Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ชาวมาเลย์ ไม่ใช่คนพื้นเมืองในพื้นที่แหลมทอง vote ติดต่อทีมงาน

ผมมีโอกาสได้อ่านประวัติสาสตร์ของประเทศมาเลย์ที่เขียนโดยนักประวัติศาสตร์อังกฤษซึ่งเป็นคนกลาง ให้มุมมองที่ค่อนข้างแปลกไปจากประวัติศาสตร์ของไทยและของมาเลย์ซึ่งอาจจะเขียนขึ้นด้วยทัศนคติชาตินิยม ผมคิดว่าน่าสนใจจึงขออนุญาตเอามาเล่าสู่กันฟัง ซึ่งก็ต้องขอออกตัวว่าผมเขียนจากความจำ เท่าที่ผมพอจะจำได้ เพราะผมยืมเขามาอ่าน และค่อนข้างจะนานมากแล้วคือเกือบสามสิบปี ซึ่งไม่รู้ว่าตอนนี้มุมมองของนักประวัติสาสตร์จะเปลี่ยนไปแค่ไหน อย่างไรก็ตามก็ขอแค่ฝากไว้พิจารณา

แต่โบราณมาอารยะธรรมบ้านเมืองที่มีความเจริญในแหลมทอง จะจำกัดอยู่แค่ในเขตภาคใต้ของไทยต่อลงไปจนถึงมาเลย์ตอนบนเท่านั้น สาเหตุเกิดจากภูมิอากาศเป็นตัวกำหนด เนื่องมาจากข้าวที่เป็นอาหารหลักของคนในพื้นที่แถบนี้  ปลูกไม่ค่อยได้ผลในพื้นที่ที่ฝนตกชุกตลอดปีในแถบปลายแหลมทอง เมื่อเขตที่ปลูกข้าวได้ผลถูกจำกัดอยู่แค่มาเลย์ตอนบน อารยะธรรมโบราณก็เลยจำกัดอยู่แค่นั้นเอง พื้นที่ทางใต้ลงไปจะเป็นป่าดงดิบ ซึ่งผู้ที่จะสามารถดำรงอยู่ได้ในพื้นที่ที่ไม่สามารถทำการเกษตรได้ จึงต้องเป็นกลุ่มคนที่ดำรงชีพในแบบจับปลาล่าสัตว์ ซึ่งได้แก่เงาะป่าซาไก

เราทราบกันดีว่าภาคใต้ของไทยเคยมีอ่ารยะธรรมโบราณที่เก่าแก่กว่าประวัติศาสตร์ไทยด้วยซ้ำ อารยะธรรมโบราณในเขตภาคใต้ของไทยอาจไม่ใช่ชาวไทยแท้ๆ อย่างไรก็ตามกลุ่มชนดั้งเดิมของภาคใต้โบราณนั้น ไม่าจะเกี่ยวข้องโดยตรงกับชาวมาเลย์ในปัจจุบัน แต่อาจเป็นอารยะธรรมที่ประกอบด้วยหลายคนเชื้อชาติ โดยแกนกลางการปกครองอาจสืบเชื้อสายมาจากชาวอินเดียที่นำความเจริญเข้ามาสู่พื้นที่นี้ แต่อย่างไรก็ตามคนไทยที่พูดสำเนียงภาคใต้น่าจะเป็นคนส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้พื้นที่แถบภาคใต้ในปัจจุบันพูดภาษาไทย และอาจมีคนเชื้อชาติอื่นซึ่งอาจมีชาติพันธ์ที่ใกล้เคียงกับชาวมาเลย์ปนอยู่ด้วย แต่ปัจจุบันถูกกลืนหายไปหมดแล้ว

เนื่องจากปลายแหลมเป็นป่าดงดิบไม่มีอารยะธรรม ในอดีตจากยุคสุโขทัยจนถึงอยุธยาตอนต้น เมื่อประเทศสยามซึ่งได้ครอบครองอาณาจักร์โบราณในพื้นที่ภาคใต้ จึงได้ครอบเป็นเจ้าของแหลมทอง ตลอดยาวลงไปจนสุดปลายแหลม

คงมีน้อยคนที่จะทราบว่าบรรพบุรุษของชาวมาเลย์ในความหมายปัจจุบัน ไม่ได้อยู่ในแหลมทอง ชาวมาเลย์พูดภาษาที่เข้าใจกันได้เป็นอย่างดีกับคนบางกลุ่มบนเกาะสุมาตรา คนกลุ่มนี้เพิ่งจะอพยพมาจากเกาะสุมาตราเมื่อประมาณ 500 ปีก่อน โดยพ่อค้าชาวอาหรับที่เข้ามาตั้งสถานีค้าแถบช่องแคบมะละกา ได้ชักชวนชาวสุมาตราให้เขามาทำงานเป็นคนงานที่ท่าเรือ เนื่องจากเรือต้องจอดรอฤดูกาลลมมรสุมครั้งละหลายเดือน ลูกเรืออาหรับจึงแต่งงานกับหญิงพื้นเมือง และลูกหลานเลือดผสมอาหรับ-สุมาตรา ก็คือบรรพบุรุษของชาวมาเลย์

แม้ว่าพื้นที่แถบประเทศมาเลย์ตอนล่างจะปลูกข้าวไม่ได้ แต่เมื่อมีการค้า มีเรือขนส่งสินค้า ก็สามารถสั่งซื้อข้าวจากที่อื่นมาเป็นอาหารเลี้ยงผู้คนได้ ป่าดิบปลายแหลมทองจึงก่อกำเนิดบ้านเมืองขึ้น โดยมีพ่อค้าอาหรับเป็นตัวการ

การกำเนิดรัฐมาเลย์นั้น ในสมัยแรกที่พ่อค้าอาหรับมาตั้งสถานีค้าทางฝั่งมะละกา ยังยอมอยู่ในอาณัติของประเทศสยาม ทางกรุงศรีอยุธยาจะจัดเรือไปเก็บส่วยจากพ่อค้าสองปีต่อหนึ่งครั้ง ต่อมาเกิดสงคราม อยุธยา-เชียงใหม่ มีการรบย่อยหลายครั้ง ยาวนานหลายสิบปี ช่วงที่สงครามมีความเข้มข้นทางอยุธยาได้ขาดการดูแลปลายแหลมทอง พ่อค้าอาหรับที่ตั้งเมืองท่าอยู่ เห็นสยามไม่มาดูแลจึงประกาศตนเป็นสุลต่าน โดยเกิดการแข็งเมืองที่มะละกาเป็นแห่งแรก หลังจากนั้นเมืองอื่นๆก็แข็งเมืองตามมา

การแข็งเมืองของมาเลย์ไม่ได้รับการต่อต้านจากสยาม เนื่องจากสยามรบกับเชียงใหม่จนอ่อนแรงทั้งคู่ และสุดท้ายทั้งล้านนาและสยามก็ตกเป็นเมืองขึ้นของพม่า ช่วงเวลาอันมีค่านั้นเปิดโอกาสให้รัฐมาเลย์ที่เกิดใหม่ปักหลักมั่นคงในเขตป่าดงดิบปลายแหลมทอง โดยไม่มีใครขัดขวาง และเมื่อสยามกลับมามีเอกราชอีกครั้ง ก็มิได้ใส่ใจที่จะปราบปรามรัฐมาเลย์ คงปล่อยไว้เช่นนั้น

เนื่องจากรัฐมาเลย์ที่ก่อกำเนิดในครั้งแรกอยู่ในช่องแคบมะละกา เป็นพื้นที่ที่ปลูกข้าวไม่ได้ และดำรงอยู่ได้ด้วยการทำการค้าและซื้อข้าวมาบริโภค ตอนแรกประชากรไม่มากก็พอซื้อข้าวมารับประทานได้ แต่พอมีประชากรมากขึ้น ความต้องการข้าวทำให้คนมาเลย์เริ่มอพยพไปทางฝั่งตะวันออกและขึ้นเหนือเพื่อหาพื้นที่ปลูกข้าว และเข้าสู่เขตการปกครองของสยาม ชาวสยามก็ใจดียอมให้คนมาเลย์เข้ามาอยู่ คนมาเลย์เมื่อมาอยู่มากขึ้นก็ตั้งเป็นชุมชนปกครอง ทางสยามก็ไม่ได้ขัด เพราะเห็นเป็นความสะดวก เนื่องจากพูดกันคนละภาษา ตราบเท่าที่คนเหล่านี้ยอมอยู่ในความปกครอง

โดยประวัติศาสตร์แล้วสี่จังหวัดภาคใต้ รวมถึงรัฐมาเลย์ตอนบนคือ กลันตัน ตรังกานู ไทรบุรี ควรนับว่าเป็นดินแดนของสยามอย่างแท้จริงมาแต่เดิม แต่เป็นเขตชายแดน ที่มีคนต่างชาติที่เห็นได้ชัดเจนว่าสืบเชื้อสายเกี่ยวข้องกับชาวมาเลย์จากฝั่งมะละกา อพยพเข้ามาอาศัยอยู่จนกลายเป็นประชากรส่วนใหญ่ของพื้นที่ และตั้งชุมชนปกครองขึ้นโดยความเห็นชอบของรัฐบาลสยาม

ในประวัติสาสตร์ไม่เคยปรากฏว่าสยามไปทำสงครามตีชิงเพื่อให้ได้หัวเมืองเหล่านี้มาอยู่ในราชอาณาจักร แต่เป็นคนมาเลย์อพยพเข้ามาตั้งเมืองในเขตดินแดนของเรา และต่อมาเมื่อเสียกรุงครั้งที่สอง หัวเมืองของสยามเหล่านี้เห็นได้โอกาสตั้งแข็งเมืองขึ้น จนกระทั่งรัชกาลที่ 1 เดินทัพลงไปปราบรัฐปตานี หัวเมืองที่เหลือจึงยอมจำนน และยอมกลับมาอยู่ใต้การปกครองของสยามตามเดิม จนกระทั่งอังกฤษเข้ามา และมาขอแบ่งแยกกลันตันตรังกานูไทรบุรีออกไป

แก้ไขเมื่อ 24 ธ.ค. 55 10:41:19

จากคุณ : กาลามะชน
เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 10:22:17 A:202.122.130.31 X:




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com