86I monkey _D ,คุณเราหยุดมันไม่ได้ ฯ
พิจารณาดู กรอบหน้าที่ ของศาลฏีกาแผนกคดีอาญา นักการเมืองดูหน่อยเถอะ
คดีที่คุณว่า มันเข้า ข้อใด............จะได้หายสงสัยเสียที
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ก็ได้ยืนยันในหลักการดังกล่าวตามรัฐธรรมนูญ 2540 โดยในมาตรา 219 วรรคสี่ ก็ได้ระบุอำนาจและหน้าที่ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด คือ
1. คดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คือคดีที่นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา หรือข้าราชการการเมืองอื่นซึ่งถูกกล่าวหาว่าร่ำรวยผิดปกติ กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญา หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ หรือทุจริตต่อหน้าที่ตามกฎหมายอื่น รวมทั้งกรณีบุคคลอื่นที่เป็นตัวการ ผู้ใช้ หรือผู้สนับสนุน ผู้ให้ ผู้ขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่บุคคลดังกล่าวเพื่อจูงใจให้กระทำการ ไม่กระทำการ หรือประวิงการกระทำอันมิชอบด้วยหน้าที่ด้วย ตามมาตรา 275 วรรคหนึ่ง และวรรคสอง
2. คดีเกี่ยวกับการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ซึ่งเป็นการพิจารณาว่า ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบ หรือจงใจยื่นด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบหรือไม่ ตามมาตรา 263 วรรคหนึ่ง และมาตรา 264 วรรคหนึ่ง
3. คดีเกี่ยวกับการร้องขอให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน โดยคดีแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
3.1 คดีร่ำรวยผิดปกติ เป็นคดีที่บุคคลที่มีตำแหน่งต่าง ๆ ในข้อ 1 ถูกกล่าวร่ำรวยผิดปกติ ตามมาตรา 275 วรรคหนึ่ง และวรรคสอง ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าดด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2542 มาตรา 9 (1)(2) 3.2 คดีมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ เป็นคดีที่ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองผู้ใดพ้นจากตำแหน่งหรือตาย แล้วปรากฏว่ามีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ ตามมาตรา 262 วรรคหนึ่ง และวรรคสอง ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าดด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2542 มาตรา 9(4) 4. คดีเกี่ยวกับกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติผู้ใดถูกกล่าวหาว่าร่ำรวยผิดปกติ กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ตามมาตรา 249 วรรคหนึ่ง
5. คดีเกี่ยวกับการเลือกตั้งและการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา ตามมาตรา 219 วรรคสาม มาตรา 239 วรรคสอง และมาตรา 240
