เอาไปดู ไอ้ พวก สลิ่ม ว่า ฆ่าเวลามันบาป ครงไหน นี้คื่อคำพูดพระ ธรรม คนที่พูดคำนี้ จะ บาปมากกว่า เพราะทำให้ พระสงฆ์ แตกแยก เป็นพระสงฆ์ แต่ทำกรรม
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
บาปที่หนักที่สุด ที่เป็น ครุกรรม เป็นกรรมหนัก ฝ่ายอกุศล การทำอนันนตริยกรรม
ข้อ หนึ่ง ใน ห้าข้อ คือ การทำสงฆ์ให้แตกกัน ที่เรียกว่า สังฆเภท ครับ แต่ต้องเป็น
พระภิกษุเท่านั้นที่จะทำกรรมนี้ได้ เพศฆราวาส ไม่สามารถทำ สังฆเภท ได้ ซึ่ง
สังฆเภท การทำให้สงฆ์แตกกัน ดังเช่น พระเทวทัตท่านทำสงฆ์ให้แตกกัน กรรม
หนักนี้ ทำให้ต้องตกอเวจีมหานรก ตลอดกัป คือ นับชาติไม่ถ้วน
ส่วน กรรมหนักอย่างอื่น ใน อนันตริยกรรม ก็มีโทษมาก เช่นกัน ทำให้ตกนรกตลอด
กัปได้ที่เป็นอันดับรองลงมา คือ การทำพระบาทของพระพุทธเจ้าให้ห้อเลือด ฆ่าพระอรหันต์ ฆ่ามารดา ฆ่าบิดา ครับ
แต่พระพุทธเจ้าทรงแสดง กรรมหนัก คือ บาปที่ร้ายแรง มีโทษมากกว่า การทำอนันตริยกรรมไว้ คือ ความเห็นผิด ครับ
เมื่อมีความเห็นผิดย่อมเป็นปัจจัยให้อกุศลธรรมอื่นๆตามมามากมายและล่วงศีลได้ เมื่อเห็นผิด ย่อมคิดผิด ย่อมมีวาจาผิด(พูดเท็จ พูดหยาบ พูดส่อเสียด พูดเพ้อเจ้อ) ย่อม
มีการงานผิด ประพฤติทางกายผิด(ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม) ย่อมเลี้ยงชีพผิด ย่อมเพียรผิด ย่อมระลึกผิด ย่อมตั้งมั่นผิด ย่อมรู้ผิด เป็นต้น เช่น บุคคลที่เห็น
ว่าตายแล้วไม่เกิด ก็ย่อมล่วงศีลได้เพราะเห็นว่าทำบาปไปก็ไม่เป็นไร จบแค่ชาตินี้ความเห็นผิดนั้นมีโทษมาก ไม่เพียงแค่ล่วงศีลเท่านั้น หากเป็นความเห็นผิด ที่ดิ่งร้ายแรงก็ห้ามสวรรค์ นิพพาน และไม่สามารถออกจากสังสารวัฏได้เลย จึงมีโทษมาก
มากกว่า การทำอนันตริยกรรม เพราะอนันตริยกรรม ยังมีระยะเวลากำหนด ในการรับผลของกรรม แต่ความเห็นผิด กำหนดไม่ได้เพราะไม่สามารถออกไปจาสังสารวัฎฎ์
ได้เลยครับ ดังข้อความในพระไตรปิฎก