ความคิดเห็นที่ 1 ทำลายฝ่ายค้าน ล้างผลาญประชาชน ตอน 2 (วินัยการคลัง).....พัสณช เหาตะวานิช   ความน่ากลัวของการใช้เงิน “นอกระบบงบประมาณ” คืออะไร ...คำตอบคือ ตรวจสอบยาก โกงง่าย !!นี่คือ เหตุผลใช่หรือไม่ที่รัฐบาลใช้จ่ายถลุงเงินอย่าง ไม่สนใจอะไรเลย เพราะสุดท้ายก็...กู้มาโปะ    ผ่านวันสิ้นโลกมาหนึ่งวัน สรุป...โลกไม่สิ้น แต่ชาติจะสิ้นแทน !! ทำลายฝ่ายค้านสัปดาห์ก่อน ให้ DSI มาเล่นงานคุณอภิสิทธิ์ กับคุณสุเทพ สัปดาห์นี้ มือกฎหมายของฝ่ายค้านโดนทำร้ายร่างกายสาหัส รัฐบาลก็ไม่แยแส ล้างผลาญประชาชนต่อไป... ราชอาณาจักรนี้ไม่เคยเถื่อนขนาดนี้มาก่อน !! ขอเตือนความจำนิดหน่อยก่อนเรื่องใหญ่ที่สุดทางการเงินในปีหน้า สำหรับประเทศไทยกำลังจะมาถึงครับ   ช่วงนี้ปีที่แล้วเหตุการณ์ที่คนไทยจำได้ดีที่สุดคือน้ำท่วมครึ่งค่อนประเทศ รัฐบาลยิ่งลักษณ์แก้ปัญหาด้วยการ “กู้” เงินมาจำนวนมหาศาล 350,000 ล้านบาท ด้วยวิธีการออกพระราชกำหนดกู้เงิน ประเด็นคือ 1.การขอกู้เงินนอกพระราชบัญญัติงบประมาณนั้น ตรวจสอบได้ยาก 2.การขอออกพระราชกำหนด แทนที่เป็นพระราชบัญญัติ นั้นตรวจสอบ ได้ยากมากขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง และนี่คือสิ่งที่รัฐบาลหลอกศาลรัฐธรรมนูญ หลอกประชาชนคนไทยที่กำลังตื่นกลัวกับน้ำท่วมใหญ่ได้สำเร็จ สุดท้าย ได้วงเงินกู้มา 350,000 ล้านบาท ผ่านมาแล้ว 1 ปี รัฐบาลทำอะไรกับเงินก้อนนี้บ้างครับ สรุปง่ายๆ ใช้เงินไปจริง 2,911 ล้านบาท ให้กระทรวงการคลังมีวงเงินไปกู้ได้ 10,000 ล้านบาท ส่วนอีก 340,000 ล้านบาท ยังไม่ได้ทำอะไรเลย เพราะยังตกลง “จัดซื้อจัดจ้าง” กันไม่ได้ว่า จะให้ใครคาบไปรับประทานดีแล้วตอนนั้นอ้างว่า ด่วนมาก หากไม่ปล่อย ให้กู้โดยการออก พ.ร.ก.เร่งด่วน แล้วจะเป็นภัยต่อพี่น้องประชาชน จะต้องโดนน้ำท่วมอีกรอบ ทั้งหมดก็แค่ลมปากหลอกประชาชน เอาเงินมาล้างผลาญทั้งเพ   ประเด็นหลักใหญ่ใจความสำคัญที่คนไทยต้องรับรู้ร่วมกัน เพื่อไม่ตกเป็นเหยื่อวาทกรรมขอใช้เงินของนักการเมืองโลภ  คือ “เงิน” ที่นักการเมืองจะเอามาใช้ ไม่ว่าจะจากรายได้ภาษี รายได้การค้าขายกับต่างประเทศ สุดท้ายแล้วทั้งหมดนี้โปร่งใสมากที่สุด หากมาจากระบบงบประมาณ ที่จะต้องมีการ อภิปรายพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายในสภาผู้แทนราษฎร นอกจากนี้แล้วถือว่า “นอกระบบงบประมาณ” เพราะฉะนั้น 350,000 ล้านบาท ก้อนหนึ่ง แล้วที่รัฐบาลมีคาบอยู่ในปาก และที่น่ากลัวคือปีหน้า มีวี่แววว่าจะขอกู้ 2,000,000 ล้านกว่าบาทมาคราวนี้เต็มปากเลยครับ ความน่ากลัวของการใช้เงิน “นอกระบบงบประมาณ”คืออะไร ...คำตอบคือ ตรวจสอบยาก โกงง่าย !! และนี่คือ เหตุผลใช่หรือไม่ครับ ที่รัฐบาลใช้จ่าย ถลุงเงินอย่างไม่สนใจอะไรเลย เพราะสุดท้ายก็...กู้มาโปะ อย่างว่าครับ ไม่มีอะไรฟรีในโลก พอรัฐบาลนี้บริหารประเทศด้วยการ “ล้างผลาญประชาชน” พอเงินไม่พอก็หาสารพัดวิธีตบแต่งข้ออ้างให้ดูดี แล้วกู้มาโปะ กู้มาโกง กู้มาสนองตัณหาตัวเอง สุดท้ายพอประเทศมีปัญหา ก็อยู่ไม่ได้ ลาออก แล้วให้รัฐบาลอื่นเข้ามาแก้ไข ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่เรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นครับ หากรัฐบาลทุกรัฐบาลบริหารประเทศโดยเคร่งครัดต่อ... วินัยการคลัง วินัยการคลัง  แปลตรงตัวคือ จงบริหารเงินในคลังของประเทศอย่างมีวินัย  !! รัฐธรรมนูญมีหมวดเฉพาะสำหรับเรื่องนี้เป็นพิเศษ เลยครับและตอนรัฐบาลยื่น ขอกู้เงิน 350,000 ล้านบาท ตอนต้นปี ฝ่ายค้านก็ใช้เหตุผลของข้อกฎหมายนี้ ในการพยายามอธิบายให้ศาลรัฐธรรมนูญ และประชาชนฟัง และเข้าใจว่า หากใช้จ่ายเงินในคลังอย่างไม่มีวินัยแล้ว จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง และแล้วก็เป็นอย่างที่เห็นครับ ก่อนปีใหม่ มีหลายสำนัก หลายองค์กร ไม่ว่าจะเป็น ธนาคารโลก TDRI สภาพัฒน์ แบงก์ชาติ หรือแม้แต่ กระทรวงการคลังเอง ออกมาแสดงตัวเลข และแสดงความกังวลว่า รัฐบาลนี้บริหารงานอย่างไม่มีวินัยการคลัง อีกเรื่องเกี่ยวกับวินัยการคลังที่คนไทยต้องตระหนักถึงความสำคัญมากๆ คือ กรอบความยั่งยืนทางการคลัง กรอบที่ว่ามีหลายกรอบ แต่ที่เป็นหลักๆ เลยที่ได้ยินกันบ่อยที่สุดคือ นี้สาธารณะต่อ GDP ต้องไม่เกิน 60% ตอนนี้ปาไป 47% แล้วครับ ตอนต้นปียังอยู่ที่ 41% อยู่เลย เอาจริงๆ คือ อะไรที่นักวิชาการและฝ่ายค้านเตือนไว้ตั้งแต่ต้นปี ลองสรุปย้อนกันดูสิครับ ปลายปี ปรากฏผลออกมาเป็นจริงแทบทั้งนั้น สาเหตุที่เราจำเป็นต้องเคร่งครัดต่อวินัยทางการคลังมีเหตุผลอีก มากมายครับ แต่หลักๆเลยคือ เพื่อไม่ให้สิ้นชาติ พอนึกไปนึกมา พฤติกรรมของรัฐบาลดูเหมือนจะต้องการให้ชาติสิ้น ยังไงชอบกล เพราะมีแต่ความต้องการที่จะถลุง และผลาญงบประมาณอย่างหน้าชื่นตาบานเสมือนไม่มีอะไรน่ากังวล ปีหน้ายังมีอีกหลายระลอกที่เป็นผลกระทบจากนโยบายประชานิยม ที่จะส่งผลต่อวินัยการคลังเป็นลูกโซ่ครับ โยงกับ “ทำลายฝ่ายค้าน ล้างผลาญประชาชน ตอน 1”คือ รถคันแรก ...พอรถขายดีขึ้นยอดขายเกิน 1 ล้านบาท การนำเข้า แน่นอนพุ่งกระฉูดในปีหน้า จากการใช้อะไหล่ และชิ้นส่วน รถยนต์ พอนำเข้ามาก ประเทศขาดดุลการค้าขาดดุลบัญชีเดินสะพัด พอเก็บเงินรายได้จากภาษีได้น้อยลงเพราะดันไปลดส่วนของคนรวย และนายทุนไปแล้ว คราวนี้เงินจะมาจากไหนครับ ประเทศจะขาดรายได้ ทั้งภาคประชาชนและภาครัฐมีหนี้ท่วมหัวด้วยกันทั้งสิ้น จุดจบเป็นยังไง ยังไม่สายเกินแก้ที่รัฐบาลจะเริ่มทบทวน ฟังคำแนะนำ ของนักวิชาการ และฝ่ายค้าน กลับลำทำเพื่อบ้านเมือง แต่หากไม่สนใจ จ้องจะล้างผลาญประชาชนต่อไป ก็ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า นี่แหละครับ สโลแกนของพรรคเพื่อไทยที่ว่ามาตั้งแต่ต้น...ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ...ลาย !! http://www.naewna.com/politic/columnist/4604 จากคุณ : sao..เหลือ..noi เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 08:50:04 A:58.11.111.82 X:

