ความคิดเห็นที่ 1 ประชาธิปไตย ต้องคิดอะไรๆ เหมือนกันด้วยหรือครับคุณ pongsri หรือต้องคิดเหมือนคุณกับพวกเท่านั้น จึงจะเป็นประชาธิปไตย พวกคุณเป็นเจ้าของประชาธิปไตยหรือไงครับ จากคุณ : ร้อนหนาว เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 06:18:07 A:115.67.133.153 X:

ความคิดเห็นที่ 2 ท่าน pongsri  เขียนอย่างมีวุฒิภาวะ และมีเนื้อหาตรงไปตรงมา  เข้าใจง่าย การบรรยายของท่านสุเมธบ่งบอกอะไรคนไทยหลายๆอย่าง  โดยเฉพาะส่อความนัยที่ว่า คนไทยยุคนี้...อย่าริแส่หาประชาธิปไตยเลย....! จากคุณ : สาละวิน เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 06:24:45 A:171.6.214.223 X:

ความคิดเห็นที่ 3 จขกท.บรรยายอย่างละเอียดว่า ประชาธิปไตยที่ดีเป็นอย่างไร... คห#1 คิดต่างก็ได้นะ เพราะเป็นประชาธิปไตย... แต่ถ้าคิดเหมือน คุณสุเมธ หรือ เสธอ้าย ก็คือไม่อยากให้ประเทศนี้มีประชาธิปไตย..??? หากจะแย้งควรจะแย้งว่า ที่คุณ pongsri เขียน(พูด)ผิดตรงไหน ไม่จริงตรงไหน ..??? ต่างหากจึงจะเป็นการพูดด้วยุผลและเป็นประชาธิปไตยจริง... จากคุณ : คนอุบล เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 06:36:56 A:171.98.6.91 X:

ความคิดเห็นที่ 4 หค1. ประชาธิปไตยคิดต่างกันได้... แต่พื้นฐานล่างสุดต้องเคารพในความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกันก่อนโดยไม่แยกฐานะ การศึกษาเชื้อชาติเผ่าพงษ์พันธุ์ .. ถ้ายังแยกตรงนี้ยังไม่ได้ ไปคุยเรื่อง อื่นดีกว่า จากคุณ : wtakeow เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 06:45:30 A:118.172.247.76 X:

ความคิดเห็นที่ 5 ประชาธิปไตย ต้องคิดอะไรๆ เหมือนกันด้วยหรือครับคุณ pongsri หรือต้องคิดเหมือนคุณกับพวกเท่านั้น จึงจะเป็นประชาธิปไตย พวกคุณเป็นเจ้าของประชาธิปไตยหรือไงครับ จากคุณ : ร้อนหนาว ............................... ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกครับคุณร้อนหนาว  ไม่อยู่ที่ว่าต้องคิดเหมือนกัน ย้ำนะครับไม่อยู่ที่ความคิด แต่อยู่ที่ทัศนคติต่างหากครับ   ทัศนคติที่ไม่เคารพอำนาจของประชาชนต่างหากครับ ถือเป็นมิจฉาทิฐฐิ มุมมองแบบท่านสุเมธเป็นอันตรายต่อระบอบประชาธิปไตย ไม่น้อยไปกว่าเสธ.อ้ายที่ไม่เคยศรัทธาในระบอบ  ประชาชนจะยากดีมีจน จะเรียนสูงเรียนต่ำ เราจะให้ค่าแตกต่างกันได้อย่างไรครับ  ต้องรวยก่อนถึงจะเป็นประชาธิปไตย ท่านก็กดพวกเราไปเรื่อยๆ ซิครับ ขืนรวย ขืนฉลาด ท่านก็อยู่ยากละซิ  รู้นะ! คิดอะไรอยู่ จากคุณ : อเวราโหนตุ เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 06:46:26 A:125.24.235.57 X:

ความคิดเห็นที่ 6 พิมพ์เป็นกระดาษใส่ซองแล้วส่งถึงที่ทำงานเลย ถึงมือแน่นอน จากคุณ : Pathum One เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 06:50:35 A:124.121.69.132 X:

