ต้องก้าวข้าม"ทักษิณ"บนพื้นฐานแห่งความจริง! สยามรัฐออนไลน์

ไม่ใช่เรื่องแปลกที่การประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2555 จะยังไม่มีมติในเรื่องการเดินหน้าทำประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญออกมา โดย ครม.ได้ทอดเวลาการมีมติออกไป อ้างว่าเพื่อทำการศึกษาในรายละเอียด
    ไม่แปลกเมื่อพิจารณาถึง “ด่านหิน” ของการทำประชามติไม่ว่าจะในเรื่องผู้มีสิทธิจะต้องออกมาใช้สิทธิจำนวนกึ่งหนึ่ง และจะต้องมีเสียงเห็นชอบให้แก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยเสียงข้างมากของผู้ออกมาใช้สิทธิ
    ด่านหินชัดๆ กล้าเดินหน้าก็บ้าเต็มทีแล้ว
    ก็อย่างที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ บอกว่า เป็นเรื่องยากที่จะผ่านประชามติ
    โดย ร.ต.อ.เฉลิม ไม่เข้าร่วมประชุม ครม. นัดดังกล่าว อ้างว่าเจ็บคอ
    การชิ่งหนีประชุม ครม. ของ ร.ต.อ.เฉลิม จึงเป็นอะไรที่หมายความได้ว่า ร.ต.อ.เฉลิม เกิดอาการ “นกรู้” ถึงบางสิ่งบางอย่างที่ไม่สู้ดี จึงไม่อยากเข้าไปมีส่วนด้วย ซึ่งสะท้อนได้จากการที่ ร.ต.อ.เฉลิม แสดงความไม่เห็นด้วยกับการทำประชามติและการรีบร้อนแก้ไขรัฐธรรมนูญ คนเดียวของพรรคเพื่อไทย
    คำพูดของ ร.ต.อ.เฉลิม ถึงพวกเดียวกันเองที่ว่า “การเอาอกเอาใจกันต้องอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง” ก็ให้ความกระจ่างชัดถึงวัตถุประสงค์การแก้ไขรัฐธรรมนูญคราวนี้ได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ดี นี่ยังไม่ใช่การถอย แต่เป็นการหยุดเพื่อตั้งหลักใหม่ โดยหาหนทางที่จะฝ่าด่านหินของการทำประชามติไปให้ได้ หรือไม่ก็หันไปใช้วิธีการอื่นหรือวิธีการเดิมแทนการลงประชามติ
แต่ไม่ว่าจะไปใช้หนทางใดเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็ล้วนมีความเสี่ยงและอันตรายทางการเมืองทั้งสิ้น
    นี่เองเป็นสิ่งที่หลายคนไม่เข้าใจว่า เมื่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ใช่เรื่องง่ายและมีความเสี่ยงทางการเมืองสูง เหตุใดรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยจึงยังคงดึงดันที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ได้
และหากพิจารณาว่ารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการเข้าสู่อำนาจทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยแต่อย่างใด
    หรือหากพิจารณาว่า เป้าหมายการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเพื่อ “ช่วยทักษิณ” หรือ “กำจัดอุปสรรค” ในการบริหารบ้านเมืองแบบเบ็ดเสร็จนั้น เป็นเรื่องที่คิดได้หวังได้ แต่ไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะมีคนคอยคัดค้านอยู่เต็มบ้านเต็มเมือง
 
    ก็ต้องขอยืมคำพูดของ ร.ต.อ.เฉลิม มาพูดว่า การเอาอกเอาใจกันต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง ทำนองนั้น
    เรื่องที่คิดได้แต่ทำไม่ได้ ไม่มีใครได้ประโยชน์ มีแต่พวก “พ่อค้าความรุนแรง” เท่านั้นที่ได้ประโยชน์
    คนเป็นรัฐบาลไม่ได้ประโยชน์อะไร บ้านเมืองและประชาชนทั้งประเทศก็ไม่ได้ประโยชน์
    ยิ่งรัฐบาลหรือพรรคเพื่อไทยทำเรื่องแบบนี้ ความเสี่ยงทางการเมืองก็จะมากขึ้น และเป็นการ “ทำตัวเอง” ทั้งสิ้น จะไปกล่าวโทษว่าคนอื่นแกล้งหรือจ้องล้มรัฐบาลไม่ได้
    วันเวลาที่ผ่านมาหลายปี สิ่งหนึ่งที่รัฐบาล (จะรัฐบาลนอมินีหรือโคลนนิ่ง) และพรรค (จะพรรคพลังประชาชนหรือเพื่อไทย) น่าจะรู้ความเป็นจริงบางสิ่งบางอย่างได้แล้วว่า การจะทำอะไรเพื่อ
    ทักษิณนั้นไม่สามารถทำได้ทุกเรื่อง และทำแล้วมีแต่จะสร้างผลเสียหายทางการเมืองแก่ตนเอง
    บางเรื่องสามารถทำได้ก็ทำไป เช่น ตอบสนองในบางเรื่อง (ที่ไม่มากเกินไป)
    การก้าวข้ามทักษิณในบางเรื่องจะต้องถือเป็นเรื่องธรรมดา
    การเอาอกเอาใจหรือตอบแทนในเรื่องที่เป็นไปไม่ได้จะต้องก้าวข้าม
    บทเรียนทางการเมืองที่ได้รับมาในรอบหลายปี ก็เห็นอยู่แล้วว่าเกิดจากการก้าวไม่ข้ามทักษิณ
    ขณะที่ในส่วนของบ้านเมืองนั้นที่เสียหายย่อยยับมามากก็เพราะการก้าวไม่ข้ามทักษิณ
    วันนี้คนเป็นรัฐบาลจึงต้องกลับมาทำงานให้ส่วนรวมคือบ้านเมืองและประชาชนทุกคน
    คนเป็น ส.ส.จะต้องทำงานให้ประชาชน ไม่ใช่ทำงานเพื่อตอบแทนพรรคและเจ้าของพรรค
    ส่วนพ่อค้าอาวุธที่ร่ำรวยมามากแล้วกับการขายอาวุธ ก็ถึงเวลาต้องพอได้แล้ว บ้านเมืองเสียหายย่อยยับมามาก ถึงไปอยู่ประเทศอื่นก็ไม่มีความสุข ดู “นายใหญ่” เป็นตัวอย่าง ดิ้นรนอยากกลับบ้าน
    ทั้งที่อยู่เมืองนอกสะดวกสบายทุกอย่าง
    จะปีใหม่แล้ว น่าจะคิดใหม่และประพฤติใหม่ได้แล้ว

http://:-)/web/?q=%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E2%80%9C%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B4%E0%B8%93%E2%80%9D%E0%B8%9A%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%87

จากคุณ	: คนหน้าบาน
เขียนเมื่อ	: 20 ธ.ค. 55 15:37:24 A:58.10.12.121 X:

bookmark

เก็บเข้าคลังกระทู้

ส่งต่อกระทู้

พิมพ์

หน้าหลัก

กระทู้ก่อนหน้า

กระทู้ถัดไป