ความคิดเห็นที่ 1 รัฐก็แก้ปัญหาได้ดี มานี่คคับ 4 ข้อแรกหายไป3 อีกข้อเรื่อง ยาเสพติด คนเดือดร้อนน้อยลง เรื่องหนี้สินเลยขยับขึ้นมา ข้างบ้านผม ไม่ได้ซื้อรถคันแรก ถอยอีสุสุ ป้ายแดงมาตั้งแต่ ต้นปี ตอนนี้เริ่มผ่อนไม่ไหว ผัวกินเหล้า เอาแต่เที่ยว ถือรวมอยู่ด้วยไม๊ครับ จากคุณ : ลมธรรม (ลมธรรม) เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 11:12:57 A:124.121.39.163 X:

ความคิดเห็นที่ 2 " ท่ามกลาง นโยบายรัฐบาลที่สอนให้ชาวบ้าน มีชีวิตอยู่บนความเห่อเหิม ด้วยการแจกเงิน  หรือมาตรการสร้างหนี้สินครัวเรือนขึ้นอย่างง่ายดาย " ด่ารัฐบาลมาร์คหนีทหารทำไม? จากคุณ : เซียนพระ เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 11:31:07 A:171.6.168.202 X:

ความคิดเห็นที่ 3 ปัญหาอื่นใช่ แต่เรื่องหนี้สินกับยากจนมันขึ้นกับตัวเองด้วย จะไปโทษรัฐบาลหมดคงไม่ได้มั๊งครับ จากคุณ : psybuster เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 12:52:50 A:124.120.166.10 X:

ความคิดเห็นที่ 4 ท่ามกลาง นโยบายรัฐบาลที่สอนให้ชาวบ้าน มีชีวิตอยู่บนความเห่อเหิม ด้วยการแจกเงิน  หรือมาตรการสร้างหนี้สินครัวเรือนขึ้นอย่างง่ายดาย         ด้วยข้ออ้างที่ว่า  “ เพื่อให้เงินหมุนเวียนในตลาด จากมือชาวบ้าน  ไปสู่ผู้ผลิต   เพื่อผู้ผลิต จะได้มีเงินเสียภาษีให้รัฐบาล  “    ตัวอย่างนโยบายคืนภาษีรถคันแรก  - บ้าน หลังแรก  ที่ สร้างหนี้สินแก่ชาวบ้านลืมไปได้ว่า ตนและครอบครัว ต้องใช้หนี้ ไปอีกหลายปี  พร้อมทั้ง ค่า สึกหรอ และ ค่าดูแล รถ - บ้านที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้นจาก ปกติที่เคยด้วย """""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""" ท่านวอนอาจจะคิดอคติมากเกินไปหรือเปล่า? รถคันแรกนั้น ญาตินางฟ้าได้ประโยชน์จากโครงการนี้  แต่เป็นการเอารถคันเก่าไปขาย แล้วมาใช้สิทธิ์เพื่อซื้อรถคันใหม่มาขับ  หากไม่มีนโยบายนี้ รถคันนั้นก็ใช้งานมานานแล้ว ยังไงก็จะขายเพื่อซื้อรถคันใหม่อยู่ดี   มันเสียหายตรงไหน??? สำหรับเรื่องบ้านหลังแรกนั้น  ยิ่งไปกันใหญ่ เพราะบ้านคืออสังหาริมทรัพย์ที่มีราคาสูงขึ้นไปเรื่อยๆ  การซื้อบ้านเท่ากับเป็นการออมทรัพย์ทางหนึ่งเช่นกัน  มันเสียหายตรงไหนกัน? หากรัฐบาลไม่มีโครงการทั้งสอง  ไม่ได้แปลว่าคนไทยจะเลิกซื้อรถ และไม่หาที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง คนไทยที่มีหัวคิดและอยากจะร่ำรวย  คงไม่มีใครที่จะคิดเช่าบ้านคนอื่นอยู่เหมือนนายหัว ชวน หรอกนะฮ้า จากคุณ : นางฟ้านะยะ เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 13:00:30 A:171.7.207.248 X:

ความคิดเห็นที่ 5 ข้อมูลเหล่านี้รัฐบาลให้สำรวจมาไม่ใช่หรือ ถ้าไม่สนใจจะสำรวจทำไม แล้วรัฐบาลที่แล้วมีข้อมูลแบบนี้หรือเปล่า จากคุณ : tonnarm2 เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 13:06:46 A:58.9.15.65 X:

ความคิดเห็นที่ 6 คุณวอน ถ้าจะว่า รัฐบาลมาร์ค เรื่องแจกเงิน 2000 บาทนะ มันเก่าแล้วครับ จากคุณ : เลื่องชื่อระบือนาม เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 13:14:18 A:223.206.95.50 X:

ความคิดเห็นที่ 7 จขกท. จิตใจ อคติ กับคับแคบ เกิน นโยบายนี้ มันเพียงเพิ่มโอกาส ให้ คนมีรายได้ น้อย พอจะเริ่มมีกินบ้าง ได้มีโอกาส ได้ใช้ ชีวิตอย่างที่ตัว จขกท.มีบ้าง แต่ใครจะเป็นใช้ประโยชน์จากโครงการนี้  จะเป็นหนี้ได้ คุณต้องมีหลักประกัน มีหลักทรัพย์ ให้ แบ็งค์ หรือ ไฟแนนท์ ผ่านก่อน นะครับ เห็นปกติ ไม่นโยบายรถคันแรก ก็เห็น ไฟแนนท์ ไปตามยึดรถกันอยู่แล้ว เป็นเรื่องของ บ.ไฟแนนท์ ในการประเมินความเสี่ยงเอง   มันไม่ได้เกี่ยวกับนโยบายเลย จากคุณ : JUGCIO เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 13:41:07 A:115.67.68.75 X:

ความคิดเห็นที่ 8 ใครมันมัดมือให้ไปซื้อบ้างเนี่ยยยยยย   คิดเองไม่เป็นก็ปล่อยให้โง่ไปเถอะ จะได้เป็นบทเรียน เอ่อ.........แล้วที่บอกให้พอเพียง ๆ ๆ ๆ ๆ   มันไม่ได้ผลเลยเรอะ? จากคุณ : ตึกหนึ่ง เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 14:23:29 A:110.171.114.148 X:

ความคิดเห็นที่ 10 ข้อมูลนี้ได้จาก รัฐบาลนี้ ไม่ใช่ โพลล์ของสำนักใด ๆ เห็นได้ว่าต่างคน ต่างมองเห็นภาพแตกต่างกันไปต่าง ๆกัน ชาวบ้าน เห็นปัญหา ไปอย่าง ส่วนนักการเมือง เห็นปัญหา ไปอีกอย่าง ข้อมูลนี้ แสดงให้เห็นถึงสภาพโดยรวมของสังคมปัจจุบัน ว่า แต่ละครอบครัว ตกอยู่ในสภาพที่เป็นจริง..........เช่นไร ครับคุณ tonnarm2 คห. 5 ไม่ทราบว่า รัฐบาลสนใจ ต้องการให้ กระทรวง เทคโนโลยี สำรวจหรือไม่ แต่จะเห็นได้ว่า ครม.เพียง" รับทราบ" เท่านั้น แล้ว ก้อ จบ คุณ เลื่องชื่อระบือนาม คห. 6 อ้างถึงเรื่อง แจกเงิน 2,000บาท ลืมไปหรือว่า "รัฐแจก " ให้ไปใช้ เพื่อกระตุ้น เศรษฐกิจ ที่ซบเซา ไม่ใช่ ให้กู้ ที่ผู้ยากไร้ที่จะ ต้องเสียดอก และต้องผ่อนใช้หนี้ วิธีนี้ ถูก หรือ ผิด ไม่ทราบ แต่ได้ผลดีต่อการเศรษฐกิจโดยรวม ได้รับคำยกย่องจากบรรดา นักเศรษฐศาสตร์ทั่วโลกมาแล้ว ที่คุณนางฟ้านะยะว่า .....รถคันแรกนั้น ญาตินางฟ้าได้ประโยชน์ จากโครงการนี้ แต่เป็นการเอารถคันเก่าไปขาย แล้วมาใช้สิทธิ์เพื่อซื้อรถคันใหม่มาขับ นั่นคือ การ " โกง " ชัด ๆ นี่ครับ เพราะ มันไม่ใช่ " รถคันแรก " จริง....อิ อิ คุณ JUGCIO เสียอีก ที่มีอคติ ต่อ นายวอน ว่า ใจคับแคบ ใจจริง ไม่อิจฉาริษยาใครเลย เห็นใจในความจำเป็น และ ตัณหาของแต่ละคน ซึ่งแท้จริงนายวอนใช้จักรยาน แล้วค่อย ๆสะสมเงินจนพอซื้อรถยนต์ จึงได้ลงทุนซื้อรถมาใช้กระกอบอาชีพ ขยับขยายรายได้ขึ้น ด้วยความกลัว การเป็นหนี้ ระยะยาว ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะหาความแน่นอน ของรายได้ไม่ได้ นั่นเอง จึงสนับสนุน ผู้ที่ ลงทุน เพื่อเพิ่มรายได้ ไม่ใช่ลงทุนเพิ่มความสุข คุณJUGCIOไม่สงสาร ผู้ที่ถูก ไฟแนนซ์ ยึดรถมั่งเลยหรือ ครับ รู้ไหมว่า มันสาหัส ต่อชีวิตความเป็นอยู่ของเขา เพียงใด ไปโทษ "ตัณหา" ของเขา แต่ ไม่โทษ "ลูกยุ" มั่งสักนิดหรือ แก้ไขเมื่อ 23 ธ.ค. 55 18:08:43 จากคุณ : วอน เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 18:07:59 A:125.27.240.133 X:

ความคิดเห็นที่ 11 เออ...เขาให้สิทธิ...แค่นั้น  ก็ถือเป็นการส่งเสริมแล้วหรือ ? คุณวอน ..พี่ท่านมีอคติกับรัฐบาล  อยู่แล้ว  โพสต์มาทุกครั้ง ดูเหมือน รัฐบาลนี้  ทำอะไร  ก็ไม่ถูกใจ  ไม่ถูกต้อง... จะเป็นเพราะชื่นชมคุณอภิสิทธิ์   เป็นทุนด้วยหรือเปล่าคะ  ..... "นับถือ และยกย่อง ในฐานะที่ อภิสิทธิ์ เป็น คนสุภาพ ซื่อสัตย์ เสียสละ และจิตต์สาธารณะ อยู่ในแวดวงการเมืองมาหลายปี  ฝ่ายตรงข้าม  ค้นหาความผิดได้แต่เพียง ความมัวหมองในการ รับหมายคัดเลือกทหาร" จากคุณ : sao..เหลือ..noi เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 18:14:11 A:58.11.111.82 X:

ความคิดเห็นที่ 12 ตัวอย่างนโยบายคืนภาษีรถคันแรก  - บ้าน หลังแรก  ที่ สร้างหนี้สินแก่ชาวบ้านลืมไปได้ว่า ตนและครอบครัว ต้องใช้หนี้ ไปอีกหลายปี  พร้อมทั้ง ค่า สึกหรอ และ ค่าดูแล รถ - บ้านที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้นจาก ปกติที่เคยด้วย แก้ไขเมื่อ 23 ธ.ค. 55 10:50:52 จากคุณ : วอน  ไม่มีนโยบายนี้ คนก็ซื้อรถ ผ่อนรถครับท่าน     นโยบายนี้อาจจะทำให้มีคนซื้อรถมากขึ้นผิดปกติก็จริง  แต่คนส่วนมากก็มีกำลังที่จะซื้อได้นะท่าน  เหมือนกองทุนหมู่บ้านไง ตอนแรกดูถูกว่าเอาเงินให้คนจนกู้ไปซื้อ มือถือ มอไซค์ สุดท้ายเป็นไงครับ  ยอดหนี้เสียน้อยมากๆ เพราะเขามีความรับผิดชอบ  แถมกองทุนยังเติบโตอีกด้วย   ดีกว่า เอาไปอุ้มพวกแบงค์ ไฟแนนซ์อะไรเยอะเลย และกาซื้อรถคันแรกนี้ คนที่ซื้อต้องรู้ตัวด้วยว่า ซื้อไหว ผ่อนไหว  ใครไม่รู็้จักประมาณตน  ผ่อนไม่ไหวแต่ดันซื้อ พอโดนยึด โดนฟ้องมา  จะไปโทษรัฐบาล คงไม่ถูกมังครับ รัฐบาลทำไม่ถูก ที่เอาของถูกมาให้ผ่อน งั้นเหรอครับ     จากคุณ : penn's เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 18:15:18 A:110.77.250.227 X:

ความคิดเห็นที่ 13 ความคิดเห็นที่ 5 MsgStatus(Msv[5], 5); ข้อมูลเหล่านี้รัฐบาลให้สำรวจมาไม่ใช่หรือ ถ้าไม่สนใจจะสำรวจทำไม แล้วรัฐบาลที่แล้วมีข้อมูลแบบนี้หรือเปล่า จากคุณ : tonnarm2 เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 13:06:46 A:58.9.15.65 X: บังเอิญพันทิปเกิดเสียจึงตอบมาช้าไปหน่อย คุณtonnarm2 ครับ    สิ่งสำคัญ ไม่อยู่ที่ มีการสำรวจข้อมูลหรือไม่ หรอกครับ                มันอยู่ที่ การกระทำ     ที่รัฐบาลของประชาชน      จะดำเนินการต่าง ๆเพื่อสนอง ตามความต้องการ เพื่อ ปากท้อง ของประชาชนหรือ   มุ่งหน้าพยายามทุ่มเทอย่างหนักเพื่อทำตามความต้องการ  และ เพื่อประโยชน์ ปากท้องของ นักการเมือง  (   ที่เอาแต่พยายามฉีกรัฐธรรมนูญ  ให้ได้ แม้จะเกิดอะไรขึ้นแก่บ้านเมืองก็ตาม ) แก้ไขเมื่อ 24 ธ.ค. 55 07:09:28 แก้ไขเมื่อ 24 ธ.ค. 55 07:07:45 จากคุณ : วอน เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 07:07:03 A:125.27.241.173 X:

ความคิดเห็นที่ 14 การคืนภาษี รถคันแรก / บ้านหลังแรก .............. ไม่ได้ส่งเสริมให้ประชาชนเป็นหนี้นะครับ  รัฐบาลส่งเสริมให้คนที่กำลังจะมีทรัพย์ิสินดังกล่าว ได้ใช้เงินน้อยลอง ส่วนคนที่ไม่มีกำลังซื้อ อยู่แล้ว ต่อให้ลดไป แสนนึง ก็ ยังไม่มีกำลังอยู่ดี อีกอย่างนะ รถคันแรก ถ้าไม่ได้ไปซื้อ ก็ ไม่ได้ ลดภาษี แล้ว ก็ ไม่ได้ เสียอะไรด้วย รัฐบาลไม่ได้เอารถไปแจก แล้วไล่เก็บเงินทีหลัง รัฐบาลไม่ได้ออกกฏหมายบังคับให้ซื้อ ปัญหาหนี้สิน ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล  ยิ่งหนี้สิน ที่เกิดจากการผ่อนรถ ผ่อนบ้าน ไม่ไหว รัฐบาล ยิ่งไม่เกี่ยว ป.ตรี หมื่นห้า / รายวันสามร้อย .... ล้วนทำให้ประชาชน ที่รายได้น้อยมีความหวัง รถคันแรก / บ้านหลังแรก .... ก็ ทำให้ ประชาชนที่กำลังจะสร้างฐานะ ได้มีเงินเหลือไป ใช้จ่ายอื่น ๆ ได้บ้าง ตำหนิเค้าไปแล้ว เสนอสิ่งที่ดีกว่า มาบ้างสิครับ ง่ายครับ การจะตำหนิอะไรสักอย่างนึง ธุรกิจรถยนตร์ เป็น อุตสหากรรมใหญ่ ๆ ใน บ้านเรานะครับ ถ้า ธุรกิจนนี้ ขายดี วงจรที่เงินตรงนี้ไปหมุนวนในตลาด เพียบ เลยครับ จากคุณ : คุณชายเหตุผล เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 08:37:32 A:58.9.51.241 X:

ความคิดเห็นที่ 15 ความคิดเห็นที่ 11 MsgStatus(Msv[11], 11); เออ...เขาให้สิทธิ...แค่นั้น ก็ถือเป็นการส่งเสริมแล้วหรือ ? คุณวอน ..พี่ท่านมีอคติกับรัฐบาล อยู่แล้ว โพสต์มาทุกครั้ง ดูเหมือน รัฐบาลนี้ ทำอะไร ก็ไม่ถูกใจ ไม่ถูกต้อง... จะเป็นเพราะชื่นชมคุณอภิสิทธิ์ เป็นทุนด้วยหรือเปล่าคะ ..... "นับถือ และยกย่อง ในฐานะที่ อภิสิทธิ์ เป็น คนสุภาพ ซื่อสัตย์ เสียสละ และจิตต์สาธารณะ อยู่ในแวดวงการเมืองมาหลายปี ฝ่ายตรงข้าม ค้นหาความผิดได้แต่เพียง ความมัวหมองในการ รับหมายคัดเลือกทหาร" จากคุณ : sao..เหลือ..noi เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 18:14:11 A:58.11.111.82 X: แล้วแต่การมองครับ หากจะบอกว่า ไม่ใช่การ promotion ของรัฐบาล หรือเป็น options ของบริษัทขายรถยนต์ ก็พอฟังได้มั้งครับ ในฐานะที่เป็นประชาชนผู้ที่รอรับผลประโยชน์จากการบริหารของ รัฐบาล ที่ขอ  อาสาเข้ามาทำประโยชน์ให้แก่ ประชาชน   ผม นายวอนจำต้องสละและต้องหมดสิทธิ์ ในการบอกกล่าวถึง ความต้องการ และความคิดตนไปหมดสิ้นเลยหรือขอรับ                  นี่หรือคือ ประชาธิปไตย ในสายตาของคุณ sao..เหลือ..noi และ  นปช.  คนเสื้อแดง  นับถือในหัวใจของ อภิสิทธิ์   เพราะ อภิสิทธิ์ กล้ายืนหยัด สู้ต่อความจริงตามกระบวนการยุติธรรม ของประเทศไทย ในขณะที่ อำนาจบริหารทุกประการ อยู่ในมือ ของฝ่ายตรงข้าม  ต่างกับคนที่คุณ sao เคารพนับถือ ที่ เที่ยวก่นประนาม กระบวนการยุติธรรม ของไทย   ที่ ประเทศไทยต้องต่อสู้ยาวนาน กว่าจะได้รับความเชื่อถือจากนานาอารยะประเทศ  คงไม่ต้องยกความนี้ มาอ้างอิง  เชื่อว่า คุณ sao คงทราบเป็นอย่างดีว่า  ......ในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เกิดสงครามโลกครั้งที่ ๑ ในยุโรป ระหว่าง พ.ศ. ๒๔๕๗-๒๔๖๑ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเห็นว่า เยอรมนีเป็นฝ่ายรุกราน ได้ตัดสินพระทัยประกาศสงครามกับเยอรมนี และออสเตรีย-ฮังการี เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๐ โดยไทยได้ส่งกองทหารไปสมทบกับฝ่ายสัมพันธมิตร ครั้นเมื่อเยอรมนีแพ้สงครามไทยจึงได้ชื่อว่า เป็นฝ่ายชนะครามด้วย เป็นผลให้ไทยได้พยายามเจรจาขอแก้ไขสัญญาต่างๆ ที่ทำกับต่างประเทศ และผูกมัดไทยมาตั้งแต่ พ.ศ.๒๓๙๘ โดยเฉพาะในเรื่องอำนาจศาล กงสุล และการเก็บภาษีสินค้าขาเข้า ปรากฏว่า ได้รับความสำเร็จบ้างในเรื่องภาษีอากร จนกระทั่ง พ.ศ. ๒๔๘๐ เมื่อไทยมีกฎหมายตามแบบสากลครบถ้วนแล้ว ไทยจึงได้ทำสัญญาใหม่กับประเทศต่างๆ จากสัญญาเหล่านี้ ไทยได้อำนาจศาลคืนมาโดยสมบูรณ์.... คุณ sao...เหลือ...noi มีสิทธิ์ที่จะเคารพ ผู้บ่อนทำลายเครดิตศาลต่อไป   เมื่อเห็นว่าเป็นสิทธิ์ ตาม หลักการของ ประชาธิปไตย  ซึ่งผม นายวอน ก็น่าจะมีเท่าเทียมกัน ที่ ไม่ยอมรับนับถือ คนที่ต้องสงสัยว่ามีความ ผิด  และ ไม่กล้า พิสูจน์ตนเอง.........ได้ไหม ครับ ผมจึงนับถือ " หัวใจ" ของทุก ๆคน ที่ กล้าเดินเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม  และพร้อมพิสูจน์พฤติกรรมทั้งปวงของตนเอง ให้ปรากฎแก่ มหาชน  ไม่น่า "นับถือหัวใจสิงห์" ของนายอภิสิทธิ์ ที่หาญยืนยันต่อสาธารณะว่า ยินดีรับกระบวนการยุติธรรม   ไม่ว่า การตัดสินจะออกมาเช่นไร.........หรอกหรือ ขอรับ                   ทั้ง ๆ ที่รู้ดีว่า อำนาจบริหารทุก อย่าง ทุกองคาพยพของรัฐ ล้วน อยู่ในมือ ฝ่ายตรงข้ามสิ้นเชิงปรากฎชัดเจนอยู่ตำตาแล้ว รัก...........นักหรือ " นักตะแบง ? ? ?"    อยากเห็นการดำเนินการทางกระบวนการยุติธรรม แก่ ทุก ๆคน ไม่ว่า นักการเมือง หรือ ข้าราชการโดยไม่เลือกหน้า   ผู้กระทำความผิด  ต้องได้รับโทษ ตามความผิดที่ตนกระทำ.............ครับผม แก้ไขเมื่อ 24 ธ.ค. 55 11:03:48 จากคุณ : วอน เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 10:59:41 A:125.27.241.173 X:

ความคิดเห็นที่ 16 นำข่าวผู้ว่า ธปท.แสดงความห่วงใย ที่แบงค์รัฐปล่อยกู้มากไปจนหนี้ครัวเรือนพุ่ง ผู้ว่าการ ธปท. หวั่นหนี้สินครัวเรือนพุ่ง  พร้อมเผยบางสถาบันการเงินเฉพาะกิจรัฐปล่อยสินเชื่อเกินสัดส่วนจนน่าห่วง  ทำให้คนมีหนี้เกินจนไม่สามารถชำระหนี้ได้   สำหรับสัดส่วนภาระหนี้รายเดือนต่อรายได้รวม  ซึ่งขณะนี้ระบบธนาคารพาณิชย์ไทยได้กำหนดสัดส่วนดังกล่าวประมาณ 40% คือ ถ้ามีรายได้เดือนละ 10,000 บาท ควรจะมีภาระจ่ายหนี้หรือผ่อนส่งรวมทุกสินเชื่อไม่เกิน 4,000 บาทต่อเดือน  ซึ่งถือว่ายังได้อยู่  เพราะจะมีเงินเหลืออีก 6,000 บาทสำหรับไว้กินไว้ใช้จ่าย    แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นในขณะนี้เท่าที่เห็นมีสถาบันการเงินเฉพาะกิจบางแห่ง  กำหนดสัดส่วนดังกล่าวไว้ที่ 80% ซึ่งในส่วนของ ธปท.มองว่า ถ้าคนมีรายได้ 10,000 บาทต่อเดือน  และต้องจ่ายหนี้สิน ดอกเบี้ย ค่าผ่อนงวด บัตรเครดิตต่างๆ ประมาณ 8,000 บาทต่อเดือน ถือว่าคนนั้นมีหนี้สินล้นพ้นตัว   “บทบาทของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ  จะต้องช่วยเหลือให้สินเชื่อกับรายย่อย  แต่ต้องมองถึงภาพรวมของการก่อหนี้  และการมีหนี้สินล้นพ้นตัว"    ””””””””””””””””””””””   ผลจากการที่รัฐบาลเน้นการบริโภคเพื่อให้เศรษฐกิจโดยรวมขยายตัว (GDP) แต่รัฐบาลก็รู้ดีว่า การโหมวัฒนธรรมบริโภคนิยม ในท้ายที่สุดผู้มีรายได้น้อยจะเป็นผู้ผิดชำระหนี้มากที่ที่สุด แต่ก็ยังเดินหน้าส่งเสริมการบริโภคโดยไม่ห่วงใยอนาคต   จากคุณ : โพ้นฟ้า เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 13:12:45 A:171.99.1.22 X: