ความคิดเห็นที่ 1 ในความเห็นของเรา มติชน ประพันธ์ ถวายพระองค์ท่าน เป็นเรื่องของ พระองค์ท่าน และ มติชน ถ้าใครถามเราว่า ชอบใหม เราจะตอบว่า ชอบมากๆ จนนึกไม่ออกว่า ถ้าจะไม่ชอบนั้น เป็นอย่างไร แต่ที่ไม่เข้าใจ ก็เรื่องคนอื่นๆ วุ่นวาย ตัดสิน ต่างๆนานา อาจคิดว่าตนเองเกี่ยวข้องไปด้วย กระมัง ไม่สงสัยบ้างหรือว่า ทำไมตนเองดูอยากมีส่วนร่วมไปเสียทุกเรื่อง และพิพากษาตัดสินเอาเองเสร็จสรรพ แบบนี้ ไม่ไหว .. จากคุณ : กุหลาบแวร์ซาย เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 07:32:53 A:27.55.170.118 X:

ความคิดเห็นที่ 2 มติชนตีพิมพ์บทความตำหนิการกระทำของรัฐบาลหุ่นเชิดของทหาร   คนที่เชิดชูรีัฐบาลหุ่นเชิดย่อมจะไม่ชอบเป็นธรรมดา   เมื่อมีโอกาสไหนเลยจะไม่ผูกเรื่องโยงเข้าหากัน จากคุณ : Tanis เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 07:34:14 A:118.172.56.24 X:

ความคิดเห็นที่ 3 ดูเหมือนพวกลิงที่ชอบโหน พยายามจุดกระแส อันนี้ต้องชมเขาว่าเก็บทุกเม็ด เล่นทุกลูกจริง โดยไม่กลัวว่า ทำให้ต้นไม้ใหญ่จะเสียหาย สงสัยไม่อยากปรองดอง และยังมั่นใจในพลังล้าหลังของตัวเองอยู่ดอกกระมัง จากคุณ : โต๊ะกะดุง เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 07:43:48 A:119.42.99.253 X:

ความคิดเห็นที่ 4 คนจับผิดมันเอาทุกเม็ด ขนาดนั่งอยู่เฉย ๆ ยังด่าได้เลย ฉนั้น อย่าไปหาเหตุผล กับคนพวกนี้ดีกว่าครับ จากคุณ : อับราฮัม ลินคอล์น เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 07:58:08 A:118.172.213.12 X:

ความคิดเห็นที่ 5 เพราะหนังสือพิมพ์มติชนถูกมองว่าเป็นเสื้อแดง เพราะเสื้อแดงถูกมองว่าเป็นพวกจะล้มสถาบัน ดังนั้นอะไรที่เกี่ยวกับเสี้อแดงและมติชน จะถูกโยงว่าเป็นพวกจะล้มสถาบันทั้งนั้น จากคุณ : ทองรำไร เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 08:09:08 A:58.9.58.138 X:

ความคิดเห็นที่ 6 ร้อยละ 99 ของการประพันธ์บทกวีต่างๆ  จะเริ่มจากแรงบันดาลใจ  ผสมเหตุการณ์ร่วมสมัย  แล้วจินตนาการเปรียบเทียบ  เพื่อให้ผู้เสพ  คิดตาม  คล้อยตามได้อย่างถูกต้องตามความต้องการของผู้เขียน  เป็นเรื่องที่เิกิดขึ้นทุกยุคสมัย  ทั่วโลก  พูดให้เข้าใจง่ายๆหากเป็นนักกวีความรัก  ก็จะสื่อถึงความรัก   หากเป็นนักกวีความเศร้า  ก็จะสื่อความเศร้า  นักกวีเพ้อฝัน   ก็จะเขียนเพ้อฝัน  นักกวีประวัติศาสตร์ก็จะเล่าย้อนเวลา  ในกรณีนี้  กวีการเมืองเขียน  ก็แสดงให้เห็นถึงการเมืองร่วมสมัยอย่างชัดเจน  ไม่มีความจำเป็นต้องปฏิเสธ  ในข้อเขียนตัวเอง  ไม่เช่นนั้นก็ไม่ควรเขียนแต่แรก  และการเขียนเทียบนัยยะชัดเจนแบบนี้  ไม่กล้ารับ  ก็คงหมดศักดิ์ศรีนักเขียนกวีการเมืองไปแล้ว  หันไปเขียนด้านอื่นได้เลย  ส่วนท่านใดที่อ่านแล้วเข้าใจเข้าข้างตนเอง  ขอให้พิจารณาเสียใหม่  เพราะไม่มีนักกวีคนไหน  เขียนโดยนึกว่าคนอื่นรู้สึกอย่างไร  เขาคิดว่าเป็นตัวตนเขาเองทั้งนั้นแหละครับ  แล้วแต่ว่าตอนนั้นเขาเป็นใคร จากคุณ : tachak2 เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 08:35:53 A:125.27.93.138 X:

ความคิดเห็นที่ 7 นักกวี ฝีปากกล้า  ที่สามารถ ล้วนองอาจ  อวดตน  แต่หนไหน ไม่จับจด  จ้องจน  เจียนตนใด มุ่งจนได้  เขียนคน  ให้ชนชม ใช่ก็ใช่  ไม่ใช่  ก็ไม่ใช่ ใช่แล้วไม่  ไม่เคยมี  กวีเอ๋ย น้ำหมึกนั้น   สะบัดแล้ว  แร้วตรึงเลย พิโธ่เอ๋ย  กลัวเกรง  เบ่งทำไม ประกาศทั่ว   ไม่กลัวศักดื์   ในรักข้า พอเขามา  หาคน  อย่ายลเหยง ปากคอลั่น  สั่นหน้า  ลายำเกรง อีตอนเก่ง   ใครกล้า  ข้าไม่กลัว ทีหลังฟัง  ระวังบ้าง  อย่างยั้งคิด ประดอยดิษฐ์  ไพเราะ  เสนาะหู ให้ชนชื่น  ชวนชม  ชี้ชงชู ประสานสู้  เสริมส่ง  ซึ่งทรงชัย จากคุณ : tachak2 เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 08:56:03 A:125.27.93.138 X:

ความคิดเห็นที่ 8 สังคมไทยจะเป็นแบบนี้ไปอีกนานไหม ชักเริ่มเลอะเทอะกันขึ้นทุกวันๆ คงเป็นสิ่งเดียวที่พยายามโยงมาสร้างความชอบธรรมให้ตัวเองได้สินะ จากคุณ : สโนว์ไวท์แทะมะขวิดแล้วสลบ เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 09:43:15 A:110.171.35.100 X:

ความคิดเห็นที่ 9 . "อาเศียรวาท ชาติขีข้า ไม่รู้จัก ยักเยื้องนัก นำมาใช้ ให้วิปริต ซ้ำเฉไฉ ไขว้เขว เจ้าเล่ห์คิด ให้หลงผิด โง่งั่ง ทั้งโคตรมัน "ผรุสวาท" เท่านั้น มันเข้าใจ พ่อแม่มัน เลือกใช้ สอนลูกหลาน ให้ทรยศคดข้อส่อสันดาน ก้มหน้าคลานซานซมดมกลิ่นเงิน"....นิดา.... ใครใจต่ำก็มองเห็นว่ากวีแบบมติชั่วสูง ใครใจสูงก็เห็นว่ามติชั่วต่ำ ต่างคนต่างความคิด... ไม่มีใครจ้องจับผิด...คิดถึงคนอื่นแบบดีๆบ้าง ในวันที่ปลาบปลื้ม วันมหามงคล ทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใส ถ้ามันไม่สะดุดจริงๆ...อ่านแล้วสะดุดทันที.. โบราณถึงเทียบกงจักรกับดอกบัว มันเหมือนกันขนาดดดด จะชี้แจงแถลงใจเป็นครั้งสุดท้าย....คนแต่งกลอนมัน...พิกลพิการใจ จากคุณ : ยายฉ่ำ เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 10:31:35 A:171.7.32.175 X:

ความคิดเห็นที่ 10 หากคำกลอน ที่เขียน อยู่ในบทความ "การเมือง" จะไม่แปลกใจเลย   แต่ นี่ ในหัวข้อ " อาเศียรวาท" ที่แปลว่า "อำนวยพร" ในวาระเช่นนี้ สงสัยว่า ท่านบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ มติชน ที่ ไม่มีวรรคใด แสดงเจตน์ อำนวยพร แด่พระเจ้าอยู่หัว  ท่านใช้อวัยวะส่วนใดของตน ตัดสินใจอนุมัติให้ลงพิมพ์   ................................กลอน "กำกวม"นี้ ..................   จากคุณ : วอน เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 11:49:16 A:125.27.242.154 X:

ความคิดเห็นที่ 11 ตัวอย่าง บทอาเศียรวาทมติชน 5 ธันวาคม 2543 ของผู้เขียนคนเดียวกัน  เขียนว่า หกสิบเจ็ดล้านไทยป่วยไข้หรือ  ไม่มีมือไม่มีเท้าเฝ้านั่งถัด หรือมะเร็งกินถ้วนกระบวนรัฐ  รอพระหัตถ์ประทานส่งพระองค์เดียว กราบบาทพระพุทธเจ้าข้า    กระแสช่อพารายังบ่า^^ว พวกบังหลวงยังโกงเห็นตัวเป็นเกลียว   มีแต่ ธ คอยเหนี่ยวประชาชน เราว่า เป็นความถนัดที่จะเขียนแบบนี้ของผู้ประพันธ์ คำที่ใช้อาจขาด อาจเกิน ตามคำบังคับของฉันทลักษณ์ จากคุณ : ป้าหนูดา เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 15:10:58 A:124.122.23.40 X:

ความคิดเห็นที่ 12 ุพวกที่เข้าข้างมติชน ช่างมองได้แต่ด้านเดียว คือด้านของตนเองที่เลือกจะเข้าข้างไหน (แดง?) และพยายามเสี้ยมคนเขลาเบาปัญญาให้เชื่อเหมือนตน หรือไม่งั้นก็คงมีปัญญาเท่าหางอึ่ง ไม่รู้จักคำว่า ambiguous คนเขียนกลอนนี้เขาตั้งใจตั้งแต่แรกแล้วให้เขียนออกมาตีความได้สองทางขึ้นอยู่กับว่าผู้อ่านจะตีความไปทางไหน ถ้าจะตีความอย่างที่มติชนว่า ทำไมถึงไม่เขียนให้ชัดเจน ว่าตอนที่ฟ้าสว่างเพราะใคร และที่ฟ้ามืด เพราะอะไร คำว่าฟ้าสว่าง ตาสว่าง มันมีความหมายแฝงในเวบแดงล้มเจ้าอยู่แล้ว อย่างเวบใต้ฟ้าเดียวกัน และขณะนี้ในหลวงก็ยังทรงปกครองแผ่นดินไทยดูแลทุกข์สุขของพวกเราอยู่ ยังมีหน้ามาถามอีกว่าฟ้าสว่างดีอย่างไร แปลว่าตอนนี้ฟ้าไม่สว่างเหรอ คนใจหมา จากคุณ : rocio (rocio) เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 55 08:27:22 A:171.7.141.142 X: