ความคิดเห็นที่ 1 ธนาคารโลกไม่โง่หรอก แต่มันเป็นเครื่องมือของอเมริกา เอาไว้ริดรอนและทำลายประเทศที่กำลังจะเข้มแข็ง ใครเจริญผิดหูผิดตา มันจะไม่คอยกำจัดไม่ให้เจริญเกินหน้าอเมริกา จากคุณ : patham เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 09:56:19 A:171.6.212.204 X:

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่โง่หรอก แค่ทำนายว่ากรีซจะฟื้นตัวตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ผ่านมาปีแล้วยังไม่มีวี่แวว แค่ทำนายว่าฝรั่งเศสจะเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจยุโรป ต่อจากเยอรมัน แต่ตอนนี้ฝรั่งเศสเริ่มแย่ตาม ๆ อิตาลีไปแล้ว แม่นค่อด ๆ เลยครับ จากคุณ : Tiger Ton เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 10:00:20 A:61.47.42.70 X:

ความคิดเห็นที่ 3 "ผมว่า โง่นะ เพราะไม่ตรงกับที่เสื้อแดงโอ่" คุณ.ม่วงคัน ........................................................................ ถ้าคุณคิดว่า ธ.โลกโง่  แล้วคุณละจะขนาดไหน?     อิอิ. แกล้งไม่เข้าใจความหมาย จากคุณ : ตาเป๋า เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 10:06:20 A:203.172.178.20 X:

ความคิดเห็นที่ 4 ขาดทุนปีละ แสนกว่าล้าน แต่รับประกันเราใช้เงินปีหล่ะ 2 แสนกว่าล้านไม่ใช่หรอครับ งั้น จำนำก็ดีกว่าสิครับ จากคุณ : ความจริงที่ไม่มีจริง เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 10:09:50 A:202.183.155.250 X:

ความคิดเห็นที่ 5 ธนาคารโลกไม่โง่หรอก เขาอยากให้ชาวนาไทยปลูกข้าวให้ชาวโลกได้กินข้าว ในราคาถูกๆ ต่อไป จากคุณ : NiyomC เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 10:15:31 A:119.63.83.111 X:

ความคิดเห็นที่ 6 ม่วงคันบอกผมได้หรือไม่ว่า ในรอบห้าปีที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ใหญ่ในแวดวงเศรษฐกิจโลก ที่ธนาคารโลกทำนายถูกกี่เรื่อง ผิดกี่เรื่อง? ใบ้ให้ว่า ถ้าไม่นับอะไรที่มันเห็นง่าย ๆ อยู่แล้ว เอาแบบต้องใช้การคาดการณ์ ส่วนมากธนาคารโลกคาดการณ์ผิดนะครับ จะว่าโง่ก็ไม่ใช่ เพราะมันเป็นการคารการณ์ มันผิดถูกได้เสมอ....แต่รวม ๆ แค่ผิดมากกว่าถูกเองอะ จากคุณ : Tiger Ton เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 10:15:35 A:61.47.42.70 X:

ความคิดเห็นที่ 7 ธนาคารโลกไม่โง่หรอก     เพราะรู้ว่ายังไงก็มีคนโง่ตามเชื่ออยู่แล้ว  เลยเอามาตั้งกระทู้อย่างที่เห็นนี่แหละฮ้า  อิอิ จากคุณ : นางฟ้านะยะ เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 10:19:45 A:171.6.146.235 X:

ความคิดเห็นที่ 8 เออ ม่วงไม่เห็น ข่าว ที่บอกว่า GDP ไทยโตขึ้นเหรอครับเนี่ย จากคุณ : นายสบายสบาย เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 10:19:58 A:182.52.206.220 X:

ความคิดเห็นที่ 9 แดงคือที่สุดของโลกครับคุณม่วงแดง GDP ไทยเหรอที่ว่าเพิ่มขึ้น คราวก่อนผมจำประโยคนี้ได้ "โกหกสีขาว" เอะหรือว่าแดงลืมแล้ว จากคุณ : leetaesok เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 10:24:52 A:118.172.4.154 X:

ความคิดเห็นที่ 10 ดร.กิริฎา เภาพิจิตร ไม่โง่หรอก เทพตั้งแต่ บอกว่า เช็คช่วยชาติของ รบ อภิสิด มาถูกทางแล้วนั่นแหละ ราคาพอๆกัน กับ TDRI  พวกนักวิชาการอิงการเมือง สรุปแล้ว เธอไม่โง่หรอกแต่คุณนั่นแหละโง่ที่ยังเชื่อคนพวกนี้อยู่ จากคุณ : นายเบื่อบอลอุด เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 10:40:25 A:202.12.97.117 X:

ความคิดเห็นที่ 11 ไม่เชื่อธนาคารโลกแล้วละ เพราะโง่  แล้ว ธกส.ละ เชื่อไหม เอ่ย รัฐบาลตั้งคณะอนุกรรมการจัดหาเงินทุนเพื่อจำนำข้าว ด้าน ธ.ก.ส.ยอมรับจำนำข้าวขาดทุนหวังช่วยเกษตรกร แต่ต้องขายในราคาต่ำกว่า             นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติกรอบวงเงิน 2.4 แสนล้านบาท ในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปีฤดูกาลผลิตปี 2555/2556 วางเป้าหมาย 15 ล้านตัน โดยกระทรวงการคลังจัดหา 1.5 แสนล้านบาท และกระทรวงพาณิชย์ นำส่งเงินจากการระบายข้าว 5 หมื่นล้านบาท แต่เพื่อให้แผนงานการระดมเงินเพื่อรับจำนำข้าวมีความชัดเจน นายกรัฐมนตรีจึงตั้งคณะอนุกรรมการดูแลจัดหาเงินทุน โดยมีปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน ส่วนกรรมการ ประกอบด้วย ธ.ก.ส., สำนักบริหารหนี้สาธารณะ, สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง, สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร, องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร, กรมการค้าระหว่างประเทศ, องค์การคลังสินค้า             อย่างไรก็ตาม คาดว่าข้าวนาปีชาวนาจะนำข้าวมาจำนำประมาณ 10 ล้านตันในปีนี้คงไม่ถึงเป้าหมาย 15 ล้านตันตามที่รัฐบาลตั้งไว้ ดังนั้น จำนำข้าวนาปีน่าจะใช้เงินประมาณ 2 แสนล้านบาท และปีนี้ สหกรณ์ได้ออกมารับซื้อข้าวจากสมาชิกเพื่อแปรสภาพ และบรรจุถุงขาย จึงช่วยลดปริมาณนำข้าวมาจำนำกับรัฐบาล             ส่วนการปลูกข้าวนาปรังส่วนใหญ่จะเป็นเกษตรกรบริเวณพื้นที่ชลประทานนั้น จะมีการหารือแผนการรับจำนำข้าวนาปรังอีกครั้งในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) เพื่อประเมินเป้าหมาย และเงินทุนรองรับโครงการ เนื่องจากมีบทเรียนปีที่ผ่านมาเมื่อรับจำนำข้าวทุกเม็ดทำให้เกษตรปลูกข้าวนอกฤดูกาลผลิตจนรัฐบาลต้องรับจำนำข้าวเพิ่มมากกว่า 14.6 ล้านตัน โดยการรับจำนำข้าวรัฐบาลย้ำชัดเจนว่า ต้องการให้เกษตรกรจำนำกับรัฐบาลเพียงปีละ 2 ครั้ง             สำหรับผลดำเนินการรับจำนำข้าวฤดูกาลผลิตปี 2554/2555 เบื้องต้น ยอมรับว่าขาดทุนเพราะรัฐบาลตั้งราคาจำนำข้าวสูงกว่าตลาด เพื่อมีเจตนาช่วยเหลือเกษตรกรให้มีรายได้เพิ่มนับว่าเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกร เมื่อกระทรวงพาณิชย์ต้องระบายขายข้าวในสต๊อกรัฐบาลต่ำกว่าความเป็นจริง แต่ผลการปิดบัญชีฤดูกาลผลิต 2554/2555 ที่จะครบกำหนดวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2556 จะเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการปิดบัญชีโดยมี น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธานชี้แจงผลดำเนินงานทั้งหมด จากคุณ : ม่วงคัน เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 10:40:25 A:223.206.158.14 X:

ความคิดเห็นที่ 12 โง่หรือไม่โง่ ไม่รู้ แต่ถ้าเราไม่ อุดหนุน ช่วยเหลือ อาชีพทำนา วันหนึ่ง ถ้าเรา กลายจากผู้ส่งออกข้าว รายใหญ่ ไปเป็นผู้นำข้าวรายใหญ่ แล้ว จะร้องไม่ออก           ถ้าเรานึกว่า อาชีพ บริการ หรือ ต่อยอดทางธุรกิจ พวกพ่อค้า หรือ พวกเอาวัตถุดิบไปพัฒนา หรืออาชีพ ทำงานประจำ เป็นอาชีพที่ ทำเงินได้ดี  แต่ทำให้ผมนึกถึง พวกยุโรปที่เป็นอยู่ เดิมพวกนี้ก็เป็นเกษตรกรรม ต่อมาก็พัฒนาเป็นอุตสาหกรรม ยกตัวเองเป็นผู้มีความรู้ ทำให้งานที่ใช้แรงงาน ส่งต่อให้ ประเทศอื่น  ต่อมาเมื่อ ค่าแรงสูง ค่าครองชีพสูง ทำให้หลายอุตสาหกรรม ต้องย้ายฐาน ไปประเทศอื่น        ปรากฏว่า ที่เหลืออยู่ในยุโรป มีแต่แรงงานที่มีความรู้ แต่ไม่มีอะไรทำ ถึงทำก็ไม่คุ้มค่าใช้จ่าย  จะให้เขาไป ทำงานยกของ ค่าแรงวันละพัน คนจ่ายต้องการจ่ายแค่ 500 สรุป มีคนทำแต่ไม่มีคนจ่าย หรือมีคนจ่ายถูก แต่คนทำทำแล้วไม่พอกิน        ตอนนี้ยุโรปกำลังจุก          ถ้าไทยยังคิด ว่า การทำงานด้านเกษตรกรรม เป็น อาชีพที่ต่ำต้อย  สู้อาชีพ ในเมืองที่เสียภาษีปีละมากๆ  แต่ถ้าวันหนึ่ง งานในเมือง ถูกย้ายไปทำในประเทศอื่นที่ค่าแรงถูกกว่า ชะตากรรม เราก็ไม่ต่างจาก ยุโรป แก้ไขเมื่อ 21 ธ.ค. 55 10:45:28 แก้ไขเมื่อ 21 ธ.ค. 55 10:44:34 จากคุณ : ตังชัย เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 10:42:24 A:49.48.68.71 X:

ความคิดเห็นที่ 13 ผมว่านั่นคือการมองด้านตัวเลข ไม่ได้ทางด้าน สังคม วัฒนธรรมเท่าไหร่ ไม่มียาง ไม่ปาล์ม เรายังอยู่ได้ ไม่มีชาวนา แล้วจะรู้สึก จากคุณ : monkey_D เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 10:48:58 A:110.77.192.244 X:

ความคิดเห็นที่ 14 ดีค่ะ  หมดรัฐบาลชุดนี้  เราจะเลือกปชป.....จะได้มาเป็นรัฐบาล แก้ปัญหา  ให้บ้านเมือง ...ค่ะ จากคุณ : sao..เหลือ..noi เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 10:49:34 A:61.90.47.58 X:

ความคิดเห็นที่ 15 ทุกวันนี้ เงินเดือนค่าราชการสูงขึ้น เงินเดือน หมอ พยาบาล นักกฏหมาย ครู วิศวกรสูงขึ้น  คนที่ต้องใช้บริการพวกนี้ ก็ต้องหาเงินเพิ่ม แน่นอนเขาก็ต้อง หาเงินเพิ่ม       ไปซื้อข้าวกล่องหนึ่ง บอก ค่าของขึ้นนิดเดียว ทำไมขึ้นเยอะจัง แต่อย่าลืมว่า คนขายข้าว เขาต้องมีค่าใช้จ่าย ค่าน้ำมันแพงขึ้น ค่าเรียนของลูก เพิ่ม ค่าไปหาหมอเพิ่ม เขายังขายข้าวได้จำนวนเท่าเดิม เขาก็ต้องขึ้นค่าแรงเขา      สุดท้าย ค่าครองชีพ สูงขี้น แต่เราอย่าลืม รอบตัวเรายัง มีคนที่เขาทำอาชีพ อื่นอยู่ เขาก็ต้องกิน ต้อง ใช้ เขามีลูกมีเมียมีพ่อแม่ต้องเลี้ยง          พวกหนึ่งขึ้นค่าแรง แต่อีกพวกจะดองค่าแรงเขาไว้ก็ไม่ได้ เขาก็ต้องขึ้น สุดท้ายทุกคนต้องมีค่าตัวที่สูงขึ้น เพื่อเพียงพอกับค่าใช้จ่าย จากคุณ : ตังชัย เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 10:54:13 A:49.48.68.71 X:

ความคิดเห็นที่ 16 สมัยก่อน ประเทศไทย ร้อยละ 90 ทำงานภาค เกษตรกรรม ร้อยละ 10 ทำงานในเมือง ข้าว ผัก ปลา มีคนทำมาขายเยอะ ราคาเลยถูก        แต่ตอนนี้ ใครก็อยากส่งลูกเรียนเพื่อทำงานดีๆ ถ้า ในอนาคต ไทยเรามีคนทำงานภาค กสิกรรม 40 % อีก 60% ทำงานในเมือง  ถึงตอนนั้น ข้าวหกเม็ดหนึ่งยังต้องแย่งกันเก็บ ผักใบเหลืองๆ ยังต้องกิน จากคุณ : ตังชัย เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:02:25 A:49.48.68.71 X:

ความคิดเห็นที่ 17 ไม่อยากยกอะไรมาเปรียบเทียบอีก ตอน ปรส.ใส่เงินเข้าไปเท่าไหร่เพื่ออุ้มนายแบงค์/ไฟแนนซ์ อุ้มจนอุ้มไม่ไหว บรรดาเจ้าสัวก็พากันล้มบนฟูก ลูกหลานเขาก็ได้อานิสงค์ ร่ำรวยแทนพ่อแม่ ทุกวันนี้ยังไม่รู้ปัญหาจบหรือยัง พอจะอุ้มชาวนาบ้าง ...บ่นกัน อ้างว่าชาวนาไม่เสียภาษีมั่งไรมั่ง ขาดทุนเท่าโน้นเท่านี้ เรียกร้องให้ระงับโครงการณ์เสีย พลเมืองชั้น2 จากคุณ : แก้วดี (แก้วดี) เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:10:12 A:171.7.50.162 X:

ความคิดเห็นที่ 18 นางสาวกิริฎา เภาพิจิตร นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ธนาคารโลกสำนักงานประเทศไทย (เวิลด์แบงก์) เปิดเผยว่า ได้ปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2555 เพิ่มจาก 4.5% เป็น 4.7% เพราะเห็นแรงส่งจากมาตรการฟื้นฟูความเสียหายจากน้ำท่วมและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่มีอย่างต่อเนื่อง สามารถผลักดันการบริโภคและการลงทุนให้เติบโตได้ดี สามารถทดแทนการส่งออกที่ชะลอตัวได้ ส่วนแนวโน้มในปี 2556 เวิลด์แบงก์คาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของไทยจะขยายตัวระดับ 5% แม้ว่าการส่งออกปีหน้าคาดว่าจะขยายตัวเพียง 5.5% เมื่อเทียบกับปีนี้ที่คาดว่าจะขยายตัว 3% แต่ภาคการผลิตจะกลับมาดำเนินการผลิตได้เต็มที่ในทุกอุตสาหกรรม เศรษฐกิจโลกมีสัญญาณฟื้นตัว การลงทุนภาคเอกชนและภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นบริหารจัดการน้ำและระบบขนส่ง ขณะเดียวกันนายรอล์ฟ ดีเตอร์ ดาเนียล ประธานสมาคมศูนย์ส่งเสริมธุรกิจยูโรเปียน-อาเซียน (อีเอบีซี) แถลงผลสำรวจความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ ประจำปี 2555 ซึ่งสำรวจผ่านอี-เมล์ไปยังสมาชิกของหน่วยงานที่เป็นเครือข่ายและพันธมิตรของสมาคมฯ กว่า 2,000 รายโดยภาพรวมผู้ตอบแบบสอบถาม 50% มีความเห็นเชิงบวกต่อแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยในช่วง 2 ปีข้างหน้า มีเพียง 6% เห็นเชิงลบ ทั้งนี้ จากผู้ที่ตอบแบบสอบถาม 81% ส่วนใหญ่เป็นบริษัทขนาดใหญ่ กำลังพิจารณาการลงทุนขนาดใหญ่เพิ่มในช่วง 2 ปีข้างหน้า ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในอาเซียน ด้วยการลงทุนในประเทศไทยและที่อื่นในโลก นอกจากนี้อีก 80% ยังประเมินว่า ธุรกิจจะสามารถเติบโตสร้างผลกำไร ยอดขายจะสูงขึ้นมากและเติบโตขึ้นระดับปานกลางในช่วง 6 เดือนข้างหน้า ขณะที่อีก 10% ผลการดำเนินงานจะลดลง ดังนั้น ภาพรวมของความเห็นจึงมองเชิงบวกระยะยาว 2 ปี ต่อจากนี้ไป สำหรับโอกาสสำคัญของประเทศไทยในอีก 5 ปีข้างหน้า ซึ่งมีการเกิดขึ้นของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี) ส่วนที่ตามมา คือ การจัดทำเอฟทีเอยุโรป-ไทย รองลงมา คือ ข้อตกลงการค้าอาเซียนกับประเทศคู่ค้าสำคัญ เช่น จีน อินเดีย ขณะที่การเปิดเสรีภาคบริการมีความสำคัญระดับรองลงไป อย่างไรก็ตาม นักธุรกิจแสดงความกังวลปัจจัยภายนอกที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบ โดยเฉพาะวิกฤติเศรษฐกิจในยุโรปเป็นความท้าทายหลัก รองลงมา คือ ภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจของสหรัฐ และแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงของจีน นายดาเนียลกล่าวอีกว่า นักธุรกิจกังวลเกี่ยวกับความเชื่อมั่นในสถาบันรัฐ และโอกาสที่จะเกิดผลกระทบจากความไม่มั่นคงทางการเมือง ตามด้วยทรัพยากรมนุษย์ เช่น ต้นทุนสูง ขาดความ^^วชาญ ข้อจำกัดการจ้างคนงานต่างชาติ อีกทั้งกังวลการขาดความโปร่งใสและปัญหาคอร์รัปชั่น ซึ่งเป็นข้อกังวลหลัก และบางส่วนยังระบุถึงปัญหาโครงสร้างพื้นฐานและระบบโลจิสติกส์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ท้าทายในประเทศไทย http://www.thaitextile.org/main/content.php?content_id=NEWS121220090431&content_type=news จากคุณ : นายสบายสบาย เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:30:16 A:182.52.206.220 X:

ความคิดเห็นที่ 19 เศรฐกิจไทย ไม่ได้ผูกติดไว้กับขายข้าวอย่างเดียวนะครับ ยังมี ภาคอุตสาหกรรมอีก ส่วนเรื่องข้าว ณ ปัจจุบัน ขาดทุน น่ะถูกต้องแล้วครับ เพราะข้าวที่รับจำนำมา ยังไม่ได้ขาย มันตองทะยอยขายออกไป ตามออเดอร์ที่เข้ามา ทำการค้า เดือนไหนที่คุณลงทุนซื้อของเข้าเพื่อไว้ขายระยะยาว ยังแต่ขายออกไปบางส่วนมีที่ไหนกำไรบ้างล่ะครับ ซื้อมา 100 ถ้ายังไม่ขายมันก็ขาดทุนร้อย ถ้าขายออกไป 80 ก็ขาดทุน 20 แต่ขาดทุน แสนล้าน จากข้าว สิบกว่าล้านตัน มันเท่ากับ ขาดทุนเกือบหมื่นบาทต่อตันเลยนะครับ ธนาคารโลกไม่โง่ครับ แต่คนที่เอาข้อมูลไปตีความแบบไม่รู้เรื่องต่างหาก จะเชื่อข้อมูลก็ต้องรู้จักคิดบ้าง ไม่ใช่ บอกขาดทุน โอ้ประเทศไทย ขาดทุนแหงแหง ข้าวที่มีต้องทิ้งแน่แน่ ขายไม่ได้ งั้นเหรอครับ แก้ไขเมื่อ 21 ธ.ค. 55 12:06:34 จากคุณ : นายสบายสบาย เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:51:06 A:182.52.206.220 X:

ความคิดเห็นที่ 20 ธนาคารโลกจะโง่หรือไม่โง่ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆพรรค แมงสาป  โง่แน่นอน เพราะไม่เคยทําให้ราคาข้าวดีขึ้น เอาแต่ช่วยเหลือนายทุน ผลสุดท้าย เลือกตั้งแพ้ตลอด จากคุณ : PredatorNeverdie เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 12:06:20 A:113.53.114.20 X:

ความคิดเห็นที่ 21 คุณสบายสบายครับ การขาดทุนที่พูดถึงกันว่า ขาดทุนแสนกว่าล้านนั้น มันจะมาจาก ค่าใช้จ่ายในการทำโครงการประมาณ 3-4 หมื่นล้านบาทต่อปี ส่วนตัวข้าวจริง ๆ  ขาดทุนเกือบแสนล้านบาท อันนี้เป็นกระทู้เก่า ที่ผมคิดต้นทุนข้าวของรัฐบาลเอาไว้ จะเห็นว่า ถ้าผมคิดไม่ผิดมาก (โดยส่วนตัวผมว่าผมคิดไม่ผิดมากแน่ ๆ แต่หลายคนคิดว่าผมคิดผิด ก็ไม่เป็นไรครับ) ขายข้าวในวันนี้ในราคาตลาด ขาดทุนเกิน 1 หมื่นบาทต่อตัน หมดแน่นอนครับ แล้วเรื่องการขาดทุนนั้น รัฐบาลคิดในแนวตรงกันข้ามกับคุณอยู่เหมือนกัน คือจะบอกประมาณว่า ยังไม่ขายก็ยังไม่ขาดทุน คือไม่ยอมตีมูลค่าตามราคาตลาด เพื่อตั้งประมาณการขาดทุนเตรียมไว้ก่อน แต่พยายามหวังว่า ราคาจะขึ้นไปมากในอนาคต จากคุณ : Lpg_Horse เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 12:18:57 A:110.171.132.154 X:

ความคิดเห็นที่ 22 เพิ่งทำเรื่อง จำนำข้าว ยังไม่พ้นปี เอาอะไรมาพูด.. อย่าเอา World Bank มาอิงนะ เห็นหน้าเธอแล้ว.. ยังคิดว่า เคยลุยนารึเปล่า ถึงได้พูดฉอดๆ จากคุณ : กุหลาบแวร์ซาย เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 12:28:15 A:27.55.144.104 X:

ความคิดเห็นที่ 23 ธนาคารโลกโง่ไหม ไม่รู้หรอก รู้แต่จขกท จากคุณ : ลมธรรม เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 12:29:27 A:124.121.113.89 X:

ความคิดเห็นที่ 24 ต่อจากประโยคใน คห 23 โง่มาก แก้ไขเมื่อ 21 ธ.ค. 55 12:42:17 จากคุณ : Bababooo เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 12:41:41 A:58.9.230.45 X:

ความคิดเห็นที่ 25 ขออนุญาตนำเฉพาะข้อสรุปของ ธ.โลก มาให้อ่านอีกทีค่ะ..   น.ส.กิริฏา เภาพิจิตร นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) กล่าวสรุประหว่างการให้ข้อมูลในรายงาน "ตามติดเศรษฐกิจไทย" ที่สำนักงานธนาคารโลก (19 ธ.ค.) ดังนี้..   "แม้ผลบวกจากโครงการรับจำนำข้าว ส่งผลดีต่อเกษตรกรชาวนาผู้ปลูกข้าว ได้รับเงินจากการขายข้าวเพิ่มขึ้นช่วยให้มีรายได้มากขึ้น แต่ทั้งนี้เงินรับจำนำข้าวสามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในอนาคตได้ ด้วยการช่วยเหลือแบบกำหนดกลุ่มเป้าหมาย เพราะยังมีเกษตรกรอีกหลายรายในประเทศที่ไม่ได้มีข้าวเหลือขาย และเป็นเกษตรกรผู้ปลูกข้าวรายเล็กที่ยากจน   แนะนำว่าหากรัฐนำเงินบางส่วนจากที่ได้จำนำข้าว เอามาช่วยเหลือโดยตรงให้ขาวนารายเล็กและยากจนกลุ่มนี้ ก็จะได้ประโยชน์จากโครงการนี้ด้วย"   นอกจากนี้ ธนาคารโลกพบว่า การปลูกข้าวของไทยในปัจจุบันมีผลผลิตต่อไร่น้อยและน้อยที่สุดจากข้อมูลที่ได้ในรายงานองค์การอาหารโลก (เอฟเอโอ) ที่ระบุว่าการผลิตข้าวต่อไร่ของไทยมีปริมาณน้อยกว่าประเทศอื่นที่เป็นผู้ผลิตข้าวหลักๆในโลกนี้   ดังนั้นมีความจำเป็นที่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวของไทยต้องเพิ่มผลผลิตต่อไร่รวมถึงคุณภาพของข้าวไทยด้วย   ฉะนั้นเงินส่วนหนึ่งแทนที่นำไปใช้รับจำนำข้าว รัฐควรเอามาใช้พัฒนาเพิ่มผลผลิตเพิ่มคุณภาพของข้าวด้วย วิธีนี้จะช่วยให้เกษตรกรได้รับเงินเข้ามาเพิ่มขึ้นอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย   ^ ^ ^ รายงานชิ้นนี้ ไม่มีค่าควรพิจารณา...จริงเหรอคะ?   จากคุณ : โพ้นฟ้า เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 12:45:27 A:171.99.0.139 X:

ความคิดเห็นที่ 26 เมื่อพูดแล้วไม่ฟังก็ปล่อยให้มันโง่ดักดานต่อไป จากคุณ : Jitsak เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 12:48:55 A:124.120.180.223 X:

ความคิดเห็นที่ 27 แปลว่าหลายคนในนี้ฉลาดพอจะมีธนาคารโลกเป็นของตัวเอง จากคุณ : leetaesok เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 13:01:55 A:118.172.4.154 X:

ความคิดเห็นที่ 28 ดีครับ อุ้มกันไปให้หมดทุกสินค้าเลย ไม่ต้องมีกลไลตลาด ไม่ต้องปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตอะไร ทำอะไรออกมาห่วยๆ เดี๋ยวรัฐบาลก็ต้องมาอุ้มครับ เงินไม่พอก็กู้ไป จะไปยากอะไร  ไอ้รัฐบาลดีแต่กู้ อิอิ คุ้นๆป่าว จากคุณ : OSK29560 เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 13:11:24 A:49.48.125.215 X:

ความคิดเห็นที่ 29 ผมว่าเราควรที่จะทำความเข้าใจเรื่อง ผลผลิตข้าวต่อไร่ กันใหม่ดีกว่าไหม พันธุ์ข้าวคนละพันธุ์ มันคงเป็นไปไม่ได้ ที่จะให้ผลผลิตต่อไร่เท่ากัน นี่ยังไม่นับสภาพดิน ลมฟ้าอากาศ ศัตรูพืช และอื่นๆอีกมาก เราควรจะสนใจว่าจำนวนผลผลิตต่อไร่นี่ มากกว่าหรือน้อยกว่า ปริมาณที่ควรจะเป็นของข้าวพันธุ์นั้นๆ พันธุ์ข้าวหอมมะลิ บ้านเรา ชาวบ้านเขาจะเรียกว่า ข้าวหนัก ส่วนพันธุ์ข้าวของเวียดนาม จีน ที่เขานิยมปลูกกันคือ ข้าวเบา ซึ่งเมล็ดจะเก็บไว้ได้ไม่นาน มันจะแตกละเอียดเป็นผงๆ ส่วนข้าวหนักบ้านเราจะเก็บได้นานหลายปี ถ้าจัดการเรื่องมอดได้ดี เพราะข้าวบ้านเรา ถึงจะเก่าแต่จะไม่ถึงกับแตกละเอียดเป็นผงๆเหมือนข้าวเบา ทุกวันนี้มันก็มีบริษัทอยู่บริษัทหนึ่งในบ้านเรา ก็พยายามเอาพันธุ์ ข้าวเบา ที่มีจุดเด่นเรื่อง ให้ผลผลิตต่อไร่สูง ปีนึงปลูกได้อย่างน้อย 3 ครั้ง แต่มีข้อเสียเรื่องคุณภาพของเมล็ดข้าว กลิ่นไม่หอม และเม็ดข้าวเปราะหักง่าย มาผสมกับพันธุ์ข้าวหอมมะลิพันธุ์ดีในบ้านเราอย่าง ปทุมธานี 1 นี่แหละ สุดท้ายถ้าคนไทยหันมาปลูกข้าวพันธุ์ลูกครึ่งผสมแบบนี้มากๆ เราจะสูญเสีย เจ้าตลาดข้าว ไปอย่างถาวรแน่นอน เพียงเพราะความไม่เข้าใจของ คนไทย แม้กระทั่งนักวิชาการที่ มักเป็นนักวิชาเกิน เห็นแก่ความโลภชื่อเสียง จอมปลอม ข้าวหอมมะลิพันธุ์แท้ๆ ปีนึงปลูกได้ไม่เกิน 2 ครั้ง เพราะกว่าจะออกรวงเป็นเมล็ดที่สวยงาม ต้องใช้เวลามากกว่าพันธุ์ข้าวอื่นๆหลายเท่า แต่แฝงไปด้วย คุณภาพ และจิตวิญญาณ ของชาวนา อย่างเต็มเปี่ยม อย่างที่พ่อพยายามสอน พวกเราไม่ให้ลืมข้าวไทยแท้ๆ http://hilight.kapook.com/view/38439 จากคุณ : จอมยุทธ์ธงฟ้า เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 15:27:29 A:110.77.138.173 X:

ความคิดเห็นที่ 30 =ช่ายโง่มาก  เพราะเดี๊ยวก็ โกดังไฟฟ้าลัดวงจร   ประกันก็ต้องจ่าย   กำไรเนาะๆ   คมเฉือนคม   ธ.โลกตามเกมส์ไม่ทันร๊อก  กะจอก จากคุณ : อ่ำ (RKA_abrasive) เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 19:58:41 A:58.9.29.174 X: