การลงประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องมีผู้มาใช้สิทธิ์ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิ์ (23 ล้านคน) และต้องมีผู้เห็นชอบไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของผู้มาใช้สิทธิ์ (12 ล้านคน)
เมื่อการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา พ.ศ. 2554 มีผู้มาใช้สิทธิ์ 32.5 ล้านคน คิดเป็น 75% ของผู้มีสิทธิ์ทั้งหมด
ในจำนวนนี้ (ปาร์ตี้ลิสต์) เลือก
พรรคเพื่อไทย 15.7 ล้านเสียง
พรรคประชาธิปัตย์ 11.4 ล้านเสียง
พรรคภูมิใจไทย 1.3 ล้านเสียง
พรรครักประเทศไทย 1 ล้านเสียง
พรรคชาติไทยพัฒนา 0.9 ล้านเสียง
พรรคชาติพัฒนา 0.5 ล้านเสียง
พรรคพลังชล 0.2 ล้านเสียง
และผู้ไม่มาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง 12 ล้านเสียง
การลงประชามติที่กำลังจะมีขึ้นหลังจากนี้
แทนที่ประชาธิปัตย์จะรณรงค์ให้คนออกมาใช้สิทธิ์คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตามระบอบประชาธิปไตย ตามครรลอง แต่วันนี้ค่อนข้างชัดเจนแล้ว ว่าประชาธิปัตย์จะเล่นเกมนอนหลับทับสิทธิ์อีกครั้ง หลังจากได้เคยใช้เกมนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง ภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คนนี้นี่แหละ
นี่แสดงให้เห็นได้ชัดเจนแล้วครับ ว่านายอภิสิทธิ์ ก็เป็นแค่เด็กดื้อกระหายอำนาจ และสามารถทำได้ทุกอย่าง โดยไม่เลือกวิธี เพื่อให้ได้สิ่งที่ตนต้องการ เมื่อปี 49 ก็นำพลพรรคแบนการเลือกตั้ง ก็เพราะรู้อยู่เต็มอกว่าลงยังไงก็แพ้ ก็เลยเล่นเลห์เหลี่ยม ปอดแหกนอนอยู่บ้าน
มาครั้งนี้เอาอีกแล้ว นายอภิสิทธิ์รู้ดีว่า ถ้าประชาชนออกมาใช้สิทธิ์ใช้เสียงตามความคิดของตนเอง รัฐธรรมนูญต้องได้รับการแก้ไขแน่ ก็เลยใช้เล่ห์เหลี่ยมเช่นเคย ความหน้าด้านของพรรคประชาธิปัตย์ในยุคนี้ มันหยุดไม่ได้แล้วจริงหรือครับ?
ทำไมผมถึงพูดอย่างนี้ เดี๋ยวจะมีคนมาบอกว่าถ้ามั่นใจนักว่าคนอยากแก้ แล้วจะกลัวอะไร มันไม่ใช่อย่างนั้นครับ
คิดง่ายๆนะ เลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ประชาธิปัตย์ได้ 11 ล้านเสียง จากผู้มาใช้สิทธิ์ 32 ล้านเสียง การลงประชามติครั้งนี้ต้องมีผู้มาใช้สิทธิ์มากกว่า 23 ล้านเสียง ลบเลขกันง่ายๆเลยครับ ถ้าหากผู้สนับสนุนประชาธิปัตย์ไม่ออกมาใช้สิทธิ์ จำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิ์ก็จะเหลือแค่ 32-11 = 21 ล้านเสียง ไม่ถึง 23 ล้านเสียง
อ้าว.. ทำไมมันเหลือแค่นั้นหละ! ไหนบอกเพื่อไทยเป็นเสียงข้างมากไง?
ที่มันเป็นอย่างนี้ ก็เพราะ...
เพื่อไทย | ประชาธิปัตย์ | ไม่มาใช้สิทธิ์ |
15.7 ล้านเสียง | 11.4 ล้านเสียง | 12 ล้านเสียง |
15.7 ล้านเสียง | 23.4 ล้านเสียง | <<< 0  |