ความคิดเห็นที่ 1 ตอนเรียน ตอนทำสัญญา น่าจะทราบล่วงหน้า ว่าจบออกมาแล้วสถานะในการทำงานจะเป็นอย่างไร จะบอกว่า ตัวเราเป็นคนเลือกทางเดินชีวิตแบบนี้ ก็ไม่ผิดนักครับ เอาใจช่วยครับ แต่เรื่องนี้ซัก 10+ ปีมาแล้ว เขาก็แจ้งล่วงหน้าแล้วว่าจบออกมาจะเป็นแบบไหน มีญาติ ที่ทำหน้าีที่ดูแลเรื่องทุนสาธารณสุข เขาก็พูดตั้งนานแล้วว่า จบออกมาก็เป็นลูกจ้างนะ ไม่ใช่ข้าราชการ นึกถึง วิทยาลัยครู สมัยหนึ่ง ที่ประเทศต้องการพัฒนาการศึกษา ก็ตั้งออกมาจำนวนมาก ผลิตออกมาจนสุดท้าย ต้องปรับเีปลี่ยนเป็นมหาวิทยาลัยราชภัฏ นี่ก็น่าจะไม่ต่างกันครับ จากคุณ : อับราฮัม ลินคอล์น เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 15:10:10 A:118.172.213.240 X:

ความคิดเห็นที่ 2 ขอเสริม คห.1 อีกอย่าง สมัยก่อนมีวิทยาลัยพลศึกษา จบออกมาเป็นครูพละแทบทุกคน ตอนนี้ต้องพัฒนามาเป็นสถาบันการพลศึกษาไปแล้ว จากคุณ : โฟโต้แมน007 เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 15:13:27 A:49.49.204.134 X:

ความคิดเห็นที่ 3 เห็นใจครับ ไม่เฉพาะแต่กลุ่มนี้ แต่ลูกจ้างทุกกลุ่มเลย บางคนก็ทำงานมา 10 ปี 15 ปี หรือมากกว่า แต่เงินเดือนไม่เคยขึ้น จะไปไหนก็ลำบากแล้ว ถ้าไม่มีความกล้าจริงๆ  ยิ่งคนมีครอบครัวแล้ว ยิ่งแล้วเลย ว่าก็ว่าเถอะ อาชีพพวกนี้เป็นได้เพียงอาชีพที่ยึดไว้เป็นฐานให้ทำอย่างอื่นควบคู่กันไปด้วย เช่นค้าขายเล็กๆน้อยๆ หรือ ทำไร่ ทำสวน มากกว่าจะยึดเป็นอาชีพหลักเพียงอย่างเดียวครับ จากคุณ : นายเบื่อบอลอุด เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 15:35:42 A:202.28.118.121 X:

ความคิดเห็นที่ 4 ต้องท้าวความกันแต่ดั้งเดิม สมัยก่อน รัฐบาล จ้างให้เรียน แพทย์ และพยาบาล เพราะ คนในสมัยก่อน ไม่นิยมเรียนกัน จบมาก็รับราช การ แต่บางคน ไปทำ รพ.เอกชน หรือไปเมืองนอก เมื่อก่อน หมอและ พยาบาล นิยม ไปทำงาน ที่ อเมริกามาก เพราะ ได้ค่าตอบแทนที่ดีมาก รัฐบาล จึง ต้องบังคับให้ หมอ และพยาบาล ต้องทำสัญญาว่า จะต้องรับราชการ ใช้ทุน เพราะ การผลิต หมอ และพยาบาล แต่ละคนใช้เงินภาษี จากประชาชน มากกว่า ผลิต บุคคลากร ประเภท อื่น เพราะต้องมี เครื่องมือ มีห้องแล๊ป ต่างๆมาก หมอและพยาบาลก็ ต้อง รับราชการใช้ทุน แต่ก็มี หมอ และพยาบาลบางส่วน หนีทุน ไปเมืองนอก หรือ ทำงานเอกชน เพราะ ได้ค่า ตอบแทน สูงกว่า รับราชการมากมายนัก ต่อมา มีการ ตั้ง โรงเรียน พยาบาลมากขึ้น ทั้งเอกชน และ ของรัฐ มหาลัยเอกชน ก็ ผลิต หมอ และพยาบาลออกมามาก พอสมควร รัฐจึงยกเลิก การใช้ทุนของพยาบาลแต่ หมอ ยังต้องใช้ทุนอยู่ แต่ ในปัจจุบัน การไปทำงาน ที่เมืองนอก เริ่ม ทำได้ยากมากขึ้น รพ.เอกชน ก็ใช่ว่า จะ ได้เงินเดือน มากกว่า ราชการสักเท่าไร ( สมัยทักษิณ ขึ้นเงินเดือน ให้พวกข้าราชการ เยอะมาก แบบก้าวกระโดด จน แทบจะเท่ากับเอกชนอยู่แล้ว ยังแถมทำงานน้อยกว่า) เพราะ ฉะนั้น การทำงานในรพ.ของรัฐ จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดอยู่แล้ว แต่ ได้คืบ จะเอาศอก ตอนเข้าทำงาน ก็รู้สถาณะ ของตัวเองดีอยู่แล้วว่า เป็นลูกจ้าง ไม่ มีอัตรา บรรจุ แต่อยากได้มากขึ้นไปอีก อ้างเรื่องความ มั่นคง และ บอกว่า พยาบาลขาดแคลน ก็ถ้า ขาดแคลน แล้ว จะกลัวอะไร ยังไง เขาก็ต้องจ้าง ถ้า ขาดแคลนจริงๆ ความจริง อยากได้ สวัสดิการ ที่ดี ให้เท่า ข้าราชการมากกว่า และอยากได้เงินบำนาญกัน ความไฝ่ฝัน คืออยากให้รัฐเลี้ยงดู รักษา พยาบาลไปจนตาย อยากจะถามว่า แล้วคนไทย ที่ทำอาชีพอื่นๆ เขาไม่ต้องการ ความมั่นคง และสวัสดิการ หรอกหรือ แล้ว เขา จะไปเรียกร้องเอากับใคร มีแต่พวก ลูกจ้างรัฐเท่านั้นหรือที่มีสิทธิ จะเรียกร้องความมั่นคง คนไทย อื่นๆจะไปเรียก ร้องความมั่นคงเอากับใคร คนทำเอกชนอย่างเราจะไปเรียกร้อง ความมั่นคงและสวัสดิการ กับใครได้ เราก็น้อยเนื้อ ต่ำใจเหมือนกันนะ แก่ตัวไป รัฐก็ไม่เลี้ยงดู แต่เวลาทำงานได้ต้องเสียภาษี บอกตรงๆว่าเบื่อ พวกเรียกร้อง พวกนี้มากเลย จากคุณ : ข้าวสุก เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 15:36:43 A:61.90.88.67 X:

ความคิดเห็นที่ 5 ตอบทุกความเห็น.....เราทราบว่าเราจบมาแล้วจะได้บรรจุแต่ระหว่างรอ ต้องอยู่ในสถานะลูกจ้างก่อน  วิชาชีพพวกเราคนที่จบก่อนหน้าปี 49 ได้บรรจุทุกคน หลังปี 49 บางจังหวัด ถูกเว้นวรรคไม่ให้บรรจุ เนื่องมาจากเหตุอะไรไม่รู้...ที่รู้สึกน้อยใจ เพราะตำแหน่งนี้มันต้องได้รับการบรรจุ เพราะคนที่จบก่อนหน้านี้เขาบรรจุหมดแล้ว...พอถึงคราวบรรจุ กลับบอกว่า พวกเราไม่อยู่ในกลุ่ม 21 วิชาชีพ นั่นหมายความว่าอย่างไร เราอดทนรอมา 4-5 ปี แต่ผลสุดท้ายเป็นแบบนี้..... จากคุณ : Slipk02 เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 15:45:25 A:113.53.239.85 X:

ความคิดเห็นที่ 6 มีความลับ เกี่ยวกับ น้อง ๆ สาธารณสุข ที่ทำไมบรรจุ แล้ว ได้ไปอยู่ในสถานีอนามัยเป็นคู่ หนุ่มสาว อยากจะบอกว่าเป็นความตั้งใจของผู้ใหญ่ บางท่าน ที่แอบทำตัวเป็นกามเทพฯ  555 มันไม่ใช่ความบังเอิญ จากคุณ : อับราฮัม ลินคอล์น เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 15:54:09 A:118.172.213.240 X:

ความคิดเห็นที่ 7 5 ธ.ค. ทรงพระเจริญ จากคุณ : เฒ่าวัย 56 เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 16:13:38 A:110.171.31.199 X:

ความคิดเห็นที่ 8 รัฐพยายามลดจำนวนข้าราชการลง ให้เหลือเป็นเพียงพนักงานราชการหรือลูกจ้าง ซึ่งต่อไปในอนาคตจะไม่ให้มีข้าราชการ ไม่มีบำนาญ  นโยบายนี้มีมานานแล้ว เพียงแต่คนรุ่นใหม่ไม่เข้าใจ จากคุณ : Fantomas (Fantomas) เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 16:57:09 A:171.6.203.109 X:

ความคิดเห็นที่ 9 รัฐถังแตก พูดง่ายๆ ไม่มีเงินเลี้ยงข้าราชการว่างั้น จากคุณ : หมอคานู เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 22:04:35 A:27.55.6.7 X:

ความคิดเห็นที่ 10 เรื่องของเรื่องก็คืออยากเป็นข้าราชการเพราะสวัสดิการดีนั่นแหละ แล้วอย่างนี้จะสอบแข่ง กพ.ไปทำไมอะ   ข้อสอบก็ยากเย็นแสนเข็ญ คนสมัครเป็นแสน ถ้าให้กลุ่มนี้ได้บรรจุ  กลุ่มอื่นก็ต้องได้เหมือนกัน  เดี๋ยวแต่ละสายแต่ละอาชีพก็จะออกมาประท้วงกันมั่งแล้ว เข้าใจ จขกท.นะ   แต่เราหมายถึงถ้าได้บรรจุก็ต้องได้ทั้งหมด  ทั้งประเทศ ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ ถ้าไม่ได้ก็ต้องไม่ได้ทั้งหมด   มิเช่นนั้นอาชีพอื่นๆเขาก็ต้องน้อยใจเหมือนกัน กระทรวงต้องกำหนดนโยบายมาเลย  ตกลงจะเอายังไงแน่กับจำนวนข้าราชการ ไม่ใช่มารับเพราะเอาใจคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเพราะกลัวเขาหยุดงานประท้วง   กลุ่มอื่นๆก็ต้องประท้วงตามมาแน่นอน  ซึ่งมันไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ถูกต้อง แก้ไขเมื่อ 05 ธ.ค. 55 23:27:02 แก้ไขเมื่อ 05 ธ.ค. 55 23:22:52 จากคุณ : music&lyric and cats เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 23:16:56 A:171.5.56.21 X: