ขยายความวาทะอภิสิทธิ์ ความตาย ?จี20-บลัดดี้ซันเดย์"
|
|
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1355458002&grpid=&catid=01&subcatid=0100
คอลัมน์ สกู๊ปพิเศษ ต่างประเทศ ข่าวสด 14 ธันวาคม 2555
คําให้สัมภาษณ์ของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี กับผู้ดำเนินรายการหญิงของบีบีซี ถึงประเด็นความรับผิดชอบต่อการใช้ "กระสุนจริง" รับมือเหตุการณ์ชุมนุมเมื่อเดือนเม.ย.-พ.ค. 2553 ที่มีผู้เสียชีวิตแล้ว 99 ราย กำลังเป็นที่กล่าวถึงไปทั่ว
หลายคนฮือฮากับสไตล์การสัมภาษณ์แบบ "กัดไม่ปล่อย" ของผู้ประกาศข่าวหญิงหลากผลงาน มิชาล ฮูเซน ที่จี้ถามนายอภิสิทธิ์เกือบทุกช่วง ขณะที่วาทะของนายอภิสิทธิ์ที่ว่า "โชคร้ายที่มี คนตาย" ก็เป็นที่วิจารณ์กันแพร่หลายเช่นกัน
ในช่วงหนึ่งนายอภิสิทธิ์อ้างถึงเหตุการณ์ที่มี ผู้ประท้วงคนหนึ่งเสียชีวิตระหว่างการประท้วง G20 ในกรุงลอนดอน เมื่อวันที่ 1 เม.ย.2552 พร้อมระบุว่า ในเหตุการณ์ครั้งนั้น นายกรัฐมนตรีอังกฤษก็ไม่ต้องรับผิดชอบ เหตุใดตนเองจึงถูกตั้งข้อหาฆ่าคนตาย จากกรณี "โชคร้ายที่มี คนตาย"
กรณี G20 เกิดขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลกำลังเผชิญหน้ากับผู้ประท้วง นายเอียน ทอมลินสัน อายุ 47 ปี เดินผ่านมาดูเหตุการณ์ แต่เจ้าหน้าที่คนหนึ่งใช้กระบองฟาดและผลักนายทอมลินสันล้มลง ต่อมาไม่กี่นาที นาย ทอมลินสันก็เสียชีวิต
มีข้อสังเกตว่าเหตุสลดนี้ยังห่างไกลจากเหตุการณ์ 99 ศพในไทยมาก แต่ถึงแม้มีผู้เสียชีวิตเพียงรายเดียวโดยการกระทำของ เจ้าหน้าที่เพียงคนเดียว ทางการอังกฤษก็กำหนดระเบียบควบคุมพฤติกรรมตำรวจมากขึ้น
กรณี G20 จึงเปรียบเทียบกับการกระทำของนายอภิสิทธิ์ไม่ได้
แต่ก็มีอีกกรณีหนึ่งในประวัติศาสตร์อังกฤษที่พอเทียบได้และเป็นกรณีศึกษาที่ควรเรียนรู้อย่างยิ่ง นั่นคือเหตุการณ์ "วันอาทิตย์สีเลือด" หรือ Bloody Sunday
ในเหตุดังกล่าวทหารอังกฤษยิงปืนใส่กลุ่มผู้ชุมนุมกว่า 10,000 คน ที่เดินขบวนกลางเมืองลอนดอนเดอร์รี ในไอร์แลนด์เหนือ เมื่อวันที่ 30 ม.ค.2515 ท่ามกลางกระแสเรียกร้องให้ไอร์แลนด์เหนือแยกตัวจากสหราชอาณาจักร เนื่องจากความขัดแย้งทางเชื้อชาติ-ศาสนา ในครั้งนั้น มีผู้เสียชีวิต 13 ราย
ในระยะแรก กองทัพอังกฤษชี้แจงว่าผู้ชุมนุมทำผิดกฎหมาย เพราะมีคำสั่งก่อนหน้านี้ที่ห้ามการเดินขบวนในเมืองดังกล่าว พร้อมอ้างว่า ผู้ชุมนุม "ฮาร์ดคอร์" บางส่วนเริ่มขว้างปาสิ่งของใส่ทหารอังกฤษที่ยืนคุมเชิงอยู่ อีกทั้งยังมี "ชายชุดดำ" จากขบวนการ ติดอาวุธ "ไออาร์เอ" แฝงตัวมาในที่ชุมนุมและยิงปืนใส่เจ้าหน้าที่รัฐก่อน ทหารจึงต้องใช้อาวุธปืนตอบโต้
เกือบ 40 ปีผ่านไป รัฐบาลอังกฤษเพิ่งเปิดผลการสอบสวนเหตุการณ์ บลัดดี้ ซันเดย์ เมื่อเดือนมิ.ย.2553 โดยระบุว่า แท้จริงแล้วไม่มีทหารคนใดถูกผู้ชุมนุมยิงใส่เลย และผู้เสียชีวิตก็ไม่มีอาวุธตามศพดังที่กองทัพและสื่ออังกฤษบางฉบับกล่าวอ้าง ซ้ำร้ายเหยื่อบางรายถูกยิงขณะพยายามวิ่งไปช่วยเหลือผู้ที่บาดเจ็บหรือเสียชีวิตด้วย
นอกจากนี้ยังชี้ว่า ทหารไม่ได้ประกาศเตือนก่อน และยิงปืนใส่ผู้ชุมนุมอย่างไม่เลือกหน้า ต่อมาก็โกหกต่อคณะกรรมการสอบสวนต่างๆ นานา เพื่อกลบเกลื่อนความผิดของตนเอง
ขณะเดียวกัน รายงานสรุประบุว่ามีกลุ่มไออาร์เอที่ซุ่มตามอาคารยิงปืนใส่ทหารในวันนั้นจริง แต่เป็นการยิงตอบโต้ทหารที่เปิดฉากยิงใส่ผู้ชุมนุมก่อน ซึ่งรายงานก็ย้ำว่า ไม่มีเหตุอันควรให้กองทัพเปิดฉากยิงแต่แรกเลย
เมื่อข้อมูลนี้เปิดเผยขึ้น นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ก็กล่าวขอโทษในนามรัฐบาลอังกฤษต่อประชาชนทันที ทั้งที่ไม่ได้เป็นผู้นำประเทศขณะเกิดเหตุ และรายงานก็สรุปว่า เป็นความผิดของกองทัพในพื้นที่ที่ควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ ไม่ใช่คำสั่งฆ่าจากรัฐบาลอังกฤษ
สำหรับนายอภิสิทธิ์เคยกล่าวถึงเหตุการณ์ บลัดดี้ ซันเดย์ ในการให้สัมภาษณ์นักข่าวบีบีซีที่เดินทางมาทำสารคดีเรื่อง Justice Under Fire เมื่อปี 2554 โดยกล่าวย้อนนักข่าวว่า "การสอบสวนต้องใช้เวลา ดูพวกคุณสิ ใช้เวลาตั้งกี่ปีกว่าจะรู้ความจริงเกี่ยวกับบลัดดี้ ซันเดย์"
ผู้สื่อข่าวนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบว่า "เผอิญผมเป็นคนไอร์แลนด์พอดี ผมเลยทราบตั้งนานแล้วครับว่าใครฆ่าประชาชนในเหตุการณ์บลัดดี้ ซันเดย์" (!!!)
จากคุณ |
:
phahurat
|
เขียนเมื่อ |
:
14 ธ.ค. 55 13:34:56
A:37.75.131.210 X:
|
|
|
|