 |
ขอตอบต่อจากเมื่อเช้านะครับ
ก็อย่างผมบอกแหละครับ คือข้อมูลสาธารณะที่มีอยู่ มันน้อยเกินไป ก็เลยมองภาพยากว่า ความคุ้มค่าของการทำการทุจริต มันอยู่ตรงจุดไหน
แล้วผมก็แค่คนค้นหาข้อมูลอย่างเดียว ไม่ได้อยู่ในธุรกิจนี้โดยตรง บางอย่างมโนภาพก็คงไม่ค่อยตรงนัก
ถ้าได้คนที่อยู่ในวงการค้าข้าว อย่างคุณรู้ไปหมดมาตอบ อาจจะได้แง่มุมบางอย่างที่คาดไม่ถึงก็ได้
ก็ลองยกตัวอย่างที่พอเห็นภาพไม่ยากสักหน่อยนะครับ
เช่นข้าวขาว 5% ในตลาดขายอยู่ 16,500 บาท ต่อตัน ถ้าหากรับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนา แข่งกับรัฐบาลรับจำนำ ไม่น่าจะขายราคานี้ได้ เพราะถ้าหากซื้อจากชาวนาตันละ 10,000 บาท ต้นทุนข้าวสาร ก็จะไปที่ประมาณ 16,500 บาท แล้ว
ซึ่งถ้าตามที่เห็นพูด ๆ กัน ตอนนี้คงไม่มีใครขายข้าวต่ำกว่าตันละ 10,000 บาทแล้ว ดังนั้น ทำไมถึงขายได้
ก็คงต้องตอบว่า มีแหล่งข้าวราคาถูกแหละครับ แต่ถ้บอกว่า เอามาจากสต๊อกของรัฐ มาทางช่องทางทุจริต ก็คงมโนภาพได้ว่า ต้องแบ่งกันหลายฝ่าย ถ้าผลต่างไม่ได้มากคุ้มค่าเพียงพอ ปลายทางก็คงไม่อยากเสี่ยงแน่ ๆ
ยิ่งรัฐบาลบอกว่า ขายในราคาไม่ขาดทุนมากนัก ไม่ต่ำกว่าราคาตลาด ตลอดมา ก็ไม่แน่ใจว่า ราคาที่พูด จะเป็นราคาประมาณไหน ถ้าบอกว่า ขายออกมา 16,000 บาท ผมก็ไม่เชื่อว่า ผลต่างขนาดนี้ จะพอแบ่งกันแน่ ๆ
แต่ถ้าราคาลงไปที่ 15,000 บาท หรือต่ำกว่านั้น ก็อาจจะเป็นไปได้ เพราะปริมาณที่พูดมันหลายแสนตัน ตันนึงคนกลางได้ไปสัก 200-300 บาท ก็เป็นเงินหลายสิบล้านแล้ว
หรืออีกตัวอย่างในประเด็นการเวียนเทียนข้าว ก็เคยอ่านที่คุณรู้ไปหมด พิมพ์ ก็เข้าใจประเด็นว่า ทางโรงสีข้าวที่รับจำนำ ได้รับคำสั่งซื้อเป็นข้าวนึ่งมา ก็เลยนำข้าวที่มีในโกดังของตัวเองไปทำ แล้วซื้อข้าวจากการทุจริตนี้ ไปส่งมอบให้กับรัฐแทน เพราะถ้าเอาข้าวที่มีแปรสภาพ แล้วส่งเข้าโกดังรัฐ ตามหลักเกณฑ์ ก็ต้องไปหาซื้อข้าวเปลือกมาใหม่ เพื่อทำข้าวนึ่ง
ซึ่งจากสถานการณ์ข้าวในปัจจุบัน การหาซื้อข้าวเปลือก ในราคาที่เหมาะสม สามารถทำการค้าได้ คงเป็นไปได้ยาก สู้หาข้าวสารมาเวียนเทียน ดูแล้วทำได้ง่ายกว่า
ซึ่งตัวชี้วัดว่า มีการทำพวกนี้จริงมั้ย ก็คงดูได้จาก ราคาข้าวชนิดต่าง ๆ ว่ามีการปรับตัวไปมากหรือไม่อย่างไร
จากคุณ |
:
Lpg_Horse
|
เขียนเมื่อ |
:
18 ธ.ค. 55 12:38:00
A:110.171.132.154 X:
|
|
|
|
 |