ความคิดเห็นที่ 1 ผู้เขียนขอแสดงจุดยืนที่เห็นต่างกับวิธีคิดของ อาจารย์นิธิ เอียวศรีวงศ์ (จากนี้ไปจะขอเรียกสั้นๆ ว่านิธิ) ในบทความที่ลงในมติชนเรื่อง "เปลี่ยนประเทศไทยด้วยการรับจำนำข้าว" ขณะเดียวกันก็สังเคราะห์บทความของอาจารย์นิพนธ์และอาจารย์อัมมาร ที่โต้ตอบนิธิ ในความคิดของนิธิ การที่รัฐบาลต้องการที่จะเพิ่มรายได้ให้กับชาวนาอย่างเป็นกอบเป็นกำ เป็นน้ำเป็นเนื้อในเวลาอันรวดเร็ว ต่างกับที่รัฐบาลในอดีตเคยทำมา เพราะรัฐบาลยิ่งลักษณ์ต้องการพลิกชีวิตของชาวนา โดยวิธีการที่ต่างกับรัฐบาลในอดีต ซึ่งนิธิเชื่อว่ามันจะพลิกแผ่นดิน เปลี่ยนประเทศไทย นิธิมองว่าการเพิ่มรายได้ให้ชาวนาในระดับนี้ "เป็นการปฏิรูปสังคม" เพราะฉะนั้น เราไม่ควรใช้หลักเกณฑ์หรือวิธีคิดแบบเดิมๆ เช่น รัฐควรจะขาดทุนน้อยๆ เพราะทรัพยากรจำกัด มีค่าเสียโอกาสเสมอ แต่ผลของการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่กว่า มันคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม นิธิยังอ้างว่าประเทศที่เจริญแล้วทั่วโลก เขาก็ช่วยเหลือภาคเกษตรและชาวนากันมาแล้วทั้งนั้น ไม่เห็นคนรวยหรือชนชั้นกลางเขาเดือดร้อนอะไร คนที่ปฏิเสธรัฐสวัสดิการเป็นคนที่น่าสงสาร ซึ่งผู้เขียนเชื่อว่าคนที่ปฏิเสธรัฐสวัสดิการคงมีน้อยมากไม่ใช่ประเด็นสำคัญ สิ่งที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ทำก็คือรับซื้อข้าวทุกเม็ดจากชาวนาในราคาที่สูงกว่าตลาดไว้มากๆ เช่น ประมาณร้อยละ 50-60 ในฤดูกาลผลิตที่ผ่านมา รัฐบาลเมื่อมีข้าวอยู่ในมือแล้ว ควรที่พยายามขาดทุนให้น้อยที่สุด แต่เนื่องจากเป้าหมายหลักที่แท้จริงคือ การเพิ่มรายได้เพื่อให้ชาวนามีชีวิตทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น มีเงินซื้อสินค้าคงทนถาวร ช่วยให้เศรษฐกิจเดินสะพัด ใครจะปฏิเสธว่าไม่ดีได้อย่างไร อีกหน่อยชาวนาฐานะดีขึ้น จำนวนหนึ่งคงหันไปทำอย่างอื่น ไม่เห็นจะต้องน่าวิตกกังวลอะไร เมื่อฐานะทางเศรษฐกิจของชาวนาดีขึ้น อำนาจทางการเมืองของชาวนา ซึ่งในอดีตไม่ค่อยจะมี ก็จะเพิ่มตามมา ผู้เขียนคิดว่า นิธิคงหมายถึง การส่งผลที่เป็นบวกต่อการพัฒนาประชาธิปไตยด้วย ช่วยลดหรือสยบพลังอำนาจอนุรักษ์ดั้งเดิม อะไรทำนองนั้น ถ้าผู้เขียนเข้าใจไม่ผิด ถ้าเป็นเช่นนี้ การขาดทุนทางการเงินย่อมไม่ใช่สาระสำคัญ ขาดทุนให้ถึงหลักแสนล้านก็ย่อมได้ สำหรับชาวนาประมาณ 10 ล้านคน คุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม และนิธิก็เชื่อว่า โครงการประกันรายได้ให้ชาวนา เช่น ในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ก็ขาดทุน อาจจะมากกว่าสมัยปัจจุบันด้วยซ้ำ ถ้าการรับซื้อข้าวมาเก็บไว้แล้วมีการทุจริต นิธิก็คิดว่ามันมีการทุจริตกันทั้งนั้นในการแทรกแซงประเภทนี้ ไม่ว่าในรัฐบาลไหน โครงการใหญ่หลวงระดับนี้จะไม่ให้มีการทุจริตได้อย่างไร ปัญหาเหล่านี้รัฐบาลยิ่งลักษณ์น่าจะอุดช่องโหว่ลดการทุจริต นิธิเชื่อว่าคนจำนวนหนึ่ง หรือจำนวนมากที่คัดค้านโครงการนี้มีเบื้องหลังหรือ motive ทางการเมืองที่ไม่ดี รัฐบาลไม่ควรไปใส่ใจ นิธิลืมไปว่าในประเด็นหลังนี้ คนเขาก็มีสิทธิคิดเหมือนกันว่าที่นิธิสนับสนุนโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลนี้ ส่วนหนึ่งก็อาจจะมาจากแรงจูงใจทางการเมืองได้เช่นกัน ผู้เขียนคิดว่าวิธีคิดของนิธิค่อนข้างประหลาด ในประเด็นที่ว่า ถ้ารัฐต้องการจะช่วยชาวนาให้มีรายได้สูงขึ้นมากๆ ยิ่งเร็วยิ่งดี เนื่องจากชาวนาเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ คงมีทั้งชาวนาจนและรวยไม่ใช่ประเด็นสำคัญที่จะต้องช่วยเฉพาะคนจนน่าจะดูผลที่ตามมา นิธิเชื่อว่าไม่ว่าจะใช้วิธีการไหนก็มีข้อบกพร่องคือขาดทุนหรือมีการทุจริตทั้งนั้น วิธีการรับซื้อข้าวราคาสูงๆ เก็บไว้รอขายขาดทุนมากๆ อาจจะดูไม่ดีในสายตาของคนบางคน แต่ผลลัพธ์สำคัญกว่าวิธีการ นิธิลืมไปว่าวิธีการที่เลวในที่สุดจะส่งผลลัพธ์ที่เลวตามมา โดยฉพาะในระยะยาวที่จะกลับมาทำลายฐานเศรษฐกิจของชาวนา ยุทธศาสตร์ของการเลือกนโยบายแทรกแซงข้าวจึงมีความสำคัญมาก จากคุณ : TFEX RETURN เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 19:18:07 A:27.55.1.11 X:

