ความคิดเห็นที่ 1 .         นานๆ Post_ราชดำเนิน ที   K.WTKn  ยังมาเจอ + มาให้Gift  ... Thank.. You >> Thank.. You             จากคุณ : ไม่ต้องประหาร_ตัดลิ้นสถานเดียว (ศิษย์ซุนวู) เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 23:33:20 A:125.24.94.94 X:

ความคิดเห็นที่ 2 ลงชื่อแล้วเมื่อวาน  เพราะโดนดีเอสไอ  กระแอมใส่หน้าว่า ขืนไม่ยอมลงชื่อจะนำตัวส่งศาลฝากขัง เท่านั้นแหละ   ตัวสั่นงันงก  รีบเซ็นชื่อรับทราบเงื่อนไข  และพิมพ์มือ http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1355484083&grpid=00&catid=&subcatid= จากคุณ : สาละวิน เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 23:35:34 A:14.207.98.89 X:

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่มั้ง  พี่สาละวิน   มาร์คกับเทือกเขาออกกล้าหาญเด็ดเดี่ยว ขนาดประกาศลั่น  ถ้าศาลพิพากษาลงโทษประหารชีวิต ก็จะยอมรับ แค่ส่งศาลฝากขัง   เรื่องจิ๊บๆ เด็กๆกว่าประหารชีวิตเยอะ    จะตัวสั่นงันงกได้ไง จากคุณ : Hooley Houllier เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 23:44:27 A:171.98.112.93 X:

ความคิดเห็นที่ 4 เรื่องนี้นักกฎหมายเห็นแตกต่างกัน พรก ฉุกเฉินคุ้มครองเจ้าหน้าที่หมายถึงใครบ้าง และกรรมการศอฉ ได้แก่อัยการ คุณธาริตจะปัดความรับผิดชอบได้หรือ ในเมื่อกรรมการเสนอแผน คุุณสุเทพ ลงนามสุดท้าย แล้วอัยการเองจะเป็นผู้ฟ้องหรือผู้แก้ต่าง เสียเอง และถ้าเรื่องนี้โดน มัสยิดกรือเซะย่อมตามมา และนายกอีกหลายคนอาจโดนด้วยเช่นกันหนีไม่พ้น แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 55 23:52:04 จากคุณ : ไป่ฉี เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 23:49:20 A:1.1.168.79 X:

ความคิดเห็นที่ 5 กรือเซะเป็นเรื่องคนมีอาวุธไม่ยอมจำนน  ท่านไป่ฉีก็รู้ดี  จึงโดนวิสามัญฯ ส่วนอภิสิทธิ์และเทพเทือกต้องรับเต็มๆในฐานะคนออกคำสั่งให้ทหารเข้าสลายม็อบ  แม้จะไม่สั่งให้ฆ่า  แต่เมื่อคนตายเป็นเบือหลายวันติดต่อกันก้ไม่ยอมแก้ไขคำสั่ง  จึงเข้าข่ายเจตนาให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายเล็งเห็นผล ข้อหานี้ เจ๋งจริงๆ   ตรงกับความจริงเป๊ะ อีกอย่าง ตราบใดที่เป็นฝ่ายแพ้เลือกตั้ง  อย่าหวังว่าจะชนะคดีได้ และที่สำคัญ  คนตายและบาดเจ็บขนาดนี้ หากไม่มีคนรับผิดชอบ  ประเทศไทยคงไม่เหลือความยุติธรรมให้ประชาชนอุ่นใจได้อีกต่อไป จากคุณ : สาละวิน เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 23:55:52 A:14.207.98.89 X:

ความคิดเห็นที่ 6 เมื่อไหร่อ่านกระทู้  จะเลิกโยงทักษิณไปแนวอื่นบ้างเถอะ คุณ ไปฉี่ จากคุณ : susypanda (susypanda) เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 00:14:52 A:110.168.54.200 X:

