เพิ่งกลับจากกินเลี้ยงพนักงานครับ วันนี้ผมได้กล่าวย้ำถึงเรื่องการประชุมนโยบายเพื่อชี้ว่าเราจะต้องมีผลสำเร็จตามเป้าหมายร่วมกันอีกครั้ง
ตามการประชุมนโยบายใหม่ปีหน้า ผมได้นำโครงการที่จัดทำมาใหม่
เพื่อสนับสนุนแผนธุรกิจจากองค์กรที่มีส่วนร่วม โดยให้ผู้รับผิดชอบตามแผนงาน
มาบรรยายแนวทาง จากนั้นผมก็นำผังองค์กรที่ปรับมาวางทาบ และเสนอให้ทุกคน
ตั้งแต่ระดับปฏิบัติการขึ้นมาเลย สามารถยิงคำถามได้ทุกคำถามที่สงสัยทุกเรื่อง
ว่ามันจะสำเร็จได้อย่างไร จนถึงอุปสรรคในการทำงานที่อาจเกิดขึ้นตามหน้าที่
ในทุกขั้นตอน ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมาร่วมมือได้อย่างไร
ผมให้เงื่อนไขว่า ถ้าผมไม่สามารถตอบคำถามให้ชัดเจนได้ หรืองานนี้ไม่สำเร็จ
ผมจะลาออกจากหน้าที่บริหาร และจะวางให้คนมาบริหารแทน(เนื่องจากเป็นธุรกิจ
ของตนเอง)
สิ่งที่ผมตัดสินใจไป เพื่อตอบโจทย์เรื่องการรวมใจ เพื่อให้ทีมงานทุกคนรู้ถึงความ
สำคัญของตนเอง รู้ถึงผลกระทบหากขาดประสิทธิภาพ ตามที่ผมเชื่อว่าเป็นปัญหา
ที่กล่าวถึงเพื่ออยากจะชี้ต่อว่า ตามเหตุผลเรื่องภาพพจน์ของตำรวจตอนนี้
ยิ่งถ้ามองโดยรวมแล้วมีปัญหา ผมเชื่อว่าคงไม่สามารถมาแก้เรื่องนี้ได้จากการ
สร้างจิตสำนึกกับผู้รับนโยบาย เพราะหากเป็นปริมาณมากจนกลายเป็นเรื่องระบบ
หรือวัฒนธรรมซ้อนมาแล้ว ควรมาเริ่มแก้ที่โครงสร้างกันเลย
ดังนั้น คงต้องเห็นแย้งกับข้อความนี้ครับ
เพราะนักการเมืองเป็นผู้กำหนดนโยบายโดยตรง หากจะแก้ควรเริ่มจาก
1)ปรับโครงสร้างให้ตำรวจอยู่ได้ด้วยตนเองระบบก่อน ให้เพียงพอจากระบบ
2)จะต้องลดโอกาสเข้ามาแทรกแซงจากฝ่ายการเมืองให้เหลือน้อยที่สุด
3)สร้างภาพใหม่ มาเป็นยาก มีศักดิ์ศรี เพิ่มแรงจูงใจเชิงอุดมการณ์
4)อยู่สูงขึ้น เข้าถึงยากในเรื่องไม่ควร และเข้าถึงง่ายเรื่องบริการปชช.
ก็ยังยากอยู่ดีนะ ดูทรงแล้ว - -" แต่คิดว่าควรเริ่มจากตรงนี้ก่อนครับ
ทีนี้ล่ะงูกินหาง ถ้าจะมามองหาจิตสำนึกจากนักการเมือง อ้างไปถึง ปชช.ด้วยเลย
ส่วนประเด็นที่ผมถาม คงเพราะถ้ายังไม่รู้ว่าสิ่งที่เราคิดว่าควรแก้ มีโอกาสน้อยไป
เราน่าจะลองมาดูว่า แนวทางของใครที่พอจะตอบโจทย์ได้บ้าง
ผมมาสะดุดในช่วงที่แม้วครองเมือง เพราะขณะนั้นตำรวจเหมือนอยู่ดีมีสุขขึ้น
เบื้องต้นก็มองว่าคงเพราะแม้วเป็นตำรวจเก่า
แต่ที่สนใจ เพราะมันอาจตอบโจทย์ในข้อ1) หรือเปล่า?
ผมไม่ทราบนะตอนนั้นยังไม่ค่อยสนใจรายละเอียดการเมืองนัก
แต่ถ้าการที่ทำให้อยู่ดีขึ้น โดยตามระบบ ไม่ใช่จากการขูดรีด
ผมคิดว่าควรเห็นด้วย และมาวางเป็นแนวทาง โดยให้ปรับในรายละเอียด วิธีการ
ไม่ชอบแม้วนัก ยิ่งมาวิเคราะห์ยุทธวิธีทางการเมืองที่อาจเชื่อได้ สิ่งเกิดอคติ
แต่คิดว่าควรแยกแยะ โดยขอชี้ 2 ประเด็นคือ 1)มันควรเริ่มจากโครงสร้างจาก
ผู้กำหนดนโยบาย และ 2)แนวทางควรเป็นไปแบบนี้
หากไม่รอบด้านอย่างไร ขอคุณ OffWhite กรุณาข้อมูลและคำชี้แนะเพิ่มครับ
Ps.ผมเห็นด้วยเรื่องคบตำรวจ เป็นปัจจัยสุดท้ายของทางเลือกตามแผนบริหาร
ความเสี่ยง ที่ผมจะหยิบมาใช้กันเลยทีเดียว โดนใจอ่ะ ฮาาา
นับถือครับ
บอกแล้วไง....โจรเมืองไทย มันกลัวตำหนวดไทย...