ความคิดเห็นที่ 2 นิธิให้ความสำคัญกับตลาดน้อยเกินไป ลืมไปว่าผลิตภัณฑ์ข้าวของไทยมีความได้เปรียบในตลาดโลกอยู่แล้วในด้านคุณภาพ ถ้ารัฐพัฒนาตลาดข้าว (ไม่ใช่ทำลาย) เพื่อให้ตลาดสามารถทำหน้าที่ให้มีความสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตลาดจะเป็นกลไกที่สำคัญทางเศรษฐกิจต่อวิถีชีวิตของชาวนาอย่างยั่งยืนในระยะยาวนี่ก็เป็นการใช้การพัฒนาตลาดเพื่อปฏิรูปสังคม ซึ่งจะเป็นผลดีมากกว่าการมีอำนาจทางการเมืองของชาวนาแล้วใช้อำนาจนี้เพื่อประโยชน์ของกลุ่ม แต่ส่วนรวมและประเทศเสียหายอันเนื่องมาจากการโฆษณาชวนเชื่อของพรรคการเมือง สิ่งที่รัฐบาลควรทำคือ ทุ่มพัฒนาวิจัยข้าวเพื่อเพิ่มคุณภาพและผลผลิต และพัฒนาสถาบันเพื่อช่วยชาวนาให้ปลอดภัยจากความเสี่ยงต่างๆ ถ้านิธิคิดว่าการรับซื้อข้าวจากชาวนาในราคาสูงๆ กว่าตลาด ทำได้ถาวรและยาวนานจะเปลี่ยนประเทศไทยได้ เขาคงหมายถึงการพลิกแผ่นดิน ประเทศไทยจะมีความมั่งคั่งมีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน สังคมเป็นประชาธิปไตย และมีเสถียรภาพ ผู้เขียนก็คิดว่านี่เป็นเรื่องเพ้อฝันเป็นการสร้างวิมานในอากาศ ผู้เขียนเชื่อว่าโครงการที่ทำในลักษณะนี้ ถ้าฝังรากลึก เข้มข้น รุนแรง มีโอกาสที่จะทำลายประเทศทั้งทางเศรษฐกิจและการคลังให้อ่อนแอลง ทำไมถึงเป็นเรื่องเพ้อฝัน เราต้องไม่ลืมว่า แม้เราจะมีชาวนาประมาณ 10 ล้านคน หรือประมาณร้อยละ 27 ของกำลังแรงงานทั้งประเทศ แต่ผลผลิตข้าวในปัจจุบัน เป็นเพียงร้อยละ 20 ของภาคเกษตร ขณะที่ภาคเกษตรมีผลผลิตเพียงประมาณร้อยละ 10 ของ GDP ซึ่งโดยนัยยะผลผลิตข้าวจะมีสัดส่วนต่อ GDP เพียง 2-3% เท่านั้น หรือประมาณไม่เกิน 3-4 แสนล้านบาทต่อปี ถ้าดูจากข้อมูลนี้ การขาดทุนจากการที่รัฐบาลทำอะไรโง่ๆ คือการซื้อข้าวมาเก็บไว้เยอะๆ โดยหวังว่าจะได้ราคาดี ซึ่งเป็นความหวังลมๆ แล้งๆ แล้วขาดทุนปีหนึ่งๆ เป็นหลักแสนล้านบาท แม้อาจจะดูไม่มากสำหรับคน 10 ล้านคน จากผลผลิตข้าว 3-4 แสนล้านบาท มันสมเหตุผลหรือไม่ ยังไม่ได้พูดถึงความเสียหายอื่นๆ ที่จะตามมาที่นิธิไม่ได้กล่าวถึง พลังที่จะเปลี่ยนประเทศไทยหรือพลิกแผ่นดินในทางเศรษฐกิจเป็นประเทศที่มีความมั่งคั่งยั่งยืนในอนาคตได้ไม่มีทางลัดโดยวิธีอื่นใด นอกจากการเพิ่มขีดความสามารถของประเทศในการเพิ่มผลิตภาพหรือ Productivity หรือผลผลิตต่อคนงานในทุกๆ ส่วนรวมทั้งภาคเกษตรของประเทศไทย ซึ่งเผอิญนอกภาคเกษตรเป็นภาคที่ใหญ่ที่สุด ร้อยละ 90 ของผลผลิต และประมาณ 2 ใน 3 ของกำลังแรงงาน โดยเศรษฐกิจไทยจะต้องมีแรงงานทุนและความรู้เทคโนโลยีที่มีคุณภาพเฉกเช่นหลายประเทศในเอเชียที่ล้ำหน้ากว่าเราไปมากโขแล้ว การจะทำเช่นนี้ได้เราต้องได้รัฐบาลที่มีกึ๋น ดำเนินนโยบายที่มียุทธศาสตร์ที่ดีถูกต้อง เป็นประโยชน์ต่อการเพิ่มขีดความสามารถอย่างแท้จริงของประเทศไทย คือสามารถทำเรื่องยากๆ มากกว่าเพียงแค่เพิ่มรายได้ให้แก่คนงานหรือชาวนา โดยไม่พัฒนาสถาบันที่จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มหรือผลิตภาพ แรงงานไม่ว่าจะเป็นชาวนาหรือแรงงานของภาคอุตสาหกรรม ภาคบริการจะมีพลังเปลี่ยนประเทศพลิกแผ่นดินไม่ว่าประเทศใด พลังดังกล่าวจะต้องไม่ใช่พลังที่มาจากการใช้พลังการเมืองเพื่อโอนถ่ายรายได้ความมั่งคั่งหรือทรัพยากรมาที่กลุ่มของตน โดยไม่มีส่วนเพิ่มผลผลิตหรือ Productivity ให้แก่ประเทศได้มากกว่าที่ฝ่ายหรือกลุ่มของตนเป็นฝ่ายรับ ซึ่งหมายความว่าโดยสุทธิชาวนาอาจจะได้รับการช่วยเหลือจากส่วนอื่นๆ ของสังคม แต่เศรษฐกิจข้าวหรือเศรษฐกิจการเกษตรต้องมีความแข่งแกร่งมีการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพแข่งขันกับใครๆ ในโลกได้ ซึ่งในประเด็นหลังนี้ นิธิไม่ได้ให้ความสนใจ จากคุณ : TFEX RETURN เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 19:18:39 A:27.55.1.11 X:

ความคิดเห็นที่ 3 เราต้องไม่ลืมว่าประเทศที่รวยมาก่อนเราเขาช่วยคนในภาคเกษตร โดยกระจายรายได้จากส่วนอื่นของสังคมก็จริงอยู่ แต่รัฐบาลในประเทศเหล่านั้นก็เรียนรู้และมีการเปลี่ยนแปลงเรื่อยมาที่จะลดความเสียหายจากการตั้งราคาให้สูงกว่าตลาดมากๆ และเก็บพืชผลไว้ในโกดังจนถึงกับต้องเอาไปบริจาคให้ประเทศอื่น เช่นกรณีของสหรัฐ โดยไม่ตั้งราคาให้เกินความเป็นจริงไปกว่าราคาตลาดจนอุปทานหรือผลผลิตล้นเกิน ทำไมเราไม่เรียนรู้แล้วดึงประสบการณ์ในส่วนที่ดีของเขามาใช้เพื่อบริหารข้าวหรือภาคเกษตรของเราอย่างมีวิสัยทัศน์ อย่าอ้างกันแบบโคมลอยโดยไม่มีข้อเท็จจริง แม้กระทั่งญี่ปุ่นระยะหลังๆ คนชั้นกลางญี่ปุ่นจำนวนมากก็รับไม่ได้กับการอุ้มชาวนาในภาคเกษตร โดยเฉพาะเมื่อฐานะการคลังของรัฐเลวลงเรื่อยมา จนในที่สุดรัฐบาลก็ปรับนโยบายการช่วยเหลือชาวนาที่ปลูกข้าว ในความเป็นจริงนิธิไม่ได้คิดวิเคราะห์ปัญหาที่จะเกิดจากการรับซื้อข้าวราคาสูงมาเก็บไว้เหมือนกับสมมุติว่ามันไม่เป็นปัญหานอกจากว่ามีการขาดทุนหรือมีการทุจริต ซึ่งนิธิก็ไม่สนใจรอบด้านละเลยเรื่องใหญ่และเรื่องสำคัญ นิธิไม่ได้อ่านงานที่นักวิชาการพูดถึงเรื่องการจำนำข้าวอย่างครบถ้วนจะโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็แล้วแต่ ดูเหมือนนิธิเลือกที่จะดึงความเห็นของผู้ที่คัดค้าน ซึ่งหลายเรื่องเป็นประเด็นปลีกย่อยไม่ใช่สาระสำคัญเหมือนกับว่านิธิเลือกคู่ขัดแย้ง (แม้ไม่ได้เอ่ยนาม) และเลือกประเด็นขัดแย้งเพื่อความสะดวกของตนเอง เช่น ผู้เขียนไม่คิดว่าจะมีนักวิชาการสักกี่คนที่ไม่เห็นความจำเป็นของ welfare state และไม่เห็นด้วยว่าคนจนต้องได้รับการช่วยเหลือ เราต่างกันในวิธีการที่จะให้ช่วยเหลือกันมากกว่า ในแวดวงวิชาการหรือปัญญาชน องค์ความรู้เรื่องการแทรกแซงตลาดข้าวโดยรัฐบาลในตลาดข้าว ล่าสุดรวมศูนย์อยู่ที่นักวิชาการ 3 คน ซึ่งมีวิธีคิดที่คล้ายกันมาจาก TDRI และมหาวิทยาลัยเกษตรฯ หรือสถาบันคลังสมอง ซึ่งได้แก่ นิพนธ์ พัวพงศกร อัมมาร สยามวาลา และสมพร อิศวิลานนท์ ตามลำดับ (จะขอเขียนย่อทั้ง 3 คนนี้ว่า "นอส") นิธิน่าจะวิเคราะห์หลักคิดของนักวิชาการทั้ง 3 คนนี้ รวมทั้งวิเคราะห์หลักฐานข้อเท็จจริงให้ครบถ้วนในการเปรียบเทียบวิธีคิดของนิธิ เพื่อความสมบูรณ์และครบถ้วนจะเป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้ของสังคม ในงานเขียนก่อนหน้าของสมพรและในบทความที่นิพนธ์ และอัมมาร ตอบนิธิ คนที่ติดตามเรื่องบทบาทของรัฐบาลในการแทรกแซงตลาดข้าว ทุกคนรู้ดีว่า "นอส" เป็นมันสมองทางวิชาการตัวแทนของ TDRI ในการออกแบบการประกันรายได้ให้แก่ชาวนาสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ หลักคิดของ "นอส" นั้นยอมรับว่าคนนอกภาคเกษตรต้องช่วยคนภาคเกษตรในการโอนรายได้และทรัพยากร แต่ควรจะเลือกช่วยชาวนาที่มี need จริงๆ คือยากจนกว่าชาวนาด้วยกัน หรือต้องพึ่งนาน้ำฝนใช้พันธุ์ข้าวไวต่อช่วงแสง ซึ่งทำนาได้แค่ปีละครั้ง ไม่ใช่เหวี่ยงแหช่วยกันไม่เลือกหน้า ในทางการเมืองราคาประกันต้องสูงกว่าราคาตลาด แต่เป็นที่รู้กันว่าต่ำกว่าสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์มาก วิธีคิดของ "นอส" ตามที่ผู้เขียนเข้าใจ "นอส" เชื่อจากหลักการและประสบการณ์ทั่วโลกในอดีตว่ารัฐค้าขายไม่เป็น ทรัพยากรของรัฐเหมือนไม่มีใครเป็นเจ้าของ ถ้ารัฐซื้อข้าวมาเก็บไว้เอง โดยเฉพาะมีต้นทุนสูงๆ ยังไงๆ ก็ต้องมีการรั่วไหล เทวดาที่ไหนจะมานั่งดูแลทุกๆ พื้นที่ไร่นา รัฐบาลซื้อง่ายแต่ขายยาก โดยเฉพาะไม่อยากจะขาดทุนมากๆ หารู้ไม่ว่ายิ่งเก็บไว้นานๆ ก็เสี่ยงที่จะขาดทุนมาก ซื้อมาแล้วประมูลทันทีก็ขาดทุนเร็วเกินไป รับไม่ได้เสียอีก "นอส" จึงมีหลักคิดว่าใช้เพียงแค่ใช้ "กระดาษ" ก็พอ นักเศรษฐศาสตร์เรียกว่าการลดต้นทุนการทำธุรกรรมหรือ transaction cost ชาวนามารับส่วนต่างในรายได้เมื่อราคาตลาดข้าวต่ำกว่าราคาประกัน (หรือที่เรียกกันว่า deficiency payment) ชาวนาเก็บข้าวแล้วเอาไปขายกันเอง รัฐไม่ต้องมายุ่ง โดยตรรกะชัดเจนว่าลดต้นทุนละค่าเสียโอกาสในการเก็บข้าวไว้นานๆ ของรัฐบาล จากคุณ : TFEX RETURN เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 19:19:09 A:27.55.1.11 X:

ความคิดเห็นที่ 5 โหๆยาวเหยียดเลย ทานข้านเย็นแล้วหรือยังครับท่านอดีตผู้สมัคร สส. จากคุณ : Onejuly เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 19:41:50 A:118.174.78.233 X:

ความคิดเห็นที่ 6 เหมือนเพลงลูกทุ่งที่คนแต่งเพลงแก้กัน ไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจ.... จากคุณ : อับราฮัม ลินคอล์น เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 19:48:27 A:118.172.221.108 X:

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่ยอมแพ้... คิคิ เอาว่า... เป็นกำลังใจให้แล้วกันครับ จากคุณ : ทาร์ซาน & เจน เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 19:50:15 A:124.122.37.59 X:

ความคิดเห็นที่ 8 TFEX RETURN ...พอเถอะวะ ข้าว...? -รู้จักไหม? -เคยปลูกไหม? -เคยซื้อ-ขายไหม? -ที่ผ่านมาตลาดค้าข้าวมันเป็นยังไง? -แล้ว...คิดไหม ? ข้าวสาร/ข้าวเปลือก-กก.เท่าไหร่? -แสนรู้ไปทุกเรื่องแบบนี้...ไปสมัครเป็นพิธีกรสายล่อฟ้าไป... จากคุณ : เกษตรนอกคอก เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 19:52:53 A:118.175.183.188 X:

ความคิดเห็นที่ 9 วันนี้เห็น FAO องค์การอาหารโลกบอกว่า ปีถัดๆ ไปข้าวจะค่อนข้างขาดแคลนและยังเป็นที่ต้องการเป็นอาหารของโลก และแนะ ให้ประเทศไทย ส่งออกข้าวให้กับประเทศทางแอฟริกา ซึ่งเป็นประเทศที่ขาดแคลนข้าว ต้องการอาหาร โดยบอกว่ายังเป็นการช่วยระบาย สต๊อกข้าวไปในตัว นโยบายต่างๆ ต้องใช้เวลานะ จะดีจะแย่ ก็คงต้องรอก่อน สัก ปีสองปี ตอนนี้ก็หลากหลายความคิด ยังไงก็ใจเย็นๆ อีกกันสักหน่อย จากคุณ : MarvericK เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 19:53:31 A:161.200.69.148 X:

ความคิดเห็นที่ 10 ผู้อ่านขอแทนผู้เขียนว่าไพโรจน์ ต่อจากนี้จะแทนว่าไพโรจน์นะ....ยาวม๊ากก ไม่อ่านดีกว่า จากคุณ : Babbitry Boy เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 19:55:19 A:171.7.245.204 X:

ความคิดเห็นที่ 11 ง่วงนอน ยาวเิกิน จากคุณ : UlingChi เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 20:04:11 A:124.120.65.83 X:

ความคิดเห็นที่ 12 #8 เคยอยู่ในกระบวนการประมูล และการซื้อขายG2G จึงพอทราบว่าเค้าโกงยังไง ระบบจะส่งผลเสียยังไง ยิ่งลักษณ์ บุญทรง เคยปลูกข้าวมั้ยครับ จากคุณ : TFEX RETURN เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 20:06:10 A:27.55.1.11 X:

ความคิดเห็นที่ 13 ^ ^ ยังกระแนะกระแหนอีก  555 จากคุณ : JaneAuN เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 20:16:16 A:49.49.4.150 X:

ความคิดเห็นที่ 14 ถ้ารู้ว่าเขาโกงอย่างไร   รบกวนช่วยส่งหลักฐานชี้มูลความผิดให้ปปช. เลยครับ อันนี้ไม่ได้ประชดนะ   คือผมได้ยินแต่ว่าโกง   แต่ไม่รู้ว่าโกงอย่างไร   ไม่มีหลักฐาน   ถ้าคุณมีช่วยสงเคราะห์ทีเถอะ   อย่าให้คนเลวๆ มาหาประโยชน์จากภาษีของผมเลย จากคุณ : Tanis เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 20:18:38 A:118.172.56.65 X:

ความคิดเห็นที่ 15 เมื่อวานนี้ได้มีโอกาสคุยกับชาวนาที่ปลูกข้าวอย่างเดียว เขาบอกว่าเพิ่งเกี่ยวข้าวเสร็จและตากแห้งเรียบร้อยแล้ว ปรากฏว่าได้ข้าวเหนียว 3 ตัน ข้าวหอมมะลิ 4 ตัน ขายข้าวเหนียวไป ได้ กก.ละ 15.- คิดเป็นเงิน 45,000.- บาท เงินส่วนนี้เป็นต่าใช้จ่ายในการทำนา เช่น ค่าไถ ค่าดำ ค่าปุ๋ย ค่ายา ฯลฯ หมดพอดี เหลือข้าวหอมมะลิ 4 ตัน ถ้าจำนำได้ตันละ20,000.- บาท ก็ได้เงิน 80,000.- บาท เวลาไปจำนำจริงไม่มีทางได้ราคานี้แน่นอนเพราะต้องถูกหักโน่นนี่ เอาเป็นว่าได้เต็มตามนี้จริงๆ เฉลี่ยออกมาเป็นเดือนก็ได้เดือนละ 6,666.67 บาท เงินจำนวนเท่านี้อย่าว่าแต่เขาจะพอสำหรับเลี้ยงครอบครัวไม่ ขอถามอาจารย์ไพโรจน์ฯ หรือท่านที่คัดค้านหน่อยเถิดว่ามันพอสำหรับค่าน้ำมันรถที่ท่านใช้แต่ละเดือนหรือไม่ หรือท่านเห็นว่าชาวนาควรจะยอมอดอยากเพื่อให้ผู้ส่งออกหรือผู้สนับสนุนทุนวิจัยได้สุขสบายถึงจะถูกต้อง จากคุณ : Mr.K.P เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 20:21:03 A:1.2.152.51 X:

ความคิดเห็นที่ 16 สู้ต่อไปจขกท. สำหรับเรื่องข้าว ( ดีกว่าไปด่ากันเรื่องไร้สาระ ) เพราะมันเป็นหนังยาวจริงๆ  เราก็อยากจะรู้ข้อมูลจากทุกฝ่าย จากคุณ : คนไทยหัวใจสีเขียว เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 20:21:25 A:110.77.244.204 X:

ความคิดเห็นที่ 17 ชาวนาเก็บข้าวแล้วเอาไปขายกันเอง.......... ดูหรูจัง แต่ขอโทษ สู้โรงสีไม่ได้หรอก จากคุณ : NOSIG เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 20:21:40 A:124.120.89.243 X:

ความคิดเห็นที่ 18 1. ผมสงสัยว่าช่วงที่นายอภิสิทธิเป็นรัฐบาลก็เลือกใช้นโยบายรับจำนำข้าว ถ้าหากไม่ดี ทำไมสุนัขรับใช้อำมาตย์เฒ่าจึงไม่ออกมามาคัดค้านครับ 2.การโกงกินจากนโยบายการรับจำนำข้าวและนโยบายประกันราคาข้าวในยุครัฐบาลนายอภิสิทธิทำไมจึงไม่ได้รับความสนใจจากสมุนสุนัขอำมาตย์เฒ่า คุณ tfex ช่วยตอบหน่อยครับ แก้ไขเมื่อ 06 ธ.ค. 55 20:25:37 จากคุณ : spindle เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 20:24:36 A:110.77.202.118 X:

ความคิดเห็นที่ 19 พอชาวนาจะได้ลืมตาอ้าปากได้หน่อยก็จะเอาเท้ามายัดปาก เอาโกเต๊กเจ๊กลิ้มมาปิดปาก ไอ่พวกแมงแซ๊บ แมงสาปเอ้ย จากคุณ : excell เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 20:32:48 A:118.174.52.48 X:

ความคิดเห็นที่ 20 #15 พอดีเลยครับ เมื่อวานผมเพิ่งรับคนมาช่วยดูแลบ้าน และเมื่อกี้ผมถามเค้าว่า ที่บ้านทำนาไหม เค้าบอกว่าทำ มี 6 ไร่ ผมถามเค้าต่อว่า ได้จำนำไหม เค้าบอกว่าไม่ได้ เพราะ 6 ไร่ แบ่งกันในครอบครัวแล้วยังแทบไม่พอกิน จึงไม่มีเหลือไปจำนำแน่นอน ผมถามเค้าต่อว่า ตกลงได้ประโยชน์อะไรจากโครงการจำนำไหม เค้าบอกว่า ไม่ได้ ผมถามเค้าว่า ถ้าในหมู่บ้านมีคนสัก 50 ครอบครัว จะมีกี่ครอบครัวได้เอาข้าวไปจำนำ เค้าบอกว่า ประมาณครึ่งหนึ่ง คือต้องเป็นคนที่มีนา 20 -30 ไร่ขึ้นไป แม่บ้านท่านนี้ชื่ออุไร ถ้าคุณไม่เชื่อหลังไมค์มาเอาเบอร์ที่ผมได้ครับ จะต่อสายให้คุยว่าที่ผมเล่าไป เรื่องจริงหรือโกหก นี่คือตัวอย่างจริงๆของชาวนาที่ จนจริงๆ ซึ่งจะไม่ได้ประโยชน์จากโครงการจำนำข้าวเลย จากคุณ : TFEX RETURN เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 20:33:07 A:27.55.1.10 X:

ความคิดเห็นที่ 21 #18 ตอนนั้นพรทิวาก็มีข่าวว่าทุจริต คนสนใจกันมาก แต่ปรากฏว่าฝ่ายค้านในตอนนั้น ซึ่งก็คือพรรคเพื่อไทย ไม่ทำงานเลย แทนที่จะขุดคุ้ยข้อมูลมาเอาผิดกับคนโกง แต่กลับเฉย ตอนนี้บุญทรงบอกจะตรวจสอบย้อนหลังสามปี ผมเห็นด้วย เอาเลย รัฐบาลไหนใครโกงต้องเอามาลงโทษให้หมด จากคุณ : TFEX RETURN เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 20:38:25 A:27.55.1.10 X:

ความคิดเห็นที่ 22 ถามคนงานมาทาสีให้ ถามว่า ที่บ้านมีที่นาไหม คนงานตอบว่า แต่ก่อนมี 20 ไร่ แต่ตอนนี้ขายไปละทำไปก็ไม่รวย หางานทำที่ กทม ดีกว่า เลยถามต่อ ถ้าปัจจุบันจะขายไหม เขาบอกว่า ไม่ขายแน่นอน จ้างคนอื่นทำนาแทนยังมีกำไรเลย จากคุณ : Jackchan เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 20:39:17 A:171.5.130.7 X:

ความคิดเห็นที่ 23 คนดูแลบ้าน tfex ถึงไม่ได้รับจำนำข้าว เพราะมีที่นาน้อย แต่ถ้าจะขายข้าวเท่าที่มีอยู่ ก็จะขายได้ในราคาตลาดที่สูงขึ้นกว่าเดิมแน่นอน ดังนั้น จึงเท่ากับเขาได้รับประโยชน์ทันที จากราคาขายในตลาดที่สูงขึ้น แก้ไขเมื่อ 06 ธ.ค. 55 20:41:45 แก้ไขเมื่อ 06 ธ.ค. 55 20:41:07 จากคุณ : GameLover เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 20:40:57 A:171.97.1.175 X:

ความคิดเห็นที่ 24 เลื่อนลอย คิดไปเองทั้งนั้น จากคุณ : annalog เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 20:42:22 A:110.168.14.157 X:

ความคิดเห็นที่ 25 เมื่อคืนก่อนนอนก็ตั้งใจอ่านบทความของนายคนนี้ เพื่อดูว่า เขามีอะไรที่แหลมคม บ้าง สรุปสำหรับคนที่อ่านอย่างผม คือ ไม่มีอะไร นอกจาก  วนไปเวียนมา รู้สึกว่าเสียดายเวลา รู้อย่างนี้  สู้เอาหนังสือ กอล์ฟดีๆ มาอ่านไม่ได้เลย  ครับ จากคุณ : ลุงถุง เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 20:47:42 A:125.25.165.196 X:

ความคิดเห็นที่ 26 ทำนาได้ข้าวมาแค่พอเก็บใว้กิน ไม่เหลือใว้ขาย จะจำนำหรือประกันราคา มันก็ไม่มีผลเพราะไม่มีข้าวไปจำนำหรือประกันราคา จากคุณ : Onejuly เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 20:56:45 A:118.174.78.233 X:

ความคิดเห็นที่ 27 คุณ จขกท                  ดูไม่ออกหรือ อ.ไพโรจน์ กับ อ. นิธิ แสดงความคิดเห็น ต่างกันอย่างไร               อ. นิธิ จะพูดหรือ อธิบาย แกก็พูดไป ตามเหตุ และผล เฉยๆ            แต่ อ.ไพโรจน์ แกใส่ ทั้งเหตุ และผล ด้วย อารมณ์ (ออกจะโมโห)  คุณ รุ้ใหม ว่าคนที่โมโห นี่นะ จะขาด...สติ ........แล้วไอ้คน ไม่มี สติ นี่นะเขาเรียกว่า คน......อะไรล่ะ จากคุณ : แผ่นดิน ผู้ชี้ ขุมทรัพย์ เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 20:59:46 A:124.169.53.48 X:

ความคิดเห็นที่ 28 #20 ผมเชื่อว่าคนแบบที่คุณพูดถึงก็มีอยู่จำนวนหนึ่ง  คนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่เป็นพวกที่พ่อแม่มีลูกมากเลยได้แบ่งที่น้อย หรือไม่อย่างนั้นก็ขายที่ไปเพื่อใช้ส่งลูกเรียนหรืออย่างอื่น แต่ที่เราพูดถึงคือการทำเพื่อคนส่วนใหญ่ เมื่อเราช่วยคนส่วนใหญ่ได้แล้ว คนส่วนที่คุณพูดถึงก็ง่ายที่จะช่วยเหลือ  ผมเองก็พยายามลองใช้ที่ตัวเองทำดูผลคือถ้าทำนาอย่างเดียวยังไงก็ไม่รอด แต่ถ้าทำแบบในหลวงคือไร่นาสวนผสมยังไง 6 ไร่ก็เลี้ยงครอบครัวได้สบาย อยู่ที่ความขยันและอดทน จากคุณ : Mr.K.P เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 21:12:15 A:1.2.152.51 X:

ความคิดเห็นที่ 29 แล้วจะมีรัฐบาลไว้ทำไม ถ้าพูดอยู่แค่ 2-3 คำ กลไกลตลาด วินัยการเงินการคลังภาครัฐ ฯลฯ ก็รู้ว่าหลักการมันไม่ช่วยชาวนาจริง ตอนราคาถูก ก็รับจำนำกินดอก (บอกว่าช่วย) ตอนราคาแพง ก็เอาออกประมูล(บอกว่าอะไร) ไม่รู้ว่าเอาดอกที่ได้มาหักราคาทุน แล้วมาล็อคประมูลขายหรือเปล่า ราคาข้าวไม่ดันขึ้นเลย ยังไงผมก็เชื่อว่ารัฐเป็นเจ้าใหญ่ มี108 วิธีที่จะกำหนดราคาตลาด แต่กำหนดตกลง ๆ ๆ ๆ ก็รัฐบาลนี้เขาจะช่วยชาวนา เขามองว่าวิธีการเดิม มันซ้ำเติมมากกว่า ต้องแก้ไข แก้ไขเมื่อ 06 ธ.ค. 55 21:30:34 จากคุณ : Mbit เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 21:27:48 A:171.5.84.1 X:

ความคิดเห็นที่ 30 หากมองในมุมพ่อค้า นักวิชาการ ยังไงก็ขาดทุน เพราะตัวเองจะขายไม่ได้กำไร แต่ถ้ามองในมุมมองของชาวนา นโยบายนี้ ทำให้มีเงินใช้หนี้ มีเงินมีทุน ไม่ทำไปขาดทุนไป ไม่ลองมองดูเหมือนญุี่ปุ่นบ้างละครับ ชาวนาเขาขายข้าวกิโลละเท่าไร จากคุณ : Serial_Nuber เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 21:55:43 A:58.9.83.173 X:

ความคิดเห็นที่ 31 อ่านแล้ว ว่าแต่คนอื่นเพ้อฝัน ลมๆแล้งๆ ผมว่าไพโรจน์เองก็ไม่ต่างกับคนอื่น อ้างว่าไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ก็ไม่ได้ชี้ออกมาชัดๆ เป็นข้อมูลที่ยืนยันได้ สรุป ว่าแต่เขา ตัวเองก็เป็นเหมือนเขา มั่วว่ะ เสียทีที่บอกว่าเป็นถึงนักวิชาการ จากคุณ : AE388 เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 21:55:52 A:182.52.37.106 X:

ความคิดเห็นที่ 32 ไม่เสียเวลาที่อ่านเลย  ผมชอบตั้งแต่ได้เห็นหัวข้อแล้วครับ กับคำว่า  ที ทู ที  เก่งทุกอย่าง   รู้ทุกเรื่อง  แต่เอาความเห็นคนอื่นมาขยาย  ยังมีไหมพวกด๊อกๆ  อย่างเช่น  อามารผมคิดว่าพิมย์ผิดนะ  ควรเป็น  เอามัน  แล้วก็ช่วยเปลื่ยนชื่อเป็นไทยหน่อยจะได้สรรเสริญง่ายหน่อย  เลี้ยวกลับ   ที เอฟ อี แอบ   555555ๆๆๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : สุขมากมาก (สุขมากมาก) เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 22:04:26 A:115.67.165.33 X:

ความคิดเห็นที่ 33 #32 ก็เพราะไม่อ่านเนี่ยล่ะครับ จากคุณ : TFEX RETURN เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 22:15:12 A:27.55.0.164 X:

ความคิดเห็นที่ 34 กรณีนี้..โดยเนื้อแท้แล้ว"รัฐบาลอยากให้ประโยชน์ตกกับชาวนาจริงๆ) เป็นวิธีคิด..เพื่อให้คนปลายน้ำคือชาวนาได้ประโยชน์สูงสุด แต่...ถ้ามองจากภาพที่แท้จริงของฝั่งประชาชนที่ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน "โครงการนี้..มีปัญหาจริงๆ" จังหวัดชายแดนภาคตะวันออก...มีรถจากประเทศเพื่อนบ้านขนข้าวเข้ามาเพื่อฮั้วกับโรงสี ข้อมูลเชิงลึกไปสืบค้นกันเอง...หาไม่ยากหรอกค่ะ (ถ้าหลักฐานไม่ถูกทำลายไปก่อน) คดีดังระดับนี้.. หันไปดูคู่แข่งอันดับหนึ่งของไทย"เวียดนาม" กำลังมีปัญหาคำสั่งซื้อจากลูกค้ารายใหญ่ในปีหน้า..คือฟิลิปปินส์ กับ อินเดีย ที่สามารถผลืตข้าวในประเทศได้มากขึ้น ทำให้."ซัพพลาย มากกว่าดีมานด์" และกำลังทบทวนการปลูกข้าวให้มีคุณภาพมากกว่าปริมาณ แล้ว...ไทยแลนด์...จะทำอย่างไร???กับสค็อคข้าวที่มากมายขณะนี้???? จากคุณ : aoy1 เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 22:36:16 A:182.52.221.195 X:

ความคิดเห็นที่ 35 ผมสนับสนุนกระทู้นี้นะ เพราะอย่างน้อยมันก็มีสาระ แต่ขอไม่อ่านละกันมันยาว..... ผมจะ ให้คุณรู้ว่า..หัดย่อบ้างซิโว้ยยย เอาแต่เนื้อๆดิว้าาาาา จากคุณ : coljack2521 เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 23:17:38 A:118.172.110.89 X:

ความคิดเห็นที่ 36 ขอตอบ  คห 34 ก่อนนะครับ  ผมก็เป็นชาวบ้านธรรมดาๆคนหนึ่ง  ไม่รู้ข้อเท็จจริง  แต่คุณกัยผมก็เหมือนกัน   หรือคุณไปกับพวก ส ส ที่เอาภาพมาให้ดู  คุณไดัขึ้นไปดูตอนเปิดผ้าใบหรือเปล่า  หรือว่าไม่ต้องดูพวกเดี่ยวกัน  ถ้าพบเห็นจริงๆเอาตอนนั้นเลยชิครับ  น้่นมันด่านตรวจนะครับ  แจ้งเจ้าหน้าจับกุมไค้ทันที   พรรคการเมืองระด้บนี้ไม่กล้วหรอกครับเจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่ต่างหากจะต้องกลัว   ผมว่าคุณไตร่ตรองให้ดีๆแส้วคุณจะพบคำตอบเอง สว้สดีดรับ จากคุณ : สุขมากมาก (สุขมากมาก) เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 23:25:51 A:115.67.165.33 X:

ความคิดเห็นที่ 37 สวัสดี  ค ห33 ส่าสุด  ก่อนหน้า  ค ห12  #8  คห20  #15   คห21  #18  งงหว่าเอาเป็นว่าคุณเชื่อของคุณ  ผมเชื่อของผม  แต่ต่างกันตรงที่คุณรับไม่ได้กับเสียงส่วนใหญ่  เหมือนกับพรรคที่คุณชื่นชอบ   ที่บอกให้ประชาชนทั้งประเทศรู้ว่าพวกมากลากไป  แต่ตอนเป็นรัฐบาลบอกว่าต้องเคารพมติข้างมาก  แต่ไม่ได้เป็นรัฐบาลแล้วมาพูดแบบนี้ผมก็ไม่เข้าใจผมยอมรับครับว่าความรู้น้อย  แต่บอกได้เลยว่ารู้เท่าทันก้บพวกชอบเอาดีใส่ตัว  เอาชั่วให้คนอื่น   เลี้ยวกลับๆๆๆๆๆ แก้ไขเมื่อ 06 ธ.ค. 55 23:53:00 จากคุณ : สุขมากมาก (สุขมากมาก) เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 23:48:45 A:115.67.165.33 X:

ความคิดเห็นที่ 38 #36 ไม่จริงหรอกครับ ชาวบ้านนี่หละ รู้ดีกว่านักการเมืองอีก เพราะอยุ่ในพื้นที่ อยู่ที่ว่าจะพูดไม่พูดเท่านั้นแหละ ส่วนจะไปแจ้งเจ้าหน้าที่นั้น ชาวบ้านไม่กล้าหรอกครับ เพราะโรงสีมีอิทธิพลมาก ไปแจ้งเค้าจะทำร้ายเอาได้ ทางที่ดีควรส่งเรื่องให้นักการเมืองไปดำเนินการดีกว่าครับ จากคุณ : TFEX RETURN เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 23:51:19 A:27.55.3.166 X:

ความคิดเห็นที่ 39 ตกลง  คห 38  จะเป็นชาวน้าน หรือเป็นนักการเมือง  เห็นชอบกับนักการเมืองผมก็บอกแล้วว่า  พวกคุณรู้หมดนักการเมือง  แต่ชอบอ้างชาวบ้าน  ชาวบ้านไม่็รู้หรอก  เค้าไม่บอกไม่ใช่กล้วโรงสี  แต่กล้วโรงผีที่พวกคุณจะส่งให้   แต่น้อยลงแล้วครับ  เพราะเหลือน้อยเต็มที่หรือไม่ยอมรับ  ยังเชื่อว่า  อำนาจมืด  มือที่มองไม่เห็นจะช่วยได้  อย่าหวังเลย จากคุณ : สุขมากมาก (สุขมากมาก) เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 00:40:42 A:115.67.165.33 X: