จัดหนัก "มาร์ค" คดีม็อบ 99 ศพ
|
|
วันที่ 09 ธันวาคม พ.ศ. 2555 เวลา 11:53 น.
จัดหนัก "มาร์ค" คดีม็อบ 99 ศพ
การเมือง ข่าวสด
เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกยิ่งกว่าตอนเป็นนายกรัฐมนตรี
จากปรากฏการณ์หนังสือพิมพ์และเว็บ ไซต์สื่อดังระดับโลกทั้ง บีบีซี เอเอฟพี เอพี รอยเตอร์ นิวยอร์กไทม์ เดอะ เทเลกราฟ ซินหัว ฯลฯ พร้อมใจประโคมข่าว
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ ของไทย ถูกทางการตั้งข้อหาคดีฆาต กรรม จากเหตุการณ์ปราบปรามการชุมนุมทางการเมืองเดือนเม.ย.-พ.ค.2553 เมื่อครั้งเป็นรัฐบาล
จนเป็นเหตุให้คนตาย 99 ศพ บาดเจ็บเกือบ 2,000 คน
ขณะที่สื่อไทยก็เปิดพื้นที่รายงานละเอียดยิบต่อความคืบหน้าครั้งสำคัญทางประวัติศาสตร์ เหตุการณ์นองเลือดทางการเมืองครั้งใหญ่สุดของไทยในระดับเดียวกับเหตุการณ์ 14 ตุลาฯ 2516, 6 ตุลาฯ 2519 และพฤษภาทมิฬ 2535
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) หัวหน้าพนักงานสอบสวนคดี 99 ศพ แถลงความเห็นพนักงานสอบสวน 3 ฝ่าย ดีเอสไอ อัยการ ตำรวจ
มีมติแจ้งข้อหานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ และอดีตผอ.ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถาน การณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ฐานร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 59, 83, 84 และมาตรา 288 ระวางโทษอย่างเบาะๆ จำคุก 15-20 ปี หนักหน่อยก็ตลอดชีวิต จนถึงสูงสุดคือโทษประหารชีวิต
การตั้งข้อหา "อภิสิทธิ์-สุเทพ" ครั้งนี้ เป็นผลสืบเนื่องจากข้อเท็จจริงอันเป็นข้อยุติโดยศาล
ตามที่มีคำสั่งในคดีไต่สวนชันสูตรสาเหตุการตายของนายพัน คำกอง ว่าเสียชีวิตจากกระสุนปืนของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่เข้าปฏิบัติการตามคำสั่งของ ศอฉ.
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้ออกหนังสือเชิญ "อภิสิทธิ์-สุเทพ" มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อหาในวันที่ 12 ธ.ค. นี้
แต่ผู้ต้องหาทั้งสองขอเลื่อนเป็นวันที่ 13 ธ.ค.
ตามการวิเคราะห์ของผู้^^วชาญทางการเมืองเชื่อว่า
การตั้งข้อหาอาญาร้ายแรงกับ "อภิสิทธิ์-สุเทพ" ครั้งนี้จะส่งผลสะเทือนอย่างใหญ่หลวง ต่อพรรคประชาธิปัตย์ในฐานะแกนนำฝ่ายค้านแทบทุกมิติ
ถึงกระนั้นก็ยังพอหายใจทั่วท้องได้บ้างว่า ถึงไม่มีเอกสิทธิ์ส.ส.คุ้ม ครอง เนื่องจากอยู่ในระหว่างการปิดสมัยประชุมสภา
แต่เท่าที่ฟังจากนายธาริตคือ วันที่ 13 ธ.ค. ที่ทั้งสองคนนัดเข้ารับทราบข้อหา เมื่อดีเอสไอแจ้งข้อหาและสอบสวนเสร็จก็จะใช้ดุลพินิจปล่อยตัวไป โดยไม่ขอศาลฝากขัง
แปลอีกอย่างก็คือ "อภิสิทธิ์-สุเทพ" ยังไม่ต้องถูกส่งตัวเข้าไปนอนในเรือนจำ เหมือนผู้ต้องหาแกนนำเสื้อแดงหลายๆ คนเคยมีประสบการณ์มาแล้ว
เพราะถึงดีเอสไอจะมีความจริงจังในการทำคดี 99 ศพ แต่ขณะเดียวกันก็ยังต้องเห็นแก่หน้าคนที่เคยเป็นถึงนายกรัฐมนตรี โดยไม่ทำอะไรให้รุนแรงเกินไป แม้จะต้องขัดใจกองเชียร์บ้างก็ตาม
นอกจากนี้การที่ผู้ต้องหาในคดีเป็นแกนนำพรรคฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลโดยตรง
ทางดีเอสไอยิ่งต้องทำทุกอย่างให้รอบคอบรัดกุม เป็นขั้นเป็นตอนโดยยึดตัวบทกฎหมายเป็นหลัก ต้องไม่ทำอะไรก็ตามที่อาจส่อให้เห็นถึงความอาฆาตพยาบาทหรือกลั่นแกล้งทางการเมือง
เพราะได้ชื่อว่าข้อหาฆ่าคนตาย ก็มีความร้ายแรงในตัวของมันเองอยู่แล้ว มีโทษจากเบาไปหาหนักตั้งแต่ติดคุกไปจนถึงประหารชีวิต
ที่สำคัญกระบวนการตอนนี้ยังเป็นแค่ "กระดุมเม็ดแรก" จากคดีการตายของนายพัน คำกอง 1 ใน 99 ศพเท่านั้น
จากการเปิดเผยของนายธาริต ระบุยังมีอีก 35 คดี ที่มีพยานหลักฐานทำให้เชื่อได้ว่า อาจเป็นการตายโดยฝีมือเจ้าหน้าที่รัฐเช่นเดียวกับนายพัน คำกอง
ใน 35 คดี รวมถึงคดีนายชาญณรงค์ พลศรีลา ศพรายที่ 2 ที่ศาลอาญามีคำสั่งชี้ชัดไปแล้วว่า เป็นการตายโดยฝีมือเจ้าหน้าที่รัฐผู้ปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่ง ศอฉ.
ยังมีอีก 3 คดี 3 ศพ คือ นายชาติชาย ชาเหลา ด.ช.คุณากร ศรีสุวรรณ หรือน้องอีซา และนายบุญมี เริ่มสุข
ที่ศาลอาญานัดฟังคำสั่งคดีไต่สวนชันสูตรสาเหตุการตาย ในวันที่ 17 กับ 20 ธ.ค. นี้ และวันที่ 16 ม.ค. ปีหน้า ตามลำดับ
และคาดว่าจะทยอยตามมาอีกเรื่อยๆ
จากสภาพการณ์ดังกล่าวจึงไม่มีความจำเป็นใดที่ดีเอสไอต้องไปกลั่นแกล้งนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ แค่ปล่อยให้ทุกอย่างว่ากันไปตามกระบวนการกฎหมาย
ช้าหน่อย แต่ชัวร์กว่า
เพราะขนาดดีเอสไอชี้แจงว่าการตั้งข้อหาฆ่า เป็นการดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายที่ต่อยอดมาจากคำสั่งศาลยุติธรรมในคดีชันสูตรสาเหตุการตายของเหยื่อ
ก็ยังถูกพรรคที่ผู้ต้องหาทั้งสองสังกัดอยู่โจมตีว่า การเร่งรีบตั้งข้อหาอภิสิทธิ์-สุเทพ ช่วงนี้มีการตั้งธงไว้ล่วงหน้า เพื่อให้ทันก่อนเปิดสมัยประชุมสภาวันที่ 21 ธ.ค. จะได้ไม่มีเอกสิทธิ์ส.ส.คุ้มครอง
พรรคประชาธิปัตย์พยายามกรอกหูประชาชนในสังคมว่า ตนเองกำลังตกเป็นฝ่ายถูกรัฐบาลที่ใช้ดีเอสไอเป็นเครื่องมือกลั่นแกล้งคุกคาม
แล้วก็เป็นนายอภิสิทธิ์ที่พยายามเก็บอาการ ทำใจดีสู้เสือ ในฐานะอดีตนายกฯ คนแรกของไทยที่ถูกตั้งข้อหาดำเนินคดีอาญาร้ายแรง จากการออกคำสั่งใช้กำลังอาวุธปืนและกระสุนจริงเข้าสลายการชุมนุมของประชาชน
ตายเกือบร้อย เจ็บนับพัน
กระนั้นก็ยังยืนยันการดำเนินการช่วงสลายการชุมนุมอยู่ภายใต้การประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จุดประสงค์เพื่อต้องการให้บ้านเมืองเข้าสู่ภาวะปกติ
ไม่เคยมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่สลายการชุมนุม แต่ยังให้หลีกเลี่ยงการใช้กำลังทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมถึงแก่ชีวิต และการปฏิบัติหน้าที่ทุกครั้งมีการร้องขอต่อศาลเพื่อให้มีคำสั่งอนุญาต
พร้อมประกาศว่าถึงที่สุดหากศาลตัดสินให้มีความผิดถึงขั้นต้องติดคุก หรือถูกประหารชีวิต ก็พร้อมยอมรับคำตัดสิน โดยจะไม่ยอมต่อรอง แลกกับการที่รัฐบาลชุดนี้พยายามจะออกกฎหมายล้างผิดคนโกงเด็ดขาด
เป็นวาทกรรมที่ฟังแล้วดูดี
แต่อีกมุมหนึ่งก็สะท้อนถึงความเป็นประชาธิปัตย์ ไม่ว่าในยามประสบความสำเร็จรุ่งโรจน์หรือตกต่ำถึงขีดสุด
ก็ไม่เคยก้าวข้ามพ้น "ทักษิณ" เพื่อกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริงได้เลย
ข่าวสดออนไลน์
จากคุณ |
:
น้ำมิตร
|
เขียนเมื่อ |
:
9 ธ.ค. 55 18:43:26
A:58.8.187.109 X:
|
|
|
|