นพ.นิรันดร์ กล่าวว่า การตรวจสอบของกรรมการสิทธิเป็นการดำเนินการโดยจะมีหนังสือเชิญร.ต.อ.เฉลิม และพล.ต.อ.อดุลย์ มาชี้แจงกรณีดังกล่าวอีกครั้งในวันที่ 17 ธ.ค.นี้ เวลา 10.00 น. อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมได้เปิดโอกาสให้ผู้ยื่นคำร้องได้ชี้แจง โดย นายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความของ อพส. กล่าวว่าก่อนการชุมนุมในวันที่ 24 พ.ย. อพส.ได้มีหนังสือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสถานทูตต่างประเทศที่มีที่ตั้งในไทย ให้เข้าใจว่าการชุมนุมที่จะเกิดขึ้นเป็นการชุมนุมสันติวิธีอีกทั้งพูดคุยกับตำรวจแล้ว แต่เมื่อถึงวันชุมนุม กลับพบว่ามีตร.สกัดกั้นการเดินทางของผู้ที่จะมาชุมนุม มีการกันพื้นที่การชุมนุมจำกัดทางเข้า มีการปล่อยงูพิษเข้าไปในพื้นที่ชุมนุม มีการใช้แก๊สน้ำตา พอถึงช่วงเย็นก็ตัดน้ำไฟ ทำให้ต้องประกาศยุติการชุมนุม แสดงให้เห็นว่าการชุมนุมโดยสันติวิธีไม่ได้รับการตอบรับจากรัฐบาล ขณะเดียวกันก็มีการจับกุมผู้ที่ถูกอ้างว่ากระทำผิด เมื่อตนเข้าไปดูแลก็ได้รับการร้องเรียนว่า ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจบังคับ หลอกล่อให้เซ็นรับสารภาพ
ด้านนายตะวัน ตัวแทนผู้ได้รับบาดเจ็บในระหว่างร่วมชุมนุม ก็ชี้แจงว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามผลักดันผู้ชุมนุมที่เข้ามาจากด้านแยกมิสกวันและมีการใช้แก๊สน้ำตา เมื่อตนเองรู้สึกมึน ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตีศีรษะจนล้มลงและกระทืบซ้ำจนสลบไปพอฟื้นก็พบว่าถูกมัดมือไพล่หลัง และถูกนำตัวไปที่สถานีตำรวจพญาไท ก่อนส่งตัวไปควบคุมที่ตชด.ภาค1คลองหลวง ปทุมธานี โดยตลอดเหตุการณ์ไม่ได้รับการปฐมพยาบาล หรือพาตัวไปรักษา ทั้งที่ศีรษะแตกต้องเย็บหลายเข็ม มีอาการปวดหัวอยู่ตลอดเวลา หลังเหตุการณ์ต้องเข้ารักษาตัวที่รพ.ตำรวจ เพิ่งออกมาเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา แต่ใบรับรองแพทย์กลับเขียนว่าบาดเจ็บเล็กน้อย จึงรู้สึกสะเทือนใจมากที่ได้รับการปฏิบัติเช่นนี้จากเจ้าหน้าที่ของรัฐ
http://www.dailynews.co.th/politics/171220
แล้วยุคดีแต่จ้อ ตายเป็นร้อย เจ็บ 2,000 กสม.ไปมุดหัวอยู่ไหนฮ้าฟฟ