Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ฟอกเงินบ้านเอื้ออาทร สู่ จำนำข้าว “พรรคการเมือง” ขุดไม่ถึง ต้องให้ ป.ป.ช. ขุดต่อ vote ติดต่อทีมงาน

ที่มา

http://www.isranews.org/%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%88%E0%B8%99/item/18004-kaewsan.html

ฟอกเงินบ้านเอื้ออาทร สู่ จำนำข้าว “พรรคการเมือง” ขุดไม่ถึง ต้องให้ ป.ป.ช. ขุดต่อ

“... พยานหลายราย ได้ให้ข้อมูลตรงกันว่านายอภิชาติและบริวาร ซึ่งเป็นหญิง 2 คน คือผู้ที่คอยติดต่อกับบริษัทต่างๆ เรียกค่าโควตา ส่งคนไปรับเงินหรือส่งเงินเข้าบัญชี...”

.....

นายแก้วสรร อติโพธิ อดีตกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.)  ให้สัมภาษณ์ในรายการ Fact File  ทางกรุงเทพธุรกิจทีวี วันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม 2555 ที่ผ่านมา ถึงกรณีบริษัท เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด ที่มี นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร เป็นกรรมการผู้จัดการ ผู้สร้างตำนานขายข้าวจีทูจีตั้งแต่รัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีทุจริตโครงการก่อสร้างบ้านเอื้ออาทร ในรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ    



    นายแก้วสรรเล่าถึงความเป็นมาของคดีบ้านเอื้ออาทร ว่า เริ่มจากมีการร้องเรียนมายังคตส.ว่ามีการเรียกเก็บหัวคิว ในการจัดสรรโควตาก่อสร้างบ้านเอื้ออาทร 4 แสนยูนิต หน่วยละ 14,000 บาท ซึ่งคดีนี้ค้างการตรวจสอบอยู่ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) คตส.จึงรับเรื่องนี้มาตรวจสอบ และพบว่ามีบริษัทก่อสร้างแห่งหนึ่งจ่ายเงินค่าหัวคิวผ่านคนสนิทรัฐมนตรี จึงได้ตามเส้นทางเงิน เพื่อดูว่าเงินจำนวนนี้วิ่งไปที่ไหน ในที่สุดก็พบว่ามีเงินออกจากบัญชีไปยังคนกลุ่มหนึ่ง    

    เมื่อตรวจสอบคนกลุ่มนี้ก็พบว่าเป็นลูกจ้าง แม่บ้าน ของบริษัทเพรซิเดนท์ฯประมาณกว่า 40 ล้านบาท คตส.จึงคิดว่าถ้ามีการขายโควตาให้ผู้รับเหมาจริง ก็น่าจะตรวจไปยังบริษัทอื่นๆ ที่ได้โควตาก่อสร้างเยอะๆ อีก 14 บริษัท ซึ่งก็พบว่าในทำนองเดียวกัน    

    "บุคคลกลุ่มนี้เป็นตัวเชิดในการรับสินบนจากบริษัทต่างๆ จากนั้น คตส. ก็ตรวจต่อว่าเงินเหล่านี้ไปไหน สุดท้ายก็พบว่าเงินส่วนหนึ่งถูกส่งต่อไปยังบริษัทที่ฮ่องกง โดยบริษัทที่รวมเงินส่งไปก็เป็นบริษัทห้องแถว เมื่อลงไปดู ปรากฏว่าเป็นร้านขายก๋วยเตี๋ยว แต่กลับส่งเงินเป็นพันๆ ล้านไปยังบริษัทที่ฮ่องกง และในที่สุดแล้ว เงินจำนวนนี้ก็วิ่งกลับมาที่ เพรซิเดนท์ฯ แล้ว เพรซิเดนท์ฯ ก็ตัดบัญชีว่าเป็นเงินที่ได้จากการขายข้าว"    

    นายแก้วสรร ยังบอกด้วยว่า หลังจากที่ คตส. ทราบที่ไปที่มาของเงินแล้ว ก็ตามต่อว่านายอภิชาติ เป็นใคร โดยเรียกบริษัทต่างๆ ที่จ่ายเงินค่าหัวคิวมาให้ปากคำ แลกกับการกันไว้เป็นพยาน ซึ่งมีบริษัทสมัครใจให้ความจริงและได้กันไว้เป็นพยานหลายราย ได้ให้ข้อมูลตรงกันว่านายอภิชาติและบริวาร ซึ่งเป็นหญิง 2 คน คือผู้ที่คอยติดต่อกับบริษัทต่างๆ เรียกค่าโควตา ส่งคนไปรับเงินหรือส่งเงินเข้าบัญชี    

    ขณะที่ นายอภิชาติ ก็มีที่นั่งในสำนักงานรัฐมนตรี แต่ไม่เป็นที่เปิดเผย และที่ออฟฟิศของรัฐมนตรีคนนั้นก็พบความเชื่อมโยงว่าเป็นคนที่สั่งการไปยังการเคหะ    

   "ภาพแบบนี้เป็นเคสที่สมบูรณ์ ในทัศนะของผม คือ เราสามารถเห็นบทบาทของรัฐมนตรีในการสั่งการ เห็นพฤติกรรมในการเรียกรับสินบน สามารถเห็นการจ่ายสินบนจริง และเห็นซุ้มฟอกเงิน แต่เมื่อเงินเข้าเพรซิเดนท์ฯ แล้วจะไหลไปไหน มันหมดปัญญาเพราะเหมือนข้าวที่ไหลเข้าไปในตุ่ม เพราะมีทั้งเงินค้าข้าวและเงินอื่นๆ รวมอยู่ด้วย ซึ่งกรณีการก่อสร้างโครงการบ้านเอื้ออาทรเป็นตัวอย่างว่า ถ้าระดับนโยบายสร้างกลไกในการทุจริตขึ้นมา ก็จะมีคนกลุ่มหนึ่ง ที่จะทำให้สำเร็จ"    

   ส่วนกรณีโครงการรับจำนำข้าวก่อนปี 2547 เสี่ยคนนี้ก็เป็นโรงสีอยู่ที่บางมูลนาค จ.พิจิตร และก็ไม่ได้เป็นผู้ส่งออกใหญ่โต แต่ก็เป็นแกนนำของพรรคไทยรักไทยภาคเหนือ แข่งกับกลุ่มของพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ มาตลอด เมื่อพรรคไทยรักไทยได้เป็นรัฐบาล เพรซิเดนท์ฯ ก็ประมูลข้าวล็อตใหญ่จากรัฐบาล และก็มีข่าวว่าไม่ได้มีการส่งออกเช่นกัน    

   "ตอนนั้นไม่มีใครขุดเรื่องนี้ขึ้นมา ต่อมาในปลายรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ บริษัทนี้ก็มีปัญหาถูกดีเอสไอสอบสวน เพราะมีธนาคารหลายแห่งฟ้องร้องว่าฉ้อโกง เอาแอลซีปลอมไปหลอกกู้เงิน และจ่ายเงินไม่ได้ ดีเอสไอก็ดำเนินคดีอยู่ แต่ตอนนี้ก็เงียบ ซึ่งตอนที่ผมตรวจโครงการบ้านเอื้ออาทรแรกๆ ก็นึกแปลกใจว่าอยู่ในวงการข้าว ทำไมมาทำบ้านเอื้ออาทร"    

    นายแก้วสรร ยังบอกด้วยว่าการตรวจสอบการทุจริต ที่มีการใช้ตัวแทนเข้ามาดำเนินการนั้น ประเด็นแรกต้องจับให้ได้ว่ามีอะไร ในการปฏิบัติราชการที่ไม่ชอบมาพากล อย่างกรณีระบายข้าวตอนนี้ก็พบแล้ว      

   ประเด็นต่อมา ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่ามีความไม่ชอบมาพากล ที่นำไปสู่การทุจริต กรณีโครงการรับจำนำข้าวก็ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่ามีความไม่ชอบมาพากล มีการสั่งการไม่ให้กรมการค้าต่างประเทศ ตรวจบริษัทจีนที่ซื้อข้าวว่า ซื้อจริงหรือไม่ ไม่ใช่บริษัทขายให้บริษัทขายเครื่องกีฬา ซึ่งตรงนี้พรรคประชาธิปัตย์เป็นแค่พรรคการเมืองคงขุดไปถึงตรงนั้นไม่ได้ ต้องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่มีอำนาจสั่งเรียกเอกสารหลักฐานดำเนินการ    

  นอกจากนั้นจะต้องพิสูจน์เส้นทางเงินให้ได้ว่า เงินที่จ่ายค่าข้าวไม่ได้วิ่งมาจากต่างประเทศ แต่วิ่งมาจากโรงสี ซึ่งตรงนี้ในแง่ทุจริตความไม่ชอบมาพากล ขณะนี้พบว่าการขายข้าวเชื่อถือไม่ได้ พฤติการณ์ไม่ใช่การส่งออกจริง และมีพฤติการณ์ที่เชื่อได้ว่าอาจมีการฟอกเงิน แต่พฤติการณ์ที่จะบอกว่ามันทุจริตหรือไม่ ตรงนี้เป็นเรื่องที่ป.ป.ช.ต้องไปเติมเต็ม    

  "คดีจำนำข้าวต้องฝากไว้ที่ป.ป.ช.เมื่อประชาธิปัตย์ชี้ช่อง นำร่องไว้ขนาดนี้แล้ว ก็ไม่น่าจะยากที่จะสอบต่อตรงนี้ได้ว่าบริษัทจีนมีตัวตนจริงหรือไม่ หรือไปยืมชื่อมา ทำไมกรมการค้าต่างประเทศไม่ตรวจ ใครสั่งไม่ให้ตรวจ ก็ต้องไล่ไปเรื่อยๆ แล้วข้าวไปไหน ป.ป.ช. ใช้อำนาจอีกหน่อยก็จะชัดเจน"

จากคุณ : TFEX RETURN
เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 14:32:02 A:27.55.11.246 X:




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com