ความคิดเห็นที่ 1 ปกติคนหนุ่มๆ ของไทย จะเป็นผู้เป็นคนก้อต่อเมื่อมีอะไรให้รับผิดชอบหนักๆนี่แหละครับ จะเห็นได้ว่า หนุ่มออฟฟิศคนไหนออกรถ จะไม่ค่อยได้เที่ยวสำมเลเทเมาหัวราน้ำกับเพื่อนซักเท่าไร เมื่อไม่เที่ยว ไม่เสียทรัพท์แบบละลายน้ำ ไม่เมา ไม่เสียสุขภาพ ไม่เสียงาน ดีต่อตัวเอง ดีต่องาน ดีต่อประเทศ กรุงเทพรถติดจริงครับ แต่ถนนต่างจังหวัดยังโล่ง ประเทศไทยไม่ได้มีแค่กรุงเทพดังนั้นกรุณาอย่าคิดถึงแต่กรุงเทพ บ้านนอกยังมีที่ห่างไกล รถประจำทางไม่วิ่งผ่าน เวลาเจ็บไข้ได้ป่วย ต้องยืมรถคนอื่นเขา บ่อยไปก้อไม่ดี ทำรถเขาเสียหายก้อไม่ดี โครงการนี้มันมีคนที่เหมาะสม และไม่เหมาะสม แล้วแต่คนจะใช้สิทธิ์จะพิจาณาตัวเองให้รอบคอบ แต่ไม่มีนโยบายใดที่คนจะชอบทั้งประเทศ ไม่มีนโยบายใดที่คนจะได้รับประโยชน์ทั้งประเทศ ก้อต้องแบ่งๆ กันไป ไม่ใช่พอตัวเองไม่ได้ก้อโวยโดยไม่ดูความจำเป็นของคนอื่น จากคุณ : Badmantaro เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 02:08:21 A:1.4.148.152 X:

ความคิดเห็นที่ 2 ต้องย้อนไปทำความเข้าใจเรื่องภาษีสรรพสามิต ว่าทำไมถึงต้องเรียกเก็บ แล้วจะเข้าใจว่านโยบายนี้มีผลเสียอย่างไร การที่คนซื้อรถมาใช้ ต้องเข้าใจว่าเป็นการเอาเปรียบสังคม โดยการใช้ปัจจัยพื้นฐานเกินกว่าที่ควรจะได้รับ รัฐจึงต้องเรียกเก็บภาษีสำหรับของฟุ้มเฟือยเหล่านี้ เพื่อเอาไปเยียวยาคนที่เค้าไม่ได้ใช้รถ เช่นสร้างระบบขนส่งมวลชน ดูแลเกี่ยวกับสุขภาพ อื่นๆ การงดเก็บภาษีสรรพสามิต เป็นการทำให้คนที่มีกำลัง หรือเกือบมี ได้เอาเปรียบสังคม เอาเปรียบคนยากคนจนที่ใช้ทรัพยากรของประเทสตามมาตรฐาน โดยไม่ต้องจ่ายคืนเลย จากคุณ : scoreboard เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 02:27:02 A:110.168.184.198 X:

ความคิดเห็นที่ 3 มีคนอยู่สองประเภท ไม่มีปัญญาซื้อ กับมีแต่ไม่อยากให้คนอื่นมี ทุกคนในประเทศนี้มีสิทธิเท่าเทียมกัน เหตุผลที่ซื้อเพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน เขาพร้อมซื้อก็เรื่องของเขา ถ้าใจแคบว่าเอาเปรียบสังคม ตายเลย ไม่ต้องทำอะไรกันเลย มีรถมันฟุ่มเฟือยยังไง เขาไม่ได้ซื้อมาโชว์สักหน่อย คิดอย่างนี้สงสัยว่า เป็นประเภทไหนดี จากคุณ : พ่อพูห์ (พ่อพูห์) เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 04:36:02 A:58.9.158.198 X:

ความคิดเห็นที่ 4 ผมกำลังคิดซื้อเฟอรารี่สักคัน กำลังหาสวยๆ ... สัก 300 บาท น่าจะซื้อได้เนอะ รถโมเดล จากคุณ : เฒ่าวัย 56 เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 06:44:46 A:110.171.31.140 X:

