ฉายานักการเมือง ฉบับชูวิทย์
|
|
ฉายานักการเมือง 2555 ฉบับชูวิทย์
พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต ฉายา "โอ๋จัดให้" เพราะเป็นรัฐมนตรีกลาโหม จึงจัดการผู้นำฝ่ายค้านด้วยข้อหาหนีทหาร ซึ่งมีมานาน ก้ำกึ่ง ไม่สมกับที่แรกเริ่มรัฐบาลยิ่งลักษณ์บอกว่าจะแก้ไขไม่แก้แค้น ในขณะที่นายกหญิงก็ดำเนินการโดยไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง แต่ปล่อยให้รัฐมนตรีกลาโหมจัดการผู้นำฝ่ายค้านโดยการปลดจากยศร้อยตรี จึงเหมาะกับเพลง "จัดให้" ของ ไทเทเนียม
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ฉายา "เหลิม..ทาสรัก" เพราะเป็นผู้ที่ยอมรับเองว่าเป็น "( ^o^ )ทักษิณ" มานานแล้ว ตามความหมายในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน "( ^o^ )" มีความหมายเดียวกับคำว่า "ทาส" คือ ผู้ที่ต้องทำงานรับใช้ในทุกสภาวะ โดยถูกบีบบังคับให้ทำตามคำสั่ง ไม่สามารถบ่น ขัดแย้ง ต้องทนทำไป ทั้งนี้เพราะ ร.ต.อ.เฉลิมฯ เป็นบุคคลที่อยู่ในพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นพรรคขนาดใหญ่ ไม่มีผู้สนับสนุน กลุ่มก๊วน จึงต้องทำงานทดแทนบุญคุณเปรียบเสมือนทาส เหมาะสมกับเพลง "ทาส" ของ พาราด็อกซ์
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ ฉายา "กิ้งก่าทองสองใจ" เพราะ ธาริตเป็นข้าราชการ โดยปกติข้าราชการไทยย่อมต้องโอนอ่อนผ่อนตามนโยบายของรัฐบาลแต่ละรัฐบาล เพียงแต่นายธาริต ซึ่งในขณะที่รัฐบาลประชาธิปัตย์มีอำนาจก็ถูกฝั่งพรรคเพื่อไทย รวมทั้งนายเฉลิม บอกว่าจะทำการย้ายเป็นคนแรก แต่ท้ายที่สุดเมื่อรัฐบาลเพื่อไทยมีอำนาจ นายธาริตเองก็ยังสามารถเอาตัวรอด และได้ทำหน้าที่แจ้งข้อหานายอภิสิทธิ์ และ นายสุเทพ ทำให้คนทั่วไปมองว่า นายธาริต เปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ได้อย่างดี จึงเหมาะกับเพลง "กิ้งก่าทองสองใจ" ของ ธันวา ราศรีธนู
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ฉายา "ปูไข่ไก่หลง" ปูไข่ย่อมเป็นปูตัวเมียที่มีสีแดงซึ่งเป็นลักษณะของไข่ เข้ากับพลังมวลชนเสื้อแดง ส่วนไก่หลงเนื่องจากนายกฯยังใหม่ต่อการเมือง ซึ่งแรกๆก็มีการหลง ตอบผิดตอบถูก แต่ในระยะหลังๆสามารถโชว์ผลงาน เป็นผู้นำระดับโลกต้อนรับทั้งนายโอบาม่า และ นายหู จิ่นเทา รวมทั้งเดินทางออกไปประชุมต่างประเทศ ในขณะเดียวกันก็ถูกฝ่ายค้านคือพรรคประชาธิปัตย์โจมตีเกี่ยวกับนโยบายจำนำข้าว ซึ่งกล่าวหาว่ามีการโกงกิน ทุจริต เหมาะอย่างยิ่งกับเพลง "ปูไข่ไก่หลง" ของ ชายธง ทรงพล
นายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ ฉายา "มาร์คเมาไบกอน" ความเป็นพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งจะต้องมีทั้งหลักการ และการทำงานที่มีภาพลักษณ์ความเก่าแก่ของฝ่ายค้าน ซึ่งอยู่คู่กับสภาฯไทย แต่เมื่อมาถึงสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน ตลอดระยะเวลากว่า 1 ปี ที่ผ่านมา ภายใต้การบริหารของพรรคเพื่อไทยซึ่งผลักดันนโยบายต่างๆ นายอภิสิทธิ์ฯ ดูเหมือนยังติดอยู่กับความขัดแย้ง และปัญหาทางการเมือง รวมทั้งถูกรุมล้อมจากเรื่องส่วนตัวในกรณีถูกถอดยศ และถูกดำเนินคดีจาก DSI อีกทั้งยังจะตามมาอีกหลายคดี จากเหตุการณ์สลายการชุมนุม รวมทั้งทุกเรื่องที่เกี่ยวพันกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทำให้ลักษณะของนายอภิสิทธิ์ฯ เหมือนกับว่าทำงานอะไรได้ไม่เต็มที่ ติดๆขัดๆ เหมือนคนมึนงง ถอยหลังก็ไม่ได้ เดินหน้าก็ไม่ได้ อีกทั้งความไม่เป็นเอกภาพของฝ่ายค้านทำให้พรรคประชาธิปัตย์ซึ่งมีนายอภิสิทธิ์เป็นหัวหน้าพรรค มีลักษณะโดดเดี่ยว สมกับฉายาว่า "มาร์คเมาไบกอน" และเพลง "มันต้องถอน" ของ ปอยฝ้าย มาลัยพร
รัฐบาล ฉายา "พี่ชายที่แสนดี" เนื่องจากรัฐบาลนี้มีนายกฯยิ่งลักษณ์ เป็นน้องสาวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เบื้องหลังการกำกับมีเงาของ พ.ต.ท.ทักษิณ แม้กระทั่งโผรัฐมนตรีต่างๆ ทุกคนต่างก็ต้องบินไปที่ดูไบ การช่วยเหลือประคับประคองเพื่อให้น้องสาวซึ่งยังเสมือนใหม่กับการเหมือน เปรียบเหมือนการที่มีพี่ชายคอยดูแล ตรงอย่างยิ่งกับเพลง "พี่ชายที่แสนดี" ของ ระวิวรรณ จินดา
เนื่องจากการตั้งฉายามีมาจากผู้สื่อข่าวสายต่างๆ ซึ่งตัวกระผมเองในฐานะนักการเมืองก็มีการพูดคุยกันระหว่างนักการเมืองด้วยกัน หรือจะพูดง่ายๆว่าเป็นสมาคมนักการเมืองก็ว่าได้ เป็นฉายาที่สะท้อนให้เห็นถึงภาพลักษณ์ของแต่ละคน เป็นการหยิกแกมหยอกเช่นเดียวกับผู้สื่อข่าว อย่าไปคิดอะไรที่มันซีเรียส ถือว่าเป็นฉายาที่ชูวิทย์ตั้งให้ส่งท้ายปี 2555 ก็แล้วกัน เพียงแต่ผมนำเอามาประกอบกับเพลงแต่ละเพลง ซึ่งมีเนื้อเพลงใกล้เคียงกับฉายาของแต่ละคน การเมืองก็คือละครเหมือนอย่างที่คนหลายคนว่าไว้ หากจะเปรียบไปก็เหมือนกับเนื้อเพลงที่แต่งขึ้นมา มีเปลี่ยนแปลง เกิด ดัง ดับ เป็นวัฏจักรสังขาร
---------------------------------------------------------------
อ่านกันขำๆน่ะ ขอยืมคำท่านอดีตหัวหน้าเผ่าหน่อย เอิ๊กๆๆๆ ^^
จากคุณ |
:
Mr.JacKy
|
เขียนเมื่อ |
:
26 ธ.ค. 55 15:09:32
A:27.55.2.124 X:
|
|
|
|