 |
ส.ว. สับ พ.ร.ก.กู้เงินฯ 3.5 แสนล้าน ไร้แผนงาน รุมติง "ประชานิยม" ส่อก่อหนี้ อัดทำจีดีพีปลอม จี้ สบน.รายงานตามความความจริง...
เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. ที่รัฐสภา การประชุมวุฒิสภา มีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุมได้พิจารณารายงานการกู้เงินตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน เพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำ และสร้างอนาคตประเทศไทย พ.ศ.2555 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2555 จำนวน 3.5 แสนล้านบาท โดยการเสนอรายงานดังกล่าว เป็นไปตามมาตรา 7 แห่ง พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินฯ ที่กำหนดให้ภายใน 60 วัน นับแต่วันสิ้นปีงบประมาณ ให้กระทรวงการคลังรายงานการกู้เงินตาม พ.ร.ก. ให้รัฐสภาทราบ
นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา ได้อภิปรายซักถามประเด็นที่รัฐบาลขออนุมัติจากรัฐสภา ให้ออก พ.ร.ก.กู้เงิน จำนวน 3.5 แสนล้านบาท แต่ผลการเบิกจ่ายและการกู้เงิน ไม่ใกล้เคียงกับความจริงที่ระบุว่า เป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วน ซึ่งใน พ.ร.ก.กู้เงินมาตรา 3 วรรคสอง ระบุว่าการกู้เงินจำนวน 3.5 แสนล้านบาท ต้องกู้ไม่เกิน 30 มิ.ย. 56 และขณะนี้ เหลือเวลาอีก 6 เดือน ก่อนที่ พ.ร.ก.กู้เงิน จะหมดอายุ ซึ่งเงินที่เหลือ และยังไม่มีการกู้อีก 3.4 แสนล้านบาท มีแผนในทางปฏิบัติอย่างไร และการกู้เงินของรัฐบาลมาเก็บไว้เฉยๆ โดยยังไม่มีแผนเบิกจ่ายถูกต้องหรือไม่ เพราะต้องเสียดอกเบี้ยเฉลี่ยประมาณ 3% ดอกเบี้ยเงินต้นที่เพิ่มขึ้นนั้น บุคคลใดจะเป็นผู้รับผิดชอบ
ด้านนายทวี ไอศูรย์พิศาลศิริ รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กระทรวงการคลัง ชี้แจงว่า ในปีงบประมาณ 2555 ได้กู้เงินจำนวน 10,000 ล้านบาทนั้น เมื่อส่วนราชการต้องการใช้เงินต้องเสนอโครงการ ขอไปยังคณะกรรมการบริหารน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ (กบอ.) เมื่อโครงการอนุมัติแล้ว จึงเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ซึ่งแม้ว่าขณะนี้จะมีเบิกจ่ายสะสมมาถึงเดือน ธ.ค.2556 จำนวน 4,800 ล้านบาท แต่การเบิกเงินกู้จากธนาคาร ใช้วิธีทยอยเบิกตามความก้าวหน้าของงาน จึงไม่เสียดอกเบี้ย
ส่วนเงินกู้ส่วนที่เหลือ 3.4 แสนล้านบาทนั้น ตามแผนงานของ กบอ. แจ้งว่าจะหาผู้รับเหมาได้ในเดือน เม.ย. 2556 ส่วนแผนการเบิกจ่ายเงิน ได้เตรียมแผนกู้เงินไว้แล้วเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาสภาพคล่อง ในระบบการเงิน และในปี 2556 คาดว่าจะเบิกจ่ายเงินกู้จำนวน 9.3 หมื่นล้านบาท, ปี2557 จะใช้ 1.06 แสนล้านบาท, ปี 2558 จะใช้ 8.9 หมื่นล้านบาท, ปี 2559 จะใช้ 1.4 หมื่นล้านบาท และ ปี 2560 จะใช้ 1.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามการประมาณการณ์กับ กบอ.
จากนั้นที่ประชุมพิจารณาเรื่อง รายงานผลการดำเนินการตามมาตรา 17 แห่ง พ.ร.บ.การบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ.2548 ประจำปีงบประมาณ 2555 โดย ส.ว.ได้ซักถามถึงโครงการประชานิยมของรัฐบาล เช่น โครงการรถยนต์คันแรก โครงการรับจำนำข้าว ที่อนาคตเป็นห่วงว่าจะก่อหนี้มหาศาล
โดยนายทวี ชี้แจงว่า กรณีที่ขาดทุนจากโครงการรับจำนำข้าวเมื่อมีการกู้เงินจำนวนเท่าใด ก็จะเป็นหนี้สาธารณะจำนวนเท่านั้น สมมติว่ากู้เงิน 4 แสนล้านบาท ขายข้าวได้ 2 แสนล้านบาท จะนำเงินที่ขายข้าว ไปชำระเงินกู้ทำให้หนี้สาธารณะลดลง ทั้งนี้ ตามนโยบายของรัฐบาลตั้งเป้าจะทำงบประมาณปีหน้าให้ขาดดุลเพียง 2.25 แสนล้านบาทเมื่อเทียบจากงบประมาณ ปี 2555 ที่จัดงบประมาณขาดดุลอยู่ที่ 3.5 แสนล้านบาท จึงถือว่าลดลง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการอภิปรายของวุฒิสภาช่วงสุดท้ายได้ท้วงติง เรื่องการกำหนดจีดีพีของประเทศไทย ที่มีอยู่ตอนนี้คือจีดีพีปลอม ดังนั้น ขอเรียกร้องให้ สบน. รายงานข้อเท็จจริงว่า ถ้าตามหลักการที่ต่างประเทศสอนให้ประเทศกำลังพัฒนาใช้ประเทศไทย จะเป็นหนี้และกู้เงินจากต่างประเทศได้หรือไม่ ซึ่งข้อเท็จจริงประเทศไทยไม่สามารถกู้เงินจากต่างประเทศได้อีกแล้ว และขอให้ทำรายงานต่อรัฐบาล เพื่อให้รู้ว่าหากจะใช้นโยบายประชานิยมต่อไป ประเทศไทยจะเสี่ยงต่อการล้มละลายเศรษฐกิจ ทั้งนี้ การประชุมวุฒิสภาในวันนี้ ใช้เวลาประชุมเพียง 3 ชั่วโมง และปิดการประชุมในเวลา 13.00 น.
จากคุณ |
:
OffWhite
|
เขียนเมื่อ |
:
24 ธ.ค. 55 23:42:51
A:58.9.58.160 X:
|
|
|
|
 |