สาระสำคัญ ที่จะแก้ไข รธน.2550 เพราะว่า ม.309 ไปรับรอง รฐน.2549ไว้
เมื่อดูในมาตรา37 คือการทำผิดไม่ต้องรับผิด ทั้งในอดีต และในอนาคต อันเห็นได้ว่า ละเมิดหลักความเสมอภาค จารีตประเพณี จริยธรรม กระทบต่อหลักความเทียงธรรมข้อที่10ของทศพิธราชธรรม
ในเมื่อ รฐน.2549 ยกเลิกไปโดยปริยาย เพราะมี รฐน.2550 แต่ว่ายังมีผลผูกพันเพราะ ม.309ไปอ้างอิงไว้ ก็ช่าง ม.309เถอะ ก็ไป ออกพรบ.ยกเลิกแก้ไขข้อความ ด้วยว่าการแก้ไขแบบนี้มันมีมาก่อนทำได้
หรือจะไปยื่นเรื่องต่อศาลปกครองก่อน ให้ศาลสั่งผู้ที่เกี่ยวข้องจัดการ เพื่อความชอบธรรม อ้างอิงตาม
คำพิพากษาฎีกาที่ 1234/2523 ประการสุดท้ายโจทก์ฎีกาว่า เมื่อมีรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแล้ว ประกาศหรือคำสั่งของคณะปฏิวัติหรือคณะปฏิรูปต้องเลิกใช้ทันที เพราะเป็นการเหยียบย่ำอำนาจอธิปไตยของปวงชนชาวไทย ศาลฎีกาเห็นว่าเมื่อคณะปฏิวัติหรือคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินยึดอำนาจการปกครองแผ่นดินได้เป็นผลสำเร็จ หัวหน้าคณะปฏิวัติหรือหัวหน้าคณะปฎิรูปการปกครองแผ่นดินย่อมมีอำนาจที่จะออกประกาศหรือคำสั่งอันถือว่าเป็นกฎหมายใช้บังคับแก่ประชาชนทั่วไปได้ แม้จะมีรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยออกประกาศใช้แล้วก็ตาม แต่เมื่อไม่มีบทกฎหมายยกเลิกประกาศหรือคำสั่งของคณะปฏิวัติหรือคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินดังกล่าวแล้ว ประกาศหรือคำสั่งนั้นจึงยังเป็นกฎหมายใช้บังคับอยู่
การที่ ศาลยอมรับใน อำนาจของผู้ยึดอำนาจ ก็เพื่อความตั้งอยู่ในสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองอ้างอิงตาม
คำพิพากษาฎีกาที่ 45/2496 การที่คณะรัฐประหารยึดอำนาจการปกครองประเทศได้สำเร็จนั้นคณะรัฐประหารย่อมมีอำนาจที่จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขยกเลิกและออกกฎหมายตามระบบแห่งการปฏิวัติเพื่อบริหารประเทศชาตต่อไปได้ มิฉะนั้นประเทศชาติจะตั้งอยู่ด้วยความสงบไม่ได้ดังนั้นรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2490จึงเป็นกฎหมายอันสมบูรณ์การแต่งตั้งให้ผู้ใดเป็นรัฐมนตรีในตอนนั้น ก็ย่อมเป็นการชอบด้วย
ในเมื่อ บ้านเมืองอยู่ในความสงบ การที่จะยกเลิกแก้ไข ตัวบทกฏหมายใดๆที่เหยียบย่ำอำนาจอธิปไตย และยังมีผลอยู่ ก็เป็นการสมควรและชอบที่จะยกเลิกแก้ไข
ก็ชอบที่ศาลท่านจะเห็นด้วย เพราะศาลท่านต้องธำรงค์ไว้ซึ่งความถูกต้องและยุติธรรม ซึ่งจะไม่ทำให้เกิดความขัดแย้งกับผู้ไม่เห็นด้วยที่จะแก้ รฐน. ฉบับปัจจุบัน
ขอเสนอให้ สส.เพื่อไทย ยื่นร่าง พรบ.แก้ไขยกเลิก ข้อความใน รฐน.2549
