โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว แต่...
นายชุมพล ศิลปอาชา ยังทำงานเหมือน 40 ปีที่แล้ว
ให้สัมภาษณ์แบบนี้ ได้ยัีงไง
เหมือนไม่เคยเข้าใจคนพื้นที่และนักลงทุน
คุณต้อง Force ปัญหา ต้อง "หัด" ทำงานเชิงรุก ต้องเร็ว
ต้องมีแผนเร่งด่วนเฉพาะการณ์
และแผนรองรับสถานการณ์ในอนาคต
ต้องทำให้พวกเขาอุ่นใจให้ได้ ไม่ใช่ขอไปทีแบบนี้!
และ เงิน "ตั้ง" 20000 ล้าน ไม่ใช่ "แค่" 20000 ล้าน
ต่อยอดการเดินทางหรือท่องเที่ยวในประเทศได้อีกเท่าไหร่
ที่สำคัญเงินจำนวนนั้นเป็นภาษีของรัฐกี่%?
สร้างโรงพยาบาลทันสมัยในจังหวัดทุรกันดารได้อีกกี่แห่ง?
เรื่องแบบนี้ "ควบคุมได้"
ไม่ใช่ "ภัยธรรมชาติ" ไม่ใช่ "เรื่องสุดวิสัย"
คุณต้องเตรียมสมองก่อนพูดให้นานกว่านี้
นี่หรือ ...
รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ของประเทศไทย ปี 2555?
คนแบบคุณ ทำงานแบบคุณ น่าจะถูกแช่แข็ง ไม่ใช่ประเทศไทย
ปล.ไฮไลท์ ประโยคสุดท้าย วิธีโบราณ มีแต่น้ำ ไร้สาระที่สุด
คนที่เดือดร้อนต้องการรู้แนวทางแก้ปัญหาเร่งด่วนในกรณีนี้
หากเรื่องที่พูดใครๆเขาก็รู้ ใน net เยอะแยะ มันไม่ใช่ประเด็น
ที่ปรึกษาของคุณอายุรวมกัน น่าจะถึงยุคเทือกเขาอัลไต
เปลี่ยนซะเถอะ ก่อนจะต้องกลับไปเทือกเขาอัลไตพร้อมพวกเขา
http://www.dailynews.co.th/thailand/171138
“ชุมพล” มั่นใจเหตุไฟดับเกาะสมุย-เกาะพะงันไม่กระทบยอดนักท่องเที่ยวมาไทย เชื่อสูญรายได้ไม่ถึง 2 หมื่นล้าน โวสถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติปีนี้พุ่งเกินเป้า 21.5 ล้าน นำเงินเข้าประเทศกว่า 8 แสนล้านบาท
ที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 09.30 น. วันที่ 7 ธ.ค. นายชุมพล ศิลปอาชา รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ให้สัมภาษณ์ถึงผลกระทบเรื่องการท่องเที่ยวจากกรณีเกิดเหตุไฟฟ้าดับทั่วเกาะสมุยและเกาะพะงัน ว่า ถือเป็นเหตุสุดวิสัย ซึ่งทางท้องถิ่นและกระทรวงมหาดไทยก็ดูแลแก้ไขกันเต็มที่ เชื่อว่าไม่ส่งผลกระทบต่อจำนวนนักท่องเที่ยวโดยรวมที่จะเดินทางมาประเทศไทย ส่วนตัวเลขความเสียหายนั้น เชื่อว่าไม่น่าจะถึง 2 หมื่นล้านบาท เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นแค่ 2-3 วันเท่านั้น ไม่ได้มีปัญหาอะไรมากมาย อาจกระทบกับผู้ประกอบการที่เสียรายได้บ้างเท่านั้น ซึ่งจากสถิติปีนี้มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยสูงถึง 21.5 ล้านคน เกินกว่าที่ตั้งเป้าไว้ เพราะปีนี้เราตั้งเป้าไว้แค่ 20 ล้านคน ซึ่งเฉพาะเดือน พ.ย. มีนักท่องเที่ยวเข้ามามากถึง 2,073,817 คน ซึ่งถือว่าสูงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ตั้งแต่ตั้งกระทรวงมาไม่เคยมียอดนักท่องเที่ยวเพียงเดือนเดียวสูงถึงขนาดนี้ โดยเป็นนักท่องเที่ยวจากจีนมากเป็นอันดับ 1 ส่งผลให้มีรายได้เข้าประเทศเกิน 8 แสนล้านบาทแล้ว ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวเราดำเนินการอย่างเต็มที่ โดยได้ขอกล้องซีซีทีวีติดตั้งให้ตำรวจท่องเที่ยวในสถานที่สำคัญทุกแห่ง และได้กำชับเป็นพิเศษให้ตำรวจท่องเที่ยวไปดูแลที่เกาะสมุยกับเกาะพะงัน เพราะภาวะที่ไฟฟ้าไม่มี จะต้องดูแลเรื่องความปลอดภัยเป็นสำคัญ
“เมืองไทยถือว่าได้เปรียบที่เป็นศูนย์กลางของการท่องเที่ยวในภูมิภาคนี้ทั้งหมด คนถึงอยากมาประเทศไทย ยิ่งเวลานี้ คนใหญ่ ๆ โต ๆ ที่เป็นผู้นำจากต่างประเทศเดินทางมาไทยทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายกรัฐมนตรีจีน โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีของไทยได้เดินทางเยือนและโรดโชว์มาแล้ว 21 ประเทศ ทำให้ภาพลักษณ์ด้านความเชื่อมั่นที่มีต่อประเทศไทยสูงมาก ” นายชุมพล กล่าว
แก้ไขเมื่อ 07 ธ.ค. 55 17:37:46
แก้ไขเมื่อ 07 ธ.ค. 55 17:36:57
แก้ไขเมื่อ 07 ธ.ค. 55 17:35:27
แก้ไขเมื่อ 07 ธ.ค. 55 16:30:13
แก้ไขเมื่อ 07 ธ.ค. 55 16:28:59