ความคิดเห็นที่ 2 เห็นแต่ฝ่ายค้าน  ทำลายรัฐบาล...เพื่ออยากมีอำนาจ....กลับมาฆ่าประชาชนอีก จากคุณ : Hs1-drogonfly เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 08:55:57 A:171.100.160.42 X:

ความคิดเห็นที่ 3 รายการนี้  ด่ายาว  ด่าแม้ว  ด่าปู ... คุณข้าง ... บอกด่าใครก็ไม่ชอบ  แต่  "แนวหน้า" ด่า   ช้อบ.. ชอบ ทำไมต้องเอา...แนวหน้า  ไทยโพสต์  ผู้จัดการ  มาให้อ่านกันบ้าง ทุกคอลัมน์ที่ วิจารณ์ รัฐบาล  ก็เหมือน  กระจกเงา ที่สะท้อน การบริหารบ้านเมือง  ในมุมมองของผู้เขียน   รัฐบาลจะเก็บมาคิด   ใคร่ครวญ  นำมาปรับปรุง แก้ไข  หรือชี้แจงให้ปชช.ทราบก็ได้ หรือ จะเชิดหน้า  บอก ช่างมัน ฉันไม่แคร์ก็ได้   เพราะ รัฐบาลอาจจะทราบปัญหานี่้ดี  และได้ หาทางแก้ไขปัญหาไว้แล้ว .... คุณข้าง ...วิจารณ์เรื่อย ว่า  ด่ามาร์ค  อวยปู  บูชาแม้ว... ช่างมันเต๊อะ สื่อก็มีหลายคคห.  สุดแล้วแต่ใจคนอ่าน  คนเอามาแปะให้อ่านก็ยังถูกวิจารณ์ จะปิดปาก  ไม่ให้วิจารณ์  มันก็สิทธิเสรีภาพนะคะ ... ต้องอ่าน..หลายๆ มุมมองค่ะ  จะได้รู้เขารู้เรา ...จะอ่านแต่สื่อที่เป็น "กระจกวิเศษ"  บอกข้าเถิด  รัฐบาลไหนดีเลิศ  ...เด๋วก็จะไปโดยไม่รู้ตัว แก้ไขเมื่อ 23 ธ.ค. 55 09:03:51 จากคุณ : sao..เหลือ..noi เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 09:02:52 A:58.11.111.82 X:

ความคิดเห็นที่ 4 วันนี้มีจ๊อบเสริมนะครับพี่สาวน้อย.. คือ เด็กของพี่ตั้งกระทู้เรียกผม แบบไปชงให้เพื่อนตบ.. แล้วปรากฏว่าผู้อาวุโสชาวแดง ไปตบนำร่องโชว์เลย ขาดแต่พี่สาวนี่แหละครับ... ก็ไปช่วยหน่อยเถอะครับ..จะได้สมบูรณืแบบ เป็นเกียรติประวัติผมด้วย...แบบแดงมาครบทั้งหัวหงอกหัวดำน่ะครับ.. กระทู้นี้นะครับพี่สาว.. http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P13102196/P13102196.html จากคุณ : ร้อนหนาว เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 09:24:02 A:113.53.132.64 X:

ความคิดเห็นที่ 5 ผมหนึ่งคนที่จอดไอ้ตัวใหญ่ใว้ ใช้ น้องซู ประหยัดน้ำมันกว่า ใช้ อี20ด้วย ต้องดูว่ารถเก่า ใช้ 95จะหายไปจากถนนใหม รถปิคอัพ ครอบครัวจะมาเป็น อีโค่ใหม อย่าสรุปดื้อๆ ผมเห็นชัดๆแล้วว่าประหยัดค่าน้ำมันเดือนละเกือบหมื่นจากตัวเลขนี่ ดีเซล ลิตรละ 30 บาท รถวิ่ง 10โลลิตร เดือนละ5000โล ค่าน้ำมัน 15000 บาท ใช้รถ อีโค่ ขับแบบแย่ 18โลลิตร น้องซูนะ เบนซินอี20 ลิตรละ32บาท ค่าน้ำมัน 9000 บาท ประหยัด 6000บาทต่อเดือน ถ้า สักครึ่งหนึ่งเป็นแบบผม จะประหยัดน้ำมันปีละ3600ล้านครับ อีกหน่อยพวกเบ็นซ บีเอ็มของพวกอวยรวยคงหมดไปเยอะเหลือรถเล็กวิ่งกันแบบเมืองใหญ่ ๆ น้ำมันจะประหยัดขึ้น 30%เลย จากคุณ : โจดงยาง17 เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 09:25:13 A:125.26.88.50 X:

ความคิดเห็นที่ 6 การมองเศรษฐกิจ  มีหลายมิติ ต้องมีการวิเคราะห์ ผลกระทบที่เกิดขึ้นหลายมิติ จะมองโครงสร้างแบบหยาบๆ แล้วตั้งบัญญัติไตรยางค์ เปรียบเทียบ อาจได้ผลลัพธ์ที่เห็นเพียงมิติเดียว เช่นตอนที่ 1 ต้องวิเคราะห์ถึงค่าเสียโอกาสที่จะเสีย ถ้าไม่ออกนโยบายลักษณะนี้ ออกมาตอบ และผลต่อเนื่องที่เกิดขึ้นอีกหลายมิติ เช่น การจ้างงาน การบริโภคภายใน และเสถียรภาพของการแข่งขัน ฯลฯ ส่วนตอนที่ 2 อยากเสนอให้นำข้อมูลในเชิงมหาภาค ตัวเลข 2-3 ตัว อาจวิเคราะห์ผิดพลาดได้ จากคุณ : hfin เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 09:36:54 A:223.205.220.161 X:

ความคิดเห็นที่ 7 นายพัสณช เหาตะวานิช หนึ่งในทีมงานนายกรณ์ จาติกวณิช (รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์) ตอนพรรคพวกตัวเองเป็นรัฐบาล เป็นผู้บริหารประเทศ อมสาก  ตอนนี้ อกหักเพราะ ปชช เขาไม่เลือกให้บริหารประเทศต่อ   ก็ทำเป็นห่วงประเทศจนตัวสั่น เชียว  ฉลาดอยู่พวกเดียวละสิ ที่แจกเงิน สองพัน กับ กู้งบไทยเข้มแข็ง  ล่ะไม่พูด จากคุณ : mambo1 เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 10:14:33 A:118.172.62.42 X:

ความคิดเห็นที่ 8 คคห.ที่ 4  คุณร้อนหนาว ...ข้างบูรพา การย้อนรอยแบบนี้  จะมาหาว่าตบ..ก็ไม่ได้... โทษตัวเองค่ะ  ...พี่ก็เคยโดน .... บางที...เราก็พลาด .... คนเราทำผิดได้  อย่าไปโทษคนอื่น เปิดช่องไว้เอง    ก็ต้องเจ็บตัวบ้าง .....เป็นธรรมดา แบบนี้ต้องไปหาสนามบินลงเอาเอง ... คิดซะใหม่  เมื่อเป็น some  body  ก็ต้องมีคนกล่าวถึง ระลึกถึง  ขวนมาสนทนา  แลกเปลี่ยนคคห. กัน อย่าเรียกว่า มายำ จากคุณ : sao..เหลือ..noi เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 10:23:08 A:58.11.111.82 X:

ความคิดเห็นที่ 9 คุณร้อนหนาวครับ  เขาใส่ร้ายคุณรึไง เขาแค่เอาข้อความของคุณ มาโพสให้ดูแค่นี้  ทำเป็นรับไม่ได้ ยอมรับมาเถอะ ว่าเป็นคนกลับกลอกปลิ้นปล้อน อายอะไร  ทำตัวเองแท้ๆ อย่าเอานิสัยอภิสิทมาใช้เลยครับ  ไม่รุ่งหรอก จากคุณ : FCPOTO เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 10:26:23 A:180.183.84.103 X:

ความคิดเห็นที่ 10 ถ้าวิจารณ์ ด้วยเหตุผล ที่ไม่มีอคติ คำวิจารณ์นั้นมีคุณค่าดั่งทองคำ แต่คำจิจารณ์สกปรกแบบนี้ ใครเล่าเขาจะเชื่อถือ นอกจาสมเพชในความคิด ประชานิยม ..ล้างผลาญฝ่ายค้าน..คำพูดเหล่านี้พวกคุณประดิษฐ์ขึ้นมา ทำลายรัฐบาลมิใช่หรือ จากคุณ : ลุงหมีมุ่ย เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 10:27:41 A:49.49.121.189 X:

ความคิดเห็นที่ 11 วันหลังเวลาผมมีปัญหา มาฟ้องพี่สาวแบบคุณร้อนหนาวบ้างได้ไหมครับ จากคุณ : กู๋เอง เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 10:35:08 A:125.25.60.55 X:

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณ จขกท สำหรับข่าว ทำแบบนี้ดีแล้ว คือเอาข่าวที่ไม่ค่อยจะมี ของคนกลุ่มน้อยมาอ่าน และวิจารณ์กัน ต่อไปข่าวใส่ร้าย แบบพูดแค่ครึ่งเดียวจะได้น้อยลง จากคุณ : ไม่ประสงค์จะออกตังค์ เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 10:37:04 A:115.67.39.55 X:

ความคิดเห็นที่ 13 นโยบาย รถคันแรก เป็นนโยบาย กระตุ้นเศรษฐกิจ มิใช่นโยบายประชานิยมตามคำโจมตีของฝ่ายค้าน ถ้าไม่มีนโยบายนี้ คนก็ไม่ซื้อ รัฐบาลก็ไม่เสียเงิน และไม่ได้เงิน(เงินไม่มีการหมุน) เงินที่ ปชช.คิดว่าได้จากรัฐบาล แสนบาท ความจริงก็คือเงินของคนที่ใข้ผลจากโครงการนี้ ถ้าเราไม่ซื้อ เราก็ไม่ได้เงิน เหมือนกับการจัดโปรโมชั่นของห้างนั่นเอง คูผลการจัดเก็บภาษีใน 2เดือน เพื่มขึันอย่างเห็นได้ขัด มึบางคนบอกว่า เมื่อโครงการสิ้นสุดลง รัฐบาลจะไม่มีเงินนั้น เป็นเรื่องที่หลายึนจินตนาการไป แต่ที่จริงเพราะนโยบายนี้ทำให้บริษัทขยายโรงงาน มีการจ้างงาน และกำลังผลิตมากขึ้น บริษัทรถ เขาเป็นมืออาชีพ เขาต้องส่งออกมากขึ้น ทั้งตลาด เวียตนามมีความต้องการรถมาก ย่อมขายได้   นโยบายนี้มันเป็นนโยบาย win-win คนไทยมักเขื่อนักวิขาการจากสถาบัน ที่มีขื่อเสียง(ในอดีต) แต่สังเกตุไหมว่านักวิชาการพวกนี้ ไม่ได้ทำวิจัยเลย แต่ออกมาพูดเหมือนกับทำงานวิจัยมายาวนาน ทั้ง ๆที่จริงก็แค่อาศัยเครดิตของสถาบันมาใข้ ทำให้สถาบันวิจัยเสื่อม เราจึงเรียกสถาบันที่มีขื่อเสียงในอตีด เพราะสถาบันในบัจจุบันชื่อเสียไปแล้ว แก้ไขเมื่อ 23 ธ.ค. 55 10:52:11 แก้ไขเมื่อ 23 ธ.ค. 55 10:48:50 จากคุณ : ceebee50 เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 10:39:55 A:124.121.32.78 X:

ความคิดเห็นที่ 14 ทำลายฝ่ายค้าน ล้างผลาญประชาชน  ....โดย  พัสณช เหาตะวานิช ..... จาก แนวหน้า สงสัย "เหา" บนหัวของผู้เขียน จะแย่งอาหารไปจากสมองหมด ถึงได้เขียนบทความได้ห่วยแตกปานนี้ ตั้งหัวข้อเรื่อง "ทำลายฝ่ายค้าน" .... แต่บทความยาวโคตร ลงพิมพ์ 2 วัน .... ดันมีเรื่อง "ทำลายฝ่ายค้าน" แค่เนี้ย ... ทำลายฝ่ายค้านสัปดาห์ก่อน ให้ DSI มาเล่นงานคุณอภิสิทธิ์ กับคุณสุเทพ DSI ที่ทำหน้าที่แจ้งข้อหา ตามที่ศาลสั่งให้การตายของผู้ชุมนุม เกิดจากการยิงของเจ้าหน้าที่ ที่ทำไปตามคำสั่งของ ศอฉ. DSI ทำตามหน้าที่ ไม่เช่นนั้นก็จะถูกข้อหาละเว้นหน้าที่ เทียบกับการที่ DSI แจ้งข้อหาผู้ก่อการร้ายกับแกนนำ จนเข้าคุกไป .... มันเทียบกันไม่ได้เลย และที่ว่า สัปดาห์นี้ มือกฎหมายของฝ่ายค้านโดนทำร้ายร่างกายสาหัส เรื่องนี้ ยังไม่รู้ว่า สาเหตุเกิดจากเรื่องการเมือง หรือ เรื่องส่วนตัว ดันเอาไปโทษรัฐบาล "ทำลายฝ่ายค้าน" ซะงั้น ...... หาได้แค่ 2 เหตุ ... เพราะฝ่ายค้านจับได้ว่า ฝ่ายรัฐบาลกำลังล้างผลาญประชาชน แล้วก็ร่ายยาว เรื่อง นโยบายรถคันแรก แถมเรื่องเงินกู้แก้น้ำท่วม ดันบอกว่า ผ่านมาแล้ว 1 ปี รัฐบาลทำอะไรกับเงินก้อนนี้บ้างครับ สรุปง่ายๆ ใช้เงินไปจริง 2,911 ล้านบาท ผุ้เขียนคงเพิ่งกลับจากดาวพลูโต .... เพราะ เงินกู้แก้ปัญหาน้ำท่วม ใช้ไปเกือบหมดแล้วมั้ง ทั้งถนน ทั้งกำแพงรอบนิคมอุตสาหกรรม .... นายกฯ ปูยกขบวนกันไปตรวจเยี่ยมกันเอิกเกริก งบที่ใช้ขุดลอกคูคลอง ... ปชป.เอาไปอภิปรายไม่ไว้วางใจ เมื่อไม่กี่วันมานี้ เอาไปซ่อมแซม ประตูน้ำ เสริมคันคลอง ตลอดแนวลงมา เอาเงินมาช่วยประชาชนที่ได้รับผลกระทบ บ้านละ 5,000 บาท และ แถมให้อีกบ้านละไม่เกิน 20,000 บาท ผุ้เขียนคงหลับไปในยานอวกาศนานมากกกกก .... จนไม่รู้ไม่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น พอตื่นมาเข้าใจว่า ปชป. โดนแกล้ง .... ก็เลยนึกเหตุผลได้แค่นั้น เป็นบทความที่ห่วยแตกมาก ... บทความหนึ่ง ซึ่ง รวมไปถึง หนังสือพิมพ์ที่บทความนี้ลงด้วย เพราะ บก.ที่ปล่อยให้บทความนี้ลง .... ก็คงคุณภาพห่วยแตกไม่แพ้กัน หมู่นี้ .... ต้องจับยัดชักโครกบ่อยจังแฮะ จากคุณ : สายชล26 เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 10:55:34 A:115.87.162.223 X:

ความคิดเห็นที่ 15 ส่วน "ร้อนหนาว" ที่ใครดันตั้งสมญา "ค่าง ... ม่อ" เห็นพฤติกรรมการโพสท์กับ "น้องพร" แล้วก็เห็นภาพเลยแหละ ส่วน ที่หนักกว่านั้น ก็ดันทำตัวเป็น "บ่าง" .... โดยลืมความเป็น "ค่าง" อย่างที่ คุณสาวน้อยฯ เอามาแสดงให้ดูนั่นแหละ สมควรโดนแล้ว จากคุณ : สายชล26 เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 11:02:42 A:115.87.162.223 X:

ความคิดเห็นที่ 16 เสียดาย ที่ใจร้อนไปตั้งกระทู้ใหม่ ..........P13102433 สัญญาไว้อย่างไร ? วอน .......ไม่ทันเปิดดู กระทู้คุณ sao ..เหลือ..noi เสียก่อน.....อิ  อิ มองด้านคุณ ceebee50 คห. 13   ทำท่าว่า จะถูกต้อง  แต่ ในทางกลับกัน หาก นำเงินที่จะต้องคืน ( โปรโมชั่น ให้ซื้อรถ - บ้าน ) ไปใช้สร้างระบบขนส่งสาธารณะ หรือ สถานบริการสาธารณะ อื่น ๆ   จะเป็นการสร้างงาน และ กระตุ้นการเศรษฐกิจ ได้ไหม ? ? ? ? มีการจ้างแรงงานเพิ่มขึ้น มีผู้มีรายได้ เพิ่มขึ้น ทำให้มีการจ่ายเพิ่มขึ้น รัฐเก็บภาษี  VAT.จาก กรรมกรผู้ที่มีงานทำ ซึ่งต้องกิน ใช้  ได้มากขึ้น บริษัทรับเหมา มีกำไร ที่จะเสียภาษี ให้แก่รัฐได้สูงขึ้น การโปรโมชั่น รัฐสามารถขอร้อง บริษัทผู้ผลิต ลดราคา หรือ เพิ่ม  options โดยรัฐสนับสนุน บางสิ่งบางอย่างชดเชย  ก็ทำได้ ไม่ยาก ( หากอยากจะช่วย) ซึ่งการคืนภาษี ให้แก่ผู้ซื้อ  รัฐได้ประโยชน์เพิ่มขึ้น จากเงินภาษีสรรพสามิตต์  ในส่วนที่รัฐบาลได้เอามาใช้ก่อน ในระยะเวลาเพียง   1 ปี   เท่านั้นเอง   จากคุณ : วอน เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 11:22:07 A:125.27.240.133 X:

ความคิดเห็นที่ 17 สมัยนี้เล่นการเมืองที่เอาแต่เสียดสีสาดโคลนให้ร้าย ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ เอาดีใส่ตัวเอาชั่วให้คนอื่น ทำงานไม่เป็น ดีแต่พูด.... มันใช้ไม่ได้ผลแล้ว ทำได้แค่ด่าคู่แข่งไปวันๆ ตอนปล้นอำนาจเขามาทำงานผลงานก็ไม่เคยปรากฏ อีก100ชาติก็ไม่ชนะการเลือกตั้งหรอกครับ บทความที่เขียนมามันเป็นการบ้านที่รัฐบาลยิ่งลักษ์ต้องทำซึ่งผมเชื่อมือทักษิณว่าทำให้ประชาชนพึงพอใจได้เหมือนผลงานที่ผ่านๆมา จากคุณ : เด็ก ป.6 เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 11:54:35 A:223.207.107.59 X:

ความคิดเห็นที่ 18 เวลาพิสูจน์เอง จากคุณ : fxf เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 12:36:35 A:110.49.243.87 X:

ความคิดเห็นที่ 19 นโยบายรถคันแรก ผมว่าช่วยเปลี่ยนค่านิยมเกี่ยวกับรถยนต์นะ สมัยก่อนการขับรถใหญ่และมียี่ห้อ แสดงถึงความมีหน้ามีตา แสดงถึงฐานะทางสังคม พอนโยบายนี้ออกมา ค่านิยมของคนก็เปลี่ยนไป คนเริ่มคิดว่าการขับรถเล็ก ช่วยประหยัดเงิน และ ประหยัดน้ำมัน คนเห็นข้อดีของการขับรถเล็กมากขึ้น และ รถเล็กก็ใช้งานได้ดีพอๆกับรถใหญ่ .. จากคุณ : Dae Jang-geum เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 13:23:53 A:79.141.173.105 X:

ความคิดเห็นที่ 20 ความเห็นที่ 16 เขาถึงได้มีเวลาจำกัดไงครับ การที่รัฐบาลกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยวิธีนี้ มันไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่ทำแบบที่คุณออกความเห็นมา เหมือนกับการปั่นจักรยานไม่มีใครบอกคุณว่าต้องทำยังไง แต่แค่คุณเห็นมันคุณก็จะรู้แล้วว่าต้องวางเท้ายังไงออกแรงยังไงเอามือจับตรงไหน มันก็คือสามัญสำนึกนั่นแหละครับ การกระตุ้นเศรษฐกิจมีหลายวิธีก็จริงครับ แต่มันไม่ได้หมายความว่าเราจะเลือกทำได้แค่วิธีเดียว จากคุณ : ยะฮงยะโฮอะไรกันเล่า เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 13:33:15 A:101.51.144.203 X:

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณ ทุกๆ คคห.นะคะ  เหรียญมี  2  ด้าน  ค่ะแล้วแต่ใครจะหยิบ ด้านไหนขึ้นมา ... ก็เอามาให้เพื่อน  ช่วยกันแลกเปลี่ยนคคห.กันเช่นเคยค่ะ บอกตามตรง ว่า  ความรู้น้อย ถอยลงไปทุกวันค่ะ เห็นเพื่อนๆ บางท่านบอกว่า  จบ จากโน่น  จากนี่  ชื่อเป็นภาษาปะกิด วันนี้ ..อยากจะบอกว่า  ความรู้วันนี้  น่าจะเหลือแค่ อ่านออกเขียนได้ คือจบแค่ ป.4..... ค่ะเพราะสมัยก่อน  ระดับประถมเขามีแค่ ป. 4 กับประสบการณ์ชีวิต ของวัย "สาวเหลือน้อย"  ที่พอจะคุยกับเพื่อนได้ เท่านั้น   ก็เลยต้องมาเรียนรู้เรื่อง เศรษฐกิจ   การบ้านการเมือง  กับเพื่อน ๆ ในบอร์ดนี่ ...  คริ คริ จากคุณ : sao..เหลือ..noi เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 15:03:41 A:58.11.111.82 X: