1. การจะมีพลุ หรือไม่มีพลุ ก็ไม่ได้กระทบอะไรกับความจงรักภักดีของคนไทย คนไทยที่ไปร่วมในพิธีตามจังหวัดต่างๆ ตั้งใจไปร่วม "ถวายพระพร" ไม่ได้ "ไปดูพลุ" เพราะฉะนั้นอย่าพยายามโยงว่าถ้าไม่มีพลุ แปลว่าไม่จงรักภักดี พลุกับความจงรักภักดี มันไม่เกี่ยวกันตรงไหนไม่ทราบ? นอกจากเกี่ยวเพราะอยากด่ารัฐ
2. มีพวกโหนเจ้าบางพวก พยายามโยงข้อความ "งดจุดพลุ" กับ "สามารถรับชมการถ่ายทอดสดจากส่วนกลาง" เข้าด้วยกัน พยายามโฆษณาชวนเชื่อว่า ที่ให้งดจุดพลุ เพื่อให้รับชมการถ่ายทอดพิธีที่นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน
เลิกได้รึยังครับพฤติกรรมแบบนี้?? ทุกๆปี ที่ท้องสนามหลวงนายกรัฐมนตรีก็เป็นประธานจุดเทียนชัยถวายพระพรอยู่แล้ว และทุกๆปีแต่ละจังหวัดก็มีการโยงสัญญาณกับส่วนกลาง ในหนังสือก็ใช้คำว่า"สามารถ" ก็คือการแจ้งให้ทราบเท่านั้นเอง และเข้าใจว่าการแจ้งให้ทราบนี้ก็คงอยู่ในหนังสือของทุกๆปี เพราะไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไรเลย
3. สื่อที่เล่นข่าวนี้ ในตอนนี้ก็เห็นจะมีแต่ เครือเนชั่น แนวหน้า และผู้จัดการ... ทวนอีกครั้งครับ เนชั่น แนวหน้า ผู้จัดการ... อยากให้ทุกท่านพิจารณาดูดีๆครับ ว่าสื่อเหล่านี้เร่งประโคมข่าวนี้ ในลักษณะนี้ เพื่ออะไร? เพื่อแสดงความจงรักภักดีหรือครับ? แล้วเดลินิวส์ ไทยรัฐ มติชน ฯลฯ ไม่จงรักภักดีหรืออย่างไร หรือ เนชั่น แนวหน้า ผู้จัดการ พยายามประโคมข่าว เพื่อโจมตีฝ่ายการเมืองที่ตนไม่ชอบกันแน่??? นี่คือข้อสงสัย
4. อยากให้พวกคลั่ง"จนขาดสติ"ทุกๆท่าน ออกตัวแรงระวังจะเหมือนปีที่แล้วนะครับ พยายามโจมตีว่ารัฐบาลสั่งยกเลิกการฉายแสงสีข้างกำแพงพระราชวัง พยายามประโคมว่ารัฐบาลไม่จงรักภักดี แต่ที่สุดแล้วความจริงปรากฎ ไม่เห็นมีใครออกมารับผิดชอบคำพูด ที่ใส่ร้ายรัฐเลย?
5. คนไทยมีความจงรักภักดีอยู่ในตัวอยู่แล้ว ขอย้ำอีกครั้ง ว่าอย่าผูกขาดความจงรักภักดีไว้กับพวกตนเท่านั้น ถ้าทุกคนมัวแต่มองด้วยสายตาหวาดระแวงว่าจะมีคนไม่จงรักภักดี มันก็จะเป็นอยู่แบบนี้แหละ เลิกโหนสถาบันได้แล้วครับ สถาบันอยู่เหนือการเมือง
ลองคิดดูให้ดี พลุจุดไปเพื่ออะไร? และความพอเพียงคืออะไร? และย้ำอีกครั้ง คนไทยที่ไปร่วมพิธีจุดเทียนชัยในทุกๆจุดต้องการไป "ถวายพระพร" ไม่ใช่ไป "ดูพลุ" ครับ