20 ธ.ค.นี้ จะเป็นวันที่ศาลนัดชี้คดีการตายของ ด.ช.คุณากร หรือ
อีซา ศรีสุวรรณ ที่ถูก สไนเปอร์ยิงเสียชีวิตบริเวณปากซอยหมอเหล็ง
ถนนราชปรารภ ในเหตุการณ์สลายม็อบแดง
เป็นเหตุการณ์เดียวกับที่นายพัน คำกอง ถูกยิงตาย
หากผลออกมาเหมือนกับคดีนายพัน คำกอง กับคดีลุงชาญณรงค์ พลศรีลา
ก็จะเป็นคดีที่ 3 ที่เหยื่อเสียชีวิตจากฝีมือทหาร ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งศอฉ.
และยังมีอีก 36 คดีที่อยู่ในกระบวนการไต่สวนของศาล
จะว่าไปแล้ว ต้องมีการทำคดีชันสูตรศพทั้ง 99 ศพ
หากมีการชี้ว่าทั้ง 99 ศพเสียชีวิตจากฝีมือทหาร
ก็ต้องดำเนินคดีกับผู้สั่งการอีกเช่นกัน
ยังไม่รวมคดีพยายามฆ่าที่มีผู้บาดเจ็บกว่า 2 พันคนเตรียมเข้าแจ้งความ
อย่ามองข้ามคดีพยายามฆ่าเด็ดขาด
เพราะผู้เสียหาย หรือโจทก์ยังมีชีวิตอยู่
เป็นพยานตัวเป็นๆ ที่สามารถให้การยืนยันว่าโดนใครยิง โดนยิงที่ไหน
กระสุนยิงมาจากฝั่งไหน
หากผลออกมาเหมือนกันว่าถูกยิงจากปืนเจ้าหน้าที่ตามคำสั่งศอฉ.
นายอภิสิทธิ์ก็ต้องเหนื่อย เพราะโดนทั้งในข้อหาฆ่าและพยายามฆ่าทีเดียว!
และนี่จึงเป็นเหตุผลที่นายอภิสิทธิ์ต่อสู้มาตั้งแต่ต้นว่า
ไม่เคยเซ็นคำสั่งใดๆของศอฉ.
แต่ต้องไม่ลืมว่านายอภิสิทธิ์ในฐานะนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น
เป็นผู้ลงนามตั้งศอฉ.ขึ้นมากับมือ
มีเอกสารยืนยันคำสั่งชัดเจน
ยังมีพยานระบุว่านายอภิสิทธิ์ร่วมประชุมศอฉ. ร่วมสั่งการ
และพำนักอยู่ในศอฉ.ตลอดเวลา
ที่สำคัญเอกสารคำสั่งต่างๆ ของศอฉ.
โดยเฉพาะคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ใช้อาวุธจริง
รวมทั้งใช้พลแม่นปืน และพลซุ่มยิง
อันนำไปสู่ความสูญเสีย 99 ศพ
เอกสารดังกล่าวล้วนอ้างอิงว่าดำเนินการตามคำสั่ง "นรม."
ซึ่งหมายถึงนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น
ชัดเจนขนาดนี้ ยังปฏิเสธความรับผิดชอบอีกหรือ?
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNMU5UUTVOalE0TUE9PQ==§ionid=
จาก คำให้สัมภาษณ์ BBC
นายอภิสิทธิ์-ผมเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต แต่มีคำสั่งก็ชัดเจนว่าพวกเขาควรใช้กระสุนจริง
อย่างไรภายใต้สถานการณ์แบบไหน...และถ้าการใช้คำสั่งนี้แปลว่าพวกเราสั่งให้มี
การฆ่าคน ผมคิดว่าไม่แฟร์
ผมได้เข้าร่วมการประชุมหลายครั้งทั่วโลก กรณีการประชุมกลุ่มประเทศ
G-20 ก็มีบางคนเสียชีวิตเพราะเจ้าหน้าที่พยายามปฏิบัติหน้าที่ของตน
และก็ต้องมีการสอบสวน
แต่ไม่มีที่ไหนที่นายกรัฐมนตรีจะต้องมารับผิดชอบกับปฏิบัติการ
อ้าว "ด่ามาร์ค" อีกแล้ว ยังไม่ได้ "อวยปู บูชาแม้ว" เลย
ติดไว้ก่อนนะคะ คุณร้อนหนาว/ข้างบูรพา ...ไม่ลืมค่ะ