Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
วันหยุด..เอาบทความดี ๆ มาให้อ่านครับ... (2) vote ติดต่อทีมงาน

ทำลายฝ่ายค้าน ล้างผลาญประชาชน (ตอน 1)


ไม่มีรัฐบาลที่ไหนในโลก  มอมเมา ล่อลวงให้ประชาชนเป็นหนี้สินล้นพ้นตัว เกิดความเสี่ยงในความมั่นคงต่อตัวเองและครอบครัวมากขนาดนี้  เว้นแต่จะเป็นรัฐบาลที่มุ่งล้างผลาญประชาชน

ทำลายฝ่ายค้าน.. ทำไปทำไม !? ทำลายฝ่ายค้าน เพราะฝ่ายค้านจับได้ว่า ฝ่ายรัฐบาลกำลังล้างผลาญประชาชน

ฝ่ายค้านมีหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลตามระบอบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา มีสรรพกำลังมากพอสมควรที่จะขุดหาหลักฐานทุจริตของฝ่ายรัฐบาลออกมาเปิดโปง  หลักฐานที่ส่อได้ว่า รัฐบาลกำลังถลุงเงินภาษี..ล้างผลาญประชาชน

               กระบวนการทำลายฝ่ายค้านเกิดขึ้นตามหน้าข่าวตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขั้นตอนเทคนิคและแนวทางต่อสู้ทางกฎหมายมีอีกมาก ต้องติดตามกันต่อไปครับ วันนี้ ผมลองเอานโยบายล้างผลาญประชาชน หลายๆนโยบายมาโยงรวมเข้าด้วยกัน บูรณาการกัน สุดท้ายมีหลายๆเรื่องน่าสนใจครับเพราะพัวพันกันไปหมด  วันนี้ตอน 1  เริ่มด้วย "รถคันแรก" ครับ

               “เมืองที่เจริญแล้ว ไม่ใช่เมืองที่คนจนขับรถยนต์ส่วนตัว แต่เป็นเมืองที่คนรวยใช้รถสาธารณะ" นายกเทศมนตรีเมือง โบโกต้า

               นโยบาย รถคันแรก แรกเริ่มเดิมทีเกิดมา เป็นนโยบายปั๊มหัวใจภาคอุตสาหกรรมหลังจากเกิดน้ำท่วมใหญ่ปลายปีก่อน กระตุ้นให้คนออกมาซื้อรถคันแรกกัน ทำให้โรงงานไม่ต้องปิดตัว  แรงงานไม่ต้องตกงาน หลังน้ำท่วมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจก็จะไม่หยุดชะงัก ซึ่งถือเป็นนโยบายที่ดี แต่ด้วยความหน้ามืดตามัวในประชานิยม รัฐบาลนี้ กำหนดเวลาปั๊มหัวใจนานเกินไป เหมือนหัวใจคนไข้กลับมาเต้นใหม่แล้ว ยังดันทุรังปั๊มต่อ สาเหตุที่ไม่ยอมหยุด เพราะเป็นแค่ 1 ใน ไม่กี่นโยบายที่ทำแล้วประชาชนให้ความสนใจมากขนาดนี้

               กลไกของการผลาญประชาชนของนโยบายรถคันแรกคือ การที่ดูดรายได้ภาษีสรรพสามิตของรัฐ กลับไปให้ผู้ซื้อรถคันแรก ตัวอย่าง เช่น รถ 5 แสนบาท บริษัทรถได้ 4 แสนบาทส่วนอีก 1 แสนคือ ภาษีสรรพสามิต ที่โดยปกติจะเป็นรายได้เข้าประเทศ แต่กลับต้องถูกแบ่งกลับไปให้คนซื้อรถ หากทำตามเงื่อนไขได้สำเร็จ

               ปลายปีนี้ กรมสรรพสามิตคาดว่า จำนวนรถยนต์ที่เข้าโครงการรถคันแรก  จะทะลุถึงกว่า 8 แสนคันทั่วประเทศ คิดเป็นเงินภาษีที่รัฐเสียรายได้อย่างน้อย 6 หมื่นล้านบาท หากคุณคิดไม่ออกว่า 6 หมื่นล้านเยอะแค่ไหน เอาง่ายๆ เลยครับ สร้างรถไฟฟ้าได้ 2 สาย ราคารถไฟฟ้าประมาณสายละ 3 หมื่นล้าน และนี่คือสาเหตุหนึ่งที่ตลอดปีที่ผ่านมา กระทรวงการคลัง จะมีข่าวเก็บรายได้หลุดเป้า ต่ำกว่าเป้าแทบทุกเดือน เพราะต้องเอามาผลาญละลายไปกับนโยบายประชานิยม

               ผมอยากให้ลองคิดตามกันต่อไปดูครับว่า..

พอรถออกมาวิ่งกันเยอะขึ้นบนถนน 8 แสนคันในปีนี้ปีหน้าแล้ว สิ่งที่ต้องใช้ในการขับเคลื่อนรถยนต์คือ “น้ำมัน” แน่นอนน้ำมันต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ แล้วปริมาณน้ำมันที่จะมีการนำเข้ามามหาศาลนี้ ขอย้ำให้ทราบกันครับว่า สุดท้ายก็จะต้องเสีย “ภาษีสรรพสามิต”อีกทอดอยู่ดี !!! เริ่มจินตนาการออกแล้วใช่มั้ยครับ.. สรรพสามิตรถยนต์เป็นส่วนประชานิยมใจดีปากบอกให้ประชาชน แต่หลอกไปดูดสรรพสามิตน้ำมันของประชาชนใหม่อีกรอบ

               เอาง่ายๆ คือ..

รัฐบาลออกนโยบายให้ประชาชนได้คืนภาษีสรรสามิตตอนซื้อรถคันใหม่ แต่ไปดูดกลับมาจากการนำเข้า และการใช้น้ำมันของคนที่ได้รถคันแรกคันใหม่ออกมาวิ่ง โยงต่อไปได้กับว่า แล้วใครล่ะครับ ที่ค้ากำไรจากการขายน้ำมัน  ที่กลไกราคาตั้งขึ้นมาแบบจับต้องได้ยากขนาดนี้ คำตอบก็กลับไปที่ ปตท.พลังไทย เพื่อไทย..

               ยังครับ ยังล้างผลาญกับนโยบายนี้ไม่จบ

ในจำนวน รถคันแรก 8 แสนคัน เป็นคนจ่ายเงินสดทันทีเป็นสัดส่วนที่น้อยมากครับ นั่นแปลว่า ส่วนใหญ่ต้องก่อหนี้หรือไปกู้มาซื้อรถ ด้วยแรงจูงใจที่รถถูกลงกว่าจริง 20% ประชาชนกลุ่มนี้เริ่มมีความเสี่ยงครับ หากรายได้คุณไม่ได้มากเพียงพอที่จะดูแลถือครองรถยาวนาน ไปได้ถึง 5 ปี เพราะมีเงื่อนไขว่า ต้องถือครองไว้ 5 ปี ห้ามขาย ไม่งั้น ต้องคืนภาษีสรรพสามิตกลับให้รัฐไป แปลสั้นๆได้ว่า หากผ่อนไม่ไหว โดนยึดรถเมื่อไหร่ นอกจากจะเสียรถ เสียเงินที่ผ่อนมาตลอดแล้ว ให้เตรียมใจเตรียมเงินที่ได้ลดตอนแรกไว้คืนรัฐด้วย เคราะห์ซ้ำกรรมซัดจริงๆ ครับ

ทั้งหมดนี้ไม่ใช่ความผิดของประชาชนฝ่ายเดียวหากมันจะเกิดขึ้นจริงๆ แต่ไม่มีรัฐบาลที่ไหนในโลก  มอมเมา ล่อลวงให้ประชาชนเป็นหนี้สินล้นพ้นตัว เกิดความเสี่ยงในความมั่นคงต่อตัวเองและครอบครัวมากขนาดนี้  เว้นแต่จะเป็นรัฐบาลที่มุ่งล้างผลาญประชาชน

               หากให้มองระยะยาวอีก ผมเคยอ่านบทวิเคราะห์ของต่างประเทศเทียบ ซับไพรม์สหรัฐฯ กับ รถคันแรก ว่าต้นตอที่มาและสาเหตุ เกิดขึ้นคล้ายๆ กัน วิกฤติซับไพรม์สหรัฐฯ เกิดจาก  ราคาบ้านถูกเกินจริง กระตุ้นให้เกิดการซื้อบ้านมากมาย  เอาหลักทรัพย์ต่ำๆมาค้ำประกัน ก็ซื้อบ้านได้ สุดท้ายผ่อนไม่ไหวเป็นระลอกคลื่น ส่งผลให้ภาคธนาคารมีปัญหา  ...จะว่าไป รถคันแรก ก็น้องๆ ซับไพรม์ที่นับรอเวลา คน 8 แสนคน รถคันแรก 8 แสนคัน ผ่อนต่อไม่ไหวเป็นระลอกคลื่นให้แบงก์ และบริษัทไฟแนนซ์รอยึดรถไป จนเป็นปัญหากระทบทางการเงิน ผมขออนุญาตเดาครับว่า ก่อนที่รัฐบาลนี้จะสิ้นสมัย (หากอยู่ครบเทอม) เราอาจได้เห็นปัญหาอะไรหลายๆ อย่าง จากทางภาคยานยนตร์ และภาคธนาคาร จากนโยบายรถคันแรกนี้แน่นอนครับ

               เราทำอะไรได้บ้างมั้ยครับ  ทำได้ครับ ...มีสติ !! อย่าตกเป็นเหยื่อประชานิยมของรัฐบาลที่จ้องจะล้างผลาญพวกเรา

               และต่อจากนี้สิ่งที่ทุกท่านทั่วทั้งประเทศไทยจะเห็นและจับต้องได้ด้วยตัวเองคือ.. "การจราจรแย่ๆ ตลอดปี จากภาษีประชาชน”  ปัญหาจราจร จะวุ่นวายมากตามมา ทุกคนจะแห่กันเอารถออกมาใช้ สวนทางกับสิ่งที่พร่ำรณรงค์กันมาตลอด

โดยสรุปครับ

แทนที่รายได้ภาษีจะเข้ารัฐไปพัฒนาประเทศส่วนอื่น กลับบิดเบือนกลไกราคาอุตสาหกรรมรถยนต์ นายทุนต่างชาติรับเต็ม ก่อปัญหาจราจร เกิดปัญหาหนี้สิน จนสังคมวุ่นวาย สิ้นเปลืองการนำเข้าพลังงานอีกมากอย่างต่อเนื่องในระยะยาว

               ทั้งหมดนี้ ขอขอบคุณผู้สนับสนุนการล้างผลาญประชาชนอย่างเป็นทางการ ........ทักษิณ (สิ้น) คิด เพื่อไทยทำ


ที่มา:http://www.naewna.com/politic/columnist/4499

ปล.ชอบคำนี้มาก...ทั้งหมดนี้ ขอขอบคุณผู้สนับสนุนการล้างผลาญประชาชนอย่างเป็นทางการ...เอิ๊ก ๆ ๆ

 
 

จากคุณ : อดีตหัวหน้าเผ่า
เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 20:04:10 A:115.67.3.92 X:




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com