ความคิดเห็นที่ 7 จขกท. คุณ pongsri                ขอบคุณที่สรุปความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ชัดเจน                สำหรับคุณสุเมธ ชายสี่โบสถ์ ท่านนี้ ผมเข้าใจท่านผิดมานาน คิดว่าท่านจะ "เข้าใจ" ระบบสังคมประชาธิปไตยมากกว่านี้                กลับเป็นว่า ท่านยึดติด "ระบบสังคมไทยโบราณ หรือ สังคมทาส" " จนกระทั่งลืมไปว่า วันนี้เรากำลังเดินอยู่บนโลกของ "ความเท่าเทียมแห่งศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์"แล้ว # คคห.1 คุณร้อนหนาว               จากฐานคิดที่คุณเขียนมานี้ ทำให้ผมสงสัย  จึงใคร่ขอความกรุณาจากคุณ ช่วยอธิบายคำว่า "ประชาธิปไตย" ในมุมมองของคุณสักนิดได้ไหม??? จากคุณ : กิจ กังวาน เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 07:00:15 A:125.25.229.40 X:

ความคิดเห็นที่ 8 ครับชุดความคิดปชต.ไม้ดัด ของท่านสุเมธฯมีที่มาแบบที่คุณpongsri พยายามนำเสนอ แต่ผมอยากเพิ่มเติมให้ชัดกว่านั้นนั้นคือร่างร.7 ที่ยอกว่าคณะราษฎร์ชิงสุกฯเตรียมไว้ให้นั้นล่ะ (จริงๆไม่ใช่เป็นการเยื้อของอำนาจเก่าที่กลัวการสูญเสียแบบถอนรากถอนโคน) คือข้อกล่าวหาชิงสุก จริงๆไม่ใช่? เพราะมันยังไม่เคยผลิดอกออกผลเลยต่างหาก(ปชต.ไม้ดัด)คอยตัดกิ่ง ข้ออ้างชิงสุกจึง ไม่ใช่เป็นวาทะกรรมสร้างความชอบธรรมให้ปชตงไม้ดัด  เพราะร่างนั้นมันคือปชต.ไม้ดัดที่จะเต็มใบไม่ได้ มันจึงผลิดอกออกผลไม่ได้ให้มันสุกจึงเป็นไปไม่ได้) แต่นั้นคือรากเหง้าทั้งหมดของชุดความคิดและโครงสร้างอำนาจ"พฤติกรรมการ"ใช้อำนาจแบบไทยๆปัจจุบัน เพราะหลังปี2490(หลังยุคปรีดีย์) ร่างร.7 นี้ก็กลับมาเป็นการสิ้นสุดอุดมการณ์ ปชต.ของคณะราษฎร์(แบบคุณpongsri ) แต่เป็นการกลับมาของร่างร.7เต็มตัว นั้นคือปชต.ไม้ดัด ที่ไม่มีวันเต็มใบหรือไม่มีสันสุก แบบทุกวันนี้ ผมให้รายละเอียดแบบสวนหมัดต่อหมัดกับท่านสุเมธไว้ในนี้ http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P12997290/P12997290.html แก้ไขเมื่อ 02 ธ.ค. 55 09:15:32 จากคุณ : อะตอม (ขอชื่ออะตอม) เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 07:22:40 A:124.121.106.208 X:

ความคิดเห็นที่ 9 ไม่นานมานี้ มีแนวคิด คนเสียภาษีเท่านั้นถึงมีสิทธิ์เลือกตั้ง มาบัดนี้ คนจนไม่เหมาะกับประชาฑิปไตย  แหมอะไรจะเหมือนกันปานนั้น .... จากคุณ : Merati เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 07:23:34 A:171.97.165.197 X:

ความคิดเห็นที่ 10 ไม่มีอะไรหรอกแค่เรื่องปากท้องเท่านั้นเอง รักษาจุดยืนเพื่อรักษางานแค่นั้นแหละ หาเงินเลี้ยงปากท้อง 55555 จากคุณ : ขุนสถาน เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 07:25:42 A:27.55.172.75 X:

ความคิดเห็นที่ 11 คุณสุเมธคิดคนเดียว ไม่สำคัญเท่าคุณสุเมธเป็นใคร มีหมวกใบไหนสวมอยู่ คคห.ของคุณสุเมธได้รับอิทธิพลจากใครด้วยหรือเปล่า... หรือคคห.ของคุณ สุเมธจะมีอิทธิพล ต่อใคร  ????? นี่คือโจมย์ที่ต้องคิด ต่อไป... และนี่จะเป็นสิ่งที่ต่อยอดไปถึง อุดมการณ์ของเสธ.อ้ายด้วยไหม? เสธ.อ้าย..ออกมาครั้งนี้  เพราะ คุณสุเมธ.? คิดไปให้ไกลๆ ด้วยค่ะ จากคุณ : sao..เหลือ..noi เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 07:26:19 A:61.90.39.67 X:

ความคิดเห็นที่ 12 อยากเพิ่มเติมข้อเสนอ"ราษฏร์สวัสดิการ" ของผม นั้นคือวิธีคิดให้หลุดพ้นจากกรอบ นักปกครองต้องเป็นผู้ให้ ผู้ปกครองต้องเป็นผู้รับ ที่ตอนนี้ ฝ่ายอำมาตยฯ ใช้การให้ผ่านระบบราชการ,อำมาตยาฯ,ศักดินาล้าหลังระบบเก่า แต่"ประชานิยม" กรอบเดิม(ของคุณpongsri ) หลักยังเป็นการให้จากผู้ปกครองฟากระบบตัวแทนหรือนโยบายประชานิยม กรอบเดิม นั้นคือการพยายามแย่งพื้นที่การให้ของนักปกครองสองขั่วอำนาจ นั้นคือขั่วอำมาตยฯ กับขั่วนักการเมือง ยังเป็นลักษณะ นักปกครองต้องเป็นผู้ให้ ผู้ถุกปกครองต้องได้รับจากรบ. มันยังไม่ยั่งยืน และทั่วถึงแบบ"รัฐสวัสดิการ" ที่สถานะทางการคลังและฯลฯ เรายังไกลจากนั้นมาก ประชานิยมเอามาช่วยได้ระยะสั้น เท่านั้น แต่ระยะยาว จะสร้างความอ่อนแอบิดเบือนหลายๆเรื่องเช่นกลไกตลาด ให้ภาคปชช. เช่นและธุรกรรมการให้แบบนั้น แต่"ราษฎร์สวัสดิการ"ของผมเป็นการสร้างสวัสดิการ ร่วมกันระหว่างรัฐและปชช. ด้วยการเอาคณิตศาสตร์ประกันภัย มาประยุกต์ใช้ที่จะต้องไปไกลกว่าหลักคิดประกันสังคมตรงฐาน และลักษณะการอุดหนุนจากรับและการสบทบ ในแบบสวัสดิการสร้างเองได้ ทั้งในแบบเพิ่มได้ลดได้ตามศักยภาพ ของปัเจกบุคคล มันจะไม่ใช้แพคเกตเดียวรวมศูนย์แบบเก่าๆบนแนวคิดผู้ปกครองโยนโคลมลงมาให้เขา ที่บางทีใช่ก็ทานได้ แต่ถ้าไม่ใช่เหมือนโยนปลากระป๋องใส่หัวหมา หลายประชานิยมกรอบนี้จึงเป็นพิษได้ เช่นจำนำข้าว(ปัญหาใต้เพราะปลากระป๋องดันมีน้ำซอสหมูเพราะคิดจากข้างบนรวมศูนย์ตามรัฐเดี่ยวรวมศูนย์ที่พลเมืองนั้นต้องปรับตัวเข้าหาการให้(ปาลงมา)แบบนั้น) ดังนั้นกรอบวิธีคิดสองขั่วอำนาจขณะนี้ ยังสร้างทางเลือกในปชต.ที่แท้จริงยาก(นั้นคือปชต.ที่ปชช.เป็นผู้ออกแบบความต้องผ่านใบมอบอำนาจหรือนโยบายแล้วสร้างสัวสดกิรที่ตัวเองร่วมสร้างได้) ไม่ใช่โยนโคลมลงมา แบบที่อำมาตยฯ และประชานิยมกรอบเดิมแย่งกันปาลงมาอย่างนั้น??? แก้ไขเมื่อ 02 ธ.ค. 55 07:39:31 จากคุณ : อะตอม (ขอชื่ออะตอม) เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 07:36:07 A:124.121.106.208 X:

ความคิดเห็นที่ 13 ถ้าไม่มีกองทุนหมู่บ้านแล้วชาวบ้านเขาจะเข้าถึงแหล่งการเงินที่มาจากแบงคืของพวกคุณมั้ยละ อิจฉาคนจนหรือไง จากคุณ : เดินไปข้างหน้า เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 07:36:19 A:223.204.194.243 X:

ความคิดเห็นที่ 14 ประเทศที่ไม่ไปถึงไหนก็เพราะกลุ่มคนดีพวกนี้แหละ บอนไช ประเทศไทย จากคุณ : เดินไปข้างหน้า เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 07:37:32 A:223.204.194.243 X:

ความคิดเห็นที่ 15 ความคิดเห็นที่ 13     ถ้าไม่มีกองทุนหมู่บ้านแล้วชาวบ้านเขาจะเข้าถึงแหล่งการเงินที่มาจากแบงคืของพวกคุณมั้ยละ อิจฉาคนจนหรือไง จากคุณ : เดินไปข้างหน้า ตอบ. ขึ้นกับคิดผ่านกรอบไหน?(กรอบประชานิยมแบบเก่าก็จะคือผู้ปกครองโยนโคลมลงมาให้ผู้ถุกปกครองเพื่อชื้อใจหรือถือเป็นการให้แบบนั้น) แต่ถ้าคิดผ่านระบบคิดหลักคิดปรัชญาคิดแบบ"ราษฎร์สวัสดิการ" มันจะคิดแบบรัฐ ให้การอุดหนุน ตามสิ่งที่เขาทำแผนขอ หรือตรงกับความต้องการพื้นที่ทำขอการอุดหนุนมา ง่ายๆเช่น โครงการไบโอดีเซลชุมชน(ของผมเน้น) หรือการผลิตไฟฟ้าชุมชนใช้ ภายใต้ทรัพยากรชุมชนนั้น(มันเป็นต้นทุนเดิมในอัตลักษณ์พื้นที่)แต่ผ่อนชำระเงินก้อนรบ.ภายหลัง รบหรือระบบคลังจึงไม่ใช่ให้เปล่าถมทะเลตามกรอบเดิม แต่ปชช.ได้เต็มกว่าโยนหรือปาหังลงมาแบบนั้น คือถ้าเอามาในส่วนผสมที่ลงตัว ในการอุดหนุนจากภาครัฐ และสิ่งที่ท้องถิ่นมี มันเป็นการร่วมทุนระหว่างชุมชนกับรบ.ในหลักคิด"ราษฎร์สวัสดิการ" ตรงที่ รัฐลงทุน แท่งขุดเจาะพลังงานทางเลือก(เครื่องกลั่นโบโอดีเซลหรือเอธานอล) หรือโรงไฟฟ้าพลังแกลบ ,แสงอาทิตย์,ลม.จากชุมชนชาวนา เพื่อให้เขามีพลังงานในชุมชนใช้อย่างยั่งยืน หรือถ้าผลิตเหลือใช้ ขายให้รบ.หรือชุมชนอื่นๆข้างเคียงในแบบการแลกเปลี่ยนอย่างอื่นที่ตัวเองขาดเขามีได้อีก หลักคิดนี้เอาไปใช้ไม่ได้เพราะโครงสร้างพลังงานเราออกแบบให้รวมศูนย์ เช่นติดค่าต๋งปตท. และกฝผ. จากระบบคิดแบบรวมศุนย์ พลังงาน เพื่อพอกก้อนราคาผ่านนายหน้าหลายต่อ ก่อนโยนโคลมลงมาหาปชช. ก้อนราคามันจึงกลิ้งทับปชช.ตามโครงสร้างราคาพลังงงานแบบนั้น? ทั้งที่ศักยภาพพลังงานทางเลือกปชช.ยังมีเพีย?บ ชนิดต่างกันหลายเท่าจากตรงนั้น?  และเป็นทางเลือกที่ยั่งยืนต่อชุมชน ที่จะสร้าง"ราษฎร์สวัสดิการชุมชน"ได้ ไม่ใช่ปาลงมาเหมาเข่งแบบนั้น??? แก้ไขเมื่อ 02 ธ.ค. 55 08:12:59 จากคุณ : อะตอม (ขอชื่ออะตอม) เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 07:52:39 A:124.121.12.157 X:

ความคิดเห็นที่ 16 .          เมื่อธรรมนูญการปกครองระบุว่า  เป็นการปกครองระบอบประชาธิปไตย  แล้วใยจะมีตัวเข้ออกมาขวางคลอง  พูดจาให้ผิดไปจากรธน.เล่า  ...  เข้ เอ๋ย . จากคุณ : csom 9263 เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 08:29:47 A:115.67.102.217 X:

ความคิดเห็นที่ 17 มีตัวละครหลายแบบ ทั้งแบบฮีโร่ แบบดุดัน แบบปรัชญา แบบพอเพียง แบบแช่แข็ง ร่วมมือกันเล่น แต่ทำไม่รู้จักกัน ป่าวประกาศวาทกรรมต่างๆ ทั้งหมดก็เพื่อ คงไว้ซื่ง อำนาจของตน ก็เท่านั้นแล ชาวบ้านเขารู้ แต่ก็แกล้งทำไม่รู้ แล้วก็ตบคนพวกนี้หัวทิ่ม ด้วยการเลือกตั้ง จากคุณ : กะลาสี เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 08:32:10 A:58.64.62.181 X:

ความคิดเห็นที่ 18 บนโลกใบนี้ แม้แต่ประเทศอเมริกา อันดับ 1 ของโลก ยังมีคนจน และประเทศไทยก็ไม่ใช่ประเทศพัฒนาแล้วอย่างเมกา ประเทศไทยต้องเจริญก้าวหน้ากว่า สหรัฐอเมริกากี่เท่า รวยกว่าอเมริกากี่เท่า จึงจะเป็นประชาธิปไตยได้ในแบบของ ดร.สุเมธ และไม่ได้กำหนดว่า รวยขนาดไหน จึงจะพอในแบบประชาธิไตยของ ดร.สุเมธ แต่การที่ ดร.สุเมธ ออกมาพูดว่า เรายังไม่พร้อมกับประชาธิไตย แล้วตอนนี้เราควร ใช้การปกครองอะไร ซึ่งเป็นการพูดที่ทำให้เกิดปัญหามากมายตามมาในตัวคำพูดเอง อันดับแรกที่ต้องมองคือ ประชาธิปไตย ไม่ใช่เงิน (อันนี้เราว่า ชาวบ้านตาสีตาสาเขาก็รู้นะเออ) จากคุณ : anena เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 08:42:44 A:124.121.51.178 X:

ความคิดเห็นที่ 19 คุณ"กะลาสี " ครับเขาเรียกว่า"วงออร์เคสตร้าหมาย่ำหาด"(ประเทศไทย) ครับนั้นคือต่างคนต่างเล่นตามความถนัดของตัวเอง ไม่เอาโน๊ตกลางกติกากลาง เอามันของตัวเองหรือตามจริตตัวเองหรือ"อัตตาธิปไตย"เท่านั้น? ผลมันจึงคือเละแบบหมาย่ำหาดไงครับ?ประเทศไทย??? จากคุณ : อะตอม (ขอชื่ออะตอม) เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 08:47:20 A:124.121.12.157 X:

ความคิดเห็นที่ 20 ผมชอบครับ ประชาธิปไตยที่กินได้ จากคุณ : Django เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 08:49:44 A:61.90.83.44 X:

ความคิดเห็นที่ 21 ความคิดเห็นที่ 1     ประชาธิปไตย ต้องคิดอะไรๆ เหมือนกันด้วยหรือครับคุณ pongsri หรือต้องคิดเหมือนคุณกับพวกเท่านั้น จึงจะเป็นประชาธิปไตย พวกคุณเป็นเจ้าของประชาธิปไตยหรือไงครับ จากคุณ : ร้อนหนาว เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 06:18:07 A:115.67.133.153 X: ถูกใจ : อดีตหัวหน้าเผ่า ตอบ. ก็อย่างที่ผมยกตัวอย่างวงดนตรีออรืเคสตร้าหมาย่ำหาด นั่้นล่ะครับ คือคำตอบนี้ได้ชัดที่สุด นั้นคือ คุณเป็นตัวของตัวเองได้ บนความเป็นปัจเจก และปชต.ให้สิทธิ ตรงนั้นไว้ในความเป็นอัตภาพทางอัตลักษณ์ความชอบความคาดหวังแบบนั้นชุดนั้นแต่กำกับเรื่องบทบาทหน้าที่เพื่อป้องกันการใช้สิทธิเกินไปไปเบียนเบียนผุ้อื่นนั้นคือมิติความรับผิดชอบในกติกาในการกำกับสิทธิ? นั้นคือดนตรีชิ้นนั้นมีอัตภาพ แบบนั้น แต่ถ้าเราเล่นเป็นวง มันต้องมีกติกากลางโน๊ตกลาง? ไม่ใช่ต่างคนต่างเล่นไปทางใครทางมันเอามันตัวเองเข้าว่าเน้นตามจริต"อัตตาธิปไตย"ตน? นักร้องก็แหกปากแบบวงร็อคหมาย่ำหาด แทนที่จะร้องแบบโอเปรล่า หรือคลาสสิค เพราะนี่มันคือมติว่าเราจะเล่นวงออร์เคสตร้า หรือปชต.ไม่ใช่"อัตตาธิปไตย"ครับ??? แก้ไขเมื่อ 02 ธ.ค. 55 09:07:12 จากคุณ : อะตอม (ขอชื่ออะตอม) เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 09:04:22 A:124.121.12.157 X:

ความคิดเห็นที่ 22 ก็แนวคิดแบบ เฟอรารี่นี่ไง  นโยบายอะไรที่ประชาชน(จนจน)จะได้ประโยชน์ ประชาชนจะได้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น  ถึงจะต้องถูกขจัดขัดขวาง ไม่ให้บรรลุผลได้เป็นอันขาด  เพราะประเดี๊ยวท้องเริ่มอิ่ม ที่นอนเริ่มอุ่น ก็จะมีเวลา มีสติปัญญามาเรียกร้องสิทธิเสรีภาพกันมากขึ้น   เมื่อแสงสว่างส่องมาภูตผีปีศาจมหึมา ก็จะถูกความสว่างขับไล่ไป ก็เท่านั้น จากคุณ : เมลฟีเซล เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 09:16:51 A:124.122.28.238 X:

ความคิดเห็นที่ 23 ...มันยากนะ...กับคำว่าประชาธิปไตย.. ...เพราะคำๆนี้มันแสลงหูสำหรับ... ...คนบางพวก... จากคุณ : สวนดอก เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 09:19:09 A:223.205.52.213 X:

ความคิดเห็นที่ 24 ไหนบอกให้พอเพียงไงคุณสุเมธ^^ จากคุณ : 180cc (ปะเกิ๊บปะเกิ๊บ) เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 09:42:59 A:223.204.88.6 X:

ความคิดเห็นที่ 25 "ชาวบ้านยังยากจน อยู่ ทำให้ไม่มี ประชาธิปไตย..." ผิดแล้วครับ. อินเดีย ประเทศที่มีคนยากจนมาก แต่ก็ยังมีประชาธิปไตยได้. สิ่งที่แตกต่างกันระหว่างอินเดียกับไทยคือ จิตสำนึกของชนชั้นสูงในสังคมจำนวนหนึ่ง ที่ยังผูกขาดความคิดเก่าๆ. คิดว่า ความรู้สูงๆ คือคำตอบ. ซึ่งไม่ใช่. วันเวลาที่ผ่านมา พิสูจน์ให้เห็นว่า การพัฒนาที่ผ่านมาเป็นการพัฒนาเชิงปริมาณเท่านั้น ซึ่งผู้ได้รับประโยชน์คือคนบางกลุ่ม. จนกระทั่งมีการนำนโยบายที่ถูกเรียกว่า นโยบายประชานิยม ถูกหยิบมาทดลองใช้ สิ่งที่ตามมาคือ การพัฒนาที่สัมฤทธิ์ผลทั้งเชิงปริมาณและเลิงคุณภาพ. เชิงปริมาณก็คือ นอกจากจะสามารถทำให้เศรษฐกิจเติบโตได้แล้ว ยังแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นมานานในสังคมไทยคือ การกระจายรายได้. ส่วนเชิงคุณภาพคือ ประชาชนมีความตื่นตัวในระบอบประชาธิปไตยอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนในสังคม. สิ่งนี้คือ สิ่งที่ชนส่วนน้อยบางกลุ่มเกิดการสูญเสียประโยชน์อย่างแรง จึงเป็นสาเหตุให้เกิดความวุ่นวายทางการเมืองขึ้นมาอย่างต่อเนื่องจนถึงทุกวันนี้. จากคุณ : hummel เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 09:46:03 A:180.180.12.133 X:

ความคิดเห็นที่ 26 ชีวิตพอเพียง แบบนี้ก็ไม่รวยนะสิ จากคุณ : ดาบญากับจ่าเชิด เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 10:05:20 A:203.149.3.66 X:

ความคิดเห็นที่ 27 ก็แค่ความคิดแคบๆ ของคนที่อยู่ในสังคมแคบๆ ถึงแม้จะมีตำแหน่งใหญ่โต แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความคิดอ่านโตตามไปด้วย จากคุณ : I_Feel_Control เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 11:41:46 A:58.9.133.91 X:

ความคิดเห็นที่ 28 กองทุนหมู่บ้าน ทำให้ประชากรที่เคยเป็นรากหญ้า หรือ เคยถูกกำหนดให้ว่า เป็นพวกรากหญ้า รู้แล้วว่า ตนเองก็มีศักยภาพไม่แพ้ใครๆในแผ่นดิน จากคุณ : กุหลาบแวร์ซาย เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 12:25:45 A:27.55.138.140 X:

ความคิดเห็นที่ 29 ประชาธิปไตย ต้องคิดอะไรๆ เหมือนกันด้วยหรือครับคุณ pongsri หรือต้องคิดเหมือนคุณกับพวกเท่านั้น จึงจะเป็นประชาธิปไตย พวกคุณเป็นเจ้าของประชาธิปไตยหรือไงครับ จากคุณ : ร้อนหนาว ..อำลาห้องราชไป เปลี่ยนชื่อแล้วกลับมาป่วนใหม่.. ..นิสัยเหมือนใครที่ลาออกหัวหน้าพรรค แล้วเลือกกลับมาใหม่.. ..sawa nonแดง นิสัยมันเป็นอย่างนี้เหรอ.. จากคุณ : วอกนักบะ (Anico2) เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 19:42:57 A:110.77.209.138 X:

ความคิดเห็นที่ 30 คุณสุเมธ ก็สักแต่ว่าพูด ไม่มีตรรกะ อะไรจะช่วยคนในชาติ อยู่ก็โผล่ออกมาแสดงว่า ประเทศนี้ข้รารู้หมด แต่ไม่เคยแก้ไข เพียงตัวฉันรวยก็พอแล้ว ใช่เปล่า สุเมธ จากคุณ : ไมตรีจิตร เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 20:17:56 A:125.26.0.196 X: