Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
วันหยุด..เอาบทความดี ๆ มาให้อ่านครับ.... vote ติดต่อทีมงาน

หนี้ทั้งแผ่นดิน

“หนี้ทั้งแผ่นดิน” ในที่นี้หมายถึง หนี้ของทุกคน ทุกอาชีพทุกระดับชั้น ไม่ว่าจะหนี้ของรัฐบาล ไปถึงหนี้ของชาวนา และทั้งหมดนี้เกิดขึ้นโดย ผู้สนับสนุนการก่อหนี้อย่างเป็นทางการ...รัฐบาลยิ่งลักษณ์ !!

คนไทยทราบมั้ยครับว่า...หากคุณมีหนี้บัตรเครดิตต้องจ่าย 20,000 บาท แต่พอถึงเวลา คุณจ่ายได้แค่ 18,000 บาท เหลือคงค้างอีก 2,000 บาท ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยปรับคุณจากยอด 2 หมื่น ไม่ใช่ 2 พัน !!

วันนี้ออกตัวก่อนเลยว่าจะเจอคำว่า “หนี้” เยอะมากๆ

“หนี้ทั้งแผ่นดิน” ในที่นี้ หมายถึงหนี้ของทุกคน ทุกอาชีพ ทุกระดับชั้น ไม่ว่าจะหนี้ของรัฐบาล ไปถึงหนี้ของชาวนาและทั้งหมดนี้เกิดขึ้นโดย ผู้สนับสนุนการก่อหนี้อย่างเป็นทางการ...รัฐบาลยิ่งลักษณ์ !!

การมีหนี้เยอะไม่ได้แย่เสมอไป หากมีรายได้มากเพียงพอจ่ายหนี้และดอกเบี้ย ในภาครัฐ จะมีการเทียบเป็นหนี้สาธารณะต่อ GDP ว่า ประเทศสามารถทำมาค้าขายก่อรายได้ได้เท่าไหร่เมื่อเทียบกับหนี้ที่มีอยู่ ส่วนในภาคประชาชนหรือหนี้ครัวเรือน ก็จะเทียบหนี้ต่อรายได้ของคนคนนั้น หรือครอบครัวนั้น

สัดส่วนที่เหมาะสมคือ เท่าไหร่ในส่วนของประเทศ กระทรวงการคลังตั้งสิ่งที่เรียกว่า “กรอบความยั่งยืนทางการคลัง” คือ สถานภาพทางการคลังเราจะยั่งยืนได้ หากเรามีหนี้ไม่เกิน 60% ของ GDP สะท้อนว่า เราจะยังสามารถจ่ายคืนได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่เป็นภาระลูกหลานมากเกินไป แต่ในภาคประชาชน ไม่เป็นเช่นนั้น เพราะแหล่งรายได้ไม่ได้มากเท่าภาครัฐ อย่างเก่ง 40% ก็ถือว่าค่อนข้างเยอะแล้ว ฉะนั้นเรามักจะเห็นคนพูดถึงการมีหนี้เยอะหรือน้อย เทียบกับรายได้ แต่จะไม่พูดว่า มีหนี้เท่าไหร่ลอยๆ

เทียบง่ายๆ

นายเป็ด เงินเดือน 10,000 บาท มีหนี้ 4,000 บาท แปลว่า นายเป็ดมีหนี้ 40% ของรายได้

นางปู เงินเดือน 15,000 บาท มีหนี้ 7,500 บาท แปลว่า นางปูมีหนี้ 50% ของรายได้ สถานการณ์นี้ นางปู เงินเดือนเยอะกว่า นายเป็ดก็จริง แต่อยู่ในสถานะที่ยากลำบากกว่า เพราะรายได้ครึ่งหนึ่งต้องเอาไปจัดการเรื่องหนี้สิน

ลักษณะของการเป็นหนี้

หนี้เพื่อต่อยอด กับ หนี้จม สองคำนี้ผมแต่งขึ้นมาเองง่ายๆ นะครับ ต้องการชี้ให้เห็นว่า ถึงการมีหนี้จะไม่ก่อให้เกิดความสุข แต่ก็ไม่ได้แย่ไปหมดเลยเสียทีเดียว

1.หนี้เพื่อต่อยอด ในที่นี้มักพบในเชิงธุรกิจ หรือประชาชนบางส่วน อาจก่อหนี้มาเพื่อลงทุน ไม่ว่าจะทำร้าน หุ้นกับเพื่อน ซื้อหุ้น หรือขยายกิจการ ซึ่งทั้งหมดนี้คือ การก่อหนี้เพื่อให้ได้เงินก้อนโตกว่ากลับเข้ามา แบบนี้ถือเป็นลักษณะการก่อหนี้ที่ดี ที่ระบบธนาคารชอบ

2.หนี้จม ส่วนใหญ่เกิดในภาคครัวเรือน คือ การก่อหนี้ที่ไม่ได้ก่อให้เกิดอะไรเพิ่มเติมในอนาคตเลย เว้นแต่ ผู้ก่อหนี้จะได้ความสุขชั่วขณะก่อหนี้เท่านั้น ตัวอย่างที่ง่ายที่สุดคือ การรูดปรื๊ด ช็อปปิ้ง ได้สิ่งที่ต้องการสนองกิเลสส่วนตัว แล้วก่อทุกข์ในการใช้หนี้ตอนหลัง ในส่วนธุรกิจก็มีบ้างครับ แต่เรื่องแบบนี้จะเห็นหนี้จมในทางการเมืองมากกว่า เช่น แบงก์รัฐโดนบังคับให้ปล่อยกู้แก่ธุรกิจที่รู้ว่าเจ๊งแน่ หรือไม่ก็ ไม่คู่ควรได้รับสินเชื่อ แต่นักการเมืองสั่ง เลยต้องทำ ที่เป็นคดีความอยู่ก็มีให้เห็น

นอกจากนี้เรามาดูเหตุแห่งหนี้ของแต่ละส่วนกันต่อครับ

เริ่มกันที่ภาพใหญ่ “หนี้สาธารณะ” แปลว่า หนี้ของทุกคน เหมือน “สวนสาธารณะ” คือสวนของทุกคนที่เข้าไปใช้ได้ แต่หนี้สาธารณะ คือส่วนที่ทุกคนในประเทศนั้นๆ ต้องมีส่วนรับผิดชอบในการจ่ายคืนหนี้ เพราะตอนกู้ รัฐบาลประเทศนั้นๆ มักให้เหตุผลในการกู้ว่า เพื่อประชาชนของประเทศ การจ่ายคืนหนี้อาจไม่ใช่ด้วยการเอามาหารจำนวนประชากร แล้วจ่าย เหมือนที่คนชอบเอามาเทียบกัน แต่มันหมายถึงเงินภาษีของคนไทยทุกคน ในแต่ละปีเข้าระบบงบประมาณแล้วจ่ายคืนหนี้เงินต้นไปเรื่อยๆ อีกกี่สิบปีจะหมดยังไม่ทราบได้

หนี้สาธารณะ ปัจจุบันอยู่ที่เกือบ 5 ล้านล้านบาท ฟังดูเยอะ แต่เมื่อเทียบกับ GDP ของประเทศไทย ที่ประมาณ 11 ล้านล้านบาท ถือว่า อยู่ในเกณฑ์ หนี้สาธารณะต่อ GDP ปกติที่ 43% แต่สิ่งที่ต้องจับตารัฐบาลนี้คือ จะ “ก่อหนี้เพิ่มมหาศาล” ถ้าให้ไล่คร่าวๆ พ.ร.ก.กู้เงิน 3.5 แสนล้าน กู้จำนำข้าวอย่างน้อย 3 แสนล้านกองทุนน้ำมันติดลบต่อปีของรัฐบาลนี้หลายหมื่นล้าน นอกจากนี้ ที่เยอะที่สุดคือ พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทที่โครงการยังไม่ชัด และเรื่องนี้เราจะต้องต่อกันอีกยาวทั้งหมดนี้ หลายฝ่ายวิเคราะห์ไว้ว่า จะทำให้หนี้สาธารณะของไทยเกิน หรือแตะ 60% ซึ่งเต็มกรอบความยั่งยืนทางการคลังพอดี ก่อหนี้เยอะไม่ว่า แต่ถ้าคนใช้เงินกู้ มีลักษณะน่าสะพรึงขนาดนี้แล้ว น่าเป็นห่วงครับ

คราวนี้ ถึง “หนี้ทั้งแผ่นดิน” ภาคประชาชน

รัฐบาลนี้ มีโครงการให้ประชาชนเป็นหนี้ ทุกมิติของสังคมอย่างบูรณาการตามนี้เลยครับ

-กองทุนหมู่บ้าน และชุมชนเมือง หรือที่เรียกว่า “กองทุน SML” กองทุนนี้จะทำให้ “เป็นหนี้กันทั้งหมู่บ้าน” โดยผู้นำครอบครัวที่มีสิทธิยื่นขอใช้เงิน เทียบง่ายๆ คือ “คุณพ่อ”

-กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ดูผ่านๆ เผินๆ เหมือนจะส่งเสริมผู้หญิงอย่างดีตามภาพลักษณ์นายกฯหญิง แต่โครงการนี้ คนที่จะเป็นหนี้เพิ่มคือ “คุณแม่” เพราะลักษณะการขอเงินของโครงการไม่มีความชัดเจนว่า จะให้ผู้หญิงเอาไปทำอะไรบ้าง

-กองทุนตั้งตัวได้ อันนี้มีไว้สำหรับนักศึกษาจบใหม่ รัฐบาลนี้มีแนวคิดว่า จบใหม่มา ก็กู้เงินทำโน่นทำนี่ เลย ไม่ต้องหาประสบการณ์ทำงานจากการเป็นลูกจ้าง เรียนรู้โลกความจริงก่อน สุดท้าย“คุณลูก” ก็จะเป็นหนี้ตามมา

-บัตรเครดิตเกษตรกร ก่อนหน้านี้ เกษตรกรปลูกอะไรก็แล้วแต่ได้อย่างปกติสุขมาตลอด ปัญหามีบ้าง แต่กลไกที่แก้ปัญหาที่ดีที่สุด ไม่ใช่การแจกบัตรเครดิตแน่นอน สิ่งที่พบคือ ร้านรับบัตรมีไม่กี่ร้านส่วนร้านที่รับ ขายของแพงกว่าปกติ เลยเป็นการบังคับไปในตัวให้เกษตรกรต้องซื้อของแพงเกินราคาจริง เพียงเพราะอยากใช้บัตรก่อหนี้ของรัฐบาล สุดท้าย “เกษตรกร” ก็จะเป็นหนี้มากกว่าเดิม

-บัตรเครดิตพลังงาน เคราะห์ดีที่โครงการนี้ล้มเหลว เพราะไม่ค่อยมีคนขับรถสาธารณะสนใจมากนัก ไม่งั้นก็จะจบแบบเดียวกับ บัตรเครดิตเกษตรกร

ต่อมาเป็นนโยบาย ยั่วกิเลส รถคันแรกบ้านหลังแรก รัฐบาลไปช่วยทำให้ดูเหมือนราคารถและบ้านถูกลงในลักษณะต่างๆ แต่สุดท้ายไส้ในที่ยัดไว้ มันส่งผลจูงใจให้ประชาชนก่อหนี้ จนแบงก์ชาติล่าสุดออกมาระบุว่า คนไทยมีสัดส่วนหนี้ต่อรายได้เฉลี่ยเพิ่มจาก 30% เป็น 50% ในสิ้นปีนี้ และยอดการค้างชำระหนี้เกิน 3 เดือน เพิ่มขึ้นประมาณ 20% แถมยังย้ำว่า ทั้งหมดนี้ เพราะการสนับสนุนการก่อหนี้จากนโยบายของรัฐบาล

พักหนี้ดี การดูแลแต่ลูกหนี้ที่มีปัญญาจ่าย เป็นลูกหนี้ชั้นดีอยู่แล้ว แต่ละเลยหนี้นอกระบบ ขูดรีดประชาชน เป็นปัญหาสังคมอยู่ เป็นจุดเริ่มต้นทางแนวคิดที่ผิดในการแก้ปัญหานี้ของประชาชน หนำซ้ำ โครงการพักหนี้ดี 3 ปี ยังเป็นการหลอกให้ ประชาชนที่มีหนี้ดี กลายเป็น “หนี้เสีย” ในอนาคตอีกด้วย โครงการนี้รัฐบาลบอกให้หยุดจ่ายต้นและจ่ายดอกได้ลดลง พร้อมเชิญชวนให้คนมากู้เพิ่ม สุดท้ายอีก 3 ปี จะกลายเป็นต้องจ่ายหนี้ 2 ก้อน พร้อมๆ กันแบบนี้ ล่อให้จมกองหนี้ชัดๆ ครับ

ทุกโครงการของรัฐบาลที่กล่าวมานี้ หากคุณ “ก่อหนี้” แบบหนี้เพื่อต่อยอด เราก็สนับสนุน แต่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ สนับสนุนการก่อหนี้ แบบบูรณาการส่วนใหญ่เป็นลักษณะแบบ หนี้จม บอกได้คำเดียวครับว่า..ดูเหมือนตั้งใจให้คนเป็นหนี้ และสุดท้ายแก้ยังไงครับ....ครบรอบ 3 ปี (หากอยู่ครบเทอม) หาเสียงเลือกตั้งใหม่ พรรคเพื่อไทยก็จะขึ้นป้ายหลอกลวงสีแดงว่า “พักหนี้” แย่ไปกว่านั้น อาจหาเสียงว่า “ปลดหนี้” หรือ “ยกหนี้” ไปเลยก็ได้ ในขณะเดียวกัน อย่าลืมนะครับว่า ตัวรัฐบาลเอง ก็ยังก่อหนี้ภาครัฐเอาไว้มากมายมหาศาล ทำลายสถิติ อยู่แค่ปีเดียวก่อหนี้เก่งที่สุดในประวัติศาสตร์ จนคำด่าว่า“ดีแต่กู้” ที่รัฐบาลชุดที่แล้วโดน กลายเป็นคำสุภาพไปเลย...รัฐบาลไม่ดูแลเรา เราต้องดูแลตัวเองครับ

กลางสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หลักคำสอนที่ยั่งยืนที่สุดของพระองค์ คือการ “พอเพียง” หากเราปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

แค่นี้เราก็จะรู้ พอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกัน จากอวิชชา ของเหล่าอธรรม

ที่มา:http://www.naewna.com/politic/columnist/4391

ปล.อานแล้วคิดกันเอาเองนะครับ...เอิ๊ก ๆ ๆ

 
 

จากคุณ : อดีตหัวหน้าเผ่า
เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 09:41:23 A:115.67.130.116 X:




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com