ความคิดเห็นที่ 5 คห3 นี่ไงผมถึงบอกให้ไปอ่านความหมายของภาษีสรรพสามิต รถยนต์เป็นสอนค้าฟุ้มเฟือยเค้ากำหนดมาตั้งนมนานแล้วครับ ส่วนเอาเปรียบสังคมอย่างไร ลองมองในมุมคนไม่มีรถน่ะครับที่เป็นคนส่วนใหญ่จริงๆ ถ จากคุณ : scoreboard เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 07:31:51 A:115.67.100.72 X:

ความคิดเห็นที่ 6 คนไม่พร้อม ถึงมีนโยบายนี้ ก็ซื้อไม่ได้ เค้าต้องพร้อมถึงจะซื้อ ไม่ใช่รถราคา 500000ซื้อได้350000 ก็ต้องซื้อราคาเต็ม แล้วเค้าคืนให้ทีหลัง ใครก็รู้ คิดว่าคนอื่นกินหญ้าหรือไง คนเค้ากินข้าวกันเค้ารู้อะไรเป็นอะไร มาตำอยู่ได้ แกล้งไม่เข้าใจหรือว่าไม่รู้จริงๆ ก็คงไม่ใช่ แบบกรูจะตำแบบนี้ ให้พวกเดียวกันเย้วๆ สารจะได้หลั่ง หรือไง พอได้แล้ว  หรือบางคนอิจฉา เพราะตัวเองยังขี่รถเมล์อยู่ แล้วมาหลั่งสารในราชดำเนิน จากคุณ : boyky - - - - การมี นโยบาย แบบนี้ มันเป็น แรงจูงใจ คนที่พร้อม เขาก็ซื้อได้ คนที่ไม่พร้อม เขาก็ไปสร้างหนี้ เพื่อที่จะ ซื้อ แล้ว คุณคิดว่า นโยบายนี้ เขามีไว้เพื่ออะไร ถ้าให้ประโยชน์กับ คนที่พร้อม อย่างเดียว ผมว่า คุณ ฟัง ให้ มากกว่า โวยวาย ก็จะดี นะ เรื่องรถ มันจะสร้างผลกระทบ ตามมา อีกเยอะ ถ้ายังไม่มีอะไร มารองรับ นโยบาย ให้มัน พอดี ลงตัว "หรือบางคนอิจฉา เพราะตัวเองยังขี่รถเมล์อยู่ แล้วมาหลั่งสารในราชดำเนิน " เริ่มต้น คุณถามว่า ทำไม ชอบดูถูกคนอื่น แต่ จาก คำพูดของคุณ เห็นได้ชัดว่า เป็น จขกท.นั่นแหละ ที่ดูถูกคนอื่น อยู่ . จากคุณ : Bontrager เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 07:34:44 A:125.24.199.213 X:

ความคิดเห็นที่ 7 เมื่อก่อนสมัยอานัน เล่นลดภาษีทั้งหมดเลยจะซืีอกี่คันก็ได้ถ้ารวยพอ ไม่เห็นมีใครเห่าหอน จากคุณ : คนอัดแก๊ส เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 08:17:57 A:110.49.241.147 X:

ความคิดเห็นที่ 8 ตอนนั้นยังไม่โตพอจะเห่าได้ แต่ตอนนี้ถ้าเห็นอะไรไม่ดีต่อส่วนรวมก็ต้องออกมาเตือน จากคุณ : scoreboard เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 08:58:58 A:115.67.100.72 X:

ความคิดเห็นที่ 9 แสดงว่าสกอร์บอร์ด อายุไม่เท่าไหร่เอง เพราะเพิ่งเรียนจบกระมัง เลยเข้าใจว่า ชีวิตมีแค่ปัจจัย4 นี่มัน 2012-2013 แล้ว รถเป็นปัจจัยที่5 แล้ว ยังงมอยู่กับกฎเก่าๆ เดิมๆ ผมถามคุณหน่อยนะคับ ว่าคุณมีรถไหม ถ้าคุณมีรถ คุณก็เงียบๆไว้ เพราะถ้าคุณมีคุณก็เป็นคนฟุ่มเฟือย ตามความคิดของคุณ ภาษีมีอีกหลายตัว กว่าจะมาเป็นรถคันนึง ทุกอย่างเสียภาษีหมด คุณคิดว่า ทุกอย่างรวมในรถแล้วเสียภาษีอย่างเดียวเนี่ย ผมว่า คุณคิดตื้นไปนิดนึง ถ้าคุณคิดเองก็ไม่เป็นไรคนเราต้องอ่านหนัง แต่ถ้าฟังคนอื่นมาพูด คนๆนั้นคงต้องศึกษาและอ่านหนังสือให้แตก ฝากบอกเค้าด้วยแล้วกัน จากคุณ : boyky เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 09:22:31 A:171.99.1.159 X:

ความคิดเห็นที่ 10 คห.6 คนไม่พร้อม ก็เป็นหนี้   เฮ้อ แล้วรัฐบาลเขาจับมือให้เซ็นสัญญา มาซื้อรถให้เป็นหนี้เหรอครับ  ผ่อนเองไม่ไหวก็ต้องโทษรัฐบาลว่า ไม่น่าออกนโยบายรถคันแรกเลย กรูเลยต้องเป็นหนี้ เลยผ่อนไม่หมด ถ้าไม่มีนโยบายนี้คงไม่เป็นหนี้ คงไม่โดนฟ้อง  ยังงั้นหรือ คนผ่อนไม่ไหว ชื่อว่ามีแน่ๆ แต่คนที่ไหว มีเท่าไหร่ ขายได้ล้านคัน ก็ล้านคน  เอาเงินเข้าระบบในระยะเวลาปีเดียวกี่แสนล้านบาท คุณตอบได้ไหมล่ะ  นี่เป็นเงินที่ไม่ต้องกู้ ไม่ต้องขึ้นภาษีให้ประชาชนเดือดร้อน ด้วยนะ  หรือคุณมีวิธีดีกว่านี้ ลองเสนอมาดู  ขายพันธบัตรไม่เอานะ   เดี๋ยวมีเวลาว่างจะแฉเรื่องรถคันแรกนี่ให้อ่านละกัน จากคุณ : penn's เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 09:51:53 A:110.49.240.241 X:

ความคิดเห็นที่ 11 อันที่จริงคนที่บ่นเรื่องนี้ว่าทำให้รถติด  ถ้าคุณมีรถคุณก็สามารถช่วยได้โดยการขายรถคุณทิ้งซะ แล้วชักชวนคนที่บ่นๆเรื่องนี้ให้ขายทิ้งด้วยก็จบ จากคุณ : สามเสน11 เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 10:25:04 A:58.8.39.166 X:

ความคิดเห็นที่ 12 แมงสาปที่ผมรู้จักคนหนึ่ง ด่า นายกยิ่งลักษณ์ เรื่องรถคันแรกอย่างไม่มีชิ้นดี แต่ มันกลับให้เมียมัน จอง ซูซูกิ สวิ๊ฟ หน้าตาเฉย เชื่อเลยกับคนไม่ใช่คน อย่างแมงสาปพวกนี้ . จากคุณ : หนึ่งจุดแดง เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 10:25:08 A:223.205.44.213 X:

ความคิดเห็นที่ 13 คห9 ผมไม่อธิบายคุณแล้วล่ะ เพราะคุณมองเอาแต่ได้เกินไป ไม่มีทางเข้าใจภาษีสรรพสามิตแน่ๆ จากคุณ : scoreboard เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 12:37:34 A:115.67.100.72 X:

ความคิดเห็นที่ 14 ณ เวลานี้ เราว่า อย่าพูดเลย เรื่องนโยบายรถคันแรกจะเป็นยังไง เรามาตามดูกันดีกว่า ว่า ต่อไป รัฐจะทำอะไรกับเงินภาษีรถที่ได้ไปแต่ยังไม่คืนในทันที รัฐบาลมีเวลาบริหารเงินก้อนนี้ หนึ่งปีนะคะ จากคุณ : เบบี้โรส เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 12:55:16 A:202.90.6.36 X:

ความคิดเห็นที่ 15 ถ้าหลายคนคิดว่า นโยบายรถคันแรกไม่ดี ก็ต้องช่วยกันจับตานโยบายลำดับต่อไป เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเดิมๆ หรือทำแบบพวกเล่นแชร์  เอาเงินคนที่หนึ่งไปจ่ายให้คนที่สอง เอาเงินภาษีรถคันแรก ไปหมุนจ่ายประกันราคาข้่าว อะไรอย่างนี้ จากคุณ : เบบี้โรส เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 12:59:05 A:202.90.6.36 X:

ความคิดเห็นที่ 16 ผมเอาแต่ได้ตรงไหน ผมก็ไม่ได้สิทธิ์นี้ เรื่อง สพม ผมก็อยู่กับมันมา จะไม่เข้าใจตรงไหนล่ะ ผมขายบิ๊กไบค์ เสีย สพม ทุกคัน รถคันกระบะ4ป ก็ต้องเสีย ผมถึงบอกว่า รัฐไม่ใช่ได้ภาษี จากรถด้านเดียว ของไม่รู้กี่อย่าง แม้แต่ชิ้นส่วนต่างๆของรถก่อนจะนำมาประกอบเป็นรถหนึ่งคัน ก็เสียภาษีทั้งนั้น แล้วคุณจะมาบอกว่า ขี้เกียจอธิบาย  แบบนี้  หาว่าผมโง่  แต่ใครกันที่เอาแต่ได้ รบ ชุดที่แล้ว ไกงงบไทยเข้มแข็ง คดี ปรส ไม่เห็นโวยวาย จากคุณ : boyky เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 13:17:39 A:223.204.145.184 X:

ความคิดเห็นที่ 17 คุณ : boyky เบื่อพวก มี สมอง กับ ความคิด มิติเดียวไหม พวกนี้ละที่บอกว่าตัวเองฉลาด แต่ แท้จริงตัวเอง โครตโง่เลย ที่เขาออกรถคันแรก มา 90 % ซื้อ รถเพราะว่า เอามาใช้งานทัั้งนั้นละ ภาษี รถ ได้ปล่าวๆ อยู่แล้ว ไม่เห็นเสียตรงไหน แต่ที่ได้คืนมีที่ได้ เช่น คนเอารถกะบะไป เปิดท้าบขายของ ไปขนของ เมือก่อนเขาใช้รถ ซาเล็ง ขนได้เทียวละ 30 โล ใช้กะบะได้ 300 โล ถ้า ขายเสือ ผ้า  ใช้ ซาเล้ง ตามตลาด ได้ 6000 บาท vat 7 % เท่ากับ 420บาท รัฐได้ภาษี 105000 ใช้กะบะ  ได้วันละ 60000 บาท ได้ VAT 4200 บาท 1 ปี ส่งผ้า 250 วัน ต่อปี รัฐได้ภาษี ตืน 1050000 บาท แล้ว ได้ มากกว่า ค่ารถยนต์ อีก ภาษรถยนต์ ได้ 100000 บาท ครั้งเดียว แต่ ภาษี VAT ได้เพื่มขึ้นปีละ 900000 บาท   ไม่ใช่อย่างเดียว ค่าคนงานต้องจ้างมากขึ้นเพื่มผลผลิตมากขึ้น ภาษี น้ำมัน  ที่ได้เพื่มขึ้นอีก มีเงินมากขึ้นค่าอุปโภคและบริโภค ก็ มากขึ้น GDP ก็มากขึ้น ว่างๆ หัดหัดให้สมอง คิดหลายมิติหน่อย ไม่ใช่คิด อยู่ด้านเดียว แต่สงสัยสมองพวกนี้ คิดได้อย่างเดียว คื่อฟังคำโกหกจากพวก .... ป.....ช....ป..... ได้แค่ นั้น จากคุณ : thanapatpp เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 14:25:39 A:171.99.174.83 X: