Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
**ขอคารวะท่านวิสุทธิ์ กับวาทกรรม "ผมรักชาติมากกว่าพรรค บนนั้นไม่มีทั้งเหลือง แดง พท. ปชป." : สะท้อนผลโหวตราชดำเนิน vote ติดต่อทีมงาน

เคยสะดุดใจกับการทำหน้าที่ประธานสภาฯ ของผู้ชายคนนี้ช่วงศึกอภิปรายฯ
รู้สึกได้ถึงความเข้มแข็ง เด็ดขาด และยุติธรรม จนต้องมาทำโพลสำรวจในราชดำเนิน
เพียงเพราะอยากจะรู้ว่าคนส่วนใหญ่คิดเหมือนกันหรือเปล่า 
วันนั้น ผลก็เป็นไปตามที่คิดไว้ คนส่วนใหญ่ในราชดำเนิน (ที่โหวต)
คิดตรงกันว่าท่านนี้ทำหน้าที่ได้ดีที่สุด

วันนี้  พี่สาวคนสวย (Onefineday) แชร์บทสัมภาษณ์ของชายคนนี้มาให้ มีแง่มุมมากมายที่น่าสนใจ โดยเฉพาะวาทกรรมที่จั่วหัวไว้ เท่ห์ซะ...

หลายเรื่องไม่เคยรู้ หลายเรื่องน่าสนุก จนต้องนำมาบอกต่อคอการเมือง
(เฉพาะ) คนที่ชอบอ่านอะไรประมาณนี้

ขอบคุณพี่คนสวย ขอบคุณโพสต์ทูเดย์

---------------------

"เมื่อขึ้นนั่งบนบัลลังก์ผมไม่ใช่คนของพรรคเพื่อไทยไม่ใช่คนเสื้อแดง

 บนนั้นไม่มีเหลือง ไม่มีแดงไม่มีเพื่อไทยไม่มีประชาธิปัตย์

ไม่มีเพื่อนไม่มีผู้ใหญ่ที่ผมเคารพนับถือ"


โดย ...ชุษณ์วัฎ ตันวานิช/ชัยรัตน์ พัชรไตรรัตน์
         
รับเสียงชมท่วมท้นจากประชาชนที่เกาะติดหน้าจอดูศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ วิสุทธิ์ ไชยณรุณ  รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 พกบุคลิกขรึม เข้ม เฉียบขาดกำราบ สส.ในห้องประชุมจนอยู่หมัดทุกครั้งที่ขึ้นนั่งบัลลังก์ สไตล์การวินิจฉัยของเขา "แรงมาแรงไป"กระทั่งเจ้าตัวยอมรับว่า หากการประชุมสภาร้อนแรงทำท่าจะเอาไม่อยู่ ประธานสภาต้องเรียกใช้บริการเขาเพื่อให้มาคุมการประชุม


วิสุทธิ์ บอกกับโพสต์ทูเดย์ ว่า ตลอดเวลาคำนึงเสมอว่าเก้าอี้ "ประธานสภา" เป็นงานสำคัญระดับชาติเพราะถือเป็นการทำหน้าที่แทนคนทั้งแผ่นดิน หลักสำคัญสุดที่ต้องยึดไว้คือความเป็นกลาง เพราะหากประธานลำเอียง ฝ่ายตรงข้ามจะประท้วงทันที และอาจเกิดความวุ่นวายจนส่งผลให้การประชุมต้องหยุดชะงัก เสียเวลา สส. รวมไปถึงข้าราชการทั้งหมด
         
"บางคนเขาก็ชมผม แต่บางคนไม่ถูกใจเขาก็ด่า แต่ไม่ว่ายังไงผมขอทำหน้าที่เป็นกลางที่สุด ผมยึดอยู่สิ่งหนึ่ง คือ เมื่อขึ้นนั่งบนบัลลังก์ผมไม่ใช่คนของพรรคเพื่อไทยไม่ใช่คนเสื้อแดง บนนั้นไม่มีเหลือง ไม่มีแดงไม่มีเพื่อไทยไม่มีประชาธิปัตย์ ไม่มีเพื่อนไม่มีผู้ใหญ่ที่ผมเคารพนับถือ" วิสุทธิ์ยืนยันถึงหลักการบนเก้าอี้ที่เขานั่งมาร่วมปีกว่า
         
ยิ่งในการประชุมที่ฝ่ายนิติบัญญัติทำหน้าที่ตรวจสอบให้ฝ่ายบริหารชี้แจงนั้น เจ้าตัวย้ำว่ายิ่งต้องสร้างความเป็นกลางให้มากที่สุด
         
"ต้องยอมรับความจริงว่า ผมสังกัดพรรคการเมืองก็ต้องมีความช่วยเหลือจากรัฐมนตรีต่างๆ เป็นเรื่องปกติวิสัยของมนุษย์ หลายท่านเป็นคนที่ผมเคารพนับถือ มีความสัมพันธ์ส่วนตัวพอสมควร แต่เวลาทำหน้าที่ผมไม่เคยเอาความเคารพนับถือมาเกี่ยวข้องกับความยุติธรรม สองสิ่งนี้ต้องแยกจากกัน ไม่ว่าเป็นหนี้บุญคุณใครให้กองไว้ตรงนั้น นั่นเป็นเรื่องที่คุณไปติดหนี้เขา แต่ตอนวินิจฉัยบนบัลลังก์ต้องไม่สนใจใครทั้งนั้น"
        
 "อย่างรองฯ เฉลิม ผมเองเคยขอความช่วยเหลือท่านในเรื่องตำรวจไม่ได้รับความยุติธรรมแต่ในสภาผมต้องทำตามหน้าที่ ผมไม่เคยหันไปดูเลยทั้งรัฐมนตรีและนายกฯ และท่านก็ให้เกียรติ ไม่เคยเข้ามาแทรกแซงดังนั้น อยู่บนบัลลังก์ไม่ต้องสนใจว่าใครจะเป็นรัฐมนตรีกระทรวงไหน สำคัญที่สุดคือความยุติธรรม ในใจเราต้องมี ขึ้นไปนั่งเก้าอี้ มีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอยู่ข้างบน ถ้าผมทำอะไรผิดไปจะมีความละอายใจมาก"
         
วีรกรรมใน "ศึกซักฟอก" ที่เพิ่งผ่านไปสะท้อนบทพิสูจน์ไม่เลือกข้างของ "รองฯ วิสุทธิ์" เพราะถึงขั้นเงื้อค้อนเตรียมทุบโต๊ะบนบัลลังก์เพื่อสยบพายัพ ปั้นเกตุ สส.เสื้อแดงจากพรรคเดียวกันมาแล้ว
         
"ผมบอกให้แกนั่งลง เพราะที่ประชุมจะเข้าวาระเป็นเรื่องเป็นราวแล้วแต่แกไม่ยอมตะโกนเสียงดังสวนขึ้นมา ผมไม่นั่ง!ผมไม่ฟัง!ผมก็บอกว่าฟังผมก่อนเพราะที่คุณประท้วงทุกคนก็ประท้วงกันหมดแล้ว นั่งลงเถอะ เตือนครั้งที่3 แล้วยังตะโกนมา ผมหยิบค้อนเตรียมจะทุบแล้ว (เน้นเสียง) ถามไป คุณจะนั่งไม่นั่ง!เขาก็บอก ผมนั่งแล้ว (หัวเราะ)"
         
"ผมไม่อยากจะใช้หรอก เพราะถ้าทุบค้อนมันเหมือนกับการที่ประธานยืนขึ้น เป็นขั้นสุดท้ายที่บอกว่าคุณต้องหยุดแล้วนั่งลง ไม่เช่นนั้นก็ต้องหิ้วออกจากที่ประชุม แต่สถานการณ์บีบให้ต้องทำทั้งที่เป็นพรรคเดียวกัน ถามว่าเกลียดเขาไหม...ไม่ สนิทกันไหม...สนิทเขาเป็นรุ่นน้องผม เคยเรียนแม่โจ้มาด้วยกัน แต่วันนั้นผมต้องหยิบค้อน เพราะเขาทำไม่ถูก"
         
ไม่ใช่แค่ "พายัพ" แต่ "สุนัย จุลพงศธร" สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยรู้ซึ้งถึงรสชาติไม้เรียวของท่านรองฯ ผู้นี้ดี โดยเฉพาะในวันสุดท้ายของศึกซักฟอก
          

"ท่านสุนัยเองประท้วงหลายครั้งเหลือเกิน ขอร้องแล้วว่ามีเวลาเหลือเพียง 1 ชั่วโมง แต่เหลือรัฐมนตรีตั้ง 8 ท่าน ยังไม่ได้ชี้แจง ผมก็บอก ดร.สุนัย ขอเถอะเตือนหลายครั้งแล้วท่านยังไม่ยอม ผมก็เรียกตำรวจรัฐสภาเลย วิ่งกรูเข้ามา 10 กว่านายเต็มห้อง ท่านก็รีบนั่งลง ถ้าไม่นั่งผมให้หิ้วออกแล้ว"

"ผมบอกแล้วว่าผมยึดความยุติธรรมนะ อย่าโกรธผม เพราะพรรคเลือกผมมาให้ใช้ความยุติธรรม ผมก็ต้องทำ สมาชิกพรรคจะมาโกรธผมไม่ได้ ถ้าผมลำเอียงแล้วคุณโกรธผมมันถึงจะถูก เพราะประชาชนดูอยู่ ผมทำให้พรรคเสียหาย แต่ในเมื่อผมยุติธรรมแล้ว คุณจะมาโกรธผมไม่ได้"
         
"เพราะฉะนั้น หลักการผมคือไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้นไม่ว่าประชาธิปัตย์หรือเพื่อไทยก็มีบางท่านยังงอนๆผมอยู่ ไม่มองหน้าผม แต่เชื่อเถอะว่าผมทำความยุติธรรมให้เกิดขึ้น ผมสังกัดพรรคเพื่อไทยผมรักพรรคผม แต่ผมต้องรักชาติมากกว่า วันนี้ถ้าประธานทำหน้าที่ไม่ดี เอนเอียง ไม่เป็นกลาง ปัญหาที่เกิดขึ้นในอนาคต คือคนจะไม่ยึดมั่นในระบบรัฐสภาอีกเลย"

(มีต่อค่ะ)

แก้ไขเมื่อ 02 ธ.ค. 55 22:41:18

จากคุณ : ตัวกลมแก้มป่อง
เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 22:39:17 A:110.168.33.185 X:




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com