่านมา การประมูลทั้งของเพชรซิเด็นท์  และสยามอินดีก้าในชุดรัฐบาลประชาธิปัต เป็นการประมูลทั่วไปที่ใครก็เข้าประมูลได้ และถ้ามันมีการทุจริตก็เป้นเรื่องการทุจริตของบริษัทกับหน่วยงานของรัฐ แต่ครั้งนี้มันถูกมองว่ารัฐมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย เนื่องจากรัฐบอกเป็นการขายแบบจีทูจี และรัฐมนตรีพร้อมนายกก็ยังมายืนยันว่าขายแบบจีทูจี แต่ทำไมคนรับข้าวและคนจ่ายเงินมันจึงเป็นคนของบริษัทนี้ ทำไมเงินมันไม่มาจากจีน จะมาบอกว่าได้เงินแล้วใครจะจ่ายใครจะรับไม่ใช่หน้าที่ต้องรู้ มันก็ดูผิดธรรมชาติ แล้วทีบอกว่ามันเป็นความลับ มันก็เลยยิ่งทำให้เกิดความสงสัยมากยิ่งขึ้น รัฐต้องเอาหลักฐานมาแสดงให้เค้าเห็นกันว่าขายจีทูจีจริง เงินมาจากจีนตรงไหน ข้าวไปจีนอย่างไร เหมือนที่ฝ่ายค้านเอามาแสดงเพื่อให้ประชาชนพิจารณาว่าใครโกหกกันแน่ โครงการรับจำนำข้าว การทุจริตมันเกิดขึ้นที่ ชาวนา โรงสี เซอเวเยอร์ ซึ่งในส่วนนี้จะได้รายละไม่มากเท่าไร แต่นโยบายการรับจำนำข้าว มันเอื้อพวกพ้องนักการเมืองให้ได้รับประโยชน์โดยไม่ผิดกฎหมาย และยังมีรัฐช่วยปกป้อง โดยมีผลประโยชน์มหาศาล ได้เปรียบคนอื่นในทางการทำธุระกิจ โครงการดี ดูเหมือนนักบุญ มาช่วยคนจน แต่แอบหลังไว้ด้วย พวกพ้องเอากระบุงมาโกยเงินไปแบ่งกันภายหลัง จากคุณ : รู้ไปหมด เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 07:55:33 A:182.53.104.22 X:

ความคิดเห็นที่ 30 รัฐบาลขายข้าวแบบ เจ๊ง ทู เจ๊ง จากคุณ : ผา_บ้านดอน เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 08:00:36 A:119.42.76.79 X:

ความคิดเห็นที่ 31 คห.27 ผมขอหลักฐานเรื่องที่ว่า โรงสีซื้อข้าวราคาจำนำหน่อยครับ เพราะมันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย ถ้ารับซื้อราคาจำนำ ต้นทุนเมื่อสีเป็นข้าวสารเสร็จ (ตามอัตราส่งมอบของรัฐบาล) ข้าวสารเจ้าจะตก กก.ละ 25 บาท ข้าวหอมมะลิตก กก.ละ 37 บาท ดูแล้วก็ไม่น่าจะเป็นไปได้อยู่แล้ว ที่จะซื้อราคาจำนำแล้ว สามารถทำธุรกิจมีกำไรได้ เพราะราคาข้าวสารวันนี้ ในตลาดค้าส่ง ก็ตก กก.ละ ไม่เกิน 17 บาท กับ 33 บาท จากคุณ : Lpg_Horse เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 08:50:41 A:110.171.132.154 X:

ความคิดเห็นที่ 32 ........นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ที่ระบุว่า การขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ “จีทูจี” นั้น เป็นเรื่องที่รัฐบาลโกหก เนื่องจากตรวจสอบเอกสารแล้วพบว่าจำนวนข้าวที่รัฐบาลบอกว่าจะขาย 7.32 ล้านตันนั้น เป็นการซื้อขายให้กับบริษัทผีของคนไทยและของจีน มีกระบวนการซื้อชื่อบริษัทเพื่อมาทำสัญญาเท่านั้นเอง โดยบริษัทจีนที่ว่านี้ชื่อ GSSG IMP AND EXP.CORP ตั้งอยู่ที่นครกวางเจา สาธารณรัฐประชาชนจีน.......   ได้มีการลากประเด็นไปให้รู้ว่า สมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ก็มีการขายข้าวให้ บ.สยามอินดิก้า ซึ่งประเด็นต่างกัน ไกล  กับที่ ก.พาณิชย์ แถลงว่า มีการขายแบบ  G to G ไทย  to  G จีน แต่ กลายเป็น Gไทย    to    GssG  และไม่มีการส่งข้าวออกนอกประเทศ เลย   ขณะที่หมอวรงค์ ปชป. มีข้อสังเกตว่าบ.สยามอินดิก้า  มีการวนเวียนขายข้าวจำนวนนี้ทำกำไรอยู่ในตลาดในประเทศไทยนี่เอง  ( ในราคา  G to G ถูกกว่าราคาตลาดหลายดอลล์  ! ! ! ) รัฐบาลตอบง่าย ๆ เพียงแต่นำหลักฐาน การขนข้าวออก นอกประเทศ จากกรมศุลกากร หรือ การชำระเงินราคาข้าว ของ รัฐบาลจีน โดย ตรง ต่อ รัฐบาลไทย  เพียง แค่นี้  ปชป. ก็ หน้าแตก หมอไม่รับเย็บแล้วล่ะ  ทำไมกระทรวงพาณิชย์ จึงต้องทำ ยัก ยักอยู่ได้ จากคุณ : วอน เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 09:50:27 A:125.27.240.154 X:

ความคิดเห็นที่ 33 ประเด็นที่  #29คุณรู้ไปหมด  กับ  #32คุณวอน   สงสัย จขกท. ก็สงสัย    และคิดว่ารัฐบาลยังตอบได้ไม่เคลียร์สำหรับประเด็นนี้ในการตอบอภิปราย การเตรียมตัวมาตอบคำถามของรัฐบาล เป็นการเก็งข้อสอบว่าฝ่ายค้าน-ปชป. จะถามเรื่องอะไร ถ้ารัฐบาลไม่ทราบประเด็นการอภิปรายล่วงหน้า การจะให้ตอบคำถามให้เคลียร์ทันทีนั้น เป็นเรื่องยาก แต่เป็นหน้าที่ ของรัฐบาลที่จะต้องออกมาตอบคำถามให้เคลียร์หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งไม่ควรใช้เวลานานเกินไป จนเกิดความไม่เชื่อมั่นต่อประชาชนและฝ่ายที่เกี่ยวข้อง จากคุณ : น้ำมิตร เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 10:00:52 A:110.168.249.108 X:

ความคิดเห็นที่ 34 จขกท. มองว่า ประเด็นเรื่อง"สยามอินดิก้าฯ" ฝ่ายที่ต้องตอบเรื่องความโปร่งใส หรือ ทุจริตต่อประชาชนและสังคม มีทั้งสองฝ่าย คือ ฝ่ายรัฐบาลเพื่อไทย กับ ฝ่ายค้าน-ปชป. เพราะ"สยามอินดิก้าฯ" เ้ข้าไปประมูลซื้อข้าวรัฐบาลจากทั้งสองรัฐบาล ถ้าจะมีการทุจริตซื้อขายข้าวระหว่าง"สยามอินดิก้าฯ"กับ"คนของภาครัฐ"จริง  คงไม่ได้กระทำในรัฐบาลใดรัฐบาลหนึ่ง ต้องมีในทั้ง 2 รัฐบาล อีกประเด็นที่ต้องไม่ลืม รัฐบาลยิ่งลักษณ์นอกจากจะมีการขายข้าวแบบจีทูจีแล้ว  ยังมีการเปิดประมูลให้ขายในประเทศไทยด้วย ข้อมูลที่ ปชป. เอามาอภิปรายโจมตีรัฐบาล  เป็นข้อมูลเรื่องเส้นทางการเดินข้าว เป็นข้อมูลในการขายแบบจีทูจี หรือ เป็นข้อมูลการขายข้าวที่ให้พ่อค้าในประเทศไทยไทยแข่งประมูลกัน ตรงนี้ยังไม่ชัดเจน นอกจากจะตรวจสอบความโปร่งใสของรัฐบาลแล้ว ยังต้องตรวจสอบความโปร่งใสของฝ่ายค้านด้วย  ว่าหลักฐานที่นำมาแสดงในการอภิปรายนั้น เป็นข้อเท็จจริงหรือเป็นการบิดเบือนข้อมูล เนื่องจาก จากประวัติการอภิปรายของ ปชป.   กระดาษแผ่นเดียวที่ยังไม่มีใครเคยเห็นก็อภิปรายเชื้อชาติของอดีตนายกฯบรรหาร มาแล้ว จากคุณ : น้ำมิตร เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 10:13:09 A:58.8.173.102 X:

ความคิดเห็นที่ 35 ยังอ่านไม่จบ ขอเก็บกระทู้ไว้อ่านต่อ เห็นด้วยกับคุณ อู่หลิง #13 ว่า ชาวนาแฮปปี้ก็จริง แต่ผู้เสียภาษีก็ต้องแฮปปี้ด้วย รบ. ทำหน้าที่ยกระดับความเป็นอยู่ประชาชน ฝ่ายค้านทำหน้าที่แย้ง ปชช มีสิทธิเชียร์ทั้งสองฝ่าย แต่ต้องอยุ่บน "หลักฐาน" ไม่ใช่ตรรกะ หรือการคาดเดา เพราะไม่รู้ ถึงเดาว่ามีทุจริต แบบนี้ไม่ถูก แต่เมืองไทยใช้ระบบกล่าวหาอยู่แล้ว มีหลักฐาน ก็บริสุทธิ์ ไม่มีหลักฐานก็ยกฟ้อง มีชนักปักหลัง เราเชื่ออย่างบริสุทธิ์ใจเลยว่า นโยบายนี้เอื้อประโยชน์คนบางกลุ่ม คนโกงมีแน่ แต่ต้องไม่ใช่การใส่ร้ายแบบคาดเดา จากคุณ : น้องพรผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 10:23:23 A:171.101.126.124 X:

ความคิดเห็นที่ 36 เข้ามาอ่าน จากคุณ : ย่าอ้วนแพน เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 12:03:15 A:115.67.35.170 X:

ความคิดเห็นที่ 37 เรียน#26 กรรมการผู้จัดการกรุงไทยตอนนั้นก็ได้รับการสนับสนุน ให้นั่งต่อ น่าจะคุณอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ ซึ่งท่านก็บริหารความเสี่ยงได้ดี ตามที่แถลงกันแบบนั้น ตอนนั้นคุณกรณ์เป็นขุนคลัง ต้องได้รับรายงานอยู่แล้ว ดิฉันว่าสำนักงานสยามอินดิก้ายังหะรูหะหรา กว่า บริษัทที่ขายอาวุธให้กองทัพตั้งเยอะ จำชื่อบริษัทไม่ได้ละ จากคุณ : แก้วดี (แก้วดี) เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 12:20:51 A:171.7.138.113 X:

ความคิดเห็นที่ 38     ...........เพราะ"สยามอินดิก้าฯ" เ้ข้าไปประมูลซื้อข้าวรัฐบาลจากทั้งสองรัฐบาล ถ้าจะมีการทุจริตซื้อขายข้าวระหว่าง"สยามอินดิก้าฯ"กับ"คนของภาครัฐ"จริง  คงไม่ได้กระทำในรัฐบาลใดรัฐบาลหนึ่ง ต้องมีในทั้ง 2 รัฐบาล............. คนละเรื่องเดียวกันจริง ๆ การประมูลซื้อข้าวของบ.สยามอินดิก้า สมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ เป็นการประมูลซื้อข้าว แบบ  G  to  G หรือ ประมูลเพื่อขายในท้องที่ หรือ เพื่อส่งขายต่างประเทศ  ในขณะที่  การซื้อขายข้าว ไทย - จีน เป็นการซื้อ - ขาย ในแบบ  G to G   แต่ มี บ.สยามอินดิก้า มาแทรกกลาง ( ส่งข้าวออกไปจีนจริง หรือไม่  หรือ ว่า บ.อินดิก้า นำเอามาเร่ขายในประเทศ   ซึ่ง ไม่ใช่  การค้า  G to G      ทำไมจึง ยังไม่มีใครกล้าให้ข้อมูลความจริง ! ! ! ! )  ไปตะแบงกันว่า บ.สยามอินดิก้า ยังเคยประมูลข้าวจากรัฐบาลอภิสิทธิ์ แต่ ไม่ยักมีใครสักคนบอกมาว่า เงื่อนไขการประมูลครั้งนั้น  และการซื้อ - ขาย ครั้งนี้ ต่างกันอย่างไร ?   คุณน้ำมิตร ............นอกจากจะตรวจสอบความโปร่งใสของรัฐบาลแล้ว ยังต้องตรวจสอบความโปร่งใสของฝ่ายค้านด้วย  ว่าหลักฐานที่นำมาแสดงในการอภิปรายนั้น เป็นข้อเท็จจริงหรือเป็นการบิดเบือนข้อมูล..........   ....... คงไม่ต้องอภิปรายไม่ไว้วางใจฝ่ายค้านหรอกครับ    หมอวรงค์ นำหลักฐานต่าง ๆส่ง ให้ ปปช. แล้ว   เรื่องนี้ คงจบลงได้ โดยไม่ยากนัก จากคุณ : วอน เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 15:38:34 A:125.27.240.154 X:

ความคิดเห็นที่ 39 อินดิก้า ไม่น่าคบ จากคุณ : แก้วดี (แก้วดี) เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 14:43:09 A:171.7.138.113 X: