แฉกันเองซะแล้ว !!! อานนท์ แสนน่าน แฉพฤติกรรมและเบื้องหลังขบวนการล้มหมู่บ้านเสื้อแดง มีทั้งเงิน อำนาจ เกียรติยศ..
|
|
อานนท์ แสนน่าน แฉพฤติกรรมและเบื้องหลังขบวนการล้มหมู่บ้านเสื้อแดง มีทั้งเงิน อำนาจ เกียรติยศ แต่ตนไม่สนหนักกว่านั้นหลังหมู่บ้านเสื้อแดงขยายมาก มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ กอ.รมน.แฝงตัวมาในคราบดารา ขอช่วยงานในด้านวิทยากร
เมื่อเวลา 14.00 น. ณ อนุสาวรีย์กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม เทศบาลนครอุดรธานี ซึ่งเป็นเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของชาวจังหวัดอุดรธานี นายอานนท์ แสนน่าน ผู้ริเริ่มก่อตั้งหมู่บ้านเสื้อแดง ในฐานะเลขาธิการสมัชชาหมู่บ้านเสื้อแดง เพื่อประชาธิปไตย แห่งประเทศไทย ได้เดินทางท้าสาบานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์
นายอานนท์ ได้เปิดแถลงการณ์ถึงเบื้องหลังของ ขบวนการล้มหมู่บ้านเสื้อแดง โดยมี 3 องค์ประกอบด้วยกัน ที่เข้ามาแทรกแซงการทำงานของ หมู่บ้านเสื้อแดง คือ 1. กลุ่มผู้เสียผลประโยชน์ 2.กลุ่มอำมาตย์ 3.กลุ่มนักการเมือง 4.กลุ่มนายทุน
การทำงานของ หมู่บ้านเสื้อแดง โดยตั้งแต่เริ่มต้นพวกเรา ก็มีการก่อตั้งหมู่บ้านเสื้อแดงขึ้นมากันเองตามลำพัง มีการเอาเงินของตนเองมาเป็นค่าน้ำมัน บางคนต้องได้ขายบ้าน ขายรถ ออกมาเติมน้ำมันไม่เคยคิดจะย้อท้อต่ออุปสรรคต่าง ๆ นานา เพราะที่ผ่านมาการเปิดหมู่บ้านช่วงแรก ๆ ต้องสู้กับอำนาจของ รัฐบาลอภิสิทธิ์ และ กลุ่มทหาร แต่ผมเองก็ไม่ย้อท้อนอนบ้านแทบไม่ได้ จนภรรยาผมออกมาช่วยเหลือ ต้องเดินทางไปจังหวัดนั้นจังหวัดนี่ด้วยกัน 2 3 คน ยังไม่มีใครออกมาช่วยเหลือเท่าที่ควร ยกเว้นเวลาเดินทางกลับ จังหวัดอุดรธานี พี่น้องที่เป็นเสื้อแดงก็ออกมาช่วยกัน ผ่านมาหนึ่งปีหมู่บ้านเสื้อแดงก็ขยายออกไปเป็นจำนวนมาก จนเดินทางมาเปิด หมู่บ้านเสื้อแดง แห่งแรกของ ภาคเหนือ ได้ที่ จังหวัดเชียงราย ในช่วงต้นเดือน ตุลาคม 2554 แต่ด้วยปัญหาและอุปสรรคในการเดินทางและที่พักอาศัยเราไม่เคยจะไปเรียกร้องจากชาวบ้านไม่ว่าจะเป็น - ค่าเครื่องบิน ไป-กลับ ของแกนนำแต่ล่ะท่าน - ค่าที่โรงแรมที่พัก และ อาหารแต่ล่ะมือ - ค่าน้ำมัน และ ค่าเบี้ยเลี้ยงทีมงาน - ค่าอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ต้องใช้
