จังหวะ การเมือง สถานการณ์ ′สุกงอม′ โค่น ′ยิ่งลักษณ์′
|
|
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1354505775&grpid=01&catid=&subcatid=
(ที่มา:มติชนรายวัน 3 ธ.ค.2555) แถลงของ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ที่ว่า
"ตอนนี้มันสุกงอมเต็มที่แล้ว ก็อย่างเหตุการณ์วันที่ 24 พฤศจิกายนเห็นชัดว่า ทุกคนที่เขามากันมาด้วยใจของเขาในพื้นที่ต่างๆ ทุกคนไม่เอารัฐบาลนี้ทั้งนั้นแล้ว จะบอกว่าไม่สุกงอมได้อย่างไร"
น่าศึกษา
เพราะว่าถ้อยแถลงในลักษณาการเช่นนี้แหละเมื่อผู้สัมภาษณ์ถามว่า จะมีการเคลื่อนไหวหลังปีใหม่หรือไม่ คำตอบอันมาจาก น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ คือ"ปีหน้ามันไกลเกินไป"
จึงมีความเป็นไปได้ที่หลังจากวันมหามงคล 5 ธันวาคม มั่นใจได้เลยว่า กลุ่ม "ไม่เอา" รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะต้องขับเคลื่อนอีกอย่างแน่นอน
ประเด็นอยู่ที่ว่าจะเป็นการขับเคลื่อน โดยใคร เป็นการขับเคลื่อนโดย น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ หรือเป็นการขับเคลื่อนโดย พล.อ. บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์
บนพื้นฐานความเชื่อมั่น "ตอนนี้มันสุกงอมเต็มที่แล้ว"
ประเด็นของสถานการณ์จึงมีบทบาทและทรงความหมาย
คำถามที่เสนอเข้ามาก็คือ ที่ว่าสถานการณ์มีความสุกงอมในการขับและโค่นรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นั้นเป็นจริงเพียงใด
สุกงอมมากน้อยเพียงใด
หากประเมินจากท่าทีและการแสดงออกของ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย การวิเคราะห์และสรุปย่อมแตกต่างไปจาก องค์การพิทักษ์สยาม (อพส.)
เพราะพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยวางน้ำหนักไปยัง
1 การแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 และ 1 ความพยายามในการเสนอร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง เพื่อนำ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับบ้าน
หากไม่มีการเคลื่อนใน 2 ประเด็นนี้พันธมิตรก็จะยังไม่เคลื่อน
ดังนั้น การชุมนุมเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน พันธมิตรจึงให้ความเห็นชอบ ในเรื่องทางความคิด แต่ไม่ได้เข้าร่วมในทางการเมือง
การขยับในเชิง "องค์กร" จึงไม่ปรากฏ
ขณะเดียวกัน แกนนำบางคนเช่น พล.ต. จำลอง ศรีเมือง แม้ตนเองมิได้เข้าร่วมแต่ก็ไฟเขียวให้มวลชนมีเสรีทางความคิดที่จะเข้าร่วม
พื้นฐานความคิดก็คือ ยังเห็นว่า สถานการณ์ไม่สุกงอมเพียงพอ
ผลก็คือ มวลชนประมาณ 10,000-15,000 คนในวันที่ 24 พฤศจิกายน จึงเป็นด้านหลักมาจาก กองทัพธรรม ประสานเข้ากับ สมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย ประสานเข้ากับ กลุ่มเสื้อหลากสี
เป็นความสุกงอมในวงอันจำกัด
หากยึดกุมทฤษฎีการเคลื่อนไหวมวลชนในแบบของเลนินอย่างเคร่งครัด ภาพที่เห็นในวันที่ 24 พฤศจิกายน มิได้เป็นเงาสะท้อนของสิ่งที่เรียกว่า "สถานการณ์ปฏิบัติ" อย่างแน่นอน
ไม่ว่าจะเป็นการมองจากความจัดเจนของ ดร.สุวินัย ภรณวลัย
ไม่ว่าจะเป็นการมองจากประสบการณ์การลงมือปฏิบัติหลายครั้งหลายหนของนายเทิดภูมิ ใจดี ผู้นำแรงงานในยุคก่อน และหลัง 14 ตุลาคม 2516 ก็ตาม
ตราบใดที่คะแนนนิยมของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยังสอบผ่าน
ตราบใดที่คะแนนนิยมเชิงเปรียบเทียบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยังครองสถานะ เหนือกว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
จึงสรุปยากว่า อุณหภูมิทางสังคมมีความสุกงอม
ตราบใดที่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยังสามารถบริหารราชการแผ่นดินต่อไปได้ และสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจอันเป็นกลไกอำนาจรัฐดำเนินการตามประกาศ และคำสั่งตาม พ.ร.บ.ความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรได้
นั่นหมายถึง การดำรงอยู่แห่งขื่อแปของบ้านเมือง
ยิ่งความเชื่อของโพลระบุลงอย่างแน่ชัดว่าร้อยละ 60 เห็นว่า รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะอยู่จนครบวาระในปี 2558 ยิ่งยืนยันในความมั่นคง
เป็นความสุกงอมที่จะยอมรับ มิใช่ความสุกงอมที่จะปฏิเสธ
อย่าว่าแต่นักวิชาการอย่าง ดร.สุวินัย ภรณวลัย จะสรุปถึงสภาวะที่ยังไม่สุกงอมของสถานการณ์ปฏิวัติ
หากแม้กระทั่ง นักการทหาร ระดับตั้งแต่แม่ทัพภาคที่ 1 จนถึง รองผู้บัญชาการ ทหารบก และ ผู้บัญชาการทหารบก ก็ประเมินว่า ความเชื่อ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ไม่มีทางเป็นจริง
ดำเนินไปในลักษณะ เพ้อฝัน คิดเอง เออเอง
จากคุณ |
:
phahurat
|
เขียนเมื่อ |
:
4 ธ.ค. 55 13:22:25
A:37.75.131.210 X:
|
|
|
|