ความคิดเห็นที่ 1 ผมถึงเสนอให้เปลี่ยนคำถาม โดยใช้เทคนิคของปชป.ไง คือถามว่า "เห็นด้วยไหม ที่จะให้คงไว้และใช้รัฐธรรมนูญ 2550 ต่ิอไป" 1. เห็นด้วย 2. ไม่เห็นด้วย แบบนี้ถึงจะชนะได้นะ  เพราะ 1. หากประชาชนออกาใช้สิทธิ์ไม่ถึงกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิ์ทั้งประเทศ ประชามตินี้ก็ไม่ผ่าน ก็แปลว่า "ประชาชนให้แก้รัฐธรรมนูญได้เลย" 2. หากประชาชนมาเกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิ์ทั้งประเทศ ก็ไปดูที่ว่า "เห็นด้วย" ได้เสียงข้างมากหรือไม่ หากไม่ได้ ก็แปลวา "ประชาชนให้แก้รััฐธรรมนูญได้" ถูกต้องตามมาตรา 165 ของรัฐธรรมนูญ 2550 และเงื่อนไขของมาตรา 9 ของ พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการลงประชามติ แก้ไขเมื่อ 19 ธ.ค. 55 15:51:09 แก้ไขเมื่อ 19 ธ.ค. 55 15:49:27 จากคุณ : ศิลาแรง เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 55 15:45:04 A:110.169.164.70 X:

ความคิดเห็นที่ 2 ตาม คุณ ศิลาแรง ก็ดีนะ ย้อนศร ใส่ ปชป ซะเลย จากคุณ : TiNy SaMuN เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 55 16:00:29 A:202.57.129.210 X:

ความคิดเห็นที่ 3 ผมว่า ข้อสรุปของคุณศิลาแรงอาจจะไม่ถูกก็ได้นะครับ เพราะผมเข้าใจว่า แนวคิดที่บอกว่า ต้องมีคนออกมาใช้สิทธิเกินกึ่งนึง ก็เพื่อต้องการให้คนส่วนใหญ่ของประเทศมาออกความเห็น ดังนั้น ถึงมีการกำหนดไว้ด้วยว่า หลังจากกำหนดวันประชามติแล้ว ต้องมีการทำประชาสัมพันธ์อย่างกว้างขวาง ให้ความรู้ความเข้าใจกับประชาชนอย่างเต็มที่ และรอบด้าน ซึ่งตามมาตรา 9 ในพรบ.ประชามติ "มาตรา ๙ การออกเสียงที่จะถือว่ามีข้อยุติในเรื่องที่จัดทำประชามติต้องมีผู้มาออกเสียงเป็นจำนวนเสียงข้างมากของผู้มีสิทธิออกเสียงและมีจำนวนเสียงเกินกว่ากึ่งหนึ่งของผู้มาออกเสียงในเรื่องที่จัดทำประชามตินั้น" บอกว่า การออกเสียงที่จะถือว่ามีข้อยุติ ในเรื่องที่จัดทำฯ ต้องมีคนมาออกเสียงเกินกึ่ง ... ดังนั้น ถ้าหากคนออกมาไม่ถึงกึ่งนึง ยังไงก็ต้องบอกว่า ยังไม่ถือว่ามีข้อยุติ ซึ่งถ้าถามว่า "เห็นด้วยไหม ที่จะให้คงไว้และใช้รัฐธรรมนูญ 2550 ต่ิอไป" คนออกมาไม่ถึงครึ่ง ก็ต้องบอกว่า ยังไม่ได้ข้อยุติ ในข้อสอบถามประเด็นนี้ แล้วจะทำยังไง เมื่อยังไม่ได้ข้อยุติ ก็คงต้องใช้ต่อไปแหละครับ จะเลิกใช้ได้ก็คงต้อง มีคนออกมาเกินครึ่ง แล้วโหวตไม่เห็นชอบเกินครึ่งนึงของคนที่ออกมา แก้ไขเมื่อ 19 ธ.ค. 55 17:08:47 จากคุณ : Lpg_Horse เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 55 17:07:21 A:110.171.132.154 X:

ความคิดเห็นที่ 4 ความคิดเห็นที่ 3 ผมว่า ข้อสรุปของคุณศิลาแรงอาจจะไม่ถูกก็ได้นะครับ ซึ่งตามมาตรา 9 ในพรบ.ประชามติ "มาตรา ๙ การออกเสียงที่จะถือว่ามีข้อยุติในเรื่องที่จัดทำประชามติต้องมีผู้มาออกเสียงเป็นจำนวนเสียงข้างมากของผู้มีสิทธิออกเสียงและมีจำนวนเสียงเกินกว่ากึ่งหนึ่งของผู้มาออกเสียงในเรื่องที่จัดทำประชามตินั้น" บอกว่า การออกเสียงที่จะถือว่ามีข้อยุติ ในเรื่องที่จัดทำฯ ต้องมีคนมาออกเสียงเกินกึ่ง ... ดังนั้น ถ้าหากคนออกมาไม่ถึงกึ่งนึง ยังไงก็ต้องบอกว่า ยังไม่ถือว่ามีข้อยุติ ซึ่งถ้าถามว่า "เห็นด้วยไหม ที่จะให้คงไว้และใช้รัฐธรรมนูญ 2550 ต่ิอไป" คนออกมาไม่ถึงครึ่ง ก็ต้องบอกว่า ยังไม่ได้ข้อยุติ ในข้อสอบถามประเด็นนี้ แล้วจะทำยังไง เมื่อยังไม่ได้ข้อยุติ ก็คงต้องใช้ต่อไปแหละครับ จะเลิกใช้ได้ก็คงต้อง มีคนออกมาเกินครึ่ง แล้วโหวตไม่เห็นชอบเกินครึ่งนึงของคนที่ออกมา จากคุณ : Lpg_Horse ********************************************************* ตามพรบ. และเงื่อนไขเดิมๆ ที่ใช้ตอนทำประชามติปี 2550 คุณต้องมองที่เจตนาของคนเขียนพรบ.นี้ด้วยนะว่า เขาเขียนแบบนี้เพื่ออะไร หากคนออกมาไม่ถึงกึ่งหนึ่ง มันก็ถือได้ว่า ได้ข้อยุติแล้วไง ข้อยุติที่บอกว่า ที่ประชาชนมาออกมาใ้ช้สิทธิ เท่ากับประชาชนไม่เห็นด้วย เสมือนหนึ่งประชาชนออกมากาในช่อง ไม่เห็นด้วย นั่นแหละ จะเล่นเกมส์ ต้องศึกษากฏกติกา และมองให้เห็นกลลวงและหลุดกับดักที่เขาวางเอาไว้ด้วยนะ ต้องรู้ทัน แล้วเอาชนะัให้จงได้ ไม่ั้งั้นมีแต่แพ้สถานเดียว....จริงไหม? ซึ่งจริงๆ แล้ว สิ่งที่ควรเป็น ก็คือ ผู้ใดที่ไม่มาใช้สิทธิ ให้ถือว่า เห็นด้วย ยินยอม และยอมรับ ตามเสียงข้างมากของผู้ที่มาใช้สิทธิ อย่างนี้มันถึงจะถูกต้องกว่านะ....เห็นด้วยไหม? ลองเอาไปพิจารณาดูนะ จากคุณ : ศิลาแรง เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 55 17:27:30 A:110.169.164.70 X:

ความคิดเห็นที่ 5 ผมว่าเจตนาเขียนก็ตรง ๆ คือเรื่องที่ทำประชามติ ก็ต้องเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ดังนั้น ถ้าหากมีคนออกมาแสดงความเห็นน้อย ก็อาจจะเป็นเพราะการประชาสัมพันธ์ ไม่ดีพอก็ได้ ดังนั้น กฎหมายก็เลยบอกว่า ถ้าคนมาน้อย ก็ถือว่ายังไม่ได้ข้อยุติ ไม่ใช่ว่า คนไม่ออกมาไม่เห็นด้วยครับ ถ้าจะมองอย่างการประชุมสภาก็ได้ ก่อนลงมติ ต้องเช็คองค์ประชุมก่อน การนับคนมาลงคะแนนถึงครึ่งมั้ย ก็เป็นการนับองค์ประชุมนั่นแหละครับ ถ้าองค์ประชุมไม่ครบ ก็ถือว่า ยังไม่ได้ทำการโหวต ก็ต้องค้างเอาไว้ ไม่ใช่จะมาโมเมว่า องค์ประชุมไม่ครบ แล้วบอกว่า คนไม่มาประชุม ไม่เห็นด้วยกับเรื่องที่จะโหวต การนับองค์ประชุม มันจะต้องเกิดขึ้นก่อนการโหวต แต่การลงประชามติ มันไม่เหมือนในห้องประชุม ดังนั้นก็เลยต้องให้ลงมติไป แต่ตอนนับ ก็ต้องตรวจสอบองค์ประชุมก่อน ถ้าองค์ประชุมไม่ครบ ก็ถือว่าไม่มีการลงมติโหวต กฎข้อนี้ มันเป็นกฎที่มีเหตุมีผลในตัวของมันเองอยู่แล้ว เพียงแต่ว่า อยู่ในสถานการณ์นี้ ฝ่ายนึงมองภาพออกว่าโหวตก็แพ้ ก็เลยวอล์คเอาท์ หน้าที่ก็ตกอยู่กับฝ่ายเสียงข้างมาก ถ้าหากสามารถระดมองค์ประชุมได้ ก็ไม่ต้องสนใจเสียงข้างน้อย ก็จบ ถ้าหากพยายามทำให้องค์ประชุมครบไม่ได้ ผมว่า ก็อย่าไปลงประชามติดีกว่าครับ เพราะอันนี้มันไม่ใช่แสดงว่า คนไม่เห็นด้วยออกมาใช้สิทธิเท่านั้น แต่มันแสดงให้เห็นว่า คนที่เห็นด้วยบางคน ยังไม่เห็นว่า เป็นเรื่องจำเป็นต้องทำ เขาเลยไม่ออกมาช่วยลงประชามติ อันนี้ก็คงต้องลองพิจารณาดูแหละครับว่า จะเสี่ยงทำประชามติ หรือหันกลับไปแก้รายมาตรา ซึ่งอันนี้ไม่มีใครห้ามอยู่แล้ว แก้ทีเดียว 50 มาตราก็ได้ ไม่เห็นเป็นอะไร จากคุณ : Lpg_Horse เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 55 17:51:28 A:110.171.132.154 X:

ความคิดเห็นที่ 6 แล้วคุณ  Lpg_Horse เห็นว่าการตัดสิทธิผู้ที่ไม่มาลงคะแนนประชามติ สมควรหรือไม่อย่างไรบ้างครับ ? ปล. ชอบอ่านความเห็นของคุณ  Lpg_Horse มาก เป็นผู้ที่เห็นต่างแต่มีเหตุผลที่สุดใน pantip แล้วกระมัง จากคุณ : annalog เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 55 18:44:41 A:124.122.233.8 X:

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าต่างฝ่ายต่างจะหาทางใช้ความได้เปรียบในเสียงที่ไม่ได้ออกมาลงประชามติงั้นก็ให้ตัดคนที่ จะไม่มาออกไปครับหรือให้ออกกฏหมายว่าถ้าไม่ออกมาลงประชามติให้ได้รับโทษทางกฏหมาย เหมือนกับการไปเลือกตั้ง ส.ส.ครับแต่ให้มีการอำนวนความสะดวกในการลงคะแนนโดยสามารถ ลงคะแนนข้ามจังหวัดได้ครับ จากคุณ : balance14 เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 55 22:06:01 A:58.8.154.47 X: