เอาบทความดี ๆ มาให้อ่านครับ...
|
|
สดุดีข้าราชการที่รักชาติ
โครงการพัฒนาเมืองทวายของบริษัทผู้ได้รับสัมปทานซึ่งเป็นของนักการเมือง ยังคงเป็นเรื่องฮือฮาและน่าสนใจต่อไป และเป็นเรื่องที่คนไทยทั้งประเทศจะต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด
เพื่อไม่ให้ใครเบียดบังเอาทรัพย์สมบัติชาติหรือเงินทองของแผ่นดินไปอุ้มชูกิจการของนักการเมืองในการพัฒนาเมืองทวาย
ในวันนี้ ต้องขอสดุดีข้าราชการหลายกลุ่ม หลายหมู่คณะ ที่ได้ร่วมกันโดยมิได้นัดหมายในการพิทักษ์รักษาประโยชน์ของแผ่นดิน ไม่ให้นักการเมืองโกงชาติได้อย่างคล่องคออีกต่อไป
อันโครงการพัฒนาเมืองทวายในแผ่นดินพม่านั้น บริษัทของนักการเมือเป็นผู้ได้สัมปทาน เป็นโครงการพัฒนาเมืองทวายโครงการหนึ่งกับโครงการก่อสร้างถนนเชื่อมภาคตะวันตกของประเทศไทยกับเมืองทวาย เพื่อดูดเลือดสูบเนื้อแผ่นดินไทยไปยังพม่าอีกโครงการหนึ่ง
โครงการดังกล่าวต้องใช้เงินลงทุนราว 250,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทที่ได้รับสัมปทานหาเงินลงทุนไม่ได้ ทั้งที่ได้ใช้ความพยายามมานานหนักหนาแล้ว และในที่สุดผู้ถือหุ้นรายใหญ่เดิมก็ต้องขายหุ้นให้กับนักการเมืองผู้มีอำนาจ
เมื่อนักการเมืองเข้าเป็นเจ้าของบริษัทผู้ได้สัมปทานแล้ว ก็ใช้อำนาจการเมืองรณรงค์เพื่อให้ผู้คนแห่ไปลงทุนในเมืองทวาย ซึ่งจะเป็นรายได้เข้าพกเข้าห่อนักการเมือง
อีกด้านหนึ่งก็กำลังตั้งองค์การมหาชน ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานของรัฐที่ใช้งบประมาณและเงินลงทุนของรัฐ เพื่อไปร่วมลงทุนกับบริษัทที่ได้รับสัมปทานของนักการเมืองต่อไป
องค์การมหาชนนี้ก็ต้องใช้เงินลงทุน ดังนั้นจึงเตรียมการที่จะให้รัฐบาลไทยค้ำประกันหนี้ที่จะต้องไปลงทุนอย่างหนึ่ง และต้องใช้วงเงินกู้เพื่อไปใช้ลงทุนในโครงการนี้อีกอย่างหนึ่ง
รวมความก็คือนักการเมืองกำลังใช้อำนาจจัดตั้งองค์การมหาชนที่ใช้ทุนรอนของแผ่นดินเป็นทุนดำเนินการ กำลังเตรียมการให้รัฐบาลค้ำประกันหนี้ในการลงทุนและจัดหาแหล่งเงินกู้ให้ไปลงทุนรวมเป็นสามสถาน ทั้งสามสถานนี้ล้วนเพื่อประโยชน์ของนักการเมืองซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ได้รับสัมปทานทั้งสิ้น
ในขณะที่กำลังขับเคลื่อนเพื่อระดมเงินเข้าไปดำเนินการดังกล่าว ปรากฏว่าการดำเนินงานล่าช้า ไม่ราบรื่น จนรัฐบาลพม่าเตรียมจะยกเลิกสัมปทาน หรือเรียกคืนพื้นที่ราว 500,000 ไร่ เพราะพม่าก็ต้องการให้คนอื่นมาลงทุนแทน
จนนักการเมืองต้องวิ่งพล่านไปคำนับและเว้าวอน รวมทั้งกำหนดมาตรการดึงรัฐบาลพม่าเข้ามาร่วมเอี่ยวผลประโยชน์กันจ้าละหวั่น แต่ก็ยังเดินหน้าไปไม่ได้ เพราะพี่น้องข้าราชการไทยที่รักชาติช่วยกันถ่วง ช่วยกันขวาง ไม่ให้เอาเงินแผ่นดินไปช่วยบริษัทนักการเมืองในการพัฒนาแผ่นดินพม่า
เราจึงต้องขอสดุดีพี่น้องข้าราชการเหล่านั้น แม้ว่าจะไม่รู้จักหน้าค่าตาและไม่รู้ว่าเป็นใคร รวมทั้งไม่รู้ว่าเขาประสานงานเชื่อมโยงในการขัดขวางการปล้นแผ่นดินกันอย่างไรก็ตาม และต้องเชิญชวนคนไทยทั้งประเทศช่วยกันให้กำลังใจข้าราชการดังกล่าวและร่วมกันคัดค้านไม่ให้นักการเมืองโกงชาติ ไปค้ำประกันหนี้หรือเอาเงินแผ่นดินไปพัฒนาแผ่นดินพม่า
การที่นักการเมืองคนดังพูดว่าเมื่อลงทุนแล้วมีโอกาสได้กำไร ก็ควรต้องไปลงทุนนั้นไม่ผิด ถ้าหากว่าการลงทุนนั้นใช้แรง ใช้กำลัง ใช้เงินทุนของนักการเมือง ซึ่งในทางธุรกิจแม้จะผิดจรรยาบรรณที่เป็นนักการเมือง ก็ยังพอแถกันไปได้
แต่การจะเอาทรัพย์สมบัติของประเทศชาติ เอาประเทศชาติไปค้ำประกันหนี้ให้กับธุรกิจของนักการเมืองเพื่อผลประโยชน์ของนักการเมืองนั้น มันไม่ยุติธรรมต่อประเทศและประชาชน
การจะอ้างว่าการพัฒนาเมืองทวายของพม่าจะทำให้ประเทศไทยมีโอกาสส่งสินค้าออกไปยังต่างประเทศและมีความเจริญก้าวหน้านั้น ก็ต้องพูดมาให้ชัดว่า ได้ประโยชน์อะไรที่ตรงไหน
เพราะทันทีที่ท่าเรือทวายเปิดทำการ การขนส่งสินค้าไปยังอินเดีย ตะวันออกกลาง อาฟริกา และยุโรป ที่เคยส่งผ่านฐานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมภาคตะวันออกจากท่าเรือมาบตาพุดก็ดี หรือท่าเรือแหลมฉบังก็ดี ก็จะมลายหายไป
เพราะจะถูกใช้เส้นทางขนส่งจากท่าเรือทวายแทน ซึ่งหมายความว่าประเทศไทยจะเสียหายผลประโยชน์ในส่วนนี้ไปอย่างน้อยครึ่งหนึ่ง การขนส่งจากภาคตะวันออกไปยังอินเดีย ตะวันออกกลาง อาฟริกา และยุโรปจะต้องหายไปครึ่งหนึ่ง
และมันจะไปเพิ่มให้กับท่าเรือทวาย ซึ่งเป็นผลประโยชน์ของนักการเมืองโดยตรง
ประเทศไทยมีทรัพยากรและเงินลงทุนจำกัด ในขณะที่แผ่นดินภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคตะวันออกและภาคใต้ยังยากจน ขาดแคลน และล้าหลังจำนวนมาก จำเป็นจะต้องได้รับการพัฒนาเพื่อความเจริญรุ่งเรือง อยู่ดีกินดีและมีความสุขของคนไทยก่อน
ไม่ใช่เอาทรัพย์สมบัติของชาติไปพัฒนาแผ่นดินพม่าเพื่อประโยชน์ของนักการเมือง!
ที่มา:http://www.naewna.com/politic/columnist/4646
ปล.ถ้าอ่านแล้ว รู้สึกหงุดหงิด....แสดงว่าตาคุณเริ่มสว่างแล้ว...เอิ๊ก ๆ ๆ
จากคุณ |
:
อดีตหัวหน้าเผ่า
|
เขียนเมื่อ |
:
25 ธ.ค. 55 14:36:38
A:202.44.139.173 X:
|
|
|
|