ความคิดเห็นที่ 7 กรือเซะถูกล้อมหมดสุดท้ายย่อมถูกจับโดยง่าย ชวลิตไม่ให้ลงมือ แต่คนเหนือกว่ากลับให้ดำเนินการเด็ดขาด คำสั่งเล็งเห็นผลเช่นกัน และในนั้นไม่ได้มีอาวุธทุกคน มีอาวุธ หรือไม่มี ต่อสู้หรือจะยอมแพ้ตายหมด อีกหลายกรณีที่ยิงพลาด นายกผู้ประกาศพรก ฉุกเฉิน ต้องโดนคดีหรือไม่ คุณ สาละวิน ก็สารภาพเองว่าโดน คดีเพราะแพ้เลือกตั้งแสดงว่าเป็นการเมือง การเมืองบ้านเราแทรกแซงกระบวนการสอบสวนได้ แต่ดีหน่อยที่ศาลเป็นกลาง กฎหมายคุ้มครอง กลั่นแกล้งก็อาจโดนกลับเช่นกัน ตอนนี้แค่เริ่มต้น แต่ความเห็นที่ฟังมา น่าสนใจว่า พรก ฉุกเฉิน คุ้มครองเจ้าที่ นั้นระดับใดบ้าง นายก ผู้ออก พรก หัวหน้าศอฉ คือคุณสุเทพ และกรรมการเช่นอัยการ ทหาร คุณธาริต คุณถวิล ผู้เสนอคำสั่งให้คุณสุเทพลงนาม คุ้มครองหรือไม่ แต่ความจริงน่าจะไปด้วยเพราะคุณสุเทพก็เซนต์คำสั่งตามความเห็นกรรมการ เรื่องนี้ถ้าตีความแตกต่าง ก็ต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญ คุณถวิลพูดถูกธาริตเสียทั้ง 2 ทาง ท่านสุเทพโดน ธาริตก็น่าจะโดน ถ้าไม่โดนก็โดนฟ้องฐานกลั่นแกล้งให้ผู้อื่นรับโทษหรือแจ้งเท็จ จากคุณ : ไป่ฉี เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 00:20:38 A:1.1.168.79 X:

ความคิดเห็นที่ 8 อย่าไปให้สิทธิอะไรเหนือมนุษย์ครับ เอาพอเหมาะสม มันยิ่งเข้าใจว่าตัวเองเป็นเทวดามาเกิด ทำอะไรไม่ผิด ต้องได้รับสิทธิเหนือคนทั่วไป พ่อ แม่ ปลุกฝังความคิดผิดๆ มาตั้งแต่เด็ก เลยเพี้ยน มาตลอด จากคุณ : AMR DIAB เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 00:24:22 A:124.121.34.223 X:

ความคิดเห็นที่ 9 *4 อันนั้นท่านก็เเถเกินไปนะ จากคุณ : ขิงแห้ง เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 00:28:46 A:171.97.159.90 X:

ความคิดเห็นที่ 10 *4 ถ้ามันจะตีความให้ต่างอย่างที่ท่านคิด ก็ย่อมที่จะทำได้อยู่เเล้วล่ะครับ เปิดพจนานุกรมตัดสินยังทำมาเเล้ว เรื่องเเค่นี้ ขี้เเมวมาก จากคุณ : ขิงแห้ง เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 00:31:18 A:171.97.159.90 X:

ความคิดเห็นที่ 11 ไม่ใช่ใช้สิทธิเหนือมนุษย์ กฎหมายเขียนเพื่อใ้สังคมอยู่ได้ ถ้าพลาดต้องรับหมดในสถานการณ์ที่เป็นอันตรายร้ายแรง เช่นเกิดกบฎ นำกำลังเข้าต่อสู้ การต่อสู้นั้นย่อมมีการพลาด พรก ฉุกเฉิน ถูกเขียนเพื่อรองรับความจำเป็นสำคัญ แต่ถ้าสถานการณ์เห็นต่างก็ฟ้องศาล ระงับคำสั่งได้ แต่เมื่อคุณจตุพรฟ้อง ศาลเองก็ให้ความเห็นว่าสถานการณ์ขณะนั้นสามารถประกาศได้ จึงให้อำนาจฝ่ายบริหารควบคุมสถานการณ์ให้กลับมาสู่ปกติ จากคุณ : ไป่ฉี เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 00:33:32 A:1.1.168.79 X:

ความคิดเห็นที่ 12 ไปฉี่  เอาที่คุณคิดเเล้วสบายใจก็เเล้วกันนะ ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะไปเเย้งให้มันได้อะไรขึ้นมา มาถึงตรงนี้เเล้ว ถ้าไม่มืดบอดจนเกินไป ก็น่าจะเห็นความจริงบ้าง ไม่มากก็น้อย จากคุณ : ขิงแห้ง เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 00:38:59 A:171.97.159.90 X:

ความคิดเห็นที่ 13 ขอโทษที ไป่ ไม่ใช่ ไป จากคุณ : ขิงแห้ง เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 00:39:42 A:171.97.159.90 X:

ความคิดเห็นที่ 14 เรื่องความจริงต้องผ่าน ปปช โดยสรุป ว่าเกินกว่าเหตุหรือไม่ ที่ระดับใด นายกอภิสิทธิ์ ประกาศ พรก ฉุกเฉินทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ กรรมการเสนอคำสั่งเกินกว่าเหตุหรือไม่ หัวหน้าศอฉ สั่งคำสั่งที่ไม่ตรงกับความเห็นกรรมการหรือไม่. และมีคำสั่งไหนบ้างที่คุณสุเทพออกไม่ผ่านกรรมการ ส่วนการแจ้งข้อกล่าวหา ก็ต้องดูว่าเข้าข่ายกลั่นแกล้งให้ผู้อื่นได้รับโทษ หรือเลือกปฏิบัติหรือไม่ นั้น ทาง ปชป ก็รอว่าฝ่าย DSI. จะดำเนินการอะไรแค่ไหน จึงจะดำเนินการผ่านศาลเพื่อฟ้องกลับ จากคุณ : ไป่ฉี เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 00:45:43 A:1.1.168.79 X:

ความคิดเห็นที่ 15 อันนี้มันเกินกว่าจะคำว่าเกินแก่เหตุแล้ว คนตายเป็นประชาชนธรรมดามือเปล่าจำนวนมาก  บาดเจ็บอีกเยอะ  หาใช่กองกำลังติดอาวุธไม่     ถ้ามีชายชุดดำตายบ้างอาจจะอ้างได้ว่าประชาชนโดนลูกหลง    แต่นี่ไม่เลย    กระสุนจริงโดนแต่ประชาชนล้วนๆ      คนเป็นนายกฯที่ดีต้องหยุดคำสั่งยิง  หรืออย่างน้อยต้องออกคำสั่งห้ามใช้กระสุนจริงแล้ว แต่นี่ไม่เลย มาร์คกับเทือก  สั่งเอาๆอย่างมันมือ ยั้งไม่อยู่แล้วหรืออย่างไร จากคุณ : Hooley Houllier เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 01:05:51 A:171.98.112.93 X:

ความคิดเห็นที่ 16 เอาตามที่คุณเข้าใจก็เเล้วกันครับ ผมก็จะรอดูว่าจะจบลงที่ตรงไหน เเต่อย่างน้อย ตอนนี้ก็ดีใจมากเเล้ว ที่ได้เห็นอภิสิทธิ์พิมพ์มือยอมรับคำกล่าวหา เชื่อว่าคนที่มีคุณธรรมทั้งหลายก็น่าจะพอใจเช่นกัน ผมว่า ผมเข้าใจความรู้สึกคุณนะ เเต่ช่วยอะไรไม่ได้จริงๆ มันเป็นเรื่องของกรรมครับ  ก่อไว้ ย่อมต้องได้รับ เป็นธรรมดาโลก จากคุณ : ขิงแห้ง เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 01:06:46 A:171.97.159.90 X:

ความคิดเห็นที่ 17 ตอบความเห็น 15 เป็นประเด็นทำไมเมื่อมีคนตายไม่ได้หยุดปฎิบัติการ การรับทราบข้อมูลจากฝ่ายสั่งการคนกรรมการและหัวหน้าศอฉ การตายอาจเกิดได้จาก สองทางคือมีผู้หวังผลให้เกิดความตาย คือซุ่มยิงผู้บริสุทธิ์ และอาจเกิดจากข้อผิดพลาดจากการปฏิบัติงาน เรื่องนี้ถ้าเป็นกรณีแรก ถ้าควบคุมสถางนการณ์ได้เร็วสุดย่อมสูญเสียน้อยสุด ส่วนกรณีหลังคือเจ้าหน้าที่ผิดพลาดโดยปกติเจ้าหน้าที่จะไม่ยิงถ้าไม่ใช่การต่อสู้ แต่ด้วยระยะที่ห่างมาก เจ้าหน้าทีผู้ปฏิบัติย่อมไม่ทราบว่าเกิดจากข้อผิดพลาดของตนจนกว่าการสอบสวนหลังเหตุการณ์สิ้นสุด ดังนั้นจึงยากที่จะประเมินความผิดพลาดในสถานการณ์ที่สู้รบกับด้วยอาวุธสฃคราม จากคุณ : ไป่ฉี เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 01:34:42 A:1.1.168.79 X:

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณ คุณไป่ฉี ที่แย้งครับ ได้ความรู้ครับ จากคุณ : โพสต์บนเตาถ่าน (โบกกรัก) เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 01:35:33 A:197.218.65.22 X:

ความคิดเห็นที่ 19 ที่ผ่านมาใครเคยเห็นเขาออกมาแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ้างหรือยัง ถ้ายังนี่ไม่สำนึกนะ และยังไม่รับรู้ด้วยว่าเกิดความผิดพลาดจากคำสั่งตน คุณเป็นบุคคลที่มีอำนาจสูงสุดขณะนั้นที่จะหยุดการกระทำที่ก่อให้เกิดการสูญเสียชีวิตของประชาชนได้ ทำไมคุณไม่หยุด ทำไมคุณไม่หยุด ทำไมคุณไม่หยุด ยืนยันว่านอนฝันร้ายทุกคืนแน่ ไม่ยอมรับ ไม่ใช่ไม่รู้ว่าผิด มันกัดกินจิตวิญญาณของเขาเองนั่นแหละ เกินกว่าเหตุหรือไม่ ไม่สำคัย สำคัญที่ ทำไมไม่สั่งให้ยุติ และ เปลี่ยนแปลงแก้ไข วิธีการปฏิบัติเสียใหม่ ที่ร่างมามันสวยหรูดูดี แต่สั่งไปแล้วผู็รับคำสั่ง ไม่ได้อยู่ในกรอบของกฏระเบียบที่ร่างเอาไว้ ทำไมไม่หยุด ขอสาปแช่งให้คุณอภิสิทธิ์เป็นบุคคลที่ไม่สามารถพูดจาแบบบิดพริ้วได้อีกต่อไป ขอให้จากนี้ไปคุณเป็นคนตรงไปตรงมา จากคุณ : have a good days เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 01:41:08 A:223.205.90.225 X:

ความคิดเห็นที่ 20 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๓๔ บัญญัติว่า เมื่อผู้ต้องหาถูกเรียก หรือส่งตัวมา หรือเข้าหาพนักงานสอบสวนเอง หรือปรากฎว่าผู้ใดซึ่งมาอยู่ต่อหน้าพนักงานสอบสวนเป็นผู้ต้องหา ให้ถามชื่อตัว ชื่อรอง ชื่อสกุล สัญชาติ บิดามารดา อายุ อาชีพ ที่อยู่ ที่เกิด และแจ้งให้ทราบถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทำที่กล่าวหาว่าผู้ต้องหาได้กระทำผิด แล้วจึงแจ้งข้อหาให้ทราบ การแจ้งข้อหาตามวรรคหนึ่่ง จะต้องมีหลักฐานตามสมควรว่าผู้นั้นน่าจะได้กระทำผิดตามข้อหานั้น ผู้ต้องหามีสิทธิได้รับการสอบสวนด้วยความรวดเร็ว ต่อเนื่อง และเป็นธรรม พนักงานสอบสวนต้องให้โอกาสผู้ต้องหาที่จะแก้ข้อหาและที่จะแสดงข้อเท็จจริงอันเป็นประโยชน์แก่ตนได้ เมื่อได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว ถ้าผู้ต้องหาไม่ใช่ผู้ถูกจับและยังไม่ได้มีการออกหมายจับ แต่พนักงานสอบสวนเห็นว่ามีเหตุที่จะออกหมายขังผู้นั้นได้ตามมาตรา ๗๑ พนักงานสอบสวนมีอำนาจสั่งให้ผู้ต้องหาไปศาลเพื่อขอออกหมายขังโดยทันที แต่ถ้าขณะนั้นเป็นเวลาที่ศาลปิดหรือใกล้จะปิดทำการให้พนักงานสอบสวนสั่งให้ผู้ต้องหาไปศาลในโอกาสแรกที่ศาลเปิดทำการ กรณีเช่นว่านี้ให้นำมาตรา ๘๗ มาบังคับแก่การพิจารณาออกหมายขังโดยอนุโลม หากผู้ต้องหาไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานสอบสวนดังกล่าว ให้พนักงานสอบสวนมีอำนาจจับผู้ต้องหานั้นได้ โดยถือว่าเป็นกรณีจำเป็นเร่งด่วนที่จะจับผู้ต้องหาได้โดยไม่มีหมายจับ และมีอำนาจปล่อยชั่วคราว หรือควบคุมตัวผู้ต้องหานั้นไว้ได้ มาตรา ๗๑ วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า เมื่อได้ตัวผู้ต้องหาหรือจำเลยมาแล้ว ในระยะใดระหว่างสอบสวน ไต่สวนมูลฟ้อง หรือพิจารณา ศาลจะออกหมายขังผู้ต้องหาหรือจำเลยไว้ตามมาตรา ๘๗ หรือมาตรา ๘๘ ก็ได้ และให้นำมาตรา ๖๖ มาใช้บังคับโดยอนุโลม..." มาตรา ๖๖ บัญญัติว่า เหตุที่จะออกหมายจับได้ (หมายขังก็เช่นเดียวกัน) มีดังต่อไปนี้ (๑) เมื่อมีหลักฐานตามสมควรว่าบุคคลใดน่าจะได้กระทำความผิดอาญา ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกินสามปี หรือ (๒) เมื่อมีหลักฐานตามสมควรว่าบุคคลใดน่าจะได้กระทำความผิดอาญาและมีเหตุอันควรเชื่อว่าจะหลบหนี หรือจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือก่อเหตุร้ายประการอื่น ถ้าบุคคลนั้นไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง หรือไม่มาตามหมายเรียก หรือตามนัดโดยไม่มีข้อแก้ตัวอันควร ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าบุคคลนั้นจะหลบหนี มาตรา ๘๗ บัญญัติว่า ห้ามมิให้ควบคุมผู้ถูกจับไว้เกินกว่าจำเป็นตามพฤติการณ์แห่งคดี ในกรณีความผิดละหุโทษ จะควบคุมผู้ถูกจับไว้ได้เท่าเวลาที่จะถามคำให้การและที่จะรู้ตัวว่าเป็นใครและที่อยู่ของเขาอยู่ที่ไหนเท่านั้น ในกรณีที่ผู้ถูกจับไม่ได้รับการปล่อยชั่วคราว และมีเหตุจำเป็นเพื่อทำการสอบสวน หรือการฟ้องคดี ให้นำตัวผู้ถูกจับไปศาลภายในสี่สิบแปดชั่วโมงนับแต่เวลาที่ผู้ถูกจับถูกนำตัวไปถึงที่ทำการของพนักงานสอบสวนตามาตรา ๘๓ เว้นแต่มีเหตุสุดวิสัยหรือเหตุจำเป็นอย่างอื่นอันมิอาจก้าวล่วงเสียได้ โดยให้พนักงานสอบสวน หรือพนักงานอัยการยื่นคำร้องต่อศาลขอหมายขังผู้ต้องหานั้นไว้................" สรุป ในกรณีนี้ พนักงานสอบสวน (กรมสวบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ) ไม่มีอำนาจควบคุมผู้ต้องหาได้ 48 ชั่วโมง เพราะไม่มีการจับตัวผู้ต้อง เพราะผู้ต้องหาเข้าพบพนักงานสอบสวนเอง แต่คดีนี้มีการแจ้งข้อกล่าวหาที่มีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกินสามปี จึงมีเหตุที่ดีเอสไอจะร้องขอต่อศาลเพื่ออกหมายขังได้ตามมาตรา ๑๓๔ วรรคห้า ประกอบมาตรา ๗๑ (๑) ดังนั้นการที่ดีเอสไอออกข้อกำหนดข้อห้ามต่าง ๆ ตามที่อธิบดีพูด หากมีพฤติการณ์ดังกล่าว ดีเอสไอก็มีเหตุที่จะให้ผู้ต้องหาไปศาลเพื่อยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอออกหมายขัง แต่หากผู้ต้องหาขัดขืนไม่ไป ดีเอสไอก็มีอำนาจจับผู้ต้องหาได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑ (๒) ให้คำนิยาม ผู้ต้องหา ว่า หมายความถึงบุคคลผู้ถูกหาว่าได้กระทำความผิด แต่ยังมิได้ถูกฟ้องต่อศาล จากคุณ : ronnapob_w เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 05:57:19 A:1.4.135.95 X:

ความคิดเห็นที่ 21 คุณไป่ฉีตอบด้วยเหตุผล  น่านับถือ  ขอรับฟังด้วยความเต็มใจ ท่านมีจิตเหนือกว่าอดีตนายกฯ   อย่างน้อยยังเอ่ยออกมาว่าอาจเป็นความผิดพลาดจากการปฎิบัติงาน     ผมเห็นด้วยว่าเป็นไปได้ทั้งสองกรณี    แต่ไม่ต้องเป็นห่วง   เพราะDSIสอบสวน  ส่งหลักฐานให้กระบวนการยุติธรรมในระบบปกติพิจารณาเป็นรายคดี  ไม่เหมายกเข่ง      ศาลท่านจะชี้ชัดเองว่ากรณีใดเกิดจากน้ำมือทหาร   กรณีใดเกิดจากกระสุนนิรนาม จากคุณ : Hooley Houllier เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 08:10:26 A:171.98.112.93 X:

ความคิดเห็นที่ 22 .         นานๆ Post_ราชดำเนิน ที   K.พ่อมดหุ้นไทย  ยังมาเจอ + มาให้Gift  ... Thank.. You >> Thank.. You             จากคุณ : ตัดลิ้น จะได้ ไม่... ปลิ้นปล้น (ศิษย์ซุนวู) เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 08:35:51 A:101.109.202.37 X: