งานนี้ณัฐวุฒิตัดสินใจคนเดียวไม่ได้ครับ มวลชนไม่ยินยอม และต้องปรึกษาหารือกับแกนนำคนอื่น และโดยพื้นฐานทางการต่อสู้แล้ว เมื่อเพื่อนอุดมการณ์ได้สละชีวิตเพื่อแลกกับการปกป้อง สิทธิเสรีภาพของ ปชช. แลกชีวิตเพื่อเรียกร้องให้มีการยุบสภาเลือกตั้งใหม่เป็นไปตามครรลอง ประชาธิปไตย แลกชีวิตให้รู้ว่ามีศักดิ์ศรีมากพอ ที่จะวัดว่าบ้านนี้เมืองนี้ อำนาจมันเป็นของ ปชช. หรืออำนาจที่แท้จิงเป็นของใคร เขามีสิทธิมาเรียกร้องทางการเมือง โดยไม่จำเป็นต้องฆ่า ในเมื่อมีการสละชีวิตเพื่อแลกกับการต่อสู้แล้ว คนอยู่ต้องสานต่อ สู้ต่อ ทุกคนที่สู่ต่อล้วนรู้ทั้งนั้นว่า จะมีศพรายต่อไป แต่ไม่รู้ว่าเป็นใคร ที่แน่ๆ คนที่อยู่สู้บอกได้คำเดียวว่า คนตายจะต้องไม่ตายฟรี จึงอยู่สู้ต่อ ไม่ใช่เพื่อนตายแล้วยอมแพ้หนีกลับบ้าน มันไม่ใช่ความผิดของผู้ชุมนุมที่ต้องมาเข่นฆ่า ด้วยสไนเปอร์ ด้วยอาวุธสงคราม ทุกคนต่างตะลึง ที่รัฐบาลไม่ได้มองว่าคนที่มาชุมนุมคือ ปชช. แต่รัฐมองว่านี่คือศัตรู ที่อยากจะเข่นฆ่า งานการเมืองคืองานอาสา ในเมื่อคนส่วนใหญ่ ไม่ได้ต้องการให้เป็น นักการเมืองมันต้องละอายบ้าง และที่สำคัญ เหตุการณ์วันที่ 10 เมษา ถ้า นายกหลาย ๆ คนตัดสินใจผิดพลาด สลายการชุมนุม ด้วยอาวุธสงคราม ในยามค่ำคืน จนมีผู้บาดเจ็บล้มตายถึงแก่ชีวิตแล้ว ความรับผิดชอบทางการเมืองมันต้องเกิดขึ้นทันที แต่นายกคนนี้ ไม่รับผิดอะไรเลย
จากคุณ |
:
วิหค เริงไพร
|
เขียนเมื่อ |
:
20 ธ.ค. 55 01:44:03
A:27.55.15.230 X:
|
|
|
|