คอลัมน์ โครงร่างตำนานคน โดย การ์ตอง
ที่สุดคดีที่เกิดจากคำสั่งกระชับพื้นที่การชุมนุมจนเป็นเหตุให้
"ม็อบเสื้อแดง" ต้องเสียชีวิตไปเกือบ 100 ศพ บาดเจ็บอีก
2,000 กว่าคน ก็เริ่มเข้าสู่การพิจารณาของกระบวนการยุติธรรม
อย่างเป็นระบบ
หลังจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ รวบรวมสำนวนมา
ได้ระยะหนึ่งถึงวันนี้ได้มีการเรียกอดีตนายกรัฐมนตรี "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ"
และรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง "สุเทพ เทือกสุบรรณ"
ไปเซ็นรับทราบข้อกล่าวหา
ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องปกติ ใครถูกกล่าวโทษก็ต้องถูกสอบ
และแจ้งข้อกล่าวหา
แต่ในเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องไม่ธรรมดา
เริ่มต้นจากก่อนไปเซ็นรับทราบข้อกล่าวหา ผู้ถูกกล่าวหาได้
พยายามชี้ให้เห็นว่า "ดีเอสไอ" เป็นหน่วยงานที่รับใช้การเมือง
รับงานทางการเมืองให้ฝ่ายค้านต้องยอมรับการปรองดอง
เป็นการใช้หน่วยงานที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับความยุติธรรมของ
กฎหมายไทยพยายามกดดันพวกตนให้ยอมรับการประนีประนอม
กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
เป็นการหยิบประเด็นนี้ขึ้นเพื่อลดน้ำหนักพยานหลักฐานของดีเอสไอ
ถึงขั้นแม้จะยอมลงนามในคำให้การ แต่ผู้ถูกกล่าวทั้งสองไม่ยอมลง
นามในหนังสือที่ดีเอสไอกำหนดเงื่อนไข
นั่นหมายถึง "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" และ "สุเทพ เทือกสุบรรณ"
เล่นการเมืองมาถึงจุดที่ต้องเผชิญหน้ากับกลไกของกฎหมาย
อย่างอึกทึกยิ่ง เพราะเป็นคดีสำคัญที่โทษร้ายแรง
ที่ว่าน่าสนใจเพราะก่อนหน้านั้นทั้งในช่วง "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ"
เป็นนายกรัฐมนตรี หรือก่อนหน้านั้น
เสียงท่องของคนจากประชาธิปัตย์ในการต่อสู้ทางการเมือง
คือเรียกร้องระบบ "นิติรัฐ" ให้ยอมรับกลไกของกฎหมาย
เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม
แม้นักการเมืองฝ่ายตรงกันข้ามพรรคประชาธิปัตย์จะพยายามชี้
ให้เห็นว่าประเด็น "สองมาตรฐาน" จะทำให้เกิดความไม่ยอมรับ
ในกลไกขบวนการยุติธรรม แต่คนของพรรคประชาธิปัตย์ไม่ยอม
รับฟัง เรียกร้องให้ทุกฝ่ายยอมรับ
ด้วยเหตุผลว่าหากไม่เชื่อมั่นการดำเนินการตามกลไกกฎหมาย
จะทำให้ประเทศไม่มีหลักยึด ถึงอย่างไรต้องยอมรับการดำเนินการ
ก่อนหน้านั้นฝ่ายตรงกันข้ามพรรคประชาธิปัตย์ถูกประณามว่า
เป็นพวกทำลายความเชื่อมั่นในกลไกกระบวนการยุติธรรม
มีผู้คนเห็นด้วยกับคนของพรรคประชาธิปัตย์มากมาย
เมื่อมาถึงวันนี้ วันที่ผู้นำพรรคประชาธิปัตย์พลิกไปเป็นผู้ถูกกล่าวหา
คนของพรรคประชาธิปัตย์ตกอยู่ในสภาพเดียว
กับฝ่ายตรงกันข้ามก่อนหน้านั้น
คือออกมาชี้ให้สังคมเห็นว่าพวกตัวถูกดำเนินการอย่าง
มีวาระซ่อนเร้น ไม่ได้รับความเป็นธรรม
เป็นการใช้กลไกกระบวนการยุติธรรมมากลั่นแกล้งทางการเมือง
น่าสนใจอย่างยิ่งว่าประชาชนจะรับฟังเสียงร้องเรียน
ของคนพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่
คนจำนวนมาก รวมถึงนักวิชาการทางกฎหมายที่เรียกร้อง
ให้นักการเมืองเคารพในกลไกทางกฎหมาย
จะยังยืนหยัดกับกลไกกฎหมายแบบไทยๆ ที่ตัวเอง
เคยเรียกร้องให้ยอมรับหรือไม่
น่าสนใจเพราะจะเป็นคำตอบว่า ที่เรียกร้องให้เคารพในกลไก
ของกฎหมายนั่น เป็นการยอมรับจริง เป็นทรรศนะแท้ๆ
หรือแค่เป็นข้ออ้างให้ตัวเองได้เปรียบ
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1355630794&grpid=&catid=02&subcatid=0200
สำหรับ...คุณร้อนหนาว ...แล้ว ข่าวแบบนี้ห้ามแปะค่ะ
เพราะนี่คือการ "ด่ามาร์ค" รับไม่ได้ค่ะ .......
พอแปะปุ๊บ ก็สวนกลับ "มติโจร" .... สื่อที่ไม่ใครเขาซื้ออ่านกัน
"อ้าว ...พี่ ...ทำไมแขวะเพื่อน ...ล่ะ" .. 55555
เชิญคุณร้อนหนาวต่อได้ ... เอาเลย ตามสบาย เยอะ ด้วย
อย่า comment คนแปะนะคะ ...เอาเนื้อหากันดีกว่า
เพื่อนๆ เชิญค่ะ ...ขอโทษ ...ส่วนตัวไปนิดค่ะ เพราะ
เมื่อกระทู้ที่แล้ว คุณเธอ comment พี่เยอะมาก ...ขอเอาคืนหน่อย