 |
การรถไฟ ใช้คำว่าบริการประชาชนหากินมาหลายสิบปีแล้ว
ทั้ง ๆ ที่ประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจอยู่ในระดับต่ำมาก เพราะมีผู้โดยสารทั้งปีระดับ 10 ล้านคน แต่ขาดทุนระดับหมื่นล้านบาทต่อปี
หมายความว่า ขาดทุนต่อผู้โดยสารหนึ่งคนที่ 1,000 บาท
ขณะที่ค่าโดยสารรถไฟปกติ ผมว่าเฉลี่ยไม่ถึง พันบาทแน่ ๆ
หรือคิดง่าย ๆ เก็บเงินผู้โดยสาร 1,000 บาท แต่มีต้นทุนให้บริการประมาณ 2,000 บาท มันไม่มีเหตุผลเลย
ไปที่คำถามของคุณแตงโม
ผมมองว่า มันถึงเวลาต้องปฏิรูป โดยการแยกการรถไฟออกเป็น 3 หน่วยงานแยกกัน
1.การบริหารงานการใช้ที่ดิน ของการรถไฟ ควรมีบริษัทจัดการ เพื่อบริหารเรื่องค่าเช่า ค่าตอบแทน ให้ได้ในอัตราที่เหมาะสมที่สุด ที่ดินผืนไหน ที่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์ สามารถพัฒนาใช้ในทางพาณิชย์ได้ ก็น่าจะพัฒนาขึ้นมา เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับองค์กรได้
ที่ดินบางผืนอยู่ในจุดที่มูลค่าสูง ก็อาจจะเปลี่ยนการใช้ประโยชน์ จากที่ปัจจุบันเป็นที่พักอาศัย หรือหน่วยงานที่ไม่จำเป็นต้องอยู่ตรงนั้น ก็ย้ายออกไปไกลอีกหน่อย
ถ้าทำส่วนนี้ดี ๆ ผลตอบแทนส่วนนี้ต้องเป็นบวก และคิดว่าบวกในหลักหมื่นล้านต่อปีได้ไม่ยาก เพราะที่ดินการรถไฟ มีมากมายทั่วประเทศ แต่ปัจจุบันยังมีการบริหารที่ไร้ประสิทธิภาพอยู่
2.การพัฒนาระบบราง อันนี้เป็นเรื่องที่จำเป็นที่สุด ถ้าหากอยากให้การรถไฟมีพัฒนาการ ยังไงเรื่องรถไฟรางคู่ ก็ต้องทำ ดังนั้นจุดนี้ยังไงรัฐบาลต้องลงทุนเอง และควรมีแผนการทำที่ชัดเจน ว่าแต่ละปีใช้เงินเท่าไหร่ ขยายได้กี่กิโลเมตร โดยเงินอาจจะนำมาจากการบริหารที่ดิน บวกกับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลบางส่วน
ซึ่งจากที่ลองเปิดหาข้อมูล เรื่องรถไฟความเร็วสูงในสองวันนี้ คิดว่าการสร้างรางรถไฟธรรมดา จะตกอยู่ประมาณ กม.ละ 100 ล้านบาท ดังนั้น ถ้าหากมีเงินปีนึงสักสองหมื่นล้าน ก็จะทำได้ประมาณ 200 กม. ถ้าเริ่มในจุดที่มีปริมาณการใช้มากก่อน ทำไปต่อเนื่อง 10-20 ปี น่าจะครอบคลุมได้ทั่วประเทศ และมีการขยายเส้นทาง เพื่อใช้ในการขนส่งสินค้าไปยังจังหวัดที่ปัจจุบันยังไม่มีรางรถไฟไปถึงด้วย
3.การเดินรถไฟ อันนี้เป็นจุดที่คิดว่าควรแปรรูป ให้หาเอกชนมาทำ โดยเมื่อการรถไฟเริ่มทำสองส่วนแรกไป ภาพรวมองค์กรก็จะมีเงินหมุนเวียน และระบบรางพัฒนาไปส่วนนึง ก็เปิดให้เอกชนสัมปทานในเส้นทางที่สามารถทำกำไรได้ก่อน โดยอาจจะได้ค่าสัมปทานมาอุดหนุนในเส้นทางอื่นที่ขาดทุนไปสักระยะหนึ่ง
หลังจากนั้นก็ลองปรับเงื่อนไขสัมปทาน เพราะบางเส้นทางอาจจะขาดทุนเพราะการดำเนินการที่ไม่ดี คือถ้าการรถไฟทำเอง ยังไงก็ขาดทุน แต่ถ้าเอกชนทำอาจจะทำกำไรได้ ก็ต้องหาตัวเลขที่เหมาะสมในเรื่องค่าสัมปทาน
เมื่อแปรรูปให้เอกชนทำหมด ภาพรวมคิดว่า การรถไฟ ก็น่าจะได้ค่าตอบแทนเป็นค่าสัมปทานปีนึงพอสมควร
เมื่อรวม 3 ส่วน จากที่ปีนึงการรถไฟ มีผู้โดยสารปีนึง สิบล้านคน (ไม่รวมพวกเดินทางไม่กี่สถานี) ขาดทุนปีนึง หมื่นล้านบาท และไม่สามารถพัฒนาอะไรได้
กลายมาเป็น มีผู้โดยสารปีนึงเป็นร้อยล้านคน มีผลกำไรเล็กน้อย และมีการพัฒนาทุกปี น่าจะเป็นผลดีกับระบบการคมนาคมของประเทศ และช่วยประเทศประหยัดน้ำมันได้พอสมควรด้วยต่อปี
จากคุณ |
:
Lpg_Horse
|
เขียนเมื่อ |
:
9 ธ.ค. 55 10:47:55
A:110.171.132.154 X:
|
|
|
|
 |