นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ให้สัมภาษณ์เปิดใจถึงเหตุการณ์ 99 ศพ ทางไทยพีบีเอส
โดยเล่าถึงเหตุการณ์คืนวันที่ 10 เมษายน 2553 เอาไว้อย่างชัดเจน
ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พูดมาตลอดว่า มีกองกำลังติดอาวุธ
มีชายชุดดำใช้อาวุธ
จึงเป็นเหตุให้ต้องอนุมัติการใช้กระสุนจริง
แต่คำบอกเล่าของนายณัฐวุฒิถึงเหตุการณ์คืน 10 เมษายน 2553
หักล้างเหตุผลของนายอภิสิทธิ์ได้อย่างสิ้นเชิง!
สาระสำคัญของคำพูดนายณัฐวุฒิคือ พอเริ่มมีประชาชนผู้ชุมนุมเจ็บตาย
นายณัฐวุฒิและแกนนำรีบตัดสินหาทางยุติเหตุการณ์ในคืนนั้นทันที
โดยรีบโทรศัพท์ประสานงานกับนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ
เลขาธิการของนายกฯอภิสิทธิ์
ขอให้ฝ่ายศอฉ.ถอนทหารออกไป ฝ่ายม็อบก็เรียก ผู้ชุมนุมให้กลับมารวมกัน
เลิกออกไปเผชิญหน้ากับ เจ้าหน้าที่
สุดท้ายเหตุการณ์นองเลือดคืนนั้นก็คลี่คลายทันที
สิ่งที่นายณัฐวุฒินำมาเล่าย้อน เป็นเรื่องที่ทุกคนทราบดี
ไม่ใช่เรื่องปกปิด หรือไม่ใช่เรื่องแต่งขึ้นในภายหลัง
แต่เมื่อนำมาเล่าย้ำ จะทำให้คนที่ได้ฟังต้องนึกย้อนถึงเหตุและผล
โดยเฉพาะประเด็นความเชื่อมโยงกับชายชุดดำ
ที่มีคลิปยิงปืนอาก้าในคืนวันนั้น!!
ไปจนถึงมีเหตุทหารถูกระเบิดล้มตายและบาดเจ็บจำนวนมากในคืนวันนั้น
นายอภิสิทธิ์ได้พยายามนำเอาคลิปชายชุดดำมายืนยันตลอดว่า
นี่คือ กองกำลังในหมู่ผู้ชุมนุมที่ใช้อาวุธ
มีความพยายามระบุมาตลอดว่า กองกำลังของม็อบนั่น
แหละที่เข่นฆ่าทหารในคืนนั้น
แต่พฤติกรรมของนายณัฐวุฒิกับแกนนำเสื้อแดง ที่ริเริ่มติดต่อฝ่ายรัฐ
เพื่อขอให้ต่างคนต่างถอยเพื่อยุติสถานการณ์
ส่อแสดงชัดว่าม็อบกับผู้ใช้อาวุธในคืนวันนั้น ไม่ได้รู้เห็นกัน!
ถ้ารู้กัน อุตส่าห์เอาชุดดำติดอาวุธออกมาปฏิบัติการแล้ว
ทำไมแกนนำเสื้อแดงไม่รีบขยายผล
มีแต่ต้องรีบขยายแนวการชุมนุม ปลุกระดมมวลชนให้ลุกฮือ
เอาศพคนตายเป็นตัวกระตุ้น ขยายการจลาจลเพื่อชนะขั้นแตกหัก
แต่นี่แกนนำเสื้อแดงกลับยุติเหตุการณ์ในคืน 10 เมษายน
พฤติกรรมเช่นนี้นายอภิสิทธิ์แปลไม่ออกหรือแกล้งไม่แปล
ว่าเสื้อแดงไม่ได้เกี่ยวข้องกับกลุ่มใช้อาวุธในคืนนั้นแน่นอน!
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNMU5qQXlNREl4TlE9PQ==§ionid=