ตนจะเป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวทุกอย่าง จนมาเปิดที่ จังหวัดลำปาง ก็ดีขึ้นเพราะมี นักการเมืองท้องถิ่น มาช่วยบริจาคเงินให้ในเรื่องต่าง ๆ ที่จะเดินทางมาเปิด หมู่บ้านเสื้อแดง ในทาง จังหวัดลำปาง และ ภาคเหนือบางจังหวัด จึงทำให้คิดว่าน่าจะชักชวนเพื่อนพ้องออกมาช่วยเหลือกัน เพราะลำพังตนเพียงคนเดียวก็ไม่ไหวแน่นอน ในระยะแรก ตนจะเป็นแกนนำให้ความรู้ด้านประชาธิปไตยเอง หรือก็เชิญแกนนำสลับสับเปลี่ยนกันไปแล้วแต่ว่า มีงบประมาณที่เหลือจ่ายอย่างไร เพราะการเปิด หมู่บ้านเสื้อแดง แต่ล่ะครั้งจะต้องมีงบประมาณในค่าต่าง ๆ 10,000 30,000 บาทแต่ล่ะครั้งโดยตนไม่ยอมให้ประชาชนเดือดร้อนอย่างเด็ดขาด จึงทำให้การเปิดหมู่บ้านเสื้อแดง เดือนหนึ่งจะเปิด 4 5 ครั้งต่อเดือน ก็ไปเรื่อยๆ ตนก็เลยยกระดับขึ้นมาเป็น สมาพันธ์หมู่บ้านเสื้อแดง เพื่อประชาธิปไตย แห่งประเทศไทย โดยให้แกนนำแต่ล่ะจังหวัด แต่ล่ะภูมิภาค บริหารกันเอง ส่วนตนก็ยังเดินหน้าเปิดหมู่บ้านเสื้อแดงไปเรื่อย ๆ ตามอุดมการณ์ที่ว่า อีสาน-ล้านนา-อโยธยา-ทักษิณ 1 ปี สร้าง 30,000 หมู่บ้าน ก็เริ่มมีนายทุน หรือ งบประมาณจากภาคส่วนมาสนับสนุน ตนจึงสามารถเดินหน้าเปิดหมู่บ้านเสื้อแดงได้เกือบทุกวัน จากที่เคยเปิด หมู่บ้านเสื้อแดง 1 เดือน 4 5 ครั้ง มาเป็น 22 25 ครั้ง
ตอนนี่แหล่ะเมื่อ หมู่บ้านเสื้อแดง ก้าวหน้าขึ้นเรื่อย ๆ แต่การดำเนินงานก็ยังเป็น ชาวบ้าน หรือ ประชาชน ก็มีกลุ่มนักการเมือง กลุ่มนายทุน กลุ่มหวังผลประโยชน์ และ กลุ่มอำมาตย์ เข้ามาสอดแทรกการทำงานของ หมู่บ้านเสื้อแดง ที่มี่เพียง ประชาชน ที่มาจากรากหญ้าแม้แต่ตนเอง ตอนแรก ๆ ก็มี ป้าดาร์ ดารุณี กฤตบุญญาลัย และ คุณนที สรวารี ก็เป็นไปด้วย ต่อมาก็มี นพ.ประสงค์ บูรณพงศ์ อดีต รมว.แรงงาน ก็ยิ่งดีขึ้นไปอีกระดับ จนมีการทะเลาะภายในกันเกิดขึ้น นพ.ประสงค์ ก็แยกไปช่วยการเปิดหมู่บ้านเสื้อแดง อีกกลุ่มหนึ่งที่ก่อตั้งโดย อดีตรัฐมนตรี เหมือนกัน พอมาสักระยะ คุณโด่ง อรรถชัย อนันตเมฆ ก็เข้ามาเป็นแกนนำและเปลี่ยนคำพูดให้เรียกว่า วิทยากร
ขณะที่เดินทางเปิดหมู่บ้านเสื้อแดง ก็มีแกนนำเพียง 3 คน คือ ป้าดาร์ ดารุณี กฤตบุญญาลัย, คุณนที สรวารี, และ คุณโด่ง อรรถชัย อนันตเมฆ จน หมู่บ้านเสื้อแดง ได้เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร นายกในดวงใจของคนเสื้อแดง ณ สปป.ลาว และเป็นเพียงกลุ่มคณะเดียวเท่านั้นที่ได้มีการนำเสนอออกไปทางสื่อมวลชนหลายแขนง
หลังจากนั้นมา หมู่บ้านเสื้อแดง ถูกมองจากภาพภายนอกว่าเป็นของ นายใหญ่ สนับสนุนจริง ๆ แล้วพวกเราทำกันมาอย่างไรตั้งแต่เริ่มต้น ไม่มีเงินเปิดหมู่บ้านเสื้อแดงอย่างไร ก็อย่างนั้นแต่กลับมี ดารา นักร้อง และ นักการเมือง แห่มาขอเป็นวิทยากร หรือ แกนนำ กันเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น คุณทอม ดันดี, คุณตุ้ย สุริยา ชินพันธุ์, และ คุณตึ๋ง อรรถพล ปาลกะวงศ์ ตนเองก็รับแทบไม่ไหวในการรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ไม่ไหว
เหตุการณ์จังหวัดลำปาง โดยเหตุนี่เองจึงได้พูดคุยกันกับ นักการเมืองท้องถิ่น ว่าเป็นไปได้มั๊ยถ้ามีการเปิด หมู่บ้านเสื้อแดง ในพื้นที่ จังหวัดลำปาง และ จังหวัดภาคเหนือบางจังหวัด ให้รับผิดชอบเรื่องตั๋วเครื่องบิน และ ค่าตัวแกนนำได้มั๊ย ส่วนเรื่องอื่น ๆ ตนจะเป็นผู้รับผิดชอบเอง ก็มีการตกลงกันเพราะทาง นักการเมืองท้องถิ่น ผู้นั้นทราบภายหลังว่าก็ต้องการที่จะลงสมัครเป็น นายก อบจ.ลำปาง อยู่แล้ว ทุกอย่างก็เป็นไปด้วยดีเสมอมาไม่มีปัญหาอะไร
หลังจากนั้นก็มีการหาเสียงเลือกตั้ง นายก อบจ.ลำปาง ตนก็ได้เชิญ คุณโด่ง อรรถชัย อนันตเมฆ, คุณนที สรวารี, คุณทอม ดันดี, คุณตุ้ย สุริยา ชินพันธุ์, คุณตึ๋ง อรรถพล ปาลกะวงศ์ และ แกนนำแต่ล่ะจังหวัด ตนเองจะเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายว่าใครจะต้องได้เงินเท่าไหร่แต่ล่ะครั้ง ยกเว้นบุคคลที่ไม่ใช่วิทยากร หรือ แกนนำ โดยจะมี 1. คุณโด่ง อรรถชัย อนันตเมฆ จำนวน 30,000 บาท 2. คุณทอม ดันดี จำนวน 30,000 บาท 3. คุณนที สรวารี จำนวน 20,000 บาท 4, คุณตุ้ย สุริยา ชินพันธุ์ จำนวน 20,000 บาท 5, คุณตึ๋ง อรรถพล ปาละกวงศ์ จำนวน 10,000 บาท (พึ่งเข้ามา) ส่วนไม่ว่าจะเป็น คุณไอนพ และ คุณอ้วนอารมณ์ หรือแม้แต่แกนนำที่มาจากกรุงเทพฯ และ จังหวัดอื่น ๆ ทาง คุณเจ ที่เป็นฝ่ายการเงินของ นักการเมืองท้องถิ่น คนนั่นเป็นผู้รับผิดชอบ การเบิกจ่ายแต่ล่ะครั้งจะไม่มีการเขียนหรือ จดบันทึกแต่อย่างใด เพราะเป็นการโอนเงินเข้าบัญชีเท่านั้น ถ้าหากมีการเขียนขึ้นมานั่นไม่เป็นความจริง เป็นเรื่องเท็จทั้งหมด จนทำให้ นักการเมืองท้องถิ่น ผู้นั่นสอบตกและก็มีเหตุการณ์โจมตีป้ายสีต่าง ๆ นานาเกิดขึ้นเพราะคณะ หมู่บ้านเสื้อแดง กลับก่อนเลือกตั้ง 3 วัน
ฝ่ายข่าวกรอง กอ.รมน.แทรกแซง หลังจากที่ตนได้นำคณะเดินสายเปิดหมู่บ้านเสื้อแดง แทบจะทุกวันจนไปเปิด หมู่บ้านเสื้อแดง ณ อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร ก็มีผู้ชายคนหนึ่งมาพบตน และ บอกว่าชื่อ พี่ตึ๋ง อรรถพล โดยบอกว่าเป็น ดาราตัวประกอบ ตนเองก็พอจำ ๆ ได้และสอบถามหา พี่โด่ง ตนก็ยืนยันว่าพี่โด่งไม่มา ติดรายการที่กรุงเทพฯ จนมีประสานงานกันระหว่างบุคคล 2 ท่านนี่ และขอเข้ามาเป็น แกนนำ หรือ วิทยากร หมู่บ้านเสื้อแดง ก็มีการเดินสายเปิดหมู่บ้านเสื้อแดง ทั้งภาคเหนือ ภาคอีสาน และ ภาคตะวันออก มาเรื่อย ๆ แต่ก็เป็นที่น่าแปลกใจว่า เข้ามาเป็น คนเสื้อแดง แล้วทำไมมีละครเข้ามาเกือบทุกอาทิตย์ คุณตึ๋ง ก็จะขอตัวไปถ่ายทำละครจังหวัดนั้นบ้าง จังหวัดนี้บ้าง ขณะเดียวกัน พี่โด่ง และ พี่ทอม หรือ พี่ตุ้ย กับไม่มีละคร
จนมาถึงการประชุม ประธานหมู่บ้านเสื้อแดงแต่ล่ะจังหวัด ณ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เราไม่มีการเปิดเผย แม้แต่โทรศัพท์ เครื่องมือสื่อสารทุกชนิดเราเก็บเอาไว้หมด แต่ข่าวการประชุม และ ประเด็นการประชุมรั่วไหลไปถึงฝ่ายข่าวกรองสำนักนายกรัฐมนตรี ฝ่ายข่าวทหาร และ ฝ่ายข่าว กอ.รมน. เพราะตนเองได้รู้จักฝ่ายข่าวกลุ่มนี้จากที่เขาเคยมานั่งสัมภาษณ์ผม ตอนที่ก่อตั้งหมู่บ้านเสื้อแดงใหม่ ๆ ผมเองก็ตกใจ แม้แต่ดีเจ.จากอุดรธานี ก็โทรศัพท์มาว่าให้ผม ทำไม ข่าวถึงรั่วขนาดนี่ ทหารมาตามหาอานนท์ วุ้นเลย
แต่เมื่อคิดย้อนไปการประชุมที่ เขื่อนภฺมิพล จ.ตาก ไม่กระแสข่าวออกมาเลยแม้แต่เรื่องเดียว ภาพเดียวก็ยังไม่มีการรั่วไหล ด้วยเหตุนี่เองผมจึงได้ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวกรอง สำนักนายกรัฐมนตรี ที่เคยสนิทกันตรวจสอบไปฐานข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลต่าง ๆ ที่เป็นแกนนำ และ วิทยากร ก็ไม่มีใครมีพิรุธหรือข้อมูลบกพร่องแต่อย่างไร
จนล่าสุดสื่อมวลชนที่ทำงานอยู่ช่อง 9 ด้วยกัน (ผมเป็นอดีตผู้สื่อข่าวช่อง 9 ไม่ใช่ ASTV) ก็นำเอาเอกสารการโยกย้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลไปอยู่ กอ.รมน.โดยเนื้อข่าวระบุว่า ...โดย มติชน วัน อังคาร ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2550 ลูกชายประธานคมช.ข้ามห้วยนั่งกองปราบ เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2550 สำนักงานตำรวจแห่งชาติออกคำสั่งที่ 185/2550 และ 185/2550 แต่งตั้งโยกย้ายผู้กำกับการ (ผกก.)-รองสารวัตร (สว.) จำนวน 178 คนทั่วประเทศ และ ด.ต. 1 ตำแหน่ง ดังนี้ พ.ต.อ.ชัยวรินทร์ เพ็ญสุภา ผกก.สน.หลักสอง เป็น ผกก.สน.บางพลัด ด.ต.อัฐพล ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา ผบ.หมู่ กก.1บก.ส.1 เป็น ผบ.หมู่ (ทนท.จนท.กอ.รมน.)กพ. ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน 2550 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตคำสั่ง ตร.ที่ 159/2550 ลงวันที่ 23 มีนาคม ย้าย พ.ต.ท.เสถียร ดีเหมาะ รอง ผกก.สส.บก.น.2 เป็น รอง ผกก.(สส.) สภ.อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย แต่คำสั่ง ตร.ที่ 185/2550 ลงวันที่ 2 เมษายน ย้าย พ.ต.ท.ประพนธ์ ไกรประยูร รอง ผกก.(สส.) สภ.อ.สามโคก จ.ปทุมธานี เป็น รอง ผกก.(สส.) สภ.อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย เช่นกัน ส่วนตำแหน่งที่ฮือฮามากคือ พ.ต.ต.สุทธิเวท บุญยรัตกลิน สว.กลุ่มงานสืบสวน ภ.จว.ยะลา ลูกชาย พล.อ.สนธิ ประธาน คมช. ได้ดีเป็น สว.กก.1.บก.ป. มีหน้าที่ดูแลพื้นที่กรุงเทพฯทั้งหมด ปัจจุบันนี้ ด.ต.อัฐพล ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา ผบ.หมู่ กก.1บก.ส.1 เป็น ผบ.หมู่ (ทนท.จนท.กอ.รมน.)กพ. เลื่อนตำแหน่งขั้นขึ้นมาเป็น ร.ต.ท.อัฐพล ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา สังกวัด ทนท.จนท.กอ.รมน. เหมือนเดิม แต่ไม่สามารถที่จะเข้าไปตรวจสอบประวัติฐานข้อมุลอะไรได้เลย เพราะเจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวกรองบอกเพียงว่า เป็น ว.5 (ความลับ) ก็เริ่มการให้ข้อมูลอันเป็นเท็จจริงต่าง ๆ นาน กับมวลชน วิทยากร แกนนำ และ คณะทำงาน แต่ก็โชคดีที่มวลชนแต่ล่ะภูมิภาคไปเชื่อ เพราะตนมีผลงานเป็นที่ประจักษ์และการต่อสู้ที่ผ่านมาอีกด้วย
เริ่มมีการต่อรองหลักจากได้ข้อมูลผิด หลังจากที่ หมู่บ้านเสื้อแดง มีฝ่ายข่าวกรอง กอ.รมน. มาอยู่ด้วยก็ส่งผลประทบให้ข้อมูลอันเป็นเท็จไปสู่ วิทยากร แกนนำ หรือ คณะทำงานหมู่บ้านเสื้อแดง และก็มาถึงเหตุการณ์ ณ วันที่ 2 พฤศจิกายน 2555 ณ จ.ตรัง ก่อนจะเดินทางไป จ.ยะลา - วิทยากร เริ่มมีการขยับขอเงินค่าวิทยากรเพิ่ม จากเดิมที่ตนเคยจ่ายให้ วันล่ะ 1,500 บาท มาเป็น วันล่ะ 2,500 บาท ตนก็บอกว่าเรื่องนี่ต้องคอยคุยกันเพราะจริง ๆ แล้วก็มากไปเพราะไม่ว่าจะเป็นค่าเครื่องบิน ไป-กลับ คนหนึ่ง ๆ หมดไปหลายหมื่นบาทต่อครั้ง ค่าอาหาร และ ค่าโรงแรม ก็ตกไปหลายแสนบาท ตนเองก็ไม่ไหวก็มีการถูกขู่ว่าจะไปอยู่กับกลุ่มอื่น นายทุนใหม่ต่าง ๆ นานา - เมื่อมี นักการเมือง เข้ามาเป็นวิทยากรด้วย การขอตำแหน่งก็เกิดขึ้น โดย นักการเมือง ผู้นี่ก็ต้องการให้ตำแหน่งที่ปรึกษาฯ เลขาฯ หรือ ผช.เลขาฯ มาให้คนของตน และ อีก 1 ตำแหน่ง มาให้กับ แกนนำบางคนที่เป็น ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ก็ไปเปลี่ยนเป็น ผช.รมช.เกษตร ตนก็ยืนยันว่า ตนเองไม่มีอำนาจหรือรู้จักใครที่จะขอตำแหน่งส่วนนั่นได้ เพราะมีแต่คนส่วนใหญ่พูดเท่านั้นเองว่าตนเองมีอำนาจ แต่ถ้าเป็นจริงตนก็ต้องให้คนที่เขาทำเพื่อชาติและบ้านเมืองนั่นคือ กลุ่มแกนนำ นปช. เพราะพวกเขาต่อสู้มาตั้งแต่เริ่มตน หมู่บ้านเสื้อแดง ก็เป็นเพียงการต่อสู้เชิงสัญลักษณ์และตามหลังเท่านั้น ตนก็อ้างว่า สาเหตุทำไม ตนถึงไม่ออกมาโต้ข่าว คุณขวัญชัย แม้ว่าจะเป็นการถูกโจมตีใส่ร้ายเพราะเขาเป็นคนทำงาน ทำเพื่อประชาชน และ ยอมตายเพื่อประชาชนในครั้งที่ผ่านมา แต่ปัจจุบันนี้เขาจะเป็นอย่างไร ก็ช่างเขา - ขอคุ้มอำนาจเองใน สมาพันธ์หมู่บ้านเสื้อแดงฯ โดยเข้ามาเป็น ที่ปรึกษา และ กรรมการ พร้อมกับเข้ามาเป็น ผู้ประสานงานเรื่องค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด เรื่องนี่ (เรื่องนี่ตนยอมทุกอย่างเพื่อไม่ให้มีการแตกแยกกัน)
หลังจากนั้นก็ได้เชิญผู้ใหญ่มาประชุมหาข้อสรุปทุกอย่าง ในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2555 ณ ร้านอาหารเกาะยอ กรุงเทพฯ ทุกอย่างก็ลงเอยด้วยดีแต่สุดท้าย ก็มีการปั่นป่วนเกิดขึ้นในกลุ่มวิทยากรทุกท่าน ขอตั้งสมาพันธุ์ใหม่และแถลงข่าว
ซึ่งในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2555 เวลา 10.00 น. วิทยากรทั้งแกนนำ และ การเมือง ก็ได้เชิญสื่อมวลชนมาแถลงข่าวโดยไม่ได้บอกตนเอง เพราะตนติดประชุมอยู่ที่ อิมพิเรียล ลาดพร้าว กรุงเทพฯ เตรียมเดินหน้าของหมู่บ้านเสื้อแดงต้าน เสธ.อ้าย โดยในการ แถลงข่าว ในครั้งนี้ได้มีการเปลี่ยนชื่อจากเดิม สมาพันธุ์หมู่บ้านเสื้อแดง เพื่อประชาธิปไตย แห่งประเทศไทย ที่ตนตั้งเอาไว้มาเป็น สมาพันธุ์ชุมชนหมู่บ้านเสื้อแดง ต้านภัยยาเสพติด โดยให้ตนขึ้นไปเป็นที่ปรึกษาฯ แทนที่จะจบแค่นี่ก็ยังมีการเรียกประชุมประธานหมู่บ้านเสื้อแดงอีกครั้งหนึ่งทั่วประเทศไทย ณ จ.นครนายก
วันที่ 21 พฤศจิกายน 2555 เวลา 09.00 น. ก็มีการประชุมประธานหมู่บ้านเสื้อแดง แต่ล่ะภูมิภาค แต่การประสานงานของวิทยากร และ แกนนำ ไปแต่ล่ะจังหวัดเขาไม่ยอมเชื่อฟัง เพราะมีการโจมตีตนก่อนเชิญ จึงทำให้มีจังหวัดทางภาคอีสาน 4 จังหวัด ภาคเหนือ 3 จังหวัด ภาคกลาง 2 จังหวัด ภาคตะวันออก 2 จังหวัด ส่วนภาคใต้ไม่มีเลย โดยเฉพาะการเชิญมาครั้งนี้ส่วนใหญ่ไม่ใช่ ประธานหมู่บ้านเสื้อแดง เป็นเพียงชาวบ้านที่อยู่ในหมู่บ้านเสื้อแดง และ แกนนำ นปช.แต่ล่ะจังหวัดเท่านั้นมีผู้ร่วมประชุม เกือบ 100 คน เวลา 09.00 21.00 น. การประชุมก็เป็นไปตามปกติแต่ก่อนนำบางจังหวัดและผู้ใหญ่บางท่านก็เดินทางกลับ
วันที่ 22 พฤศจิกายน 2555 เวลา 09.00 น. มีผู้ที่เข้าร่วมประชุมที่ จ.นครนายก เป็นคน จ.อุดรธานี และ จ.สกลนคร ไปร่วมแถลงว่า หมู่บ้านเสื้อแดงสนับสนุน เสธ.อ้ายแช่แข็งประเทศไทย และล้มรัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง ทำให้ที่ประชุมรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เวลาประมาณ 14.00 น. ขณะที่มวลชนกำลังประชุมกันอยู่ทาง ร.ต.ต.กมลศิลป์สิงหะสุริยะ ก็เอาเอกสารมาประกาศปลด นายอานนท์ แสนน่าน ออกจากตำแหน่งต่าง ๆ ทันที ใช่เวลาประมาณไม่ถึง 1 นาที (ดูจากยูทูป) เพื่อจะโยนความผิดว่า นายอานนท์ อยู่เบื้องหลังทั้งหมดที่เกิดขึ้น
ขณะเดียวกัน วันที่ 21 พฤศจิกายน 2555 ทางตนก็ได้รับมอบหมายจากผู้ใหญ่ให้จัดงาน รณรงค์เปิดไฟส่องหน้ารถ ต่อต้านเสธ.อ้าย แช่แข็งประเทศไทย ต่อต้านการปฏิวัติ-รัฐประหาร ภาคอีสาน ณ บ้านสามพร้าว ต.สามพร้าว อ.เมือง จ.อุดรธานี ระหว่างวันที่ 21 24 พฤศจิกายน 2555 อีสาน-ล้านนา ผนึกกำลังต่อต้านเสธ.อ้าย ก็มีประชาชนมาร่วมกิจกรรมกันเป็นจำนวน และ ก็ไม่รู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลยว่ามีกลุ่มไหนไปแถลงข่าวกับ เสธ.อ้าย
เรื่องยังไม่จบก่อนการปิดประชุม วันที่ 22 พฤศจิกายน 2555 ทางวิทยากรและแกนนำ โดยเฉพาะคุณโด่ง ได้ประกาศในห้องประชุมว่าให้ทุกหมู่บ้านเสื้อแดง เลิกใส่เสื้อแดง และให้ทุกคน ออกไปอยู่ต่างจังหวัด โดยเฉพาะแกนนำให้ไปอยู่ตามตะเข็บขายแดน
เมื่อตนทราบเช่นนั้นก็ได้ประงานจากเพื่อนพ้องน้องพี่คนเสื้อแดงทั่วทุกภูมิภาค โดยเฉพาะรองประธานหัวหน้าผู้ประสานงานภาคต่าง ๆ ร่วมประชุมสามัญประจำ 2555 และยกระดับ หมู่บ้านเสื้อแดง ขึ้นมาเป็น สมัชชาหมู่บ้านเสื้อแดง เพื่อประชาธิปไตย แห่งประเทศไทย พร้อมกับจัดกิจกรรม รณรงค์เปิดไฟหน้ารถ ต้านเสธ.อ้ายแช่แข็งประเทศไทย ต้านการปฏิวัติ-รัฐประหาร จึงมาเป็นสาเหตุที่มีการโจมตี ตนจากหน้าเฟสบุ๊ค และ อินเตอร์เน็ตต่าง ๆ และมีการเอาบุคคลภายนอก บางคนรู้จักตน และ บางคนไม่รู้จักตนมาแจ้งความดำเนินคดีข้อหาต่าง ๆ เท่าที่เขาจะแจ้งมา
นายอานนท์ กล่าวส่งท้ายอีกว่า ตนต้องกราบขออภัยพี่น้องคนเสื้อแดงทุกท่าน ที่ต้องนำเอาเรื่องจริงทั้งหมดที่เกิดขึ้นมาให้สาธารณชนได้รับทราบ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเองก็ไม่ต้องการที่จะให้มีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ฝ่ายตรงกันข้ามออกมาแฉรายวัน ตลอดทั้งอาทิตย์ทำให้ชื่อเสียงวงศ์ตระกูลได้รับความเสียหาย และ ที่สำคัญที่สุดผมไม่อยากให้พี่น้องคนเสื้อแดง สมาชิกหมู่บ้านเสื้อแดง ต้องท้อจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ขอยืนยันว่ายังจะขอต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหลกับพี่น้องเสื้อแดงต่อไป และขอขอบพระคุณพี่น้องทุกท่านที่ให้กำลังใจมาโดยตลอด และจะขอเดินหน้าเปิดหมู่บ้านเสื้อแดงตามไปในนาม ประชาชน ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองเหมือนกับที่ตนเคยตั้งปณิธานเอาไว้ตั้งเปิด หมู่บ้านเสื้อแดง มาตั้งแต่แรกเริ่ม
อ่าวแฉกันเองซะละ...ฟังหูไว้หูนะ
| จากคุณ |
:
วิศวกรที่ชอบนอนที่สุดในโลก
|
| เขียนเมื่อ |
:
3 ธ.ค. 55 22:23:00
A:171.100.232.96 X:
|
|
|
|