ความคิดเห็นที่ 1 จากคุณ : อุบลแมน เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 13:19:36 A:110.164.75.144 X:

ความคิดเห็นที่ 2 อยาเอา2พันล้านมาอ้าง... เดียวจะเหมือนตอนมาร์คไม่ยอมยุบสภา แต่ไปหมดกับความวุ่นวาย ม็อบและผู้ได้รับผลกระทบไม่รู้จะสักเท่าไร..ยิ่งถ้ามีตายด้วยจะยุ่งใหญ่. จากคุณ : เทพสาดส่อง เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 13:28:40 A:180.183.55.139 X:

ความคิดเห็นที่ 3 ผมสงสัยตรงที่ว่า ทำไมต้องยกร่างใหม่ทั้งฉบับ ไม่แก้เป็นรายมาตราไป เพราะเห็นก็แก้รายมาตราไปหลายรอบแล้ว จะยกร่างใหม่ให้เกิดความวุ่นวายทำไม = =" เพราะเหมือนปี 50 ก็ปรับจาก 40 มาไม่กี่มาตรา อันไหนมีปัญหาก็แก้สะ จะยกร่างให้โดนบางภาคส่วนตั้งแง่ว่า ล้มล้างรัฐธรรมนูญ , มีเป้าหมายหมกเม็ดบางมาตราทำไม เพราะจำได้เหมือนสมัยคุณอภิสิทธิ์ก็แก้ไปแล้วบางมาตรา และสภาก็มีอำนาจทำได้ อันนี้ก็น่าจะทำได้นิครับ ถ้าผมเข้าใจผิดตรงไหน ชว่ยชี้ความกระจ่างให้ด้วยนะครับ จากคุณ : ใบไม้สีน้ำตาลในหน้าร้อน เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 13:42:48 A:125.25.58.253 X:

ความคิดเห็นที่ 4 รัฐธรรมนูญ เป็นเหมือนสัญลักษณ์ ของประชาธิปไตย ดังนั้น การที่จะมีรัฐธรรมนูญ จึงต้องมาจาก ประชาธิปไตยของประชาชน อย่างแท้จริง เหมือนกับรัฐธรรมนูญปี 2540 ที่มาจากประชาชน ถ้าอยากรู้ความหมายของ รัฐธรรมนูญ ของประชาชน ที่แท้จริง ก็ลองไปย้อนดูในอดีตว่า ตั้งแต่ประเทศไทยเปลี่ยนระบอบการปกครองมาเป็นประชาธิปไตย มีรัฐธรรมนูญกี่ฉบับที่มาจากประชาชนอย่างแท้จริงเหมือนรัฐธรรมนูญปี 2540 บ้าง ส่วนการลงประชามติผมว่า มันก็จำเป็นต้องลง 2 ครั้งอย่างเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว เพราะศาลรัฐธรรมนูญ แถมมาให้อีกครั้งหนึ่ง (จริงๆแล้ว ลงมติครั้งเดียว หลังจากร่างเสร็จ ว่าเอาไม่เอาก็พอแล้ว) ถ้าฝ่ายค้านเล่นเกมส์ตามน้ำแบบนี้ผมบอกได้เลยว่า เข้าทางรัฐบาลเห็นๆครับ จากคุณ : จอมยุทธ์ธงฟ้า เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 15:05:26 A:110.77.138.173 X:

