มติดีเอสไอ ไม่ฝากขัง'มาร์ค-เทือก' 4เงื่อนไขปล่อยตัว...เงื่อนไขข้อ 4 สำคัญและมีผลนะเออ ฉะนั้น ได้เวลาหุบปากแร้วววนายน่ะ
|
|
มติดีเอสไอ ไม่ฝากขัง'มาร์ค-เทือก' 4เงื่อนไขปล่อยตัว
ดีเอสไอมีมติไม่คุมตัว 'มาร์ค-เทือก' ฝากขังศาลอาญา หลังรับทราบข้อกล่าวหาสั่งสลายการชุมนุมเสื้อแดง 13 ธ.ค. พร้อมกำหนด 4 เงื่อนไขในการปล่อยตัว...
เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายคารม พลกลาง ทนายความ นปช. พร้อมนางหนูชิต คำกอง ภรรยานายพัน คำกอง และนางสุริยัน พลศรีลา ภรรยานายชาญณรงค์ พลศรีลา ที่ศาลอาญาไต่สวนสาเหตุการตายว่า เกิดจากกระสุนปืนเจ้าหน้าที่ทหารที่ปฏิบัติตามคำสั่งศูนย์อำนวยการแก้ไข สถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) พร้อมญาติของผู้เสียชีวิตจากการสลายการชุมนุมเดือน เม.ย.-พ.ค.53 ประมาณ 20 คน เข้าพบนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน คดีการตายของผู้ร่วมชุมนุมทางการเมือง เพื่อยื่นหนังสือคัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราวนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง อดีต ผอ.ศอฉ. กรณีจะเข้ารับทราบข้อกล่าวหาร่วมกัน ก่อให้ผู้อื่นฆ่าคนตายโดยเจตนา เล็งเห็นผลในวันที่ 13 ธ.ค. พร้อมให้ดีเอสไอควบคุมตัวทั้ง 2 คน ส่งฝากขังต่อศาลอาญาทันที
นาย คารม กล่าวว่า คดีที่นายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ ถูกกล่าวหามีอัตราโทษสูงทั้งสองคน เคยเป็นอดีตผู้บังคับบัญชาสูงสุดของข้าราชการ จึงกังวลว่าการที่เป็นผู้ใหญ่ทางการเมืองที่ถือได้ว่ามีอิทธิพล อาจทำให้บุคคลที่จะเป็นพยานในคดี เกิดความเกรงกลัว จึงจะให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษนำตัวบุคคลทั้งสองไปฝากขังต่อศาลอาญาไว้ใน ระหว่างการสอบสวน โดยให้อธิบดีดีเอสไอใช้ดุลพินิจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความคดีอาญา มาตรา 134 หรือหากจะอนุญาตให้มีการปล่อยตัวชั่วคราว พนักงานสอบสวนก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยใช้หลักประกันสูงและมีเงื่อนไขต่างๆ เหมือนกรณีที่เคยปฏิบัติต่อแกนนำ นปช. ในคดีที่ดีเอสไอเป็นพนักงานสอบสวน เพื่อให้มีมาตรฐานเดียวกัน โดยจะจับตาว่า นายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ ทำผิดเงื่อนไขใดหรือไม่ จนกว่าจะถึงขั้นชั้นศาล
ต่อมาเวลา 15.30 น. นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวหลังเรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษว่า ดีเอสไอมีดุลพินิจที่จะสามารถนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ไปขออำนาจหมายศาล เพื่อออกหมายขังหรือไม่ก็ได้ ที่ประชุมเห็นพ้องต้องกัน ที่จะใช้ดุลพินิจไม่นำตัวนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ ไปขอศาลออกหมายขัง เนื่องจากทั้ง 2 เป็นอดีตข้าราชการฝ่ายการเมืองระดับสูง รวมทั้งเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีและรองอดีตนายกรัฐมนตรี และทั้ง 2 ก็เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในปัจจุบันด้วย ทั้ง 2 ก็ยังไม่มีพฤติการณ์ใดๆ ที่จะส่อให้เห็นว่าจะหลบหนีหรือหยุงเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือก่อเหตุร้ายประการอื่น ดังนั้น ดีเอสไอจึงใช้ดุลพินิจไม่นำตัวทั้ง 2 ไปศาลเพื่อออกหมายขัง แต่ดีเอสไอจะขอทำตกลงกับทั้ง 2 ท่าน เพื่อกำหนดเป็นข้อตกลง 4 ประการ ได้แก่ 1. ผู้ต้องหาจะไม่มีพฤติการณ์หลบหนี ทั้งนี้ หากจะมีการเดินทางออกนอกประเทศ จะต้องแจ้งขอความเห็นชอบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษก่อนทุกครั้ง 2. ผู้ต้องหาจะไม่หยุงเหยิงกับพยานหลักฐาน 3. ผู้ต้องหาจะต้องไม่ก่อเหตุอันตรายประการอื่น 4. ผู้ต้องหาจะต้องไม่กระทำการใดๆ ที่อาจเป็นอุปสรรค หรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อการสอบสวนของเจ้าพนักงาน เงื่อนไขทั้ง 4 ข้อเป็นถ้อยคำในกฎหมายกำหนดไว้ และเชื่อว่าทั้ง 2 ท่าน จะไม่ขัดข้องต่อเงื่อนไขดังกล่าว
ฝากไปยังภรรยาผู้ตายจากเหตุสลายการชุมนุมว่าขอให้มั่นใจว่า ดีเอสไอจะทำงานอย่างตรงไปตรงมา และให้ความยุติธรรม 2 ฝ่าย ทั้งฝ่ายผู้เสียหายและผู้ต้องหา
ที่มา...ไทยรัฐออนไลน์ 11 ธันวาคม 2555, 18:52 น. http://www.thairath.co.th/content/pol/312631
?????????????????????????????
"......4. ผู้ต้องหาจะต้องไม่กระทำการใดๆ ที่อาจเป็นอุปสรรค หรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อการสอบสวนของเจ้าพนักงาน...."
ยิ่งพูดก็ยิ่งเข้าตัว ยิ่งแก้ตัวก็ยิ่งพันหัวพันหางตัวเอง...
ได้เวลาเลิกก้าวล่วงกับขั้นตอนการสอบสวนของเจ้าพนักงานได้แร้ววว หุบปากอยู่นิ่งๆ ทำตาใสๆ หาง..เอ๊ย..คอตกๆเข้าไว้ และก้มหัวรอรับเครื่องประหารหัวสุนัขได้ ณ บัดนาว......
จากคุณ |
:
tinthong
|
เขียนเมื่อ |
:
12 ธ.ค. 55 07:41:24
A:125.27.192.91 X:
|
|
|
|