ความคิดเห็นที่ 5 พอดีเมื่อคืนไม่ได้อ่านกระทู้เก่า ก็ขอตอบจขกท.ตรงนี้นะครับ คือผมเห็นด้วยกับจขกท.ตรงจุดที่ว่า ตอนนี้ไม่ต้องทำประชามติ แต่จขกท.บอกว่า ควรทำครั้งเดียว คือตอนได้ร่างรธน.แล้ว เอาให้ประชาชนตัดสินว่าจะเอาหรือไม่เอา ผมก็แย้งไปตรงจุดนี้คือ ผมคิดว่า ควรทำสองครั้งนั่นแหละ แต่ครั้งแรกไม่ใช่ตอนนี้ เพราะตอนนี้ทำไปเพื่ออะไรก็ไม่รู้ นึกประโยชน์ไม่ออก เพราะตอนนี้ก็เป็นการแก้รัฐธรรมนูญธรรมดา ๆ ไม่ได้เขียนใหม่ทั้งฉบับอยู่แล้ว สาเหตุที่ต้องทำครั้งแรก ก็เพราะว่า ถ้าหากเริ่มต้นกระบวนการสสร. ในรัฐธรรมนูญ (ถ้าผ่านวาระสาม) จะมีเวลาให้แค่ 240 วัน หลังจากสสร.เริ่มทำงาน เวลาแค่นี้มันไม่พอทำแบบดี ๆ แน่ ๆ เพราะแค่ไปรับฟังความเห็นประชาชน อย่างน้อยก็ต้อง 5 เดือน เวลา 3 เดือน ถ้าเขียนใหม่จริง ๆ คงมีประเด็นให้ตีความเต็มไปหมดแน่ ๆ (นอกจากจะมีการเขียนเตรียมไว้แล้ว ถึงตอนนั้นก็รีบ ๆ ทำ รีบ ๆ เสร็จ อันนี้ก็อีกเรื่อง) ก็เลยคิดว่า ถ้าหากมีกรอบแรกชัดเจน ว่าจะแก้จากตรงไหนมา น่าจะดีกว่า แล้วจริง ๆ นโยบายพรรคเพื่อไทย ก็บอกแบบนี้อยู่แล้ว คือก่อนจะร่างรธน.ใหม่ ก็จะให้ลงประชามติ ว่าจะเอารธน.ปี 40 หรืิอ 50 มาเป็นต้นแบบ ประเด็นของผมอยู่แค่ว่า การกำหนดเวลา 240 วัน สั้นเกินไปในการจะทำทุกอย่าง ดังนั้นต้องลัดขั้นตอนบางประการ ด้วยการเอาของเก่ามาเป็นแบบ แล้วแก้ไขบางจุดให้ดียิ่งขึ้นก็พอ ประเด็นมีเท่านี้แหละครับ ปล.(หน่อยนึง เมื่อวานลืม) ที่พุดเรื่องนี้แบบนี้ ไม่ใช่ผมสนับสนุนการร่างรธน.ใหม่นะครับ เพียงแต่แสดงความเห็น ในแนวทางที่ควรจะเป็น ควรทำอะไร เพราะอะไร ไม่ควรทำอะไร เพราะอะไร แต่ถึงเวลาไปลงประชามติครั้งแรก (ไม่ว่าจะลงก่อนลงวาระสาม หรือลงหลังผ่านวาระสาม) ผมก็จะไม่ไปลงแน่นอน แต่ถ้าขั้นตอนการร่างเริ่มต้นขึ้น ไปถึงการลงประชามติรับ รธน.ฉบับใหม่ ผมก็จะอ่านเนื้อหาก่อน ดูข้อดีข้อเสียให้ชัดเจน ถ้าหากไม่มีอะไรอ่านแล้วแปลก ๆ มากนัก ก็พร้อมจะลงมติรับ จากคุณ : Lpg_Horse เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 16:38:09 A:110.171.132.154 X:

ความคิดเห็นที่ 6 เรื่องนี้ผมก็คิดว่า ควรจะไปทำครั้งเดียวตอนรับร่างใหม่ หรือไม่รับดีกว่า แต่ตามกระบวนการต้องทำ 2 ครั้ง คือถามว่าจะแก้ไหม  ถ้าไม่ผ่านก็จบ แต่ถ้าผ่านคือแก้ ก็ร่างใหม่มาซะ แล้วก็โหวตรอบสองว่า จะเอา ไม่เอา    มันดูยุ่งยากก็จริง แต่ตามกระบวนการมันเป็นแบบนี้   ผมเห็นสมควรว่าถูกแล้วที่ รัฐบาลจะทำแบบนี้ เพราะมันตามขั้นตอนของฏกหมายที่ระบุไว้   จะว่าไป เงินสองพันล้าน ก็ไม่ได้มากมายอะไร เราเสียเงินเยอะกว่านี้ไปกับเรื่องไร้สาระมากกว่านี้  เสียเงิน 6000 ล้านในการอนุมัติกองทัพให้ใช้อาวุธออกมาสลายการชุมนุม กลายเป็นความแตกแยกมากกว่าเดิม ก็ทำมาแล้ว  เงินทักษิณก็ยึดมาแล้ว 40000 ล้าน เอามาใช้หน่อยคงไม่เป็นไรมั้ง ถ้าเสีย2000 ล้านแล้ว ทำให้คนรู้จักเคารพสิทธิ์ เคารพผลโหวต ก็ถือว่าคุ้ม จากคุณ : penn's เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 55 02:28:16 A:110.77.